My sweet home; Blog เล็กๆของคนรักบ้าน
Group Blog
 
 
มกราคม 2552
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
15 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
แด่….ธรรม์ผู้เป็นที่รัก

แด่….ธรรม์ผู้เป็นที่รัก


วันที่ 31 ธันวาคมเราเริ่มเดินทางราวๆ 6 โมงเช้า อาทิตย์อาสาเป็นผู้ขับเช่นเดิม ตอนนี้เป็นนักขับผู้เชี่ยวชาญ พอขึ้นทางลาดชันก็ลองระบบใหม่ที่ชื่อว่า HDC อย่างคล่องแคล่ว ซึ่งทำให้การขับขี่บนทางลาดชันมั่นใจยิ่งขึ้น ผมสนุกกับการสำรวจวิวตลอดสองข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้แปลกๆกับไก่ป่าที่เตลิดบินหนีรถซึ่งขบวนรถของเราสามารถประชิดตัวไก่ป่าได้มากจนหน้าแปลกใจ ผมไปทริปป่ามาพอสมควร แต่ไม่เคยมีโอกาสเข้าใกล้ขนาดนี้!
อือม…เป็นไปได้ที่รถเครื่องยนต์ดีเซลคันนี้ วิ่งเงียบพอๆกับเครื่องยนต์เบนซิน ไก่ป่าจึงแทบไม่ได้ยินเสียงรถของเราเลย
“พอถึงโค้งนี้เราจะพบทางถนนเส้นที่จะนำไปสู่ลำคลองงู ถ้ำนำขนาดใหญ่และเสาถ้ำที่สูงที่สุด”ผมพูดขึ้น เสียงเพลงบรรเลงเป็นจังหวะสอดคล้องกับคำพูดของผม
ผมจบวิทยาศาสตร์แต่เลือกที่จะเป็นนักเขียนสารคดี อาจจะเพราะมีอดีตฝังใจกับงานแลปที่ผิดพลาดบ่อยๆ ผมเกือบเป็นหมองูตายเพราะงูหลายครั้ง ทุกๆคนที่อยู่ราวๆผมบอกว่าผมโชคดีที่สอบติดและได้เรียนเทคนิกการแพทย์ แต่ผมว่าผมโชคร้ายที่ดันติดเกลื้อนจากคนไข้ ทำให้หน้าของหล่อๆวิลลี่แมคอินทอตกลายเป็นหน้าเอ็ดดี้ผีน่ารัก เป็นไวรัสตับอักเสบบีจนหุ่น”ท้วม ทรนง”ของผมกลายเป็น หุ่นของ”ศรราม” โชคดีผมมีฝีมือการเขียนอยู่บ้างและมีวาสนาที่ผมเขียนเรื่องสั้นลงหนังสือในการเขียนเป็นครั้งแรก เมื่อ 2-3 ปีก่อน
แสงสีเทาหม่นที่ขอบฟ้าก่อนเปลี่ยนเป็นสีส้มเรืองรองและสีฟ้าน้ำทะเล ดวงอาทิตย์กำลังขึ้นและในที่สุดท้องฟ้าทั้งผืนก็กลายเป็นสีฟ้าจาง โลกกำลังเปิดดวงตาเราให้เห็นความแตกต่างของโลกแห่งใหม่ที่เราเลือกจะมาค้นหาในวันหยุดพักผ่อนยาวๆในช่วงปีใหม่นี้ เราขับตะลุยเข้าไปลึกยิ่งขึ้น ทางก็ยิ่งสมบุกสมบัน ทั้งขรุขระและลาดชัน ยิ่งขับเข้าไปทางยิ่งแคบ อุณหภูมิเพิ่มขึ้น 1-2 องศาเมื่อแสงแดดโรยตัวอ่อนๆมายังพื้นดินด้านล่าง ป่าไม่ทึบออกจะโล่งๆ ถนนยังยาวไกล มันบอกถึงเวลานักผจญภัยในเมืองไทยยังมีอีกมาก
“แต่ตอนที่กระเพาะต้องเตรียมพร้อมในการรับมือกับงานที่อยู่ตรงหน้า ไส้กรอก แฮม เผือก สังขยา หมูหยองน้ำพริกเผา ครีม” เธอยื่นถุงพลาสติกที่กลิ่นหอมฉุยของอาหารหลากชนิด
นิญาดา ผู้หญิงคนเดียว ร่ายยาวชื่ออาหาร ขนมปังดูเป็นอาหารหลักอย่างง่ายๆ และมีมากมายหลายไส้ให้เลือก
“ส้ม มะนาว แดง เขียว นม…..” และรายชื่อเครื่องดื่มหลากหลายที่รายยายไม่หมด เธอเหมาะที่จะเป็นแม่บ้านของทีมเวลานี้ และเรารู้สึกขอบคุณที่เธอยอมมาอยู่ทีมเรา
ผมต้องการเพียงนมหนึ่งกล่อง
อาทิตย์ เลือกน้ำมะนาวและไส้กรอก
พันธกร น้องชายแท้ๆของอาทิตย์เลือกแฮม เผือก และน้ำส้ม
นิญาดา เลือกไส้กรอก แฮม เผือก สังขยา หมูหยองน้ำพริกเผา ครีม และน้ำเขียว ผมไม่แปลกใจที่เธอหุ่นเป็นพะโล้
เธอกดปุ่มเลื่อนกระจกไฟฟ้าลง และ…พันธกร ปิดวิทยุอย่างรู้ใจ ในเมื่อมาเที่ยวไกลถึงป่ากว้างจะมั่วแต่ฟังเพลงสากลทำไม สู่เอาหูมาฟังเสียงป่าไม่ได้ อาจเป็นเพราะมนุษย์เทคโนโลยีและวิทยาการล้ำนำสมัยไม่ค่อยมีโอกาสสุงสิงธรรมชาติ เมื่อมีโอกาสจึงขอปลดแอกการดิ้นรน หิวกระหาย หน้าที่การงาน แล้วใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า จมูกก็สูดกลิ่นป่า กลิ่นดิน กลิ่นใบไม้ หูก็เปิดรับเสียงรอบทิศทาง ทั้งเสียงนกร้อง เสียงชะนีที่เรียกหาผัว สัตว์นานาชนิด แม้จะไม่เห็นตัว ไม่รู้ว่าเป็นสัตว์อะไร แค่นี้ก็มีความสุขแล้ว ตาที่ซุกซนของผมยังได้เห็นแมลงนานาชนิด ผีเสื้อ กระรอกวิ่งบนกิ่งไม้ ค่างแว่นแขวนตัวบนกิ่งไม้ก่อนโยนตัวตามเรามาเรื่อยๆ ราวมาต้อนรับอาคันตุกะหน้าใหม่อย่างพวกเรา
พวกเราโบยมือทักมันและแปลกใจที่ยังเห็นค่างตัวอื่นแขวนตัวทำตามอย่าง ก่อนที่รถจะเร่งเครื่องเพื่อไปยังจุดหมายปลายทาง เราอดเสียดายไม่ได้ เเต่ระยะทาง 10 กิโลไม่น้อย ถ้าการถึงจุดหมายคลาดเคลื่อน มันอาจทำให้การทำงานยากลำบาก
เราหยุดเมื่อเห็นฝรั่งผมทอง 2 คน ตาสีน้ำข้าว ตาสีฟ้าโบกรถของเรา จากการแต่งตัวบ่งบอกว่าเขาเป็นนักท่องเที่ยว เรารู้สึกชินกับสถานการณ์นี้ เพราะเมื่อตอนวัยรุ่นเราเลือกเที่ยวโดยการอาศัยการโบกรถข้างทาง ขาไปมีเงินติดตัว 20 บาท ขากลับก็ยังเหลือตังส์เท่าเดิม มันเป็นการท่องเที่ยวอย่างง่าย ประหยัด อาศัยความอดทนเล็กน้อยและที่สำคัญคือหน้าด้านมากๆ เท่านี่ก็ตรงกับโฆษณาสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้แล้ว
คนแรกที่มีตาน้ำข้าวสีน้ำขาวคือ เรฟ เป็นคนพี่ เขาแนะนำเราทันทีที่เราแนะนำตัวทุกคนจบ ดูขรึมและเป็นผู้ใหญ่กว่าอีกคน
คนที่สอง คือ เวฟ เป็นน้องแท้ๆแต่น่าตาผิดกัน คนนี้ร่าเริงและหล่อราวเจ้าชายแห่งเวลล์ จนทำให้นิญาดายิ้มที่เอนเอียงไปท่าอาย
“Would you like candy? ทานลูกอมบ้างมั๊ยค่ะ”คุณเธอหยิบลูกอมมาเม็ดหนึ่งเพื่อกรุยทาง ก่อนโปรยสายตาที่หวานประดุจน้ำผึ้งท่าทางละครรักน้ำเน่าจะเริ่มเปิดโรงเร็วๆนี้
“yes, thanks”
พันธกร กระแอมขัดคอ
แต่ไม่ได้ผล
เธอชวนเวปและเรฟคุยอยู่นานจนผมแทบจะลืมว่าผมเองก็อยู่ที่นั้นด้วย แสงแดดออกจะร้อนแรงแต่เราดีใจที่อยู่ในรถที่มีเครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำ นิญาดาไม่สนใจเสียงธรรมชาติแล้วเธอชอบเสียงหนุ่มหล่อๆมากกว่า เราทั้งหมดมีโอกาสคุยแจมเล็กๆน้อยๆ แต่เรายินดีที่จะเป็นคนฟังมากกว่าผู้สัมภาษณ์
เวปเป็นนักยิงปืนทีมชาติอังกฤษ เป็นนักข่าวกีฬาบางครั้ง เเละชอบงานศิลปะเป็นชีวิตและจิตใจ เขาพูดถึงชีวิตที่ต่อสู้ของพอล โกแกงได้น่าฟัง เราจับได้ความเล็กน้อย
“พอล โกแกง เป็นนายหน้าพ่อค้าหุ้นอยู่ปารีสเขาประสบความสำเร็จในการทำงาน แต่เขาเลือกที่จะทำงานวาดรูปเป็นงานสุดท้ายของชีวิตเขาแม้ว่าสายตาจะไม่ดีเจ็บไข้ได้ป่วยและสิ้นไร้ไม้ตอก ภาพที่โดดเด่นของเขาคือ “โลกที่ฉันค้นพบนี้ คือ สรวงสวรรค์” เป็นรูปสองสาวโพลินีเชียน” “
