Kabird
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2556
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
30 กรกฏาคม 2556
 
All Blogs
 

30 วัันในคุนหมิง ตอน 2 (นักเรียนอินเตอร์)


หนีห่าวมา?(กรุณาออกเสียงแบบจีนด้วย) เจอกันตอน 2 แล้วนะคะคราวนี้เป็นเรื่องราวการใช้ชีวิตแบบนักเรี๊ยนนน นักเรียนในรั้ว Yunnan Normaluniversity ค่ะ เอาตั้งแต่กิจวัตรประจำวันที่ต้องทำ ตั้งแต่เช้า ยันค่ำ เลยนะคะ

ขอเริ่มแรกด้วยชื่อก่อนละกัน ทุกคนที่มาอยู่จีน ต้องมีชื่อ แซ่จีน เพื่อสะดวกต่อการดำรงชีวิตทั้งในโรงเรียน และสิ่งแวดล้อมทั่วไป... ดังนั้นเราขอให้ครูสอนพิเศษตั้งชื่อให้ นางก็คิดนานเหลือเกิน แถมพอคิดออกมาก็ไม่ถูกใจเจ๊ แถมยังแนะนำว่า ควรให้อาจาร์ยในมหาลัยตั้งชื่อให้ดีกว่า เพราะการตั้งชื่อต้องสังเกตุจากบุคลิกตัวเองนานๆ ถึงจะสามารถตั้งได้ คราวนี้เราจึงขอให้อาจาร์ยที่สอนเราในมหาลัยตั้งให้ นางก็ไม่กล้าตั้ง โดยให้เหตุผลว่า ปกติแล้วควรให้ผู้ที่อายุมากกว่าตั้งชื่อให้ แง๊วว ซะงั้น! ไม่เป็นไรวะ ตั้งเองก็ได้ :) ใช่ค่ะ ตั้งเอง โดยดึงบุคลิกตัวตนที่แท้จริงมาตั้ง ผสมไปมา เป็น "หงไท่หยาง" เข้าทางเด็กๆในกลุ่มเลย เรียกกันง่ายๆติดปากว่า ... "เจ๊หงส์ๆๆ"

ด้วยความที่มีปมเด่นคือ แก่ แต่ใฝ่เรียน (ขนาดเหล่าซือ ครูสอน ชื่อ "เข๋อฉ๋วน" ยังเด็กกว่า เฮ้ออออ เดี้ยนกลุ้ม!) ทำให้ต้องขยันกว่าเพื่อนเด็กๆเป็นพิเศษ เริ่มจาก

- เลือกเวลาเรียนขอเป็นเช้าตรู่เลย ตั้งแต่ 8 โมงเช้า- เที่ยง (เรียนชั้น 4)  ถือคติที่ว่า ตื่นเช้ากว่า ได้งานมากกว่าแถมหอพักอยู่ในมหาลัยด้วย ไม่ต้องกลัวสาย! แต่เหล่าซือนี่สิสายตลอด บางวันก็ขอหยุด ลาไปนู่นนี่แล้วให้กรูมานั่งรอ เฮ้ยยย ใช้ไม่ได้เลยช่วงเวลาพักเบรก ก็หายไปเกินครึ่งชั่งโมง โอ๊ยยย ไม่อยากบ่นจะดีก็แต่สอนเกินเวลาให้ เรียกว่าทดเวลาบาดเจ็บนั่นเอง


- เหล่าซือแนะนำให้ซื้อหนังสืออะไร ก็ไปกว้านหามาทุกอย่าง อุปกรณ์ครบมือ ที่นี่อุปกรณ์การเรียนถูกมาก! สวยกว่าเมืองไทยด้วย เพราะฉะนั้นซื้อเถอะค่ะความรู้คือการลงทุน 

