JyHorseman
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2553
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
31 กรกฏาคม 2553
 
All Blogs
 
2010m07d24: Yon-Roi iSan with OSorTho; 03 Prasat Phnom Rung

2010m07d24:
Yon-Roi iSan with OSorTho;
03 Prasat Phnom Rung


ถนนที่เรากำลังเดินทางไปปราสาทพนมรุ้ง










Video:
คุณทิพย์ อธิบายเกี่ยวกับปราสาทพนมรุ้ง



มาถึงแล้ว ปราสาทพนมรุ้ง





ไปทางไหนดี ดูป้ายบอกทางก่อน






มองไปอีกด้านหนึ่ง จะเป็นวิวโล่งๆ กว้างเลย สวยดี





ลงมาจากรถ อาจจะมีหลายคณะลงมาพร้อมกัน
คนมากพอสมควร จะชุลมุนอยู่ครู่หนึ่ง










เดินผ่านเข้ามาจะพบรูปปั้นสิงห์ ก่อนเลย





สิงห์ (Singha)
DSC_0426
สิงห์ เป็นสัตว์ในเทพนิยายที่อาศัยอยู่เชิงเขาพระสุเมรุในป่าหิมพานต์ และเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงให้เห็นถึงขอบเขตของสวรรค์ เช่นเดียวกันกับ หงส์ และครุฑ ที่บันไดทางขึ้นของปราสาทพนมรุ้งครั้งหนึ่งเคยเป็นที่ตั้งของประติมากรรมรูปสิงห์ที่แสดงถึงการปกป้องที่บริเวณขอบเขตของสวรรค์เช่นเดียวกัน

จากนั้น ก็จะเป็นระเบียงคดชั้นนอก (Outer Gallery)





จากนั้น เราเลี้ยวซ้ายเดินตามคณะกันมา















Video:
คุณเจมส์ อธิบายเกี่ยวกับ ดอกบัว 8 ทิศช้อความ













ลายบัวแปดกลีบ
ลายเส้นแกะสลักเป็นภาพดอกบัวแปดกลีบ สันนิษฐานว่าอาจเป็นการจำลองผังของจักรวาล กลีบท้้งแปด คือ ทิศหลักสี่ทิศและทิศเฉียงสี่ทิศ หรืออาจจะถือได้ว่าตั้งแต่ดอกบัวแปดกลีบนี้ขึ้นไปสู่ศาสนาสถานอันสำคัญและศักดิ์สิทธิ์ ณ ทิศเบื้องบนนั้นมีแต่ความบริสุทธิ์ และความเป็นศิริมงคลทั้งสิ้น






พระนารายณ์บรรทมสินธุ์
... ... ...




ศิวนาฎราช (Siva Nataraja)
DSC_0356
ภาพสลักที่หน้าบันชื่อว่า "ศิ วนาฎราช" คือ พระศิวะทรงฟ้อนรำ เชื่อกันว่าการฟ้อนรำของพระองค์เป็นการสร้างและการทำลายโลกไปพร้อมกัน หากพระองค์ ฟ้อนรำด้วยท่วงทำนองทีพอดี โลกก็จะอยู่ด้วยความสงบสุข แต่หากทรงฟ้อนรำด้วยจังหวะที่ร้อนแรงก็จะทำให้โลกต้องพบกับภัยพิบัติจนถึงขั้นทำลายโลกให้พินาศลงได้ ในภาพนี้เป็นการฟ้อนรำบนเขาไกรลาส พระศิวะมีสิบกรฟ้อนรำอยู่บนแท่น เหล่าเทพที่แวดล้อมอยู่เบื้องหน้าประกอบด้วยพระคเณศ พระพรหม พระวิษณุ และหญิงหน้าตาดุร้ายทางเบื้องขวาน่าจะหมายถึงนางอุมา อีกคนหนึ่ง น่าจะหมายถึง นางกาไลกา ลัมไมยาร์ สาวกผู้ภักดี



