ราคาหนังสือสมัยนี้ชักจะแพงขึ้นทุกวันๆ 

เริ่มจะไม่ไหวกับราคา

ไปเดินร้านหนังสือที หยิบหนังสือขึ้น- ดูราคาปก- วาง - หยิบขึ้นใหม่ - ดูราคาปก แล้วก็วาง 

คือถ้าไม่ได้อยากอ๊าน..อยากอ่าน ณ เวลานั้นจริงๆ แล้วละก็ สั่งซื้อโดยตรงกับสำนักพิมพ์นี่มันจะถูกกว่ากันหลายบาทเลยอ่ะ

ราคาปกหลังของ "ฤดูดาว" ราคาปก 420 บาท 

เหมือนจะราคาไม่แพง? คิดอีกที เฮ้ย! อีก 80 บาทนี่ ครึ่งพันเลยน่ะ เลยจับวาง 

เปิดอินเตอร์เน็ต เช็คราคาจาก สนพ. อืม .. เหลือ สามร้อยต้นๆ กลางๆ ถูกกว่า อย่างน้อย 50 บาท

ข้อเสียคือ รออ่านนานนิดนึง ( ก็คงไม่เกิน 1 สัปดาห์ โดยประมาณ) ....

เฮ้อ...ความทุกข์ของเหล่าหนอน ..

ทุกๆ ปี ก็จะมีฤดูร้อน ฤดูหนาว ฤดูฝน ฤดูใบไม้ผลิหรือใบไม้ร่วง แต่ทุกๆ หนึ่งพันพระจันทร์เพ็ญ หรือประมาณ 80 ปี ก็จะมีฤดูดาวเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง 

ฤดูที่ดาวบนท้องฟ้าจะสุกสว่างกระจ่างใจเต็มท้องฟ้า จนแสงพระจันทร์วันเพ็ญไม่อาจสู้ได้ และในคืนที่หนึ่งพันนี้เองเป็นเวลาที่ดอกเอื้องแสนเพ็งจะกลายร่างเป็นนางอั้วแสนเพ็งแสนงามเพื่อรอแถนเมืองแมน-ชายคนรักจากเมืองฟ้า มารับตัวนางไป

และนี่คือเรื่องราวตำนานของหมู่บ้านผาช้างร้อง...

ที่ผาช้างร้อง หมู่บ้านอันห่างไกลใน จ.น่าน ดรสานักนิเวศวิทยาและควบตำแหน่งนายหญิงคนใหม่แห่งไร่ผาสุกกำลังเจอปัญหาใหญ่เมื่อไร่ส้มของ ดร.สินธพ กำลังขยายและรุกคืบคลานเข้าใกล้ป่าต้นน้ำเข้าทุกที เลือดนักอนุรักษ์ในกาย ทำให้ทั้งเธอไม่สามารถยอมรับการกระทำของเขาได้ แม้ว่าหัวใจจะหวั่นไหวกับเขาทุกครั้ง

จนกระทั่งเกิดเพศภัยใหญ่หลวงกับหมู่บ้านผาช้างร้อง เขาและเธอจึงต้องเดินทางไปเวียงแสนเพ็ง

เพื่อตามหาเอื้องแสนเพ็ง ..ดอกไม้ที่ไม่ใช่ดอกไม้..

เนื้อเรื่องก็ตามข้างบนค่ะ 

เรื่องดำเนินอยู่ในหมู่บ้านผาช้างร้องซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวเย้า ที่ๆ ความเชื่อ ภูติผี วิญญาณ ป่าเขา มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิต 

แต่เมื่อความเจริญของเทคโนโลยี ความทันสมัยเข้ามา ทำให้การดำเนินชีวิตของคนในหมู่บ้านกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป

เนื้อเรื่องใหญ่ๆ ของ ฤดูดาว พูดถึงเรื่อง การอนุรักษ์ นิเวศวิทยา พืช GMOs  ส่วนความรักระหว่างหนุ่มสาว ก็สามารถหาได้ในเล่มนี้ค่ะ (แต่เราว่ามันจะมีอยู่หลังๆ นู้นนนน)

เราว่าเรื่องนี้ให้แนวคิดเกี่ยวกับความสำคัญของป่า ผลกระทบของการก้าวก่ายธรรมชาติของมนุษย์ได้ดีทีเดียว บอกถึงปัญหาจากการทำลายโลกของมนุษย์ได้น่าสนใจ รวมถึงพืช GMOs ที่กำลังมีข้อถกเถียงกันมาก ถึงประโยชน์และโทษของมัน ซึ่งจะดำเนินภายใต้ความคิดของดรสา-นักนิเวศวิทยา(มั้ง..ถ้าจำไม่ผิด) 

แต่เราว่า ด้วยตัวดรสาเองมีความคิดที่สุดโต่ง..คือไม่ขาวก็ดำ ไม่ซ้ายก็ขวา ไม่ดีก็เลวไปเลย

การสะท้อนแนวคิดอนุรักษ์ของดรสาบางอย่าง เราเลยว่า มองเป็นการเห็นแ่ก่ตัวของชาวกรุงไปหน่อย แบบเป็นความคิดของคนที่ตนเองมีความพร้อมอยู่แล้ว แต่อยากจะอนุรักษ์ส่วนหนึ่งของความเก่าความดั้งเดิมไว้ โดยไม่ได้หันไปคิดถึงคนที่เขาอยากได้ อยากมี หรือยังไม่เคยมีบ้าง

เราว่า ถ้าดรสาจะยอดลดทิฐิของตน ปรับทุกอย่างให้เหมาะสม เธอคงจะมีความสุขขึ้น

สำหรับเรื่องนี้ ..หนาไปหน่อย อ่านไปบนไป เมื่อไหร่จะจบ (วะ) ช่วงแรกๆ จะอืดหน่อย เน้นหนักไปที่ประเด็นอนุรักษ์ ส่วนครึ่งหลังค่อนข้างเป็นการผจญภัย+แฟนตาซี (ละมั้ง) 

สำหรับคนที่สนใจเืรื่องนี้ก็ไม่น่าผิดหวังแต่อย่างใด