บางวันที่ต้องมีเขียนตามคำบอกอีชั้นไม่ไปไหนทั้งสิ้นเลยค่ะ ท่องศัพท์ทั้งคืน แถมยังตื่นแต่เช้ามานั่งที่โต๊ะหินอ่อนสวนหย่อมหน้าตึก เพื่อทบทวนก่อนเข้าห้องสอบผลปรากฏว่า เขียนถูกทุกคำค่ะ… พอบทหลังๆนางเริ่มรู้คราวนี้สั่งให้เราเขียนเป็นประโยคเลย แหม!จะเอาอะไรมากมายกับคนเพิ่งเรียนได้ไม่กี่ชั่วโมงคะ


ป้าเบิร์ดขอแนะนำว่าถ้าจะเป็นคนเก่งทั้งที ต้องแบ่งเวลาให้เป็นค่ะ เช่น เรียนก็เรียนให้เก่ง เล่นก็เล่นให้สุดๆและพอถึงเวลาเที่ยว ก็จัดหนักไปเลยค่ะ วิธีนี้ใช้ได้ผล อย่างชัดเจนกับ The gangเราเอง


เวลาพักเที่ยงสถานที่ประชุมกันโดยมิได้นัดหมายคือ Café ชั้น1 ค่ะ ใครใคร่ซื้อของกินที่เถี่ยลู่(ทางรถไฟ), ข้างมหาลัย, หรือโรงอาหารก็ตามสะดวกเลยค่ะ แล้วก็มานั่งกินรวมกันที่Café ที่นี่เป็นห้องโถงเล็กๆ มีโต๊ะนั่ง ประมาณ 10-12 โต๊ะ บรรยากาศอบอุ่นมีมุมของเล่น และหนังสือให้อ่าน ด้านหน้าแคชเชียร์มีขนม เครื่องดื่มไว้บริการในราคาไม่ย่อมเยาว์555


ตอนบ่ายเด็กๆยังคงเรียนไม่เสร็จ เพราะพวกนี้ชอบเรียนช่วงสายๆ ถึงบ่ายๆกัน ดิชั้นจึงได้ที แว๊บบบ กลับไปงีบที่หอ ซึ่งเดินไปเพียงแค่ 3 นาทีก็ถึงแล้ว นี่ไม่ได้โม้นะ เคยจับเวลาแล้วด้วย เห็นมั้ยล่ะว่าพักหอในเนี่ยประหยัดเวลาไปได้เยอะเลยคร้าาา


“เจ๊ๆเรียนเสร็จแล้ว ทำไรอยู่ มาหาหน่อย ทุกคนเพิ่งเรียนเสร็จ” เสียงใสๆที่เด็กๆ โทรมาปลุก จะผลัดเวียนกันไปตามหน้าที่ 

“ไปไหนอ่ะเจ๊เพิ่งตื่น? ”….. 

“ไม่รู้จร้าา…มารวมตัวกันก่อนเร๊ววแล้วค่อยว่ากัน นั่งรอตรงบันไดข้างหน้าตึกเรียนนะ” เป็นงั้นไป :(

กิจกรรมหลังเลิกเรียน ช่วงแรกๆที่ฮิตสุดๆ ก็คือ เล่นไพ่ (สล๊าฟ) เล่นเพื่อฝึกคิดเลขและเพื่อความมันส์ค่ะ ไม่เค๊ยยยไม่เคยที่จะเล่นกินเงินนะคะ สถานที่ประจำก็คือสนามหญ้าข้างประตูใหญ่ เล่นจนตะวันตกดิน แถมเอาไฟฉายจากมือถือส่องก็ยังไม่สามารถต้านแรงสามัคคีในการเล่นไพ่ของพวกเราได้

ถ้าหิวก็ไม่ยากค่ะเดินไปเถี่ยลู่ เลือกซื้ออาหารริมทาง เอ๊ะ เรียกว่า บนทางรถไฟจะดีกว่าเพราะทางรถไฟสายนี้ก็ยังใช้งานอยู่ทุกวัน พอเวลารถไฟวิ่ง (กำลังเต่ามากกกกกเอื่อยสุดๆ) แม่ค้าพ่อค้า ก็เข็ญรถออกจากทางรถไฟ…พอรถไฟวิ่งผ่านก็เข็ญกลับมาที่เดิม ไม่ต้องกลัวนะคะว่าจะเกิดอุบัติเหตุ อย่างที่บอกอ่ะค่ะรถมันวิ่งช้ามากกกกก! ถึงมากที่สุด