วามนาวตาร (Vamanavatara)
DSC_0357
"วามนาวตาร" หรือ "นารายณ์ตรีวิกรม" อวตารพระวิษณุเพื่อปลดปล่อยโลกทั้งสามจากอำนาจของอสูรพลี พระวิษณุอวตารเป็นพราหมณ์ชื่อ วามน เข้าร่วมพิธีบูชายัญม้าของอสูรพลีและร่ายมนต์สะกดอสูรพลีไว้ อสูรพลีสัญญาจะให้ทุกสิ่งที่ต้องการ พราหมณ์วามนได้ขอแผ่นดินเพียงสามก้าวย่างและเนรมิตร่างกายจนใหญ่โต ก้าวย่างเพียงสามก้าวก็ได้อาณาเขตโลกทั้งสาม








อุมามเหศวรและรามายณะ ตอน วิราธลักนางสีดา
(U-ma Mahesvara nad Ramayana:
Viradha abducting Sida act)

DSC_0370
ภาพที่หน้าบันชั้นล่างชื่อว่า "อุมามเหศวร" คือรูปพระศิวะประทับนั่งเหนือโคนนทิ โอบกอดพระอุมาเอาไว้ด้วยพระหัตถ์ข้างหนึ่งถือตรีศูล ในพระหัตถ์อีกข้างหนึ่ง หน้าบันด้านบนสลักภาพเล่าเรื่องในมหากาพย์รามายณะ ตอนพระรามเดินทางมาถึงป่าทัณฑะกะอสูรชื่อ วิาธ หรือพิราฬ ก็เข้าแย่งชิงนางสีดา พระรามกับพระลักษณ์เข้าต่อสู้ และสังหารวิราธได้สำเร็จ






ปราสาทประธาน
(Principal Prasat)

DSC_0380
ปราสาทประธานมีมณฑปเชื่อมต่อด้านหน้า ส่วนสำคัญ คือ เรือนธาตุหรือห้องครรภคฤหะเป็นที่แระดิษฐานรูปเคารพสำคัญ หลังคาทำเป็นชั้นซ้อนลดหลั่นกันขึ้นไป สร้างขึ้นถวายพระศิวะเทพสูงสุดในศาสนาฮินดู ลัทธิไศวนิกาย ภาพหลักที่สำคัญเกี่ยวกับพระศิวะ ได้แก่ ศิวนาฎราชที่หน้าบันด้านหน้าและพระศิวะในฐานะเจ้าแห่งโยคีที่ทับหลังด้านหน้าของห้องครรภคฤหะ แต่ภาพสลักส่วนมากทำเป็นเรื่องเกี่ยวกับพระวิษณุเทพผู้ดูแลรักษาและบริหารโลก เช่น นารายณ์บรรทมสินธุ์ และการอวตารของพระวิษณุเพื่อปราบยุคเข็ญในโลกมนุษย์ให้เข้าสู่ภาวะปกติ ปราสาทประธานสร้างขึ้นราวปลายพุทธศตวรรษที่ 17 (ราว พ.ศ.1650 - 1700) ตรงกับศิลปะแบบนตรวัด




พระกฤษณะยกภูเขาโควรรธนะ
(Krishna Govarthana)

DSC_0383
ภาพที่หน้าบันสลักเล่าเรื่องเกี่ยวกับอวตารของพระวิษณุ ตอนกฤษณาวตาร วันหนึ่งพระกฤษณะประทับอยู่ในสวนของนันทะ ได้ทอดพระเนตรเห็นเหล่าคนเลี้ยงวัวเตรียมพิธีบูชาพระอินทร์ พระกฤษณะจึงแนะนำคนเลี้ยงวัวให้บูชาภูเขาโควรรธนะ เพราะว่าเป็นที่อยู่ที่กินจึงมีบุญคุณมากกว่าพระอินทร์ พระอินทร์พิโรธจึงบันดาลให้เกิดพายุฝนอย่างหนัก พระกฤษณะจึงได้ยกภูเขาโควรรธนะขึ้นด้วยพระหัตถ์เพียงข้างเดียวเป็นเกราะกำบังพายุฝนให้กับฝูงโคและเหล่าคนเลี้ยงโค พระอินทร์ได้รับรู้ถึงอานุภาพจึงยอมแพ้