เรฟเป็นคนครัวอาหารญี่ปุ่น ชอบฟังเพลงคลาสสิสบรรเลงโดยดนตรีชื้นเดียวหรือเป็นออเคสตร้า ประเภท บีโทเฟล หรือริชาร์ต แคเดอร์แมน
เราส่งเสียงอังกฤษสำเนียงไทย ก็รู้ว่าเขาต้องการไปเที่ยวป่า แต่เมื่อเราบอกจะไปเที่ยวถ้ำ เขาก็เห็นดีด้วยในทันที เราดีใจไม่น้อยเพราะถือได้เพื่อนใหม่ที่เราสามารถฝึกภาษาอังกฤษเป็นเพื่อนร่วมทาง
เกือบ 8 โมง เรามาถึงลำคลองงู เรือเกยเลนอยู่ในพุ่มไม้ ฝูงผีเสื้อสีเขียว สีเหลืองและสีขาว บินว่อน เราคงรบกวนการหาอาหารของมัน และนิญาดาไม่พลาดการถ่ายรูป
โลกหนึ่งที่อยู่นอกเหนือจากการคาดคิดและคาดเดาของมนุษย์ คือโลกที่ลึกลงไปใต้ชั้นหินและพื้นดินนับร้อยนับพันฟุต โลกที่พวกเราเป็นได้แค่อาคันตุกะเป็นบางครั้งบางคราว สิ่งที่ชีวิตที่เราจะไปดูเป็นสิ่งมีชีวิตไม่มีตา ไม่มีสี แต่มีประสาทสัมผัสอันอัศจรรย์
เสียงก้าวย่างของมนุษย์ที่ประทับไว้ใต้พิภพเทียบไม่ได้เท่าก้าวแรกบนดวงจันทร์ แต่สำหรับผมมันกับให้ความรู้สึกตื่นเต้นมากกว่า หัวใจผมระรั่วราวจะกระเด้งออกมาเต้นอยู่ภายนอก ที่นี่คือ ถ้ำ ผมหามุมสวยๆเก็บภาพ และรูปที่สวยที่สุดก็คือ ภาพที่ผมเป็นพรีเซ็นเตอร์ แต่มันคงไม่ได้ลงหนังสือหรอก ผมไม่อยากเป็นเศรษฐีหรือดาราในวันเดียว
ในเวลานี้ด้านหน้าเราคือปากถ้ำ จุดเริ่มต้นของการผจญภัย เส้นแบ่งแยกระหว่างโลก 2 โลกอยู่ที่นี่ โลกแห่งความมืดและโลกแห่งแสงสว่าง เราเตรียมอุปกรณ์ ไฟที่ช๊าตแบตเตอรี่และไฟฟ้าสำรอง อุปกรณ์เช็คความเข้มข้นอากาศและตรวจเช็คซ้ำแล้วซ้ำอีก เพื่อให้แน่ใจว่า อุปกรณ์ทุกตัวพร้อมที่จะใช้งาน กล้องถ่ายรูปแต่ละคนแขวนที่คอ ทุกชิ้นห่อด้วยพลาสติกกันน้ำ
ภาสกรผู้ผ่านประสบการณ์สำรวจถ้ำมามากกว่าใครปีนลงก่อนใคร เรามีแผนที่รายละเอียดของถ้ำแต่ถึงอย่างไรการสำรวจนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกคนเปิดสวิตช์ไฟฉายและตะเกียงแคลเซียมคาร์ไบด์ที่หัว ภาสกรจุดไฟแช็กบ่อยๆเพื่อเช็คอากาศ เมื่อสงสัยว่าถ้ำ อาจจะขาดแคลนหรือมีจุดอับของอากาศ ไฟแช็คจะจุดไฟติดเสมอถ้าปริมาณออกซิเจนเหลืออยู่เกิน 13 เปอร์เซ็นต์
นี่เป็นเหตุผลที่ใช้คนมีประสบการณ์อย่างภาสกร
“ไม่มีปัญหา ออกซิเจนยังมีเหลือ”ภาสกรบอก แต่เรารับรู้ถึงความอึดอัด ยิ่งลึกยิ่งอึดอัดมากขึ้น แต่เรายังไม่ยอมแพ้ เรานำเครื่องวัดระดับคาร์บอนไดออกไซด์มาวัด ตอนนี้มีคาร์บอน 1.9 % มากว่า ค่าสูงสุดที่ระบุว่าอันตราย 5.5 % เมื่อปริมาณออกซิเจนต่ำค่าของคาร์บอนไดออกไซด์มักจะสูงขึ้น
กลิ่นในถ้ำทำให้เรารู้สึกเหมือนเป็นคนแปลกหน้า แต่หินงอกหินย้อยทำเราลืมกลิ่นอับๆไปจนหมด สิ่งมีชีวิตที่นี่บางครั้งเป็นค้างคาวและแมลงตัวเล็กๆ
แชะ….เสียงชัตเตอร์กดลงเมื่อนิญาดาเจออีกสิ่งมีชีวิตหนึ่ง และยังคงมีเสียงแชะๆดังต่อไป เป็นจังหวะ ดูเหมือนใครๆก็เห็นด้วย รีบก้าวเท้าเพื่อรวมวง ผีเสื้อกลางคืน(Moth)ที่หายาก ลำตัวจะมีขนปกคลุมค่อนข้างหนามีลำตัวจะอ้วนใหญ่และสั้นกว่าผีเสื้อกลางวัน ขนที่ปกคลุมค่อนข้างหนากว่า หนวดของผีเสื้อกลางวันโดยมากมีส่วนปลายที่พองโตคล้ายกระบอง มีบางชนิดเป็นขอ แต่หนวดของผีเสื้อกลางคืนมีรูปร่างมากมาย อาจเป็นเส้นด้าย เคียว หรือหวี
อย่างที่เห็นต่อหน้านี้คือ ผีเสื้อตัวน้อยที่มีหนวดรูปพู่ขนนก ที่เป็นพันธ์ที่หายาก มันเกาะนิ่งใต้หินย้อยเมื่อเข้าไปในถ้ำไม่กี่เมตร เจ้าตัวนี้ ปีกของมันราบลงคล้ายกระโจม มันซ่อนหนวดไว้ใต้ปีก แสงแฟลชส่องอย่างสม่ำเสมอตลอดหนึ่งชั่วโมง ภาพแต่ละภาพต้องเปิดรับแสงแฟลช 70 ครั้งจึงปิดชัตเตอร์
เป็นครั้งแรกที่เราเห็นผีเสื้อกลางคืนในถ้ำมันมาทำอะไรที่นี่ นี่เป็นความสงสัยด้วยความเป็นคนชั่งสังเกตตามหลักนักวิทยาศาสตร์ที่ดี
เราขอเวลาเพื่อนฝรั่งสองคนเพื่อทำแผนที่ถ้ำคร่าวๆโดยอาศัยเข็มทิศ เทปวัดระยะ และเครื่องวัดมุมดิ่ง ข้อมูลทั้งหมดจะเอาเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค เพื่อคำนวณ ปรับแก้ไขความคลาดเคลื่อน และวาดแผนผังของห้องโถงถ้ำที่สมบูรณ์อีกครั้งในระบบสามมิติ แต่ปรากฏว่าเขามีประสบการณ์มาบ้างเราจึงแรกเปลี่ยนความรู้กัน
เราเจอถ้ำประหลาดถ้ำหนึ่งพยายามไล่ชื่อในสารบัญถ้ำที่เราอุตส่าห์แบกมันข้ามน้ำมา แต่มันไม่มีประโยชน์ พอเรฟเข้ามาไถ่ถาม เราอับอายในความโง่เปิ่นของเรา แต่เราได้”ความรู้”เป็นสิ่งที่แลกเปลี่ยน ผมคิดว่ามันคุ้มค่า- “ถ้ำนี้ที่เรียกว่า phreactic cave เรฟเป็นคนอธิบายรายละเอียดทั้งหมดว่า “ถ้ำที่เกิดขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ต่ำกว่าระดับน้ำใต้ดิน (water table) เนื่องจากชั้นหินปูนมีรอยแตกเป็นจำนวนมาก เมื่อน้ำที่รวมตัวกับกาซคาร์บอนไดออกไซด์จะกลายเป็นกรดอ่อนๆสามารถละลายหินปูนได้ดี ในช่วงที่มีน้ำเต็มโพรงถ้ำ น้ำจะละลายจนกลายเป็นโพรงกลมๆ ขยายออกทุกทิศทาง” เราจดยิกๆ ใส่สมุดเล่มเล็กด้วยกระหายวิชา”
ต่อมาภายหลังน้ำใต้ดินลดระดับลง ทำให้ โพรงมีอากาศและน้ำอยู่ภายใน เราเรียกว่า vados cave ระดับน้ำในถ้ำจะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดปี หากเกิดการไหลกัดเซาะบริเวณพื้นและผนังถ้ำ ระดับพื้นถ้ำก็จะลดต่ำลงมาเรื่อยๆ ตามการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำใต้ดิน รูปร่างของถ้ำจึงมีการพัฒนารูปแบบตามอัตราการกัดเซาะและการละลายร่วมกันเกิดเป็นโพรงถ้ำที่มีรูปร่างเหมือนรูกุญแจ
ความรู้ที่ได้ทำให้เราต้องถ่อมใจในความรู้น้อยของตนเองและย้ำกับตัวเองในการทำการบ้านอย่างหนักในครั้งหน้า
แต่เราก็พบว่าความรู้เท่าขี้เล็บเราไม่ผิดพลาด เมื่อเวฟเล่าว่า ถ้ำนี้มีความยาวทั้งสิ้น 12.10 กิโลเมตร แต่พวกเราคิดว่ายังสำรวจไม่หมด เพราะยังคงมีทางแยกอื่นๆอีก ภาสกร เสริมว่า-ถ้ำส่วนใหญ่ยังสำรวจไม่เสร็จ เพราะมันจะมีทางแยกมากมายโดยเฉพาะอยู่ในแนวดิ่งเหนือถ้ำขึ้นไป
พอมุงานเราก็ทำจริงๆไม่ช้างานก็เสร็จเรียบร้อย ผมหามุมเงียบจดรายละเอียด อารมณ์ความคิด บทสนทนาที่ประทับใจในกลุ่ม เพื่อจะเป็นข้อมูลในการทำหนังสือปักษ์หน้า

เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ นิญาดาคงเจอสิ่งมีชีวิตอะไรแปลกๆ
แต่ไม่ใช่…..
ผมเป็นคนสุดท้ายที่ไปถึงนั่น อาทิตย์กั้นนิญาดาและผมไม่ให้เข้าใกล้ ภาสกรนอนจมกองเลือดในสภาพคว่ำหน้า
“ภาสกรตายแล้ว” อาทิตย์เอ่ยขึ้นในขณะที่เขากำลังประคองศรีษะภาสกร
นิญาดาร้องไห้ มือสั่นเทา นอกจากอาทิตย์และเพื่อนฝรั่งแล้วไม่มีใครทำอะไรถูก ฝรั่งตบบ่าเราด้วยความเห็นใจ เรฟผู้ใหญ่ที่สุดในกลุ่มเรา ร่ายยาวถึงคำสอนของศาสนาของเขามากมาย ถ้าผมไม่ได้ตกอยู่ในภาวะโศกเศร้าบางทีผมคงคล้อยตามและลองศึกษาศาสนาเขาสักที เรฟปาดเหงื่อที่หน้าผาก ก่อนตรวจสอบร่างกายของ ภาสกรอีกครั้ง ที่คอมีรอยช้ำของเส้นเลือด ผมรู้ว่าเรฟและอาทิตย์พูดออกมาดัง นิญาดาเองหยิบยาโรคหัวใจและลดความดันมาให้ผม ผมเป็นโรคหัวใจมา 5 ปีแล้วแต่ไม่มีอาการอะไรมากมายนอกจากเจ็บแปลบ ผมเจ็บแปลบเล็กน้อยก่อนที่จะมีทริปนี้สองสามครั้ง ผมคิดว่าเป็นเพราะลางสังหรณ์ของผมมันแม่นเสมอ
เราอยู่ในความนิ่งเงียบเป็นเวลานาน ผมหลบมาอยู่คนเดียวเงียบๆ น้ำตาผมคลอ ผมไม่อยากให้ใครเห็นว่าผมอ่อนแอ แต่ความจริงแล้วผมกับภาสกรเป็นเพื่อนที่รักกันมาก เราเรียนมัธยมมาด้วยกัน โชคดีที่ภาสกรเลือกเรียนที่วารสารศาสตร์ ธรรมศาสตร์ด้านที่เขารักและเขาเป็นคนชักจูงผมทำงานที่สำนักพิมพ์ที่นี่ ถ้าเขาอยู่ปีหน้าเขาคงได้เป็นบรรณาธิการ ความสามารถของเขาสูงทั้งความรู้รอบตัว จินตนาการ และความอดทน เขาบอกว่าจะเขียนนิยายสักเล่มและผันตัวเป็นผู้กำกับถ้าเป็นบรรณาการจนอิ่มตัวเเล้ว
ผมหยิบหนังสือดูนกที่ติดตัวอยู่ประจำมาเปิดอ่านเพื่อให้ผ่อนคลายความทุกข์โศกลงไปบ้าง หนังสือเลยนี้เคยทำให้ผมอ่านสนุกจนวางไม่ลงเมื่อเจอเจอนกตามดัชนีภาพสี ภาษาอังกฤษของผมแม้กระท่อนกระแท่นยังมีความรักที่จะอ่านโดยไม่เบื่อหน่าย ภาพของนก….นก และนก……ผมเปิดไปเรื่อยๆ แต่มันไม่ได้เกิดจากความสนใจ แต่มันเกิดเพราะผมไม่มีสมาธิ ผมไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ อ่านไม่รู้เรื่อง แม้ผมรู้ว่าผมควรจะเข้มแข็ง อย่างน้อยเพราะผมเป็นลูกผู้ชาย ผมจึงไม่ควรจะร้องไห้ หรือโศกเศร้าเกินไป
ความรู้สึกโล่งกลวงไร้สิ้นทั้งความคิดและสติปัญญา อะไรเกิดขึ้นกับผม กับเพื่อนของผม “วันนี้ 13 กันยายน วันเกิดผมแต่มันกับเป็นวันมหาวิปโยค” ผมจึงหยุดนั่งลงใต้ต้นสักต้นใหญ่ และเริ่มเขียนสิ่งที่ผมอยากเขียนลงไป และเขียนงานชิ้นสุดท้ายที่ร่างไว้คร่าวๆให้สมบูรณ์
ทันใดนั้นเองเกิดการเคลื่อนไหวก็เกิดขึ้นกระทันหัน ผมรีบหยิบกล้องส่องทางไกลที่คล้องคอประจำตัวส่องไปยังแหล่งที่มาของเสียง ในครั้งแรกผมเห็นสิ่งใดผิดปกติหรือการเคลื่อนไหว มีเงามือๆบังเลนส์ ที่ละเมาะไม้เบื้องหลังต้นไม้ใหญ่นั้น ผมจึงรีบปรับโฟกัสให้ได้ที่จนภาพชัดเจนขึ้น เห็นได้ถนัดตาว่าเป็นร่างสัตว์ชนิดหนึ่ง…สุนัขขนาดใหญ่สีดำปลอดทั้งตัว ใบหน้าแหลมเสี้ยมนั้นถูกเน้นด้วยดวงตาเรียวยาวหากเป็นประกายแวววาว ขากรรไกรล่างยื่นออกมาข้างหน้าเล็กน้อย ปากอ้าจนเห็นฟันแหลมคม ผมลดกล้องอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองก่อน แต่ในนาทีต่อมาเขาก็จับพยายามจับภาพการเคลื่อนไหวนั้น อีกครั้ง แต่มันหายไป
หรือ….มีหมาป่าอยู่ที่นี่! …..เป็นไปได้มั๊ยที่ภาสกรจะถูกทำร้าย ถ้าผมยอมที่จะดูศพ ผมโทษความสะเพร่าของตัวเอง ผมรู้สึกกายเบาโหว่ง หัวใจของผมมันบอบบางสิ้นดี

