|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
ลำพูน ต้นสุดท้ายที่บางลำพู
ลำพูน ต้นสุดท้ายที่บางลำพู ยืนหยัดโดดเดี่ยวที่ริมฝั่งน้ำ คล่ำคาอยู่อีกได้หลายฝน ไม่ท้อแท้อ่อนไหวหรือทุกข์ทน ดิ้นรนให้ร่มเงาเหล่านกกา ลำพู บางลำพูพรายพรอย ด้วยหิ่งห้อยร้อยระยับจับเวหา ยิ่งมืดยิ่งเด่นกลางพนา หมู่นกกาอาศัยพิงพักหลับนอน จิตาคงคิดว่าตัวเองอยู่คนเดียวแน่ๆถ้าไม่มีเสียงกลอนแปดเอ่ยขึ้น หล่อนเห็นขาแล้ว-ผู้ชายคนหนึ่งที่อยู่ในเงาทึบของต้นลำพูน ที่นี่คือริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณสำนักงานกลางน้ำตาลกรมโรงงานอุตสาหกรรม ใกล้กับป้อมพระสุเมรุ ถ้าเดินตามถนนพระสุเมรุจากหน้าห้างนิวเวิลด์ ด้านซ้ายจะเป็นกรมโรงงานอุตสาหกรรม ผ่านหน้าห้าง ต.เง็กชวนซึ่งเป็นห้างแผ่นเสียงใหญ่ระดับแนวหน้าเมื่อ 30-50 ปีที่แล้วหรือยุคแผ่นครั่ง เทียบกับสมัยนี้ก็คือแกรมมี่นั่นเอง ชายผู้นี้สวมเสื้อเชิ้ตสีเทา กางเกงดำสนิท ท่าทางเหม่อลอยดูสายน้ำเจ้าพระยาที่ยังไหลจากเหนือไปสู่ใต้ตามหน้าที่ของมัน แสงสลัวที่เป็นแดดสุดท้ายกระทบขอบเรือนนาฬิกาข้อมือเป็น แสงสะท้อนเข้าตา จนจิตาต้องป้องเเสงเมื่อเพ่งพินิจดูไปคล้ายคนที่มีปัญหา จิตาเดินก้าวเข้าไปไปใกล้อีกก้าวเสียงเม็ดกรวดที่จะทบรองเท้าทำให้เขาหันมา จิตารู้สึกว่าแปลกไม่ใช่หน้าตาของเขาแต่เป็นสายตาของเขา เธอจึงเอ่ยทักเพื่อทำให้ความเงียบที่เยือกเย็นสลายตัว สวัสดีค่ะจิตายิ้มเล็กน้อยเพื่อให้สถานการณ์ดีขึ้น เขาเผยอยิ้มที่มุมปากนิดหนึ่งก่อนตอบเป็นรอยยิ้มที่ดูจะไม่ตั้งใจนัก ที่นี่คือลำพูต้นสุดท้ายเป็นคำพูดที่เหมือนมีอะไรแฝง ค่ะหล่อนรู้จากหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งและมาที่นี่เพื่อชมลำพูต้นสุดท้ายของบางลำพู เขาบอกว่าลำพูกับหิ่งห้อยเป็นของคู่กัน ในคืนที่มืดมิดในขณะที่นภาแจ่มจรัสด้วยแสงดาว แต่ต้นลำพูนก็มีแสงระยับให้อิจฉา สุนทรภู่กล่าวในนิราศสุพรรณว่า ลำภูดูหิ่งห้อย พรอยพราย เหมือนเม็ดเพชรรัตราย รอบก้อย ค่ะ ในขณะที่นิราศพระประฐมเขียนว่า บางขุนนนท์ต้นลำพูดูหิ่งห้อย เหมือนเพชรพร้อยพรอยพร่างสว่างไสวจิตาก้าวไปยืนอยู่ไม่ห่างเขานัก เสียงกลอนของเธอ ทำให้เขาหันมาจ้องมองเธอด้วยความแปลกใจ คุณก็มีความรู้ของกลอนไม่น้อย สนใจค่ะ สนใจมากกว่า ฉันชื่อจิตาค่ะฉันเป็นครูภาษาไทยที่สอนอยู่ในโรงเรียน