อาหารจานโปรดราคาย่อมเยาว์ของเถี่ยลู่ถ้าเป็นมื้อเที่ยงคือ “เอ่อไขว้” ลักษณะคล้ายโรตีใส่ไข่ดาว + hotdog โรยน้ำจิ้มดำๆแต่อร่อย และราคาอยู่ที่ 4-6 หยวนเองค่ะ

ส่วนมื้อเย็นที่กินประจำเลยก็คือ ข้าวผัดไก่ใส่ไข่ และหมี่เกี๊ยว ซึ่งน้ำมันเยิ้มทั้งสองเลยค่ะเพราะอาเจ๊กเค้าชอบใส่น้ำมันเป็นกระบวยๆ เห็นแล้วจิตตก กลัวอ้วน แต่ต้องทำใจค่ะเพราะอร่อย ถูก อิ่มท้อง555

อาหารโปรด ตี้ เอก บี เบส และไอซ์ อีฟ เค้าเป็นขาประจำของ ชาวเข่าค่ะ (ไม่ใช่ชาวเขานะคะ ออกเสียงคล้ายกันเฉยๆ) เป็นของกินแบบปิ้งๆย่างๆ เราลองชิมมาแล้ว ที่โปรดปรานสุดก็จะเป็น เห็ดปิ้งค่ะ รสชาติมันๆเค็ม คงจะใส่หนักทั้งเกลือและผงชูรสอ่ะค่ะ เวลาเคี้ยวช่างกรุบกรอบ แถมราคาไม่แพงเลย ไม้ละ 1-4 หยวน 

วันไหนที่อากาศดี หรือมีเวลาว่างตรงกัน พวกเราก็แห่กันไปออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ ซึ่งแบ่งเป็น 2 ประเภทที่โปรดปรานสุดๆ นั่นก็คือ


1. เล่น วอลเล่ย์บอล ซึ่งน้องตี้ มีลูกวอลเล่ย์ ส่วนตัวค่ะ พกติดตัวมาเล่นกับเพื่อนชายเป็นประจำอยู่แล้ว อาศัยว่า เวลา Net ว่าง ก็เนียนเข้าไปยึดสนาม คราวนี้แหละ ตบกันระนาว วิ่งรับลูกกันชุลมุน 555

2. แบตมินตัน ความจริงต้องจองคอร์ดแบด ล่วงหน้า...แต่ อย่างที่ว่า กลุ่มเราไปไหน ป่วนนั่น เดินดุ่ยๆเสี่ยงโชคเข้าไปเลย 

พร้อมกับพกอาวุธ คือไม้แบด ติดตัวกันไป 2 คู่ คอร์ดไหนว่างปุ๊บ พวกเราก็เสียบปั๊บ เล่นจนกว่าเจ้าของคอร์ดจะมา (ชั่วโมงละ 10 หยวน / ถ้าพื้นดีหน่อยก็ 20 หยวน ค่ะ) ใครที่รอต่อคิว ก็เล่นไพ่ข้างสนามไปก่อน กร๊ากกก 

เหงื่อแตกพลั่กๆ กันถ้วนหน้า จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับหอ หอพักเดี๊ยน ปิดตอนเที่ยงคืน ส่วนหอพักน้องบี หมวย เอก อีฟ ไอซ์ เป็นหอในแยกตึก ชาย-หญิง (พักห้องละ 4 คน เป็นเตียงแบบ 2 ชั้น ราคาจะถูกกว่า Hostel และจ่ายค่าหอเป็นเทอมเลยค่ะ คุ้มกว่าแต่ไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเท่าไร) ปิดไวหน่อย คือ 5ทุ่มครึ่ง  