ตกเย็นเรามารวมตัวกันที่รถ เรากินขนมปังที่จืดชืดเงียบๆ น้ำหวานที่เราดื่มมันมีหน้าที่แค่แก้กระหายเท่านั้น รสชาติความหอมหวานหมดสิ้นแล้ว บางทีครั้งนี้ทำให้ผมละกิเลสที่เคยพอกพูนจิตใจได้ง่ายและเร็วขึ้น เรฟและเวฟพูดถึงพระเจ้าของเขาและอธิษฐานที่เราไม่เข้าใจ
“ญาดีใจที่ไม่ว่ายังไงก็มีพี่อยู่”นิญาดาพูดกับผม ขณะที่เรายืนดูศพที่มีผ้าขาวคลุมร่างของภาสกรไว้
“คนเดียวก็เจ็บปวดแล้ว บางครั้งญารู้ว่าจุดสุดท้ายของทุกคน คือ ความตาย แต่เมื่อมันเกิดขึ้นมันรับไม่ได้จริงๆ”
“บางทีอาจมีบางอย่างเกิดขึ้นกับผมก็ได้“ผมฉีกยิ้มแต่มันดูแหย๋ชอบกล
“ไม่มีทางหรอก แต่ถ้าจะมีพี่ธรรม์ก็คงจะอายุ 60-70 สุขภาพของพี่แข็งแรงยิ่งกว่าโคถึกเสียอีกนะ”ญาแซวผมมันทำให้เธอยิ้มอยู่ 3 วินาที หลังจากนั้นตาเธอก็สลด
ระยะหลังๆผมก็รู้สึกหดหู่ชอบกล เหมือนร่างไร้วิญญานมันอยากจะหลุดลอยไปที่ไหนสักแห่ง ความรู้สึกผมคงเป็นลางสังหรณ์ ผมหลับตาไว้อาลัย ไม่มีเสียงพูดของใครคนใดคนหนึ่ง นอกจากเสียงธรรมชาติที่กำลังจะพูดกับภาสกร
“กลับมาเถอะ กลับมาเพื่อชีวิตของครอบครัวเขา” ผมพูดในใจ ครอบครัวภาสกรมี 2 คนนั้นคือ แม่กับภาสกร ถ้าเขาจากไปชีวิตแม่ของเขาจะเป็นอย่างไร ผมคิดก่อนบอกกับตัวเองว่าผมจะเลี้ยงดูแม่ของภาสกรเองอย่างน้อยผมก็ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน
คุณปู่ของผมตายเพราะตกต้นมะพร้าว ขณะที่ปลิดลูกมะพร้าวเพื่อต้องการกะทิสำหรับแกงเขียวหวานขอโปรดของผม เมื่อผมอายุ 8 ขวบ
คุณย่าของผมตายด้วยโรคไหลตายโดยการนอนหลับ หน้าทีวี 1 วัน 1 คืน แต่ผมและครอบครัวพึ่งรู้ว่าคุณยายตายเพราะ รายการทีวีปิดรายการ มิหน้าล่ะผมพึ่งสังเกตว่า ทำไมคุณยายถึงอดอาหารได้นานทั้งที่ปกติต้องกินวันละ 6 มื้อ จนบัดนี้กลายเป็นโอ่งใบย่อม (คุณคงไม่ว่าผมใช่มั๊ยที่ใช้คำว่าใบหย่อม แทนที่จะใช้คำว่าใบใหญ่ ทั้งที่น้ำหนักแกเกิน 100 กิโลกรัมมาหนึ่งขีด )
คุณตาผมตายเพราะกระท้อนติดคอ ผมพยายามพาแกไปโรงพยาบาล แต่แกบอกอาการหมอไม่ได้ หมอใหญ่จึงไม่รู้จะช่วยยังไง ผมมานึกขึ้นได้ว่าผมน่าจะพูดอะไรออกไปบ้างอย่างเช่น ”มีอะไรติดอยู่ในคอแก”
แต่ว่าหมอที่อนามัยไม่รู้เรื่องเลยไม่ยอมถามสักคำ
…ผมเพึ่งรู้ว่าแกเป็นใบ้ในตอนหลัง
คุณย่าผมตายก่อนผมเกิด ผมยินดีแทนคุณด้วย..เพราะไม่อย่างนั้นคุณต้องทนอ่านอีก 3 บรรทัด
ส่วนพ่อผมและแม่ผมตายด้วยโรคลำไส้อักเสบขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ตามลำดับ
ผมยินดีแทนคุณด้วย..เป็นรอบสอง…. เผอิญผมขี้เกียจเขียนกระทันหัน

