เอาละคะมาลอง X-RAY ผักหวานกันสักหน่อย เริ่มกันที่เรื่อง ระบบทางเดินหายใจ กันก่อน แม่จำได้ว่าตอนที่แม่ตั้งครรภ์ยัยหนูนั้น ยัยหนูของแม่สะอึก อึก อึก บ่อย ๆ สงสัยจะสำลักน้ำคร่ำเข้าไป พอแรกคลอดออกมาผักหวานก็ยังคงสะอึกอยู่ทุกครั้งที่ทานนมเสร็จ ตอนนี้ยิ่งเอาใหญ่นอนอยู่ดี ๆ ก็สะอึกกับเค้าได้ด้วย เออแปลกดีจังนะ...สะอึกเองก็หายเองคะ แม่พยายามทั้งอุ้มพาดบ่า จับให้นั่งเรอ ลูบหลังก็ไม่ยักหาย แต่อยู่ดี ๆ อยากหายเองก็เงียบซะงั้น ส่วนเรื่องหายใจนั้น ยัยหนูเค้าจะหายใจไม่สม่ำเสมอเหมือนผู้ใหญ่คะ จะหายใจเป็นพัก ๆ เดี๋ยวช้า เดี๋ยวเร็ว เดี๋ยวเบา เตี๋ยวดัง ตอนแรกยอมรับว่าตกใจมากเพราะเสียงดังสุดๆ โดยเฉพาะตอนทานนม จะดึงครืดคราดเหมือนกับเสียงชักโครกที่ฝาโถส้วมชำรุด เห็นแล้วสงสารจับใจ เมื่อไหร่นะปอดผักหวานจะแข็งแรงสักกะที ฟังแล้วแทบจะขาดใจ
ใบหน้าผักหวานคล้ายใครหนอ ???? พ่อแม่นั่งเดากันทุกวัน ตามโบราณเค้าบอกเอาไว้ว่าถ้าลูกเป็นผู้หญิงหน้าตาเมือนพ่อแล้วจะไม่ลำบากใช่ปะ แต่แหมแม่ไม่อยากให้ลูกหน้ากลมบ้อกเหมือนพ่อนี่นา!!! <หน้าตายัยหนูจะเป็นยังไงก็ได้เพราะยังไงแม่คนนี้ก็รักหนูเต็มหัวใจอยู่ดี> แต่พ่อเจมส์เค้าอยากให้ลูกหน้าตาเหมือนแม่จ๊ะ เค้านั่่งดูรูปถ่ายแม่ตอนอายุประมาณหนูเนี่ยแหละ เค้าบอกว่าหน้าตาหนูคล้ายแม่มาก ส่วนตาแม่ว่าเหมือนพ่อเปี๊ยบ ผักหวานของแม่ตาโตแถมสองชั้นแน่นอนแม่นอนยันได้คะ ส่วนจมูกก็คล้ายแม่เป็นที่สุด <ปล. จมูกเป็นอวัยวะที่แม่ไม่ชอบในใบหน้าที่สุด เฮ้อ ยัยหนูก็เอาไปด้วย แต่ไม่เป็นไรคุณยาย คุณตา บอกกันว่าจมูกแบบนี้เรียกว่า จมูกสิงค์คะ จะร่ำจะรวยไม่ลำบากแน่นอน เอ..แต่แม่ก็ไม่เห็นยักรวยกับเค้าเสียที>
อ้อ... ที่แม่ชอบที่สุดก็คือ ทรงศรีษะของหนูจ๊ะเพราะทุยม๊ากมาก แบบไม่ต้องจับให้นอนคว่ำก็ทุยมากมายเลยละ เย้...อย่างน้อยก็ไม่เหมือนพ่อแล้วละ แต่คุณย่า คุณยายก็คอยเป็นห่วงตลอด อย่างคุณย่านะจะคอยให้หันตะแคงซ้ายที ขวาทีอยู่อย่างงั้นกลัวหัวแบนไปข้างเดียว ส่วนคุณยายก็ชอบให้ผักหวานนอนคว่ำคะ (ปล. การนอนคว่ำต้องระวังเป็นอย่างมากเพราะมีโอกาสที่เตียงนอนจะปิดกั้นลมหายใจและเป็นโรคใหลตายในเด็กทารกได้คะ ก็ถ้าอยากจับให้นอนคว่ำก็ต้องอยู่เฝ้ากันตลอด) แต่ผักหวานก็ไม่ค่อยชอบนอนคว่ำเท่าไหร่ ยัยหนูคอยเอาเท้าดันๆ ยันๆ ตลอด และที่น่าตื่นเต้นที่สุดก็คือ พอจับหนูนอนคว่ำหนูก็แสดงความแข็งแรงมากมาย นอนคว่ำครั้งแรกเธอก็สามารถหันซ้าย-ขวาได้เอง เยี่ยมยอดกระเทียมดองไปเล๊ย....
