อินทนนท์ที่รัก (14-15 พ.ย.06)

หากจะน้บย้อนหลังไป “อินทนนท์” ครั้งเป็นเป็นครั้งที่สามแล้วที่ได้กลับมาเยือนสถานที่อันหนาวเย็นและแฝงด้วยความสุขอีกครั้ง สถานที่เดิมหากแก่ต่างวัน ต่างเวลา ความรู้สึกย่อมต่าง แต่ไม่ว่าจะต่างวัน ต่างเวลา หรือต่างคน สิ่งหนึ่งที่ไม่ต่าง คือ ความสุขและความประทับใจจากที่แห่งนี้

“นาข้าวบ้านตีนผา” อีกมุมมองของนาขั้นบันได ที่อยู่ในบางซอกเขาแห่งดอยอินทนนท์ ที่ได้รับการแนะนำให้ไปเยือนโดย คุณชิติพัทธ์ โพธิ์รักษา ผู้ช่วยหัวหน้าฯ อุทยานฯ ดอยอินทนนท์ ที่อยู่ที่นี่มาหลายปี และรู้จักทุกซอกทุกมุมของที่นี่ และจุดนี้แหละได้รับการยกย่องว่างดงามสุดในบรรดาทิวทัศน์ของนาขั้นบันได แห่งดอยอินทนนท์

14/11/2006
05.00 น. ปิ๊ด ปิ๊ด ปิ๊ด เสียงปลุกจากโทรศัพท์ เสียงที่ไม่คุ้นเคยได้ทำหน้าที่แล้ว แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ความขี้เกียจ ความอบอุ่นของผ้าห่มหรือจากคนข้างกาย ทำให้ฉันไม่สามารถนำตัวลุกออกจากใต้ผ้าห่มนี้ได้ เวลาล่วงเลยมา 10.00 น. ความอบอุ่นยังคงอยู่หากแต่เจ้าตัวขี้เกียจได้แปรเปลี่ยนเป็นความกระตืนรือร้น ความตื่นเต้น ตื่นตัวที่รบเร้าให้ฉันได้ออกไปพร้อมกระเป๋ากล้อง แม้ความรู้สึกในจิตใจจะไม่อยากไปก็ตาม

ความตื่นเต้นถูกกระตุ้นขึ้นมาอีกครั้งเมื่อระหว่างทางที่จะไปยังยอดดอยอินทนนท์ เราได้แวะเพื่อดูเจ้ากล้วยไม้และก็ไม่ผิดหวังเมื่อเราได้พบ “เอื้ยงพลายชมพู” สีชมพูและสีขาว เจ้า 300D ถูกหยิบขึ้นมาพร้อมติดเลนส์ 100 Macro เจ้ากล้วยไม้น้อยจึงได้ถูกบันทึกลงหลายต่อหลายเฟรมตามความกระหายที่ไม่เคยพบเห็นกล้วยไม้ท่ามกลางธรรมชาติแบบนี้ เคยเห็นแต่กล้วยไม้ที่สวนจัตุจักรและกล้วยไม้บูชาพระก็เท่านั้น สองครั้งแรกที่ได้มาที่อินทนนท์ ณ เวลาที่ผ่านมา 2-3 ปี นั้น สิ่งที่ทำให้ฉันตื่นเต้นได้คงเป็น สายหมอก ดอกไม้เมืองหนาว และความหนาวเย็น แต่ในครั้งนี้ สิ่งที่ทำให้ฉันได้ตื่นเต้นคือ เจ้ากล้วยไม้สีชมพูที่อยู่ ณ เบื้องหน้าแห่งนี้เอง