เอาล่ะ..ผมตัดสินใจแล้วบ้านของผมมีสามห้องนอนจะแบ่งให้แม่ของภาสกรนอนสักห้องไม่เป็นอะไรอยู่แล้ว ผมรู้สึกโดดเดียวเหมือนวิญญาณไร้ร่างอีกหน คราวนี้หยาดน้ำตาจากดวงตาอันแจ่มใสและเจิดจรัสดุจดวงดาวบนท้องฟ้า…ของผม..หยดลงมาหนึ่งหยด หัวใจผมแทบจะหยุดเต้นแต่มันจะเป็นไปได้อย่างไร ก็เพราะผมเป็นมนุษย์นี่ครับ หัวใจส่วนของ…เวนตริเคิ้ลและเอเตียมของผมต้องเต้นนาทีละ 60 ครั้งสำหรับชายที่มีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ประมาณผมนี่ (ความรู้จากชีวะม.ปลายของผมยังไม่ลืม)
ผมก้าวถอยไปหนึ่งก้าวเพื่อหลบแสงแดดที่มาแยงตา ปรากฏว่าตัวเองเหยียบขี้ช้างเข้าอย่างจัง ผมอย่างหัวเราะในความเปิ่นของตัวเอง แต่มันคงไม่เหมาะในเวลานี้ ผมจึงก้าวมายืนที่ตำแหน่งใหม่ และยืนเช็ดขี้ช้างกับต้นหญ้าที่น่าสงสาร 50 ต้น