การขับถ่าย: ความรู้ที่เคยอ่านมาทำให้ทราบว่า ทารกแรกเกิดนั้นจะมีการขับถ่ายครั้งแรกภายใน 24 ชั่วโมงคะ เรียกอุจจาระแบบนี้ว่า "ขี้เทา" เพราะสีสันของมันไม่ค่อยน่ามองสักเท่าไหร่ มีสีออกดำๆ และเหนียวเป็นยางมะตอย พอพ้น 3-4 วัน อุจจาระก็จะเปลี่ยนอีกที ถ้าทานนมแม่อึก็จะมีสีเหลืองทอง แต่ถ้าทานนมผสมอึก็จะออกมาเป็นเม็ดๆ ก้อนๆ ตอนนี้แม่ผักหวานมีนมให้ยัยหนูไม่พอกินคะ ดังนั้นก็เลยต้องผสมกันไประหว่างนมแม่กับนมผสม (ผักหวานเคยทาน similac แล้วไม่ค่อยชอบเพราะข้นมากเวลากินทีนมจะถูกตีฟองจนฟูเต็มขวดทำให้ท้องอืดมากมาย แม่เลยเปลี่ยนเป็น enfalac A+แทน) โชคดีที่พ่อเจมส์ไปซื้อที่โรงพยาบาลเด็กก็เลยถูกหน่อย กระป๋องละ 270 บาทเท่านั้นเอง แม่เคยไปดูตามห้าง โอ้โหสามร้อยกว่าบาททีเดียว พ่อเจมส์เลยซื้อมาเก็บไว้ 5 กระป๋องคะ ที่ซื้อมากก็เพราะนมแม่ยังไม่ออกเยอะสักกะทที ไม่แน่ใจเลยว่าจะมีกับเค้าไหมก็ต้องลุ้นกันต่อไป คุณยายก็ช่วยเต็มที่คะทั้งซื้อและทำอาหารกระตุ้นน้ำนมให้ทานหลายอย่างคะ ทั้งแก้วมังกร มะละกอ น้ำขิง ต้มส้ม ยำหัวปลี ลาบวุ้นเส้น แกงเลียง และอีกสารพัดแต่น้ำนมแม่ก็ยังนิดเดียว
ภาพด้านบน เป็นน้ำตังกุยผสมไข่ลวกคะ โหยรสชาติสุดแสนจะแย่ทั้งคาวทั้งเหม็น แต่คนจีนเค้าบอกว่าทานดีเพราะช่วยบำรุงเลือดและเพิ่มน้ำนมได้ชะงัด แม่ผักหวานเลยต้องทานตอนเช้าทุกวัน เจ้าตังกุยเนี่ยได้อภินันทนาการจากคนไข้พ่อเจมส์คะ เค้าอุตส่าห์มาเยี่ยมแม่ถึงที่บ้านเลยนะ เอาตังกุย ไข่ไก่สดและลูกเชอรี่มาให้ (แม่เพิ่งทราบที่หลังว่าคนไข้ท่านนี้เป็นคนให้ทอง 2 สลึงหลานด้วยนะ น่าเสียดายไม่ได้ขอบคุณเค้าอีกที)
เต้านม: ผักหวานลูกแม่ ตอนแรกเกิดหน้าอกโตใช่ย่อยคะ
สะดือ: หลุดเมื่อวันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2011 ตอนแม่กำลังเปลี่ยนผ้าอ้อมยัยหนูพอดี พี่เจมส์บอกว่าถ้าสะดือหลุดเมื่อไหร่ให้โทรไปบอกย่าด้วยคะ คุณย่าจะเอาไปทำพิธีซะหน่อย ผักหวานจะได้แข็งแรง
มือและเท้า: ผักหวานมีมือและเท้าเล็กจิ๊ดเดียวเอง ตอนคลอดออกมานั้นเล็บมือยัยหนูยาวและคมมาก เวลายัยหนูหงุดหงิดชอบเอามือมาถูใบหน้าทำให้เล็บมาข่วนหน้าเป็นรอยแดงแทบทุกวัน แต่แผลก็หายเร็วดีนะค่ะ แดงวันนี้พอพรุ่งนี้ก็แทบมองไม่เห็นรอยแล้ว ทั้งแม่กับคุณยายพยายามใส่ถุงมือให้หนูจ๊ะ แต่บางทีผักหวานก็ดิ้นซะจนถุงมือหลุดทู๊กที...แม่เนี่ยอยากตัดเล็บหนูม๊ากมาก ดีนะที่ได้ป้าแตงและคุณพยาบาลห้ามไว้ บอกว่าหนูยังอ่อนอยู่ให้รอตัดเล็บตอนอายุสัก 2 สัปดาห์ไปแล้ว แม่ตัดเล็บหนูเป็นวันแรกในวันที่ 23 ธันวาคม 2011 คะมีป้าแตงเป็นผู้ช่วยจับนิ้วหนูให้ กรรไกรตัดเล็บแม่ซื้อมาจากอินเตอร์เนตยี่ห้อ camera จ๊ะ หน้าตาก็เหมือนกรรไกรตัดเล็บของผู้ใหญ่ทั่วไปนั่นแหละแต่ขนาดจะย่อมกว่า (ปล. เล็บผักหวานยาวเร็วมาก ตัดวันนี้อีกสองวันข่วนหน้าอีกแล้ว เฮ้อ )