ไม่นานนัก เราก็ได้พาตัวมาที่ยอดดอยอินทนนท์ ณ บริเวณเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา ขณะที่กำลังสาละวินโหลดรูปที่ได้บันทึกมาจากงานราชพฤกษ์ลงในเครื่อง MAC เทคโนโลยีที่ทำให้ใครบางคนหลงจนไม่สามารถไปไหนได้หากไม่มีเจ้าสิ่งนี้ พลันก็มีเสียงที่ทำให้ต้องเหลียวไปมองตามเสียงที่แฝงไว้ด้วยความตื่นเต้นนั้น ภาพที่เห็นเป็นสายหมอกที่ฟุ้งกระจายปกคลุมบริเวณที่เหล่านักท่องเที่ยวยืนอยู่ ความเย็นถูกพัดพามาพร้อมความรู้สึกของเหล่านักท่องเที่ยว ทำให้ฉันตื่นเต้นตามไปด้วยไม่ได้ แม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้สัมผัส แต่การที่ได้เห็นผู้อื่นมีความสุขในการชื่นชมธรรมชาติมันก็อดไม่ได้ที่จะมีส่วนร่วมของความสุขในครั้งนี้

เจ้า 300D ถูกหยิบขึ้นมาติดเลนส์ 70-200 mm. พร้อมติดหัวแฟลชและพร้อมยิงอีกครั้ง หากแต่คราวนี้มิได้เป็นเจ้ากล้วยไม้แสนสวย แต่หากเป็นเจ้านกน้อย เจ้ากินปลี นกท้องถิ่น เจ้าบ้านแห่งอินทนนท์ สีสันสดใสดของเจ้านกน้อยเหล่านี้ อดไม่ได้ที่เหล่านักท่องเที่ยวจะบันทึกภาพเก็บไว้ รวมถึงฉันด้วย

การไล่ล่าด้วยภาพถ่ายถูกบันทึกอย่างต่อเนื่อง จวบจนเวลาที่ต้องหยุดบันทึกเพราะเสียงท้องที่ร้องดังเเป็นเสียงเตือนเวลาเติมพลังงานให้ร่างกายแล้ว เราย้ายตัวเองจากยอดดอยลงสู่ “โครงการเกษตรหลวงอินทนนท์” เพื่อกินอาหารกลางวัน ณ ที่แห่งนี้ เป็ดรมควัน ถูกสั่งมา 2 จานอย่างต่อเนื่อง จากแรกเป็นการสั่งเพื่อลิ้มลอง จานที่สองเป็นการสั่งเพื่อยืนยันในความอร่อย ปลาเทร้า ถูกสั่งพร้อมเสิร์ฟด้วยข้าวสวยร้อนๆ และหมูผัดพริกแกงแสนอร่อย อาหารทุกอย่างถูกลิ้มลองลงท้องพร้อมความอิ่ม เราจึงได้ย้ายตัวเองอีกครั้งไปยัง “นาข้าวขั้นบันได” ณ บ้านผาหมอน เพื่อต้องการบันทึกภาพ “นาข้าวขั้นบันได” แต่เราคงมาล่าเกินไป ข้าวถูกเก็บเกี่ยวด้วยกระดูกสันหลังของชาติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คงมีแต่เจ้าควายน้อยยืนหยอกเย้าอยู่เท่านั้น

แสงแดดเริ่มอ่อนแรงลงพร้อมหนังตาของคนข้างๆ ที่ได้ทำงานอีกครั้งหลังจากความอิ่มมาเยือน เป็นครั้งแรกที่ได้ขับรถขึ้นยอดดอยแห่งนี้ คำว่า “มือใหม่หัดขับ” คงใช้ได้สำหรับเรา ณ เวลานี้ จุดชมวิว คือ แหล่งที่เราต้องการไปเยือนแหล่งสุดท้ายของวันนี้ พระอาทิตย์เริ่มลาลับขอบฟ้าแล้ว พร้อมภาพที่บันทึก ภาพที่ได้แม้จะไม่สวยงามแต่มีความหมายและมีคุณค่าในจิตใจที่ได้ร่วมเห็นกับใครคนนึงที่ยืนอยู่ข้างกาย