ผมพูดถึงหมาป่าแต่มันเหมือนไฟจากพลุที่ขึ้นสู่บนอากาศ มันทำให้ทุกคนต้องการสืบค้นหาตัวคนผิดมาลงโทษ แต่การกระทำอย่างนี้ต้องข้ามลำธารที่ลดเลี้ยวเคี้ยวคดใสแจ๋วไปอีกฝั่ง แม่น้ำที่กว้าง 15 เมตร ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แต่ไม่มีใครนึกถึงความโหดร้ายของธรรมชาติที่อาจแฝงท่ามกลางความสวยงาม ผมเคยมองลำธารน้ำใสแห่งนี้เป็น เจ้าหญิงไนล์องค์น้อยๆผมมีความประทับใจแม่น้ำไนล์เป็นพิเศษ และสิ่งที่ผมเกิดความรู้สึกเหมือนกันคือ น้ำแตกฟองสีขาวใสจนแทบเห็นสิ่งมีชีวิตที่อยู่ใต้น้ำ ป่านี้เป็น“ป่าอุดมสมบูรณ์”
ผมแช่เท้าอยู่ในน้ำข้างหนึ่ง ปลาตอดนิ้วโป้งของผม ต้นมะเดื่อใหญ่ต้นหนึ่งงอกบนโขดหินที่น้ำเซาะ รากอ้วนๆของมันแผ่ปกคลุมโขดหิน และอาทิตย์เป็นคนนำทาง
กลิ่นฉุนกึกโชยเข้าจมูก ผมบอกว่า’มันคือกลิ่นขี้นกหรือกลิ่นขี้ค้างคาว’ แต่ผมรู้ว่ามันไม่ใช่ ขนอ่อนที่แขนทั้งสองข้างลุกตั้งขึ้น ผมรู้แล้วว่าเป็นเพราะอะไร แต่ผมพยายามลืมความคิดนั้นเสีย
ตรงหัวมุมแนวผาสูงชันเป็นหน้าผาสีแดงข้างใหญ่ ผมเริ่มเอาคำสอนอีกศาสนาหนึ่งที่ผมไม่รู้จัก แต่เรฟและเวฟ บอกว่าแค่อธิษฐานว่าขออะไร ด้วยความจริงใจที่บริสุทธิ์เท่านั้นก็พอแล้ว ผมรู้ตัวว่าผมกลัวมาก ผมเพียงแต่ต้องการความเข้มแข็งของใจเท่านั้น ผมจึงอธิษฐานต่อพระเจ้า บางทีคำอธิษฐานจะทำให้ฮอร์โมนอะดีนาลีน ทำงานได้ดีขึ้น
เสียงตูม ๆ ๆ ดังสามหน เสียงกระโดดน้ำ อาทิตย์ เรฟ และเวฟ พวกเขาว่ายฝ่ากระแสน้ำเพื่อไปยังฝั่งตรงข้าม ทุกอย่างดำเนินไปอย่างแผนการณ์ที่วางเอาไว้ พวกเขาต้อง น้ำแรงอื้ออึงเขาลอยตัวและเกาะหินดังมือของต้นตำลึง ก่อนไถลไปตามก้อนหินทีละก้อน มันดูช้ายืดยาดแต่มั่นคง
ผมภาวนาในใจ ทั้งที่จริงแล้วต้องการเข้าไปร่วมกับเขาด้วยแต่ทุกคนมีความเห็นว่าผมสมควรอยู่เพื่อเป็นเพื่อนของนิญาดาซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียว แต่ประการสำคัญผมเป็นโรคหัวใจ
หัวใจของผมมันเริ่มแผงฤทธิ์แล้ว หน้าของผมมืด โลกหมุนเป็นวงกลม ผมเริ่มรู้ว่าคนแรกที่รู้ว่าโลกเรากลมเป็น ยังไง บางทีเขาจะเป็นเหมือนผมในตอนนี้
ยาเม็ดสีส้มและสีชมพูอ่อนถูกยื่นมาต่อหน้า (ยาEnaRil และ Tenormin หรือยาแก้โรคหัวใจและความดัน) นิญาดา เพื่อนที่ประดุจน้องสาว ปลอบประโลม ด้วยคำพูดเพียงประโยคหนึ่ง
“ทุกอย่างจะดีขึ้น” เธอเอ่ยขึ้น แต่นัตย์ตาเธอโศกเหลือเกิน
แต่เหตุการณ์สำคัญเกิดอีกครั้งเมื่อเขาไม่สามารถว่ายไปถึงจุดหมาย เวฟ พลาดไหลไปตามน้ำทำให้เรฟและอาทิตย์ต้องย้อนกับมาเพื่อช่วยเหลือเขา แต่กระแสน้ำพัดเขาไปหลังหินผาก้อนใหญ่ที่กำความลับที่โหดร้ายเอาไว้
“ระวัง อาทิตย์ เวฟ เรฟ เป็นยังไงบ้าง ถามได้ยินแล้วตอบหรือตะโกนมาหน่อยซิ ได้โปรด…. ”นิญาดา ตะโกนอย่างบ้าคลั่งนานนับ 15 นาที ไม่มีเสียงตอบกลับ เธอเริ่มสะอื้น
“ผมจะไปหาพวกเขา” ผมรวบรวมสมาธิสติและคิดจะแก้ไขปัญหา ผมรู้สึกฮึดสู้มาอย่างประหลาด ผมเตรียมเชือกและอุปกรณ์และนิญาดาเป็นคนช่วยเหลือผมทุกอย่าง
แต่ผมรู้ว่าน้องสาวคนนี้ของผมอ่อนแอมาก เธอแทบทนสภาวะการณ์แบบนี้ไม่ได้สักนาที สุดท้ายเธอก็ร้องโฮ น้ำตาของเธอดังเขื่อนที่ล้นทะลัก ผมพูดเชิงปรัชญาก่อนที่จะออกไปช่วยเหลือพวกเขา
“ยามที่ใครได้ตายลงไปลงพร้อมหน้าที่ที่เขาได้รับมอบหมาย บางครั้งมันเป็นสิ่งที่พิสูจน์ว่าเขามีคุณค่ามากเพียงไร”ผมพูดขึ้นใจก็เป็นห่วงพวกเขา “พลเรือตรี เออเนสต์ เจ คิง ผู้บัญชาการกองทัพเรือสหรัฐกล่าวว่า “ข้าพเจ้าได้มอบหมายภารกิจที่คิดว่าเป็นแผนที่ฉลาดล้ำที่สุดแล้ว ซึ่งข้าพเจ้าสามารถทำได้ดีที่สุดเท่านี้ แต่ถ้าเรือรบต้องจมลง ข้าพเจ้าคงไม่สามารถจะกู้มันขึ้นมาได้ เพราะถ้ามันจะจม ข้าพเจ้าคงห้ามมันไม่ได้ สู้เอาเวลามาขบคิดแก้ปัญหาของวันพรุ่งนี้ดีกว่าที่จะมากลุ้มใจอยู่กับเรื่องของเมื่อวาน”
คำพูดที่ใครๆเคยหัวเราะเยาะ แต่กลับเป็นสิ่งเตือนสติของใครอีกหลายคน ผมพร้อมรับปัญหาเพราะมีหลักคิดของปัญญาของเหล่าปรัชญาของหนังสือมากมาย แม้ผมต้องยอมรับจุดหนึ่งว่า ผมแทบจะทรงตัวไว้ไม่อยู่เมื่อปัญหานั้นถาโถมเข้ามาดังพายุระลอกแล้วระลอกเล่า