.เธอเอ่ยชื่อโรงเรียน โรงเรียนแห่งหนึ่งในย่านนั้น ชุดของจิตานั้นก็บ่งบอกความเป็นครูได้ชัดเจน เสื้อสีขาวบริสุทธิ์ กับกระโปรงยาวที่ดำสนิท ผมที่เกล้ามวยเผยอให้เห็นวงหน้าสีขาวนวล หน้าอ่อนๆแต่งแต้มสีแค่จากๆ แสงแดด และอากาศเลียสีที่แต่งแต้มไปเกือบหมด แต่แม้ไม่แต่งเธอจัดอยู่ในประเภทคนสวย คนสวยสวยใสที่ใบหน้า ทำให้สุภาษิตที่ว่าไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่งนั้นใช่ไม่ได้ ผมก็เหมือนลำพูนต้นสุดท้ายเขาเอ่ยขึ้นแต่สายตาทอดไปไกลสุดความเวิ้งว้างของลำน้ำ ลำพูชีวิตของไม้เนื้ออ่อนที่ประโยชน์สารพัดแต่เมื่อถึงเวลาวันนี้ก็ต้องจากลาไปชีวิตก็เท่านี้มีเกิดมีดับเขาพูดเมื่อปลงกับสังขารที่ไม่เที่ยงของต้นลำพูนแต่เรื่องราวนี้เป็นแค่การเกริ่นนำยังมีอะไรอยู่บังหลังความรู้สึกอีกมากมาย ผมเป็นนักเทคนิคการแพทย์คนหนึ่งที่มีอาชีพเพื่อรับใช้ประชาชน อาชีพหนึ่งที่สุจริตและมีความรู้ หลังจากที่ผมเรียนจบ ผมได้งานทำในทันที และผมเลือกทำงานที่โรงพยาบาลรัฐเป็นพวกที่ปิดทองหลังพระ ผมไม่เคยคิดว่าพวกปิดทองหลังพระเป็นยังไงเพราะผมไม่เคยเสียใจที่ทำอาชีพนี้ ผมไม่เสียใจที่ผมไม่ได้เป็นหมอที่สามารถหาเงินทองได้มากมากมาย ในวันหนึ่งผมต้องวิเคราะห์เพื่อวิเคราะห์ ตรวจหาเชื้อโรค นานาชนิดและหนึ่งในโรคนั้นคือโรคเอดส์ในทุกๆวันผมทำด้วยความระมัดระวัง ระยะเวลา 15 ปีเป็นเวลาไม่น้อย แต่ความผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นได้ มันเป็นอุบัติเหตุจากการวิเคราะห์ ไม่ได้เกิดจากการสำส่อนทางเพศหรือการติดยาเขาหยุดเพื่อถอนหายใจมาก ความเครียดทำให้ใบหน้าเขาอิดโรยและอ่อนล้า ในที่สุดผมเป็นเอดส์เสียงเขาพูด ในที่สุดผมก็เหมือนลำพูต้นสุดท้ายที่รอเวลาการจากไป สายตาที่คนรอบข้างมองผมเหมือนผมทำความผิดอย่างรุนแรง ความภาคภูมิใจเปลี่ยนเป็นความท้อแท้ ผมสงสารแต่แม่ที่ผมไม่อาจดูแลได้ตลอดชีวิต คำพูดของเขาเหมือนสิ้นแล้วกำลังใจที่จะอยู่ต่อ ไม่หรอกค่ะ คุณรู้มั๊ยค่ะ ต้นลำพูนั้นมีความสำคัญเพียงใด เปลือกมีแทนนินซึ่งเอามาทำหมึก ยาและสี ดอกลำพูใช้เป็นผักจิ้ม รากใช้ผสมยากินแก้ไข้ คุณคิดว่าคุณไม่มีคุณค่าแล้วหรือค่ะ ไม่หรอกค่ะ ความฟุ้งซ่านทำให้คุณประโยชน์ของตัวเองลืมเลือน คุณยังเป็นนักเทคนิคการแพทย์ที่มีความรู้และความสามารถเช่นเดิมไม่มีใครสามารถทำให้คุณค่าในตัวคุณลดลงได้นอกจากตัวเอง เพชรแม้อยู่ในตมก็ยังเป็นเพชรค่ะ มองกลับมาในวันแรกที่คุณจบมาแล้วทำงานซิค่ะ คุณจะได้เห็นชัยชนะที่อยู่เบื้องหลัง ความเจ็บป่วย คุณเป็นคนที่ทำให้คนไข้เอดส์ได้รู้ตัวและสามารถยืดเวลาของเขาให้ยาวนานออกไป คุณมีคุณค่าค่ะ คุณมีคุณค่านะคะจิตามองสายตาที่เขาหลุบก้มต่ำก่อนที่จะเบนไปอย่างไร้จุดหมาย แววตาของเขาระริกไหวราวกับว่ามีน้ำตาคลอน้อยๆ เธอจึงพูดความจริงที่เธอสัมผัสได้จากเขา เธอรู้สึกเห็นใจและสงสารเขานัก ทางเดินบนเส้นทางชีวิตแม้จะต้องล้มลุกคลุกคลานอย่างไร เราก็ต้องลุกค่ะลุกเพื่อเริ่มต้นใหม่ ลองหามุมมองใหม่ในการดำรงชีวิตซิค่ะ อยู่เพื่อคนอื่นค่ะ อยู่เพื่อแม่ เพื่อประชาชน คุณไม่ได้แพ้หรือผิดพลาด คุณกำลังอยู่ในโลกใบใหม่ใบหนึ่ง และกำลังเรียนรู้การแก้ปัญหา ออกกำลังกายทำจิตใจและเข้มแข็งและเเข็งแกร่งค่ะ โรคร้ายจะได้ไม่มีโอกาสที่จะทำอันตรายคุณได้ คุณทำให้ผมเหมือนกับเป็นเด็กนักเรียนตัวเล็กๆอีกครั้งที่ต้องการกำลังใจและความเห็นใจ ไม่หรอกค่ะ ฉันว่าใครที่ตกอยู่ในภาวะนี่ก็มีสิทธิ์คิดอย่างคุณได้เหมือนกัน ถ้าเป็นฉันยังไม่แน่ใจว่าจะหาทางออกโดยวิธีไหน จิตายิ้มให้เขา และเขาก็รู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น
. คุยกับคุณตั้งนาน ผมยังไม่ได้บอกชื่อคุณเลย ผม..ณัฐดนัยครับเขาแนะนำท่าทางเหมือนผ่อนคลายขึ้น ค่ะยินดีที่ได้รู้จัก ดูเหมือนว่าเราจะคุยกันนานจนจันทร์กระจ่างฟ้าแล้วตอนนี้จิตามองดูแลจันทร์ที่เคลื่อนตัวเข้ากลีบเมฆ และจู่ๆเสียงหมาหอนก็ทำให้เสียวสันหัน แต่ความรู้สึกอุ่นใจยังคงมีอยู่เพราะหล่อนไม่ได้อยู่คนเดียว ครับ เราเดินไปคุยไปดีกว่าเดี๋ยวจะดึกเกินไปกลับดึกไม่สะดวกจะครับเขาชวนเมื่อพลิกนาฬิกาแล้วค่ำเกินกว่าผู้หญิงจะอยู่คนเดียว จิตาเดินตามเขาออกมา อดจะเหลียวมองลำพูนที่มีขนาดใหญ่ที่มีความกว้างรอบต้น 15 ฟุตไม่ได้ ทางเดินที่จะออกไปเป็นอาคารไม้ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางไฟสลัวผู้คนแถบจะเรียกได้เลยว่าไม่มี สุนัขบางตัวก็เพ่นพ่านและเห่าอย่างไม่มีเหตุผลราวจะเห็นอะไรสักอย่าง แต่ในใจของเธอนั้นทั้งอิ่มทั้งอุ่น ขอบคุณครับ ขอบคุณทุกอย่างมจะไม่ลืมวันนี้เลย เธออำลาเขาที่มุมถนน เขาจากลาด้วยท่าทีที่สบายใจ เธอเดินไปในทิศตรงข้ามกับเขาแต่ทันในในเวลาถัดไป 2-3 นาทีเสียงชุนมุนก็ดังขึ้น บางทีเขาอาจมาที่นี่เพื่อฆ่าตัวตาย และเสียงหมาหอนนั้นก็หมายความว่า
. สมองเธอสั่งให้เท้านั้นวิ่ง เพื่อไปดูที่มาของเสียง ร่างนั้นอาบเลือด..แต่เขายังเห็นเธอและพูดว่าจิตาผมขอบคุณน่ะร่างของเขาถูกยกขึ้นโรงพยาบาล เธอขึ้นไปเป็นเพื่อนกับเขาด้วย เขายังพูดและขอบคุณเธอไม่หยุด คุณณัฐดนัยค่ะ คำกลอนนี่ฉันให้คุณค่ะ เธอให้กระดาษใบหนึ่งกับเขาและสอดใส่ในกระเป๋าเสื้อเชิ้ต คุณต้องไม่เป็นอะไรค่ะ ฉันจะเป็นกำลังใจให้เสมอ จิตามองหน้าเขาไม่ห่างเขาจะจดจำชื่อนี่ตลอดชีวิต ทันใดนั้นสติสัมปชัญญะของเขาก็สูญสิ้น เขาตื่นขึ้นมาพร้อมสมองที่ว่างโล่ง ห้องสีขาวกลิ่นที่เขาคุ้นเคยทำให้เขาตื่นขึ้นมา เขาไม่รู้สึกเจ็บอะไรมากมายนัก แผลที่ถูกเย็บมันทำให้เขารู้สึกตึงๆเล็กน้อยเท่านั้น เขาลุกขึ้น และคิดถึงจิตาในทันที่ แม่พิมพ์ของชาติใบหน้าที่อาบอิ่มไปด้วยความเข้าใจและเห็นใจ เขาคงไปหาจิตาในไม่ช้าเขารู้ชื่อโรงเรียนของหล่อน
เสาธงสูงที่ตั้งตระหง่าน เขายิ้มให้กับตัวเองก่อนเดินก้าวเข้าไปในเขตที่มีเด็กนักเรียนสนุกสนานเฮฮา บ้างเตะฟุตบอล บ้างเล่นบาสเก็ตบอล เขามีมุมมองของโลกนี้ใหม่เพราะจิตา เสียงเด็กสนุกสนานเฮฮา ทำให้เขานึกถึงภาพของจิตาขณะเป็นคุณครู ขอพบคุณครูจิตา ครับ จิตาหรือค่ะ หญิงวัยกลางคนมองหน้าแปลกๆ ก่อนที่จะตอบในสิ่งที่เขาอดตกใจไม่ได้ ครูจิตาเธอเสียแล้วครับ ตั้งแต่วันอาทิตย์สิ่งที่ได้ยินเขาอดตกใจไม่ได้ วันอาทิตย์เป็นไปไม่ได้เขาพบกับจิตาวันจันทร์ วันจันทร์ที่เขาไปที่ลำพูต้นสุดท้ายหมายจะฆ่าตัวตาย ครูจิตาเธอเป็นโรคหัวใจและเมื่ออาทิตย์ที่แล้วโรคหัวใจเธอกำเริบทำให้เธอหัวใจวายตาย ณัฐดนัยเดินออกมาด้วยความผิดหวังอารมณ์ หลายอย่างคลุกเคล้าเธอมาปรากฏร่างเพื่อห้ามเขาไม่ให้ฆ่าตัวตาย
สายลมโบกโศกใจให้โหยไห้ หวั่นไหวระทึกกับเบื้องหน้า ต้นสุดท้ายแล้วหรือลำพูจ๋า ต้องอำลาลับไกลนะลำพูน
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2545
Create Date : 15 มกราคม 2552 |
Last Update : 15 มกราคม 2552 21:23:20 น. |
|
0 comments
|
Counter : 231 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|