เหตุเกิดเมื่อทำกระเป๋าเงินหาย
วันที่ 15 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมากลับจากต่างจังหวัด นั่งรถแท็กซี่จากพระราม2มาถึงบ้านตอนตีสี่ครึ่ง จ่ายเงินค่ารถเสร็จก็ขนของลง จำได้ว่าเป็นครั้งสุดท้ายที่เห็นกระเป๋าเงิน!!! ภายในกระเป๋าเงินขนาดเล็กมี 3 ช่องปิดด้วยซิป มีเงิน บัตรสำคัญต่างๆ บัตรสมาชิกต่างๆ และแฟลชไดฟ์ที่เก็บข้อมูลสำคัญ เช้าวันต่อมาวันที่ 16 ก.ค.จึงอายัดบัตรเอทีเอ็มของธ.ไทยพาณิชย์ก่อน(027777777) ประมาณ 11โมงมีโทรศัพท์มาจากทางธ.กรุงศรี(02-1259800 จริงๆโทรศัพท์มาตั้งแต่วันที่ 15ก.ค.แล้ว แต่รับไม่ทัน โทรกลับไม่ได้)ถามว่าเราเอาบัตร(เครดิต)ไปกดเงินสดรึเปล่า คิดในใจว่าโดนแน่ๆแล้ว เจ้าหน้าที่แจ้งข้อมูลเพิ่มว่ามีคนเอาบัตรเครดิตกรุงศรีไปกดเงินสดแต่ไม่ผ่านถึง3 ครั้ง (คงสุ่มรหัสผ่านโดยใช้วันเดือนปีเกิดหรือบ้านเลขที่จากในบัตรประชาชน ตั้งรหัสให้ดีนะคะ อย่าใช้วันเดือนปีเกิดและบ้านเลขที่) แล้วถามถึงรหัสผ่าน เราจึงบอกว่าก่อนหน้านี้กระเป๋าเงินพร้อมบัตรหายไป และไม่ได้จดรหัสผ่านไว้ในกระเป๋าเงิน เจ้าหน้าที่จึงทำการอายัดบัตรเครดิตกรุงศรีให้ทันที พอวางสายเราก็รีบโทรอายัดบัตรเครดิตธ.กรุงเทพและบัตรกรุงเทพแรบบิทต่อทันที(02 6389999) เราโชคดีที่บัตรยังไม่ถูกเอาไปรูดซื้อสินค้า ยังมีหนี้อยู่เท่าเดิม แล้วโทรไปที่ลูกค้าสัมพันธ์ของธ.กรุงศรี (02 6463000) เพื่อสอบถามประวัติการกดเงิน ได้ความว่าคนที่เอาบัตรเครดิตกรุงศรีไปกดเงินสดเป็นจำนวน 3 ครั้ง ดังนี้ -
ครั้งที่ 1 กด 5,000 บาท ที่ตู้ ธ.ไทยพาณิชย์ หน้าร้านแว่นตาท๊อปเจริญ พระราม2 -
ครั้งที่ 2 กด 5,000 บาท และครั้งที่ 3 กด 10,000 บาท ที่ตู้ธ.กรุงไทย ตั้งอยู่หน้า seven-eleven พระราม 2 เลขที่ตู้ได้มาจากธนาคารที่ออกบัตร(กรุงศรีฯ) เอาไปสืบหาสถานที่ตั้งตู้เอทีเอ็มโดยโทรขอข้อมูลจากธนาคารของตู้นั้นๆ(ไทยพาณิชย์ กับกรุงไทย) ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ธนาคารมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ ทั้งเจ้าหน้าที่ของ ธ.กรุงศรีฯ ธ.ไทยพาณิชย์ ธ.กรุงเทพ ธ.กรุงไทยที่จัดการอายัดบัตรให้อย่างรวดเร็ว และให้รายละเอียดต่างๆเพิ่มเติม หลังเลิกงานจึงไปแจ้งความที่สถานีตำรวจสำโรงเหนือ เราบอกเจ้าหน้าที่ถึงเรื่องที่สามารถตรวจสอบจนรู้ว่าคนร้ายไปกดเงินที่ตู้ไหนที่ไหน ถ้าเจ้าหน้าที่ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดจากตู้เอทีเอ็มนั้นหรือจากบริเวณใกล้เคียงแล้วเทียบกับเวลาในบันทึกของธนาคารกรุงศรีก็สามารถหาคนร้ายได้แล้ว เจ้าหน้าที่ซักถามเหตุการณ์และรับแจ้งความเอกสารหาย แต่บอกว่าไม่สามารถรับแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่เอาบัตรเครดิตไปกดเงินได้เนื่องจากไม่สามารถพิสูจน์เจตนาของคนร้ายได้ว่าเกิดที่ท้องที่นี้ ถ้าจะดำเนินคดีจะต้องไปแจ้งความที่สถานีตำรวจแถวพระราม2 ที่คนร้ายไปกดเงิน เนื่องจากเห็นเจตนาได้ชัดจากการที่เอาบัตรไปกดเงินในพื้นที่พระราม2 เราไม่มีเวลาไปแจ้งความพระราม 2 คิดว่าอีกหลายๆคนก็เป็นอย่างเราไม่อยากเสียเวลาและเสียอารมณ์ คนทำงานเสร็จก็อยากกลับบ้านพักผ่อน แต่ก็ไม่อยากให้คนร้ายลอยนวลอยากให้เค้ารู้ว่าสิ่งที่ทำมันผิด และทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน คดีนี้หากดำเนินคดีกับคนร้ายจะเป็นคดีอาญา แต่เราไม่เข้าใจการทำงานของตำรวจเลย จะรอให้คนร้ายย่ามใจจนเกิดเหตุร้ายแรงกว่านี้ก่อนเหรอ เงินจำนวนที่หายไปเราใช้เป็นค่าใช้จ่ายในครอบครัวได้ตั้ง2 อาทิตย์ แค่เงินหายเราก็เสียดายมากแล้วแต่เจ็บใจมากกว่าที่คนร้ายมันกล้าเอาบัตรไปกดถอนเงิน ได้เงินในกระเป๋าไปก็แล้วยังจะมาเอาเงินในบัตรอีก และถ้ามันกดเงินได้ เราก็ต้องมาใช้หนี้หัวโต ในเอกสารรับแจ้งความ เจ้าหน้าที่ไม่ได้ถามถึงวันเวลาที่เกิดเหตุ และไม่ได้บันทึกจำนวนเงินในกระเป๋าเงิน บอกว่ารับแจ้งเป็นเอกสารหายไปแล้วช่างมันเถอะนะ จากนี้เราไม่รู้ว่าคนร้ายจะเอาบัตรประชาชนของเราไปก่อเรื่องอะไรอีกรึเปล่า แล้วยังข้อมูลสำคัญบางอย่างที่อยู่ในแฟลชไดร์ฟอีก เราคงต้อง ช่างมันเถอะ" สินะ...
Create Date : 17 กรกฎาคม 2557 |
|
2 comments |
Last Update : 17 กรกฎาคม 2557 0:09:33 น. |
Counter : 2874 Pageviews. |
|
|
|
ขอบคุณนะคะ
ห้องสมุด
สุขภาพ
ผู้หญิง
แม่ตั้งครรภ์
ทารกแรกเกิด
เด็กโต
ครอบครัว