Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2554
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
15 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 
พึ่งไปดูหนังเรื่อง "30 กำลังแจ๋ว" มา ชอบและถูกจริตสำหรับสมาชิกถาวรในชมรมคนรักเด็กอย่างข้าพเจ้า

พึ่งไปดูหนังเรื่อง "30 กำลังแจ๋ว" มา ชอบและถูกจริตสำหรับสมาชิกถาวรในชมรมคนรักเด็กอย่างข้าพเจ้ามาก แต่ถ้าจะเอาจริงๆ ต้องเด็กกว่าพระเอก ปอ-รศิต (เคน ภูภูมิ พงศ์ภานุ) อีกนิดนึง เอาสักขนาดเด็กวัยรุ่นที่มาส่งเสื้อผ้า ที่แอบฟังตรงประตูหน้าบ้านของจ๋า (อั้ม พัชราภา) ก็แล้วกัน กำลังกินทีเดียว 555+

หลายคนพูดเรื่องคำซึ้งๆในหนังเรื่องนี้กันไปเยอะแล้ว ข้าพเจ้าชอบจุดเล็กๆในหนังนี้จุดหนึ่ง คือการที่รักต่างวัย ที่ในบางขณะของชีวิต ไม่จำเป็นต้องเรียกคำนำหน้าว่า "พี่"

ในเรื่องนี้ มีสองครั้งที่ ปอ-รศิต ไม่ได้เรียกจ๋า ว่า พี่จ๋า แต่เรียกจ๋าเฉยๆ ครั้งแรกคือตอนที่ขอความรัก เรียกจ๋าเฉยๆ จ๋าบอก ห๊า เธอเรียกพี่ว่าอะไรนะ ปอบอกว่า แล้วจะให้เรียก "ที่รัก" หรือไง กับอีกฉากหนึ่งคือตอนที่ปอเมากรึ่มอารมณ์มา แล้วมาสะเงาะสะแงะพร่ำพรรณาที่หน้าประตูบ้านจ๋า บอกว่าอีก 10 วันจะมาฟังคำตอบเรื่องรัก ตลอดบทพูดช่วงนี้ เรียก "จ๋า" ล้วนๆ ลุ่นตู้เฉยๆอย่างนั้น ไม่มีพี่เพ่อคำนำหน้าอะไรทั้งสิ้น ถูกใจข้าพเจ้านัก

ก็มันจริงนิ รักสองวัย แต่ในช่วงเวลาของสองคน ไม่มีบุคคลที่สามอยู่ มันไม่มีวัย ไม่มีเวลาจริงๆนะ แล้วมันก็มักจะเกิดสองช่วงนี่แหล่ะ คือตอนออดอ้อนรำพันหวานหยดมดขึ้น กับตอนเมากรึ่มๆหน่อย ที่เจอกับตัวเองมา เป็นอย่างนี้ทั้งสิ้น อยู่กันสองคน เรียกชื่อยังงั๊น ชื่อยังงี๊ ลูบหัว-เสยผม-สางเหา-เกาหลังยังไงก็ได้ ไม่มีใครเห็น แต่ต่อหน้าบุคคลที่สามหรือคนหมู่มาก ก็ต้องไหว้ต้องนบ ต้องเรียกคุณพี่ พี่ น้า เจ๊ หรือป้า ไปโน่นเลย เกิดช่องว่างระหว่างวัยขึ้นมาทันทีทันใด เวงแท้ๆ

ส่วนที่ชอบในหนังเรื่องนี้มากๆอีกเรื่องคือ กลุ่มหมู่มวลเพื่อนๆของจ๋า คือ ป้าอ้วน, เจ๊ใหญ่, ซี และยุ้ย คนเรายิ่งอายุมากขึ้นไปเท่าไหร่ เพื่อนยิ่งน้อยลงไปทุกที จะด้วยหน้าที่การงาน หรือภาระครอบครัวก็ตาม พอได้เห็นภาพหมู่มวลเพื่อนของจ๋าในเรื่องนี้แล้วยิ้มทุกฉาก "เพื่อน" เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ไร้กาลเวลา หรือวัยเข้ามาเกี่ยวข้อง ดูฉากวันเกิดตอนแรกซิ กับการพูดเรื่องเซ็กส์กันแบบเปิดอกหมดใจในตอนอายุ 30 มีใครไม่ทำแบบนี้กับเพื่อนบ้างล่ะ พอมองเห็นภาพถอยหลังไปเลยว่าสมัยวัยรุ่นละอ่อนนั้น เพื่อนกลุ่มนี้จะแก่นเซี๊ยวกันแค่ไหน...

