"สุภาพบุรุษเพชฌฆาต" ศิริมงคล ลูกศิริพัฒน์
คอลัมน์ "ฉายาชาวยุทธ์"
สว่าง สวางควัฒน์
หนังสือพิมพ์ข่าวสดรายวัน
ชื่อจริง เกษม ประไพศรี ชื่อเล่น "เษม"
ภูมิลำเนาเกิดที่ ต.เนื่องเขต อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อวันที่ 12 ธ.ค.2489
การศึกษา จบ ม.ศ.1 จากโรงเรียนเบญจมราชรังสฤษฏ์
เริ่มหัดมวยด้วยตนเองเพราะมีใจรักในเรื่องการต่อสู้ตั้งแต่อายุ 17 ปี ระยะแรกๆ ชกอยู่แถวบ้านใช้ชื่อชกว่า สุขเกษม ลูกสี่แยก เป็นมวยซ้ายที่ใช้อาวุธรุนแรงทั้งแข้งทั้งหมัด และหลังจากชกอุสมานน้อย ลูกหัวหมาก ถึงตายคาเวที เซียนมวยแถวแปดริ้วเลยเรียกกันว่า "ไอ้เษม...ซ้ายเพชฌฆาต" ด้วยจิตสำนึกที่ว่าตนเองเป็นผู้ทำให้ลูกเมียของอุสมานน้อยต้องเสียหัวหน้าครอบครัว "เษม" จึงแบ่งค่าตัวให้ครอบครัวของอุสมานน้อยทุกครั้ง จนได้รับการยกย่องจากคนในวงการมวยตลอดมา
สมัยเข้ามาชกเวทีเมืองกรุงใหม่ๆ ใช้ชื่อชกว่า สุขเกษม ส.สงวนศักดิ์ แต่ชกได้ไม่กี่ครั้งก็มาอยู่กับ โกเฮง อ่าวถาวร (อดีตโปรโมเตอร์ "ศึกศิริมงคล" ผู้ล่วงลับไปแล้ว) และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น "ศิริมงคล ลูกศิริพัฒน์" ซึ่งเป็นค่ายของ อั้งตี่ เริงณรงค์ ตั้งแต่นั้นมา
ศิริมงคลเป็นนักมวยที่ให้ความประทับใจแก่คนดูเสมอต้นเสมอปลาย บนสังเวียนไม่เคยเอาเปรียบคู่ต่อสู้ นอกสังเวียนเป็นคนอ่อนโยนสุภาพเรียบร้อย จึงเป็นที่รักใคร่ชอบพอของคนทั่วไปที่ได้คบหาด้วย ช่วงตลอด 7 ปี พ.ศ.2512-2518 สถิติการชกของเขามีมากจนไม่อาจสาธยายได้หมด ที่น่าสนใจก็คือปราบมวยค่าย "เมืองสุรินทร์" เกือบหมด ยกเว้น แสนศักดิ์ เมืองสุรินทร์ คนเดียวเท่านั้น นอกจากนี้เคยชนะรวด วิชาญน้อย พรทวี ทั้ง 3 ครั้ง ชนะ คงเดช ลูกบางปลาสร้อย ดุเดือดทั้งที่แบกน้ำหนัก ผลัดกันแพ้ชนะ ฟ้าใส ทวีชัย, บรรดิษฐ์ สิงห์ปราการ จำใจแพ้ สีชัง สาครพิทักษ์ เพื่อทดแทนบุญคุณหัวหน้าคณะ และยังประมือกับยอดมวยอย่าง พุฒ ล้อเหล็ก, ผุดผาดน้อย วรวุฒิ, วิชิต ลูกบางปลาสร้อย, เริงศักดิ์ พรทวี ฯลฯ มาแล้วทั้งสิ้น
ศิริมงคลได้แชมป์เฟเธอร์เวท ลุมพินี ครั้งแรกปี 2513 ชนะคะแนน อนันตกร ส.ลูกเมืองราช ก่อนสละไปชิงรุ่นใหญ่กว่า ชนะน็อก พยัคฆ์ภูมิ พยัคฆ์ขาว ยก 3 คว้าแชมป์ไลต์เวท ลุมพินี ปี 2517 และยังสร้างเกียรติประวัติแก่วงศ์ตระกูล ชกมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติ ได้รับเหรียญทองจากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช มาแล้ว
ปี 2520 สภาพร่างกายเริ่มโรยรา ไปชกที่ญี่ปุ่นหลายครั้ง ครั้งสุดท้ายแพ้คะแนน โยโกะ โทสะเก้น เลยโดนปลดจากแชมป์จำต้องเลิกมวยไปพัก ก่อนมาชกอีกก็ไปไม่ไหวจึงแขวนนวมถาวรในปี 2533 ขณะที่อายุปาเข้าไป 34 ปี
จากนั้นไปเป็นครูมวยที่ญี่ปุ่นหลายปี กลับมาเมืองไทยทำธุรกิจซื้อขายที่ดิน และบริษัททัวร์ "ประไพศรีทัวร์" รับทำพาสปอร์ตและติดต่อที่พักให้นักท่องเที่ยวญี่ปุ่น มอบให้คุณปัทมา ศรีภรรยาที่อยู่กินกันมานานหลายสิบปีเป็นผู้ดูแล
ปัจจุบัน "สุภาพบุรุษนักชก"ศิริมงคล รับจ๊อบเป็นคนขับรถคู่ใจลูกพี่เก่า "เสี่ยเน้า"วิรัตน์ วชิรรัตนวงศ์ เข้าไปดูมวยในเวทีอยู่เป็นประจำ ผู้คนทั่วไปยังทักทายได้ตามอัธยาศัยอันดีเช่นเดิม
| Create Date : 28 มีนาคม 2553 |
| Last Update : 28 มีนาคม 2553 16:52:46 น. |
|
0 comments
|
| Counter : 2766 Pageviews. |
|
 |
|
|
|
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [
