จะว่าไปแล้วอิชั้นก็ได้ตั้งหน้าตั้งตาคอยวันเนี๊ยะ…วันที่ 10 เดือนตุลา 2010 กับใครๆ เค้าเหมือนกันนะคะ ตั้งตารอมาได้เดือนกว่าๆ แล้ว เมื่อคืนพอเข็มนาฬิกาไปขี่ทับกันตอนเที่ยงคืน…555…เริ่มเข้าวันใหม่ปุ๊บ..อิชั้นก็เริ่มกระทำการที่ก่อกาววางแผนมาเป็นเดือนในทันที คือช้อปปิ้งไอเท่มที่อิชั้น รอคอย…เธอมาแสนนาน….. “Mulberry Handbags for Target” Launches on October 10, 2010! ชอบกระเป๋ามัลเบอรี่ แต่ไม่เคยคิดจะซื้อ เพราะชอบยี่ห้ออื่นมากกว่า (ไม่อยากใช้คำว่า…ไม่มีปัญญา 555) การที่จะซื้อกระเป๋าราคาเป็นพันๆ เหรียญ มันต้องมีปัจจัยหลายอย่างเข้ามาใช้ในการพิจารณา อย่างแรกเลยคือ เงิน…เงินน่ะมีมั๊ย 555 พอมีเงินที่สามารถจะจัดซื้อหามาได้ ต้องถามตัวเองว่าซื้อมาแล้วครอบครัวเดือดร้อนมั๊ย ถ้าไม่เดือดร้อนก็ไปลากมาครอบครองให้หายหงุดหงิดหัวใจ แต่ปัจจัยอีกอย่างที่สำคัญไม่น้อย คือ ชอบ+รัก+ถูกใจ สุดๆ แล้วใช่มั๊ย ถ้าใช่ จัดการเลยค่ะ ไม่ใช่ซื้อเพราะมันแพงดี กลัวตกเทรนด์ ต้องรัก ต้องชอบด้วยนะคะ หรือถ้าต้องดิ้นรนมากๆ เป็นหนี้เป็นสินเพื่อให้ได้มาก็อย่าพยายามเลยนะคะ ….ก็แค่อยากจะบอกว่าชอบมัลเบอรี่มานานมาก แต่กระเป๋ามัลเบอรี่ไม่ใช่รูปลักษณ์ สี ขนาด วัสดุ ยี่ห้อ ที่รักชอบสุดๆ มีอีกหลายๆ อย่างที่อยู่ใน wish list อันดับต้นๆ ก่อนหน้ามัลเบอรี่

อยากจะบอกว่า wish list ของอิชั้น ไม่ใช่จะมีแต่ High-Fashion, Expensive Brand Name Items, Jewelry, High-End Gadgets, หรือ รถราราคาแพงแต่อย่างใด ส่วนใหญ่จะเป็นข้าวของใช้ ของกิน ของเล่นลูก ทริปเล็กๆ ของครอบครัว ทริปกลับบ้าน ฯลฯ ไปโน่น กลับเข้ามาเรื่องกระเป๋ามัลเบอรี่ Mulberry เป็นผลิตภัณฑ์ราคากลางๆ ถึง สูงๆ (ยังก๊ะไฮโลว์ 555 แต่สำหรับอิชั้นถือว่ามัลเบอรี่ค่อนข้างแพง) เป็นสินค้าสัญชาติอังกฤษ Mulberry – Luxury English Fashion โดยดีไซเน่อร์ระดับแนวหน้าชื่อ Emma Hill กระเป๋า รองเท้า accessories ของเค้าก็ราคาสูงพอสมควร ตั้งแต่หลายๆ ร้อย ไปจนถึงหลายๆ พันเหรียญ ดีไซน์ของเค้าจะยูนี๊ค คลาสสิค ไม่มีหลากหลายวาไรตี้มากนัก ค่อนข้างจะยูนิฟอร์ม เมื่อ 2-3 เดือนก่อนได้ข่าวว่าเค้าจะผลิตลิมิเต็ดคอลเล็คชั่น ราคาย่อมเยา สำหรับวางจำหน่ายที่ห้าง Target (ห้างโปรดของช้านนน…) เท่านั้น และจะวางจำหน่ายในช่วงเวลาจำกัด เริ่มจากวันที่ 10 ต.ค. ถึง 24 ธ.ค. หมดแล้วหมดเลย ไม่ทำเพิ่ม อิชั้นก็ฉีก ads ของเค้าที่เห็นในแมกกาซีนมาแปะไว้ที่ปฏิทินในทันที 555 กลัวพลาด จะไม่ให้ซื้อได้อย่างไร กระเป๋าที่เคยอยากได้ ถึงแม้จะเป็นเวอร์ชั่นประหยัด ราคาย่อมเยา และพอจะซื้อหามาใช้ได้ (ไม่ใช่เวอร์ชั่น “จอก” นะ 555 รุ่นประหยัด-จ้า-รุ่นประหยัด 555) พ่อบ้านของอิชั้น เห็นแอดส์นั่นแปะอยู่นานแล้วก็คอยถามว่าเมื่อไหร่จะซื้อ เพราะกลัวว่าอิชั้นจะหลงลืม พอพลาดโอกาสซื้อไม่ทัน ก็จะเป็นหงุดหงิด เมื่อวานพี่แกโทรมาเตือนทุกๆ 2 ชั่วโมง ใกล้เที่ยงคืนแล้วน้าาาา….. เปิดคอมพ์หรือยางงงงง…… อีก 30 นาทีน้าาาา…นางซิน…อย่าหลับ 5555