15/11/2006
05.00 น. ปิ๊ด ปิ๊ด ปิ๊ด เสียงปลุกจากโทรศัพท์ เสียงที่คุ้นเคยจากเมื่อวานได้ทำหน้าที่อีกครั้ง คราวนี้ไม่ว่าเจ้าความขี้เกียจหรือความรู้สึกในจิตใจก็ไม่สามารถหยุดยั้งความต้องการที่จะบันทึกพร้อมสัมผัสบรรยกาศยามเช้าได้อีกต่อไป จะเป็นเพราะอะไรก็เพราะวันนี้เป็นวันสุดท้ายที่เราต้องได้อยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ 05.30 น. การเดินทางเริ่มต้นด้วยพร้อมเสื้อกันหนาวและหมวกไหมพรมสีแดงสดใส และกระเป๋ากล้องได้ถูกหยิบเพื่อร่วมเดินทางด้วย แอร์ในรถไม่ใช่สิ่งจำเป็นในการใช้ยามนี้แล้ว หากแต่เป็นสายลมที่พัดเล็ดลอดเข้ามาจากช่องกระจกที่เราลดระดับลงเพื่อสัมผัสเท่านั้น



จุดชมวิวที่ชมพระอาทิตย์ตกเมื่อวานนี้เป็นจุดเดียวกับที่เราต้องไปชมพระอาทิตย์ขึ้นในเช้าวันนี้ ผ้าพันคอถูกหยิบมาพันต้านแรงลมที่พัดกระหน่ำเข้ามาปะทะใบหน้า คงเหลือไว้แต่ดวงตาที่เฝ้ามองแสงแรกของวันนี้ สายหมอกถูกลมพัดฟุ้งกระจายทั่วบริเวณนั้น ยอดดอยหัวเสือที่ได้เห็นเมื่อวานเย็น เช้านี้ถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอกเสียแล้ว หากแต่ความตั้งใจยังไม่ถูกปิดบังตามสิ่งที่ได้บันทึกคือ แสงไฟจากรถยนต์ของเหล่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเพื่อดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดดอยหรือจุดชมวิวหน้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน

เมื่อได้บันทึกภาพเป็นที่พอใจแล้ว เราได้ไปยังยอดอดยอินทนนท์เพื่อเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา อาหารเช้ายังไม่ได้ลิ้มลองแต่เราก็ได้อิ่มเอมกับการบันทึกภาพแสงที่ลอดลงใต้กิ่งไม้น้อยใหญ่ ลำแสงสาดส่องทำให้เราบันทึกภาพอย่างไม่หยุดยั้ง เราได้เข้าไปยังเส้นทางศึกษาธรรมชาติอ่างกา บรรยากาศยามเช้าทำให้แสงแดดสาดส่องมาไม่หยุดยั้ง สีเขียวของมอสและเฟิร์นทำให้เรามีความสุขที่ได้พบเห็นและเมื่อเห็นยามย้อนแสงเช่นนี้แล้ว ประทับใจจริงๆ

เวลาของอาหารเช้าเริ่มขึ้นแล้ว ณ ที่ทำการอินทนนท์ อาหารเช้าแสนง่าย (หรือใครจะเรียกว่า อาหารสิ้นคิดก็คงไม่ต่างกัน) ข้าวผัดกระเพาะหมูสับไข่ดาว เริ่มเข้าสู่เวลาเที่ยงแล้ว คงต้องลาแล้วซินะ อินทนนท์ ลาแล้วแต่ไม่ลาขาดเราต้องได้กลับมาเยือนอีกหลายครั้งแน่นอน




 

Create Date : 06 มิถุนายน 2552
1 comments
Last Update : 19 กันยายน 2555 21:02:01 น.
Counter : 773 Pageviews.

 

เห็นด้วยนะคะว่า ที่เดียวกัน แต่ต่างคนต่างเวลา บรรยากาศ ไม่เหมือนกัน

 

โดย: บี๋ (Yushi ) 6 มิถุนายน 2552 22:32:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


เกดจัง
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




E-mail : cute_gad@hotmail.com
KadeJung

ผู้คนส่วนมาก


มักจะเงยหน้ามองฟ้า

ไล่ล่าไขว่คว้า

หาสิ่งที่อยู่ไกลเกินเอื้อม

จนหลายครั้ง

สิ่งที่ทำให้ใจอบอุ่น

และมีความสุข

กลับเป็นเพียงดอกหญ้า

ดอกเล็กบนทางระหว่างเดิน

เพียงแค่ก้มหน้ามองลงดิน

เท่านั้นเอง

ฝากข้อความถึง เกดจัง

Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2552
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
6 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add เกดจัง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.