ผมกระโดดสู่ห้วงน้ำที่เย็นเยือก มันเย็นเยือกกว่าที่ผมคิด ผมดำพร้อมกลั้นหายใจ ผมว่ายฝ่ากระแสน้ำ ปรากฏว่ามันไม่เชี่ยวอย่างที่คิด ทุกอย่างง่ายราวปอกกล้วยเข้าปาก

••••••••••••••••

ของเหลวหนืดข้นสีแดงมันหอมหวล …และหวานจนคนที่นอนอยู่อดเอาลิ้นเลียไม่ได้ คนที่นอนอยู่ค่อยๆขยับตัวเมื่อเสียงรถหายไปครู่ใหญ่ เขา-ภาสกร-ไปยังจุดหมายที่พวกเขาเตี๊ยมกันไว้

••••••••••••••••

แล้วเสียงหัวเราะราวระเบิดลงก็ดังขึ้น อาทิตย์บิดเสื้อที่ชุ้มโชกด้วยน้ำลงพื้นดินสำน้ำตาล ต้นพืชเล็กๆอย่างพวกมอส เฟริ์นต้นเล็กพรอยได้น้ำสะอาดของลำธารหล่อเลี้ยง เรฟและเวฟ พี่น้องนักแสดงสมัครเล่นคงได้รางวัลออร์การ์ก็คราวนี้ ทุกคนยังมีชีวิตอยู่มันเป็นเกมชีวิตที่คนเดินป่าชอบเล่นกัน
“นั่นไงภาสกรมาแล้ว” เวฟชี้ไปอีกทางหนึ่ง ที่มีชายที่คุ้นหน้าออกมา
“ถ้าธรรม์มันรู้มันจะกระทืบเราซ้ำมั๊ยว่ะ”ภาสกรคนแกล้งตายคนแรกเอ่ยขึ้น
“ถ้ามันสังเกตสักนิดว่าทำไมอะไรๆถึงเกิดในวันเกิดของมัน มันคงไม่ถูกหลอกหรอก”อาทิตย์พูดดูเขาชังสุขใจที่แกล้งเพื่อนสำเร็จ
“แต่ก็น่าสงสาร”ภาสกรออกเสียงกริ๊งเกรง โถมาสงสารตอนสุดท้าย มันอุตส่าห์กระตือรือร้นไปปลุกเราแต่เช้า บอกพวกเราว่า ทริปคราวมันจะเขียนเรื่องลำคลองงูให้ดีที่สุด ”
“But in next time he will be the happiest man.”เวฟเอ่ยขึ้น
“ตอนนี้ทุกอย่างพร้อมแล้วใช่มั๊ย” เรฟเอ่ย
“แน่นอน ขนมเค้กอยู่หลังรถ ธรรม์ไม่เคยไปยุ่งสักที “
“นิญาดาเตรียมหนังสือภูมิทัศน์ มหัศจรรย์ของโลก ของรีดเดอร์ไดเจสท์ หนังสือท่องเที่ยวภาพสีทั้งเล่ม ราคาแพง อ่านเล่มนี้แล้วเหมือนบินไปเที่ยวรอบโลก ไม่ว่าจะเป็นแม่น้ำไนล์หรือทะเลทรายเตเรเน ต่างมีความความสวยคนละอย่าง แต่มันคุ้มค่าที่จะให้เพื่อนพิเศษ…นิญาดานับถือธรรม์อย่างพี่ชายแท้ เธอบอกว่าถ้าไม่มีธรรม์เธอคงไม่มีความรู้และสามารถเป็นนักเขียนที่มีคอลัมน์ท่องเทียวประจำอย่างทุกวันนี้”
“เหล้า ไวน์ชั้นดี พร้อม”เวฟพูดได้เป็นภาษาไทยสำเนียงอังกฤษ
“ต้องขอบคุณที่เรฟและเวฟเป็นหน้าม้าให้เราด้วย”อาทิตย์เอ่ยขึ้น
“Not at all- ไม่เป็นไร”เรฟพอฟังภาษาไทยง่ายๆออก เวฟบอกว่าเขามีภาพวาดของธรรม์ในเชิงล้อเลียนใส่กรอบภาพเล็กๆ ที่ทำด้วยไม้ธรรมชาติ มันดูดีทีเดียวเมื่ออยู่ในกล่องขวัญสีชมพูลายดอกไม้เล็กๆ
“เรฟพ่อครัวชั้นหนึ่งเตรียมสเต็กปรุงรสดีที่สุดสำหรับพวกเรา มีผลไม้กระป๋องเป็นลิ้นจี่หอมหวานเพียงแต่ไม่มีน้ำแข็ง” อาทิตย์เอ่ยขึ้น
“แค่นั้นก็ดีถมเถไปแล้ว ยังนึกอยู่เลยว่าวันเกิดธรรม์จะได้กินแต่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปหรือเปล่า”เวฟฝรั่งจ๋าแต่รู้จักบะหมี่ “But thai noodle is very good taste ”(หมึกแดงมาเอง)
“ดี ไม่บอกว่ากินข้าวต้มงานศพ”อาทิตย์พูดขณะที่สายตามองอุปกรณ์ครัวที่อยู่รอบตัว ตรงแถวนี้มีสะพานที่สามารถขนของมาได้เพียงแต่มันถูกภูเขาบังจนมิด และธรรม์ก็ไม่รู้เรื่องนี้เลย
“คงต้องขอบคุณเรฟและเวฟที่บอกพวกเรา” ภาสกรชายผอมสูงอายุ 22 ปี สวมรองเท้าผ้าใบที่พี่ชายบุญธรรม “ธรรม์”ซื้อให้เพราะอดทนกับรองเท้าเน่าๆที่เขาใส่มาตั้งแต่ม.ปลายไม่ไหว เพราะธรรม์เป็นคนดี และเป็นที่รักของทุกคน ธรรมอายุ 40 ปี เป็นพี่ชายของทุกคนเขาพร้อมที่จะเป็นพี่น้องกับทุกคนบนโลก ความซื่อสัตย์ความทุ่มเทกับงาน งานเป็นงาน เล่นเป็นเล่น เป็นชีวิตจริงของเขา
ภาสกรจำคำถามอะไรเอ่ยที่ธรรม์เคยทายเล่นๆลับสมอง
“อะไรเอ่ยอยู่บนต้นไม้”
“ปรากฏว่าเป็นลิง”
“ส้มอะไรเอ่ยแข็งแรงมาก”
“ส้มตำปู “
เขามีอะไร 108 –1009 ให้พวกเราสนุกและได้ฮา
ภาสกรมีของขวัญที่เขาตั้งใจให้พี่ชายสุดที่รักของเขาคนนี้ – “กล้องดิจิตอส”ที่เขาไปญี่ปุ่นแล้วตั้งใจซื้อเพื่อพี่ชายบุญธรรมคนนี้ “ธรรม์”ให้มากกว่าที่เขาได้รับที่เขาให้เขาคิดว่าน้อยไปด้วยซ้ำ