นอกจากสนามวอลเล่ย์บอล, คอร์ดแบดมินตัน (ที่บางครั้งมีเด็กนักเรียนประถมและคุณครู มาใช้สถานที่ในการเรียนกังฟู ไอ้หย๋า โชะ เชะ!!!! ย๊ากกกก!!!) แล้วทางมหาลัยยังมีสถานที่ออกกำลังกายเพิ่มเติม ซึ่งก็คือ สนามวิ่ง ห้องซ้อมเต้นรำ สระว่ายน้ำ (ปิดปรับปรุงมานมนานและไม่มีทีท่าว่าจะเปิดใช้เร็วๆนี้) และ สนามบาส 

แต่ถ้าใครชอบเล่นดนตรี ก็มีห้องซ้อมดนตรีให้เล่น น้องเจนนี่ หมอฟันน้อยๆในกลุ่มเรา  นางชอบแว๊บหายไปซ้อมเปียโน ซึ่งอยู่ใกล้ๆกับสนามบาส แต่อยู่พิกัดตรงไหนชัวร์เราก็ไม่แน่ใจเพราะไม่เคยไปกะนางซะกะที 

ทุกคนอาบน้ำวันละมื้อ คือ มื้อค่ำค่ะ เพราะน้ำอุ่นไหลตั้งแต่ 2 ทุ่ม-6 โมงเช้า เป็นการบังคับให้ประหยัดน้ำ และเป็นความโชคดีของคนที่ขี้เกียจอาบน้ำไปในตัว 555 ตอนกลางคืนอากาศจะเย็นลงอีก แค่ห่มผ้าห่มก็นอนหลับสบายแล้วค่ะ แต่ที่ไม่สบายคงจะเป็นน้องอุ้ม รูมเมทเรานั่นเอง เพราะนางบ่นว่าอีชั้นนอนกรนทุกคืนเลย หนักเบาแล้วแต่วันค่ะ เราทั้งสองจึงตกลงกันว่า ถ้าได้ยินเสียงกรน ให้ผลักตัวป้ากะเบิ๊ดทันที ไม่ต้องเกรงใจ ซึ่งก็พอจะช่วยได้บ้างค่ะ

ในช่วงแรกๆ น้องป่ันกับตังค์ ต้อนรับดีเยี่ยม เป็นธุระให้ทุกเรื่อง คอยโทรเชคตลอด เพราะด้วยความที่ทั้งสองคุ้นเคยกับถิ่นนี้ และพูดภาษาจีนได้คล่อง ทำให้เราไม่มีปัญหาใดๆเลย มาถึงจีน 2-3 วันแรกก็พาไปซื้อซิมมือถือ แบบเติมเงิน จ่ายไป 65 หยวน ใช้ยังไงก็ไม่หมดใน 1 เดือน เบอร์โทรที่จีนของเราคือ 183-1432-3905 ร้านที่ซื้อเป็นตู้กลมๆริมถนนในซอยเกาหลี หรือเรียกว่าย่าน "เหวนฮั้วเซี้ยง" รึจะเรียกง่ายๆเลยก็คือ ซอยละลายทรัพย์นั่นเอง เพราะมีร้านอาหารตลอดสาย แถมตอนกลางคืนมีสินค้าถูกๆมาแบกะดินขายแบบ ถนนคนเดินอ่ะค่ะ 


ย่านนี้เป็นสถานที่ Hang Out ของพวกเรากันทุกวี่วัน ส่วนใหญ่จะมา Shopping และ กินข้าวค่ะ ลองชิมไปเรื่อยเปื่อย