สรุปแล้วข้าพเจ้ารักเด็ก แต่เพื่อนแก่ๆของข้าพเจ้าทั้งหลาย ข้าพเจ้าร๊ากกกเพื่อนยิ่งกว่า และเพื่อนโปรดอย่านินทาตอนข้าพเจ้าไม่อยู่ในวงสนทนาเลยนะ ข้าพเจ้าต้องคอยดูแลน้องๆ เดี๋ยวน้องเค๊าจะว่า "คำก็เด็กสองคำก็เด็ก เด็กมันไม่มีหัวใจ รักใครไม่เป็นหรือไง" อิอิอิอิอิ...


...............................


ยังค้างคาอีกประเด็นนึงฮ่ะ เรื่องดอกไม้ นางเอกในเรื่อง จ๋า (อั้ม) ซื้อดอกไม้มาช่อนึงที่บันไดทางลงรถไฟฟ้าใต้ดิน ราคาช่อละ 100.-บาท (แพงมั่ก ปากคลองน่าจะสัก 60.- ต่อได้) แล้วเอากลับบ้านไปใส่แจกัน ก่อนใส่ ทำหน้าเหวี่ยงใส่ช่อดอกไม้ช่อเก่าที่เหี่ยวเฉาไปแล้ว แล้วเอาช่อใหม่ที่ซื้อมาลงแทน ไม่รู้ดอกอะไรมองไม่ชัด หน้าตาเหมือนลิลลี่ แต่ดอกเล็กๆกว่า เอาใส่แจกันแล้วทำสะบัดบ๊อบใส่ สลับกับมองกระจกตัวเอง แล้วบ่นกว่า กรูแก่ กรูเหี่ยว!!! ไม่เต่งตึงสดใสเหมือนดอกไม้ช่อใหม่ที่ซื้อมา แอบเอาช่อใหม่ไปเขวี้ยงลงถังขยะด้วยซ้ำ แต่เสียไม่ได้ เอากลับมาใส่แจกันใหม่แบบมึนๆ (คงเสียดายตังค์ร้อยนึง)

โธ๋ๆๆ ความหมายที่ซ่อน ฉากนี้นานกว่า 10 นาที อีตาพระเอกหนุ่มวัยรุ่นปอ-รศิต ในเรื่องก็ให้คนดูเห็นแล้วไง ว่าแพ้เกสรดอกไม้ เกลียดดอกไม้ที่ซื้อมาใหม่ๆช่อนี้ ถึงขนาดยอมไปนั่งห่างๆบนรถเมล์ แล้วฉากที่คุยกับหมา ต้องเอาทิชชู่มายัดใส่จมูก พร้อมกับให้จ๋าเอาช่อดอกไม้นี้ไปวางไกลๆ

ถ้าไม่สื่ออะไร สองฉากนี้จะมีทำไม คุณพระเอกสุดหล่อ ปอ-รศิต เค๊าเกลี๊ยดเกลียดดอกไม้ (ใหม่ๆ) ที่นางเอกปลื้มหนักหนาว่าสดใหม่เต่งตึงไง ไม่ชอบของสด แพ้ เหม็น ไม่ชอบดอกไม้ใหม่ ขัดกับหนุ่มอื่นที่ชอบดอกไม้สดๆตึงๆ ประมาณว่า ชายใดมีดอกเอื้องดอกหนึ่ง พึงควรรู้ว่า อย่าให้เฉาโรยรา จนดูไร้ค่า ว่าเป็น...แค่เพียงดอกไม้