“ป่านนี้แล้วธรรม์น่าจะว่ายน้ำมาถึงแล้ว น้ำมันไม่เชี่ยวสักนิด หายไปไหนนาน ลองโทรไปหานิญาดาซิ บอกว่าเอาแค่เล่นๆหอมปากหอมคอก็พอ ไม่ต้องแอคชันจริงจังก็ได้”เรฟเสยผมที่เปียกน้ำ พราวน้ำต้องแสงแดดเป็นสีรุ้ง 7 สี
อาทิตย์ เตรียม ชีวประวัติของธรรมเล็กๆที่เขาจดบันทึกชีวิตธรรม์ ความสนุกสนาน ความมุมานะ ปรัชญาต่างๆของธรรม์ ด้านหน้าเขียนว่า เพราะ”ธรรม์คนจริงที่มีชีวิต” นี้คือความตั้งใจของเขาที่มอบให้ธรรม์
โทรศัพท์มือถือถูกเปิดครั้งแรกเมื่ออยู่ในป่า มันเริ่มทำให้โลกที่เป็นปริศนาเปิดตาเห็นความจริงขึ้นอีกครั้ง
“นิญาดาโทรมาว่าธรรม์ว่ายน้ำข้ามมา เมื่อ 20 นาทีที่แล้ว” อาทิตย์มองทุกคนแล้วก็งงคล้ายถูกใครเอาค้อนมาทุบหัว
“เป็นอะไรหรือเปล่า”ภาสกรสงสัย
แล้วก็มีโทรศัพท์สายหนึ่งเข้ามา จากกรุงเทพ
“พวกเขาพยายามติดต่อเราแต่ติดต่อไม่ได้ ” เสียงของอาทิตย์กุกกะ จนเขาตะโกนถามหลายๆครั้งเมื่อไม่แน่ใจอะไรบางอย่าง
มีอะไรที่แปลกและไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น

••••••••••••••••

“ธรรม์มึงเป็นเพื่อนแท้ที่ดีมากใครทุกคนรักมึง และเข้าใจมึง มึงยังเป็นเพื่อนร่วมที่ดี กูจะขยันและรักงานให้เหมือนมึง มีวิชาเหมือนมีทรัพย์อยู่นับแสนมึงบอกกูทุกวัน กูก็ไม่เชื่อ จนมึงทำให้กูดู มึงรักงานของมึงแม้วาระสุดท้ายมึงยังกลับมาเพื่อทำงานของมึงให้สำเร็จลุล่วง” อาทิตย์พูดกับรูปที่อยู่เบื้องหน้าอย่างตั้งใจ
น้ำตาภาสกรหยดมาหนึ่งหยด
นิญาดา ร้องโฮโดยไม่สนใจใคร
เรฟ และเวฟ อธิษฐานเผื่อ”ธรรม์”โดยเอ่ยนามพระเจ้าของเขา

ถึงทุกคน ขอบคุณทุกคนสำหรับทุกสิ่ง
…และงานชิ้นสุดท้ายของผมก็สำเร็จลุล่วง ต่อแต่นี้ก็ไม่มีผมคอยบ่น คอยว่า จู้จี้ สารพัด แต่ไม่ว่าจะมีผมหรือไม่ก็ตามหนังสือท่องเที่ยวกับโลกกว้างเล่มนี้ก็ต้องดำเนินงานต่อไป การทำงานนั้นโดยไม่แสวงหาข้อมูล ไม่ขยันทำการบ้านงานนั้นคงจะหาดีได้ยาก ผมอยากให้เราทุกคนอย่าลืมอุดมการณ์ในวันแรกที่เราเริ่มหัด กอกากับหนังสือ เราทำด้วยหัวใจ ทำด้วยความรักใช้หนังสือ เป็น 100 เล่ม เพื่อทำหนังสือเพียงเล่มเดียว เราเขียนหนังสือ 50 หน้าแล้วตัดออก 10 หน้าเพื่อสาระเนื้อหาที่สมบูรณ์ เราไม่ได้ทำอะไรที่ไร้จุดหมายแต่เราทำเพื่อความสุข เพราะเราทำด้วย ความรักและทำด้วยหัวใจ สักวันผมต้องมีวันนี้แต่ผมไม่เคยเสียใจ เพราะผมได้ทำวันนี้ดีที่สุดแล้ว
ด้วยความคิดถึงตลอดไป
ธรรม์
“ธรรม์ตายแล้วเพราะโรคหัวใจ เป็นเพราะอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของการกลั่นแกล้งหรือหยอกล้อกันเล่นหรือเปล่าไม่มีใครรู้ ที่สิ่งที่เกิดขึ้นเขาตายขณะที่เขากำลังทำหน้าที่ของเขาอยู่ งานของเขาคือเขียนหนังสือ และวารสารเล่มสุดท้ายเป็นวารสารที่เขียนและทำรายได้ให้สำนักพิมพ์ได้ดีที่สุด
“เฮ้ย..ยังไม่หมดอ่านตรงป.ล. ด้วยซิ” ญาแย้งภาสกรเสียงดังลั่น
“เชื่อในสิ่งที่เฮ็ด เฮ็ดในสิ่งที่เชื่อ”
“15 ค่ำ เดือน 8”
“โปรแกรมหนังไทยดีๆ อย่างนี้อย่าลืมไปดูนะ”
ธรรม์เป็นคนจริงจัง และสนุกกับชีวิตได้ไม่ว่าเป็นเวลาไหนแม้กระทั่งเวลาตายเขายังทำให้เรายิ้มได้เลย ญาสรุปคำพูดสุดท้าย

ในตอนท้ายสุดจดหมายฉบับนี้อยู่ตอนหน้าสุดของหนังสืองานศพ ที่เป็นความรู้ทั้งหมดที่กลั่นจากประสบการณ์ของธรรม์
หนังสืองานศพนั้นมีชื่อว่า ”แด่….ธรรม์ผู้เป็นที่รัก”



หมายเหตุ อธิษฐานเผื่อเป็นคำเฉพาะที่คนคริสเตียนพูดกัน



Create Date : 15 มกราคม 2552
Last Update : 15 มกราคม 2552 21:22:21 น. 0 comments
Counter : 243 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

kaewmahidol
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อยากมีเพื่อนร่วมทางค่ะ
เพื่อนแต่งบ้าน

เพื่อนอ่านนิยาย-เรื่องสั้น
เพื่อนเล่นโปรแกรมคอม
เพื่อนเล่นเวป
เป็นเพื่อนกันนะคะ
Friends' blogs
[Add kaewmahidol's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.