ส่วนถ้าเป็นการช็อปปิ้งซื้อของใช้ประจำวัน หรือผลไม้ ขนม นม เนย ป้ากะเบิ๊ดจะซื้อที่ร้าน Supermarket ประตูข้างมหาลัย เด็กไทยเรียกว่า ร้านเหลือง เพราะมันเป็นสีเหลือง...สิ้นคิดมาก 55555 ซึ่งติดกับหอพักอีชั้น จึงสะดวกกว่าค่ะ ถุงก็ต้องเตรียมไปเองนะคะ เค้าไม่มีให้หรอก นอกจากจะซื้อถุงผ้าเค้า ราคา 3 หยวนแน๊ะ design ก็แบบจีนแผ่นดินใหญ่จ๋าาาเลย 


สินค้าอย่างนึงที่เราชอบมาก เพราะราคาถูกได้ใจ และใช้คุ้มสุดคุ้ม คือ กระดาษทิชชู ราคาอยู่ที่ 17-28 หยวน ประมาณนั้น ได้มา 10 ม้วน ไม่มีแกนทิชชูรูโบ๋ตรงกลางให้กวนใจ พกสะดวกไปทุกที่ เพราะเข้าห้องน้ำ หรือ กินข้าวในร้านอาหาร ไม่มีให้นะจ้ะ ต้องเตรียมไปเอง แถมบางร้านก็ไม่เสริฟ ไม่ขายน้ำดื่มด้วยค่ะ ต้องพกไปเผื่อไว้ด้วยจะดีมาก


ด้วยความที่ น้องอุ้ม รูมเมท มาเรียนภาษาที่นี่เป็นเรื่องเป็นราวเพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยจีน น้องเค้าจึงมีของครบทุกอย่าง ตั้งแต่เครื่องกดน้ำร้อน เย็น กะละมัง..... ชั้นก็เลยได้อานิสงฆ์ ใช้กับน้องเค้าไปด้วย พูดถึงน้องอุ้ม นางเป็นเด็กเรียบร้อย คุณหนู ดัดฟัน และตั้งใจเรียนมากค่ะ แถมเป็นเด็กมีสัมมาคารวะ เอื้อเฟื้อมีน้ำใจ แต่พอบทจะเมาท์ก็เมาท์แหลก สนุกสนานจนพี่ห้องข้างๆต้องบอกให้พวกเราลดเสียงลงหน่อย แง๊ววว 


พวกเราแบ่งเวรกันทำความสะอาดห้อง เพราะที่นี่มีลมตลอดเวลา ฝุ่นเข้ามาเต็มไปหมดภายในเวลาไม่กี่วัน ในห้องมี TV ก็ไม่เคยเปิดกัน ปล่อยให้เป็นที่อยู่ของฝุ่นไปโดยปริยาย 


แต่ข้อดีคือ เวลาตากผ้า จะแห้งเร็วมาก! สุดๆ น้องอุ้มเลยชอบเอาผ้าที่ชุ่มหมาดๆ มาต่างไว้ริมหน้าต่างค่ะ นี่ยังดีนะ เพราะพี่จีนเค้า ตากในสวนหย่อมของมหาลัยเลย แต่ต้องนั่งเฝ้ารอมันแห้งหล่ะ จะกี่ชั่วโมงไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ ถ้าใครเผลอ หายเกลี้ยงทั้งราวจ้าาา


มหาวิทยาลัยที่เรามาเรียน เรียกชื่อเต็มๆว่า Yunnan Normal University เป็นมหาลัยที่มีขนาดเล็กกว่า Yunnan University อย่าสับสนชื่อนะคะ เพราะมันคล้ายๆกัน แถมอยู่ระแวกเดียวกันอีกต่างหาก มหาลัยอีชั้นเหมาะกับคนที่ต้องการจะมาเรียนภาษาจีนโดยเฉพาะค่ะ เพราะเค้ามีบริการ และวิชาเรียนหลากหลายระดับให้เลือก 