โยคีห้าตน (Five Yogis)
DSC_0384
ภาพโยคีห้าตนที่ทับหลังชิ้นนี้เป็นภาพสลักเกี่ยวกับพระศิวะในนิกายปศุปตะซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลัทธิไศวนิกาย โยคึตนกลางน่าจะ หมายถึงพระศิวะอวตารมาเป็นนาคุลิสะผู้ก่อตั้งนิกายปศุปตะ และอาจจะหมายถึง ท่านนเรนทราทิตย์ผู้สร้างปราสาทพนมรุ้งด้วย โยคีส่วนที่เหลือคือศิษย์ทั้งสี่ในนิกายปศุปตะ










พระกฤษณะปราบช้างกุวัลยปิถะ
(Krishna Fightingg with Kuvalayapitha (The elephant)

DSC_0397
ภาพที่ทับหลังสลักตอนกฤษณาวตาร ในภาพพระกฤษณะจับสัตว์ไว้ด้วยพระหัตถ์ข้างละตัว ข้างหนึ่งเป็นช้างคงหมายถึงช้างกุวัลยกปิถะ ส่วนที่พระหัตถ์อีกข้างหนึ่งเป็นรูปสิงห์ซึ่งมีผู้สันนิษฐานว่าน่าจะหมายถึงอสูรวัตสะซึ่งแปลงเป็นวัวคอยหาโอกาสทำร้ายพระกฤษณะซึ่งเป็นเหตุการณ์อีกตอนหนึ่ง



พระกฤษณะต่อสู้กับสิงห์ (ปราบอสูรวัตสะ)
Krishna fighting with Singha (Killing Asuravatasa)

DSC_0398
พระกฤษณะต่อสู้กับสิงห์ไม่ปรากฎในคัมภีร์ของฮินดู แต่ในศิลปะเขมรนิยมสลักภาพบุคคลต่อสู้กับสิงห์อย่างมาก นักวิชาการบางท่าน สันนิษฐานว่าภาพลักษณะดังกล่าวน่าจะหมายถึงเหตุการณ์ตอนพระกฤษณะปราบอสูรวัตสะในเทวนิยายว่า มีอสูร วัตสะได้แปลงเป็นลูกวัวแผงอยู่ในฝูงวัว เพื่อหาโอกาสทำร้ายพระกฤษณะ เมื่อพระกฤษณะทราบจึงไปจับขาวัวแปลงกวัดแกว่งไปมาแล้วโยนขึ้นไปบนต้นมะขวิด (กปิตถะ) ลูกวัวแปลง ตกลงมาตายแล้วกลับสู่ร่างเดิม



ท้าวราพณ์ลักนางสีดา
Ravana (Tos Sa Kan) abducting Sida

DSC_0399
ภาพที่หน้าบันสลักเล่าเรื่องในมหากาพย์รามายณะ ตอนพระราม พระลักษมณ์ และนางสีดาได้เดินทางเข้าสู่เขตอาศรมของปัญจวดี ท้าวราพณ์อยากได้นาางสีดา จึงทำอุบายมาลักพานางสีดาไป โดยใช้ให้มารีจปลอมเป็นกวางทองเพื่อล่อนางสีดา เมื่อพระรามและพระลักษณ์ตามกวางเข้าไปในป่า ท้าวราพณ์จึงแปลงเป็นฤาษีเข้าเกี้ยวพา ได้อุ้มนางสีดาขึ้นราชรถเหาะกลับกรุงลงกา ระหว่างทางนกชฎายุเข้าขัดขวางแต่ถูกท้าวราพณ์ฆ่าตาย ก่อนจะสิ้นใจนกชฎายุได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้พระรามได้รู้






ศึกกุมภกรรณ
(Kum Bha Kan Battle)

DSC_0403
การรบที่สำคัญครั้งหนึ่งในมหากาพย์รามายณะ คือ ศึกกุมภกรรณ ที่กึ่งกลางหน้าบันชั้นล่างแห่งนี้ สลักภาพยักษ์ตัวโตซึ่งน่าจะหมายถึง กุม๓กรรณ์สู้กับลิง พระรามกับพระลักษมณ์น่าจะอยู่ทางด้านซ่ายของภาพ พระรามสังหารกุมภกรรณสำเร็จ ดังจะเห็นหัวยักษ์ลอยน้ำทางด้านขวาของภาพ



พระกฤษณะปราบนาคกาลียะ
(Krishna