พอเที่ยงคืนเป๊ะ ซินเดอเรลล่า เอ้ย ไม่ใช่ 555 นังซินดี้ หรือ สิ้นดี ได้จัดการ คลิกๆๆๆ เสียตังค์ไปตามแผน  คราวนี้ก็รออย่างใจจดจ่อของมาที่หน้าประตูบ้าน ได้ของเมื่อไหร่จะเอามาให้ยลโฉมกันค่ะ

มาอ่านความเป็นของ Mulbury คร่าวๆ และที่มาของ คลอลเล็คชั่นสำหรับทาร์เก็ต…..

Inspired by the cool of the city and the craft of the countryside, Mulberry has always represented a peculiar British juxtaposition.  Mulberry was established in 1971 with modest roots in Somerset, England. It quickly grew to become the first British lifestyle brand and continues to design some of today’s most coveted handbags.

In 2008, the visionary and charismatic, Emma Hill became the brand’s creative director. She received Accessory Designer of the Year Award at Glamour Women of the Year Event in 2010. This season, Hill is bringing the brand’s signature silhouettes and style to life in Mulberry for Target collection.

มาดูว่าเค้าทำอะไรออกมาขายในคอลเล็คชั่นนี้นี้บ้าง จะเห็นว่ามีไม่กี่อย่าง วัสดุ PVC หนังเทียม กำมะหยี่ เดนิม อย่าไปคาดหวังหนังชั้นเริ่ดเหมือนของต้นฉบับ 555 อย่างงั้นก็นับแบ๊งค์ร้อยไว้ซัก 14-15 ใบเด้อค่ะ