น้ำหนัก: แรกคลอดอยู่ในเกณฑ์ดีทีเดียว น้ำหนักอยู่ที่ 3026 g จ๊ะ ซึ่งอยู่ในค่าเฉลี่ยผู้หญิงทั่วไปซึ่งมีค่าอยู่ที่ 3000 g สำหรับอายุครรภ์ 38-42 สัปดาห์ แต่ตอนออกจากโรงพยาบาลน้ำหนักลดลงมาเล็กน้อยคะเหลือเพียง 2900 g กว่าๆ เท่านั้นเอง แต่ตอนนี้ (เกือบ 1 เดือน) ผักหวานทำน้ำหนักได้ 4.4 กิโลกรัมแล้วจ๊ะ
ผม: ผักหวานผมน้อยค่ะจนอาจเรียกว่าหัวล้านก็ได้ แต่แม่ก็ไม่เป็นกังวลหรอกนะจ๊ะเพราะตอนแรกเกิดทั้งพ่อและแม่ก็หัวล้านแบบนี้แหละ แต่ตอนนี้ทั้งเยอะทั้งดำเลยนะ แถมทั้งพ่อและแม่ยังมีคิ้วทั้งหนาและเข้มซะด้วยซิ แล้วยังงี้ผักหวานของแม่จะไม่ผมดกได้ยังไงหว่า
ผิวหนัง: คนโบราณบอกเอาไว้ว่าผัวหนังของเด็กแรกเกิดจะเปลี่ยนสีได้ทุกวัน ทุกช่วงเวลาอย่างผักหวานเนี่ย ตอนเช้าจะขาวหน่อยและพอตกเย็นจะตัวดำเป็นเหนี่ยง บางวันก็ตัวเหลืองคะ เอาแน่เอานอนไม่ได้
จุดขาวบนจมูก: ผักหวานมีจุดสีขาวเล็กๆ บนจมูกคล้ายสิวเสี้ยนในผู้ใหญ่มาตั้งแต่แรกเกิด จุดขาวๆ นี้ทางการแพทย์เค้าเรียกว่า Milia ค่ะ จุดพวกนี้ห้ามไปกด ไปบีบเค้านะคะเดี๋ยวจะอักเสบ ให้ทิ้งเอาไว้เฉยๆ เดี๋ยวก็หายไปเอง แม่ก็เฝ้ารอนะค่ะว่าเมื่อไหร่จะหายไปสักที แต่ตอนนี้ก็เริ่มน้อยลงแล้วนะแต่ไม่หมดซะทีเดียว
ปานสีน้ำเงิน: ผักหวานมีปากสีเขียวอมน้ำเงินอยู่ด้านหลัง หลังมือและที่แก้มก้น ปานนี้ทางการแพทย์เค้าเรียกว่า Mongolian spot คะ เค้าว่ากันว่าพอโตแล้วปานพวกนี้จะค่อยๆ จางและหายไปเอง เฮ้อ...ขอให้แน่นะคะไม่งั้นผักหวานขายไม่ออกแน่นอน
ตาแฉะ : ผักหวานร้องไห้แล้วมีน้ำตาใหลออกมาด้วยคะ ตอนแรกแม่ก็ไม่เห็นว่ามันจะผิดปกติตรงไหน แต่พี่พยาบาลบอกว่าทารกแรกเกิดจะไม่มีน้ำตาคะ ถ้ามีแสดงว่าท่อน้ำตาตีบตัน วิธีแก้ไขก็คือใช้นิ้วมือของแม่นิ้วที่ไม่ถนัด เช่น นิ้วนาง หรือ นิ้วก้อยกดนวดเปิดท่อน้ำตาให้ใหลลงจมูกได้ เฮ้อ...แม่ลืมประจำ ต่อไปนี้แม่จะนวดให้หนูตลอดนะค่ะ แม่สัญญา
ติดตามไดอารี่ผักหวานฉบับหน้านะคะ
ลูกนกตัวนั้นตอนนี้ไม่รอดแล้วล่ะค่ะ
สงสัยจะเมากลิ่นคนอ่ะค่ะ เพราะว่าจับกันหลายมือ
วันก่อนยังแข้งแรงอยู่เลย มาวันหลังไม่หายใจซะแระ เศร้านิดเลยค่ะ
แต่เราก็พยายามช่วยเขาเต็มที่แล้วสุดความสามารถที่จะยื้อชีวิตเขาไว้ค่ะ
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมเนอะ แหะๆๆ มาโหมดเศร้าซะงั้น
เด๋ววนมาอ่านเรื่องราวใหม่ในบล็อกนี้ใหม่อีกรอบนะคะ