กรณีศึกษาการบริหารงานในเมืองสารขันธ์
หากมีคำถามว่า ผู้บังคับบัญชาทำผิดไหมที่จะมอบหมายให้ใครสักคนในสำนักงานไปปฎิบัติหน้าที่แทนกัน คำตอบ คงไม่ผิด เพราะ ด้วยเหตุผลต่าง ๆ นา เพื่อผลประโยชน์ขององค์กร บลา ....บลา แต่ถ้าเล่าที่มาที่ไป แล้วถามใหม่ เรื่องมีอยู่ว่า ... งาน 1 โครงการ มีผู้รับผิดชอบเป็น นาง ก นาง ข. ซึ่งตอนไปประชุมรับทราบแนวทางการดำเนินงาน ก็เป็น นาง ก. กับนาง ข. เป็นผู้ไปและได้กลับมาวางแผนการทำงานโดยแบ่งออกเป็น 2 กิจกรรม ก็มี นาง ก. กับนาง ข. รับผิดชอบกันคนละ1 กิจกรรม โดยกิจกรรมที่2 นาง ข ก็หา นางค. มาเป็นผู้ร่วม ซึ่งต่างคนก็ต่างทำหน้าที่กันไป และเมื่อสิ้นสุดโครงการ มีการเรียกประชุมสรุปผลการดำเนินงานมีการมอบหมายให้ นาง ค. เป็นผู้ไปประชุมและรายงานผลการดำเนินงาน โดยที่นาง ก. ไม่ได้รับรู้ใดๆ เลย ว่ามีการให้ไปประชุมสรุปงานนี้ คำถามที่ 1 คือ ถ้าคุณเป็นนาง ก. คุณจะโวยวายไหม ว่าทำไมคุณไม่ได้เป็นผู้ไป ในเมื่อคุณเป็นผู้ดำเนินงาน แต่ในความเป็นจริงคือ นาง ก. เงียบไม่แสดงออกอะไร ต่อมา ได้มีหนังสืออ้างถึงการประชุมที่นาง ค.ได้ไปมาให้ดำเนินการรายงานผลการดำเนินงาน นางค. ได้นำหนังสือฉบับนั้นมาให้ นาง ก.เพื่อให้เป็นผู้รายงานโครงการดังกล่าว คำถามที่ 2 ถ้าคุณเป็นนาง ก. คุณจะก้มหน้าก้มตา รายงานไปหรือไม่ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นผู้ประชุม ในความเป็นจริง คือ นาง ก. ทำบันทึกข้อความเสนอผู้บังคับบัญชา ว่า ในวันที่มีการเรียกประชุมนาง ก ไม่ได้ติดภารกิจใด ๆ และ ไม่ได้เป็นผู้ประชุมจะสรุปได้อย่างไร แต่อย่างไรก็ตามในส่วนที่ นาง ก. เป็นผู้ดำเนินกิจกรรมที่ 1 นั้น ได้สรุปผลการดำเนินงานในกิจกรรมที่ 1 ส่งให้ นาง ค. เพื่อเป็นผู้รวบรวมทั้ง 2 กิจกรรมรายงาน คำถามที่ 3 คุณว่าหากบันทึกข้อความฉบับนี้ถึงผู้บังคับบัญชาจะเกิดอะไรขึ้น ... คำถามไม่เคลียร์ ขอเปลี่ยนคำถามใหม่ .... คำถามที่ 4 หากคุณเป็นผู้บังคับบัญชา คุณจะทำอย่างไร ในความเป็นจริง ผู้บังคับบัญชาเรียก นางก. และนางข.(ในฐานะหัวหน้านางก.) ไปถามที่มาที่ไป นางก. ก็เล่าตามข้างบน ตานี้ .. มาฟังคำตัดสินของเมือง สารขันธ์ 1. นางข. ในฐานะหัวหน้าเบื้องต้น กล่าวว่า ทำไมนางก.(ผู้มีปํญหาเยอะ)ไม่ถามเหตุผลหรือพูดคุยกันว่าทำไมให้นาง ค. ไปแทน และชี้แจงว่าเนื่องจากไม่มีงบประมาณ จึงให้นางค. ไป นางก. สวนกลับ ตอนไปงุบงิบกันไป แล้วมาสรุปว่านาง ก.ผิดที่ไม่ถาม ... พอจนแต้มบอกงบไม่พอ แต่เบิกโอทีทำกิจกรรมที่ 2 กันแต่ส่วน
2. นาย จ. ผู้บังคับบัญชา ผู้ฟังที่มาที่ไป ฟังลูกน้องกับหัวหน้าทะเลาะกันเป็นที่น่าพอใจแล้วตัดสินว่า การที่ นางค. ไปแทน น่าจะเป็นบุญคุณกับนาง ก. ด้วยซ้ำไป ซึ่งคนที่ไปแทนก็ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้มาสรุป แล้วถามว่ามันยากตรงไหนที่จะดำเนินการในเรื่องดังกล่าว นางก. สวน การที่ให้นาง คไปโดยที่ไม่ได้มีการบอกกล่าวกัน เป็นการทำร้ายความรู้สึกกันและเป็นการไม่ให้เกียรติกัน ซึ่งตอนที่ทราบว่านาง ค. ไป ก็ไม่ได้โวยวายอะไรเลย ทำใจที่จะคิดว่าถูกต้องแล้วที่ควรให้คนเก่งเป็นผู้เข้าร่วมประชุม ซึ่งคนเก่งคนนั้นก็ควรกลับมาสานต่องานที่ไป ไม่ใช่ยื่นกระดาษแผ่นเดียวให้เพื่อนทำ (นางก. คิดเองในใจแต่ไม่ได้พูดออกมาว่าการที่ทำอย่างนั้น วันหลังสั่งให้สากกะเบือไปแทนก็ได้) แล้วการที่มาถามว่ามันยากเหรอ ทำไมไม่ถามนางค. บ้าง ว่ามันยากเหรอ และในบันทึกข้อความดังกล่าวมีตรงไหนบ้างไม่เป็นความจริง ให้บอกมา และผิดด้วยเหรอที่จะทำบันทึกข้อความดังกล่าว ปัญหานี้ควรแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ (ไม่มีการเรียกนาง ค มาถามใดๆ ทั้งสิ้น) ศึกครั้งนี้คล้ายๆ เป็นศึกที่ นาง ก.สะเออะทำเรื่องขึ้นมาเอง และผู้บังคับบัญชากล่าวว่าหากไม่มีผู้ทำผมจะทำเอง (ทำหน้าที่ได้ดี ได้ 10 เต็มตรงนี้ เพราะอย่างไรจะไม่มีการแตะนาง ค ให้สะเทือนซางเด็ดขาด) สรุปที่ 1 ผู้ที่รายงานคือ นาง ส. ผู้ไม่รู้อิโน่อิเน่ ผู้ไม่ได้เป็นผู้ทำกิจกรรมใดๆเลยเป็นผู้รับกรรม เนือ่งจากเป็นผู้หัวอ่อน และมีใจใฝ่ตัวชี้วัดมากที่สุด สรุปที 2 เหมือนนาง ก. จะชนะที่ไม่ต้องทำ แต่ในความเป็นจริง นาง ก. กลับบ้านปิดห้องร้องซะให้พอ เพราะโดนมาซ้ำซาก ร้องเพื่อจะไม่ต้องร้องอีกเมื่อมีคนถามถึง อ้อ .. ลืมคำถามเด็ด นาง ค เป็นใคร ทำไมถึงแตะต้องไม่ได้ --------------------------------------------------------
Create Date : 05 ตุลาคม 2557 |
|
0 comments |
Last Update : 8 ตุลาคม 2557 15:23:25 น. |
Counter : 692 Pageviews. |
|
|
|