อย่างที่บอกวันนี้มีเหตุต้องไปจ่ายกับข้าว แล้วตั้งใจจะไป Target เพื่อซื้อกะทะใบใหม่เสียหน่อย เล็งเปรียบเทียบไว้หลายใบหลายที่ มานอนคิดตัดสินใจว่าใบที่เล็งไว้ที่ทาร์เก็ตถูกใจที่สุด พอก้าวเข้าร้านเค้าก็เห็นมุมกระเป๋าคู๋กรณีที่ใกล้ๆ ทางเข้าเลย แต่มีกระเป๋าแขวนอยู่แค่ 2 ใบ ดูโล่งโจ้ง ก็ไปลูบๆ คลำๆ อยู่หน่อยนึง วัสดุดูไม่กระจอกยาจกอะไร คุณภาพการตัดเย็บใช้ได้ เห็นแล้ว จับแล้ว ก็…อูยยยย…. อยากได้ของเอามาใช้ไวๆ พอกลับถึงบ้าน ก็ลองเข้าไปดูในเว๊บไซต์ของทาร์เก็ต ว่าจะสั่งเพิ่มอีกใบ ซอรี่มากมาย sold out หมดเลย แงๆๆๆๆๆ อยากได้ไอ้ใบใหญ่ลายเสือดาวชมพูแอ๋นนั่น (Mulberry For Target® Cerise Leopard Large Tote – Pink) สั่งแบบนั้นไปใบนึงแต่เป็นหนังเทียมสีดำ ปกติชอบสีแดง สีฮ๊อตพิ้งค์ แล้วก็ชอบลายเสือดาวด้วย พอกระเป๋าออกมา “ลาย+สี” ถูกใจ ก็อดไม่ได้ อยากจะมีไว้ครอบครองซะทุกใบ 5555 ท่าจะบ้าเน๊าะ เพียงชั่วข้ามคืน..ตอนนี้บนเว๊บขายหมดแล้ว ถ้าโชคดีอาจไปเจอตามห้างเค้าหลงเหลืออยู่บ้าง แต่จะให้ขับรถตะเวนล่าหาทั่วเฟะโน่พรุ่งนี้ ท่าทางจะไม่มีแวว ไม่ไปดีกว่า พอบ่นๆ ก็โดนอีปั๋วด่าซ้ำ …แล้วทำไมไม่เจือกสั่งซื้อไปตั้งแต่เมื่อคืนนนน….. เออ...นั่นน่ะสิ ทำไมกรูไม่สั่งใบนี้ไปด้วยฟระ เจ็บใจจริงๆ อยากเบิ๊ดกระโหลกตัวเอง แงๆๆๆๆ ลองเสิร์ชดู พบว่า เค้าเอาออกมาประมูลที่อีเบย์บานเลย ซื้อมาใบละ 49.99 เริ่มบิดกันที่ร้อยนึงมั่ง 150 มั่ง แงๆๆๆๆ

สั่งไปเมื่อเริ่มวันใหม่ของวันที่ 10 ของมาถึงเมื่อวานตอนสายๆ ฟรีชิปปิ้ง ถูกใจกันทั้งแม่และลูกเลยค่ะ สำหรับกระเป๋ามัลเบอรี่ English Luxury at a Charming Price…. ตอนนี้ยังไล่ล่าหา ไอ้ชมพูแอ๋นลายเสือดาวใบใหญ่มาเพิ่ม แต่ดูแล้วคงไม่สมหวังแน่นอน เพราะอ่านเจอแต่ข่าวว่า เมื่อวันที่ 10 คนไปรอห้างเปิดและแย่งกันซื้อจนของหมดเกือบทุกห้าง ทำนองว่า … Mulberry for Target has officially landed…and flown off shelves! หลายๆ คำวิพากย์วิจารย์ นานาจิตตัง ก็ว่ากันไปเรื่อย บางคนก็ว่า look cheap มีเยอะเลยที่บอกว่ารับไม่ได้กับไอ้ตรงคำว่า “for target" ที่ปั๊มไว้ตรงป้ายโลหะ อิชั้นเฉยๆ ค่ะ เพราะ ถ้าไม่มีคำว่า "for target" ก็ต้องควักเงินพันไปซื้อมา จากที่ได้ของมาแล้ว คุณภาพใช้ได้ งานเรียบร้อย สมราคา meet expectation ใช้แกว่งไปมา ขาดพังก็ทิ้งไปได้ไม่เสียดายค่ะ แต่คงต้องใช้เวลากับไอ้ใบใหญ่ชมพูหน่อยนึง เพราะไม่คุ้นเคยกับกระเป๋ามีฝาพับปิดลงมา ส่วนใบดำใหญ่ก็จุดี แต่หนักไปนิดนึง ส่วนสองใบ crossbody ของหนูดี คงไม่ต้องอธิบายว่าเจ้าตัวกรี๊ดแค่ไหน 5555 แถมยังบอกว่า I think these bags could certainly add fun to many outfits. ทั้ง 4 ใบที่สั่งซื้อมา ด้านในบุผ้าคุณภาพรับได้ มีช่องซิป 1 อันใหญ่เล็กตามขนาดของกระเป๋า มีช่องสำหรับมือถืออีก 1 อันซึ่งเย็บกุ๊นริมดูเรียบร้อยดี ไอ้พวงกุญแจหัวใจนั่นเกะกะไปหน่อยสำหรับอิชั้น แต่ก็ไม่ได้รำคาญอะไรมากมายค่ะ เค้าคงเอาไว้ยืนยันว่าเป็น authentic สำหรับคอลเลคชั่นนี้มั๊ง ลาล่ะค่ะ