นางเอกจ๋าอั้ม มัวแต่ห่วงสวย กลัวเหี่ยว จนลืมนัยยะนี้ไป เหี่ยวก็เหี่ยวไปซิ หนุ่มบางคนเค้าอาจแพ้ดอกไม้สดๆก็ได้ เหี่ยวๆหน่อยๆซิมีเสน่ห์ ยิ้มทีหน้ายับเป็นไข่เจียว อาจจะเป็นภาพทิพย์นางสวรรค์ของใครก็ได้

อย่างข้าพเจ้า ข้าพเจ้าอ่อนกว่าจ๋าอั้ม 2 ปี (หราาาา) ไม่เห็นแคร์เลย จะไม่ยอม จะไม่แพ้ จะไม่แคร์...ใครก็ตาม บางวันข้าพเจ้าจะลืมโกนขนใต้วงแขนไปบ้างเพราะรีบ ขนหน้าแข้งจะขึ้นครึ้มบ้าง สัมผัสอาจจะสาก แต่ข้าพเจ้าก็รักจริง คนที่ข้าพเจ้ารัก ข้าพเจ้าจะปูทางเดินด้วยกลีบกุหลาบให้ เหมือนเพลง La Vie en Rose แต่ถ้าข้าพเจ้าเอาขาไปก่ายหนุ่มๆที่ไหน แล้วอาจจะสากๆบ้าง โปรดจงถือว่าความงามเป็นเรื่องตามธรรมชาติที่มิได้ปรุงแต่ง

"กุหลาบงาม...ย่อมมีหนามแหลม" ฮ่ะ ฮิๆๆๆๆ




Create Date : 15 พฤศจิกายน 2554
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2554 5:36:55 น. 4 comments
Counter : 1065 Pageviews.

 
อยู่คนเดียว ไม่ได้แปลว่า โดดเดี่ยว

และโสด ไม่ได้หมายถึง เหงา

แต่บางที ความเหงา ก็แวะเข้ามาเยือนจ๊ะ



*~*~*~*..แวะมาทักทายจ๊ะ..ขอให้มีความสุข สดใส..หัวใจเบิกบาน..*~*~*~*

..HappY BrightDaY..











โดย: *~ต้นกล้า...ของหัวใจ~* วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:9:38:05 น.  

 
แวะมาเยี่ยม...สวัสดีครับ


โดย: **mp5** วันที่: 15 พฤศจิกายน 2554 เวลา:15:35:24 น.  

 
สวัสดีค่ะ

โห ไม่ได้ทักทายคุยกันนานเลยนะค่ะ
แต่ว่าพอเห็นที่หน้าหลักแล้วก็ต้องวิ่งมาขอ
สวัสดีกันค่ะและก็บอกว่า ... หนังเรื่องนี้
วางแผนจะดูแต่ว่าก็พลาดตอนเค้าเข้าโรงค่ะ
คงจะได้ดูตอนมีแผ่นแล้วนะค่ะ แต่ว่าดู ตย.
แล้วก็บอกได้ว่า ไม่พลาดแน่ๆ ค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 16 พฤศจิกายน 2554 เวลา:0:49:05 น.  

 
ชอบเรื่องนี้มากมาย..

ผมเคยแอบชอบรุ่นพี่แบบนี้เหมือนกัน
แต่สุดท้ายแห้ว..โดนรุ่นพี่อีกคนเอาไปกิน
แล้วพี่เค้าก็ไม่ชอบเด็กเช่นกัน


คุณวิเคราะห์แต่ละตอนได้ละเอียดมากๆเลย 555+




โดย: Little Knight วันที่: 28 มีนาคม 2555 เวลา:16:30:40 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กำปงพิราเทวี
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






ขอบคุณทุกท่านมากค่ะ สำหรับ
2 รางวัลใน BlogGang Award #2









Creative Commons License

ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ประเทศไทย.
Friends' blogs
[Add กำปงพิราเทวี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.