แต่ถ้าจะมาเรียนต่อปริญญา ก็สามารถเลือกมหาวิทยาลัยเฉพาะทางที่มีชื่อเสียงแตกต่างกันไป เพราะฉะนั้น ที่นี่เด็กอินเตอร์เลยเยอะเป็นพิเศษ ทั้งหัวเหลืองและหัวดำ เอเชียอย่างพวกเราที่เห็นเยอะหน่อยก็มี ลาว และ เกาหลี ค่ะ ก็เลยได้เพื่อนต่างชาติเพิ่มขึ้นมา ถ้าคุยภาษาจีนกันไม่รู้เรื่อง ก็เปลี่ยนมาคุยภาษาอังกฤษแทน แต่ถ้ายังเอ๋อแดกอยู่ คงต้องใช้ภาษาใบ้คุยแทน5555


นับเป็นความโชคดีของเรามากที่ได้มีโอกาสมาเรียนจีนช่วง summer จึงได้เห็นการจัดงานประเพณีสงกรานต์ของนักเรียนไทย มีแขกเหรื่อผู้หลักผู้ใหญ่จากทั้งฝ่ายจีนและไทย เป็นเกียรติมาร่วมมากมาย โดยเฉพาะท่านกงสุลไทย ประจำเมืองคุนหมิง มาเป็นประธานในการเปิดงาน 


วันนี้เป็นวันที่นักเรียนไทยทุกคนตังหน้าตั้งตารอ เพราะถือเป็นการรวมรวมตัวของคนไทย ได้รู้จักพบปะสังสรรค์กัน หนุ่มน้อย สาวใหญ่ก็ได้รู้จักกันในงานนี้แหละคร้าาา บรรยากาศ และกิจกรรมภายในงานแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ 


1. ส่วนกลางแจ้ง จัดบริเวณสนามบาส คือ ขายสินค้า อาหาร เครื่องดื่ม แบบไทยแท้ แต่ราคาแพงผิดปกติ เนื่องด้วยเป็นโอกาสพิเศษ ราคาก็เลยพิเศษตาม 555 ขอแนะนำว่ากินให้อิ่มก่อนเข้าร่วมงานนะคะ  มีการแสดงร้องรำทำเพลงบนเวที ทั้งเด็กไทย และจีน ผสมผสานกัน ซึ่งดีกรีความสนุกกำลังเริ่มขึ้น แต่ไหงฝนตกซะงั้น ตกแรงซะด้วยสิ ชั้นกะน้องอุ้มเลยขอแว๊บไปดูกิจกรรมภายในหอประชุมแทน 


2. การประกวดนางสงกรานต์ ในหอประชุมของตึกติดกับโรงอาหารชั้น 2 ใครจะเข้าร่วมงานต้องมีบัตร ซึ่งบัตรนี้สามารถขอได้กับ เหล่าซือฝ่ายธุรการ หรือ เหล่าซือประจำชั้น พลิกไปด้านหลัง เป็นแบบฟอร์มการโหวตให้คะแนนผู้เข้าประกวดตามใจชอบ


เด็กนักเรียนที่เข้าแข่งขัน บ้างก็พูดไทย ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง บ้างก็พูดจีนไม่ได้เลย เพราะเพิ่งย้ายมาอยู่จีนก็มี แต่ทุกคนที่เข้าร่วมประกวด ต้องมีเชื้อสายไทย!!!  เรานั่งสังเกตุการณ์อยู่สักพักใหญ่ๆ จึงกลับออกมาที่สนามบาสดูวงดนตรีต่อไป ก่นที่จะเดินออกมาจากตึก สวนทางกับท่านกงสุลพอดี ใช่ค่ะ ด้วยความที่บ้ากล้องเป็นทุนเดิม จึงขอถ่ายรูปร่วมกับท่านซะเลย คริๆๆ แถมท่านนึกว่าเราเป็นหนึ่งในผู้ประกวดนางสงกรานต์ด้วย 

"หนูที่ร่วมประกวดใช่มั้ยครับ อ้าวแล้วนี่จะรีบไปไหน ยังประกวดไม่เสร็จเลย" 

กรี๊ดๆๆ ที่ดีใจไม่ใช่ชั้นสวยนะยะ แต่ว่า กรูแก่เกิน 30 ปีแร้นนน ท่านยังทักนึกว่าเป็นน้องๆ ผู้เข้าประกวด ซึ่งอายุอานามอยู่ราวๆ 17-25 ปี เป็นปลื้มเลยคร้าาา 555


กลับไปที่สนามบาส ดนตรีก็ยังคงแสดงต่อเนื่ิอง ฝนยังคงตกกระปริบกระปรอย ท่าทางงานกร่อย พวกเราจึงหาความบันเทิงใจกันเอง ด้วยการเล่นปะแป้ง ไว่ไล่กันชุลมุน ทั้งๆที่แป้งที่ใช้ ระดับอาตี๋ไฮโซตี้ ใช้ โทนเนอร์พิเศษ ผสมแป้งอย่างดี รับรองไม่เป็นสิวแน่นอน  ถึงกระนั้นหน้าแต่ละคน ก็กลัวที่จะโดนแป้ง วิ่งหนีกันอุตลุต 


พองานเลิกปุ๊บ หิวปั๊บทันที หิ้วท้องกันเดินไปเถี่ยลู่ ออกหาอาหารเย็นกิน พร้อมกับหอบลูกโป่งไปด้วย...เดินผ่านหน้าโรงเรียนอนุบาล เห็นเด็กๆอาหมวยตาใสแป๋ว จ้องลูกโป่งอยู่ พวกเราก็เลยมอบลูกโป่งทั้งหมดให้เด็กๆ อิ่มบุญกันถ้วนหน้า... 


ในระหว่างที่เดินไปร้านอาหาร เอกกี้ กะตี้ เมาท์กันเรื่อง Thai Night ที่จะจัดขึ้นในบาร์คืนนี้ อืม...มันก็คงเหมือนๆกะที่อเมริกา ชัวร์ ร้องเพลง เต้น ดื่ม เมา เล่นเกมส์ แจกรางวัล... คิดยังไม่ทันจบ เสียงตามสายก็แทรกออกมาเหมือนที่เราคิดไว้เป๊ะเลย 555  

จริงๆแล้ว วันไหนก็เป็น Thai Night ได้นะ เพราะพี่ไทยเรา เฮฮาได้ตลอดทุกที่ ทุกเทศกาล แต่ที่จีนจะสบายหน่อย ไม่เคร่ง ทำอะไรก็ได้ ขนาดมีป้ายแปะว่า No Smoking ยังสูบกันปุ๋ยๆ เล๊ยยย 

เอาเป็นว่าตอนหน้า ตอนที่ 3 กะเบิ๊ดจะพาทุกคนไปตระเวน กิน ดริ๊งค์ แดร๊งค์ ดรั๊งค์ และช็อปปิิ้งกันกระจาย ในแบบที่กดตังค์เพิ่มแทบไม่ทันเลยคร้าาาาา :) 










 

Create Date : 30 กรกฎาคม 2556
5 comments
Last Update : 11 สิงหาคม 2556 18:51:54 น.
Counter : 4024 Pageviews.

 

that looks like a lot of fun ka!

 

โดย: Diana (สมาชิกหมายเลข 880437 ) 8 สิงหาคม 2556 11:54:49 น.  

 

Yep, I have had such a super wonderful time with awesome gangster ppl !!! :)

 

โดย: Kabird 11 สิงหาคม 2556 18:56:38 น.  

 

บรรยายได้สนุกสนานดีครับ

 

โดย: ยงยุทธ IP: 125.26.23.173 15 กันยายน 2556 8:40:26 น.  

 

ขอบคุณค้าา

 

โดย: kabird (Kabird ) 22 ธันวาคม 2556 11:41:15 น.  

 

รบกวนแอดwechat poobing อยากทราบข้อมูฃค่าใช้จ่ายตอนไปเรียนค่ะ

 

โดย: ปู IP: 223.24.72.147 24 กรกฎาคม 2560 3:24:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Kabird
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Friends' blogs
[Add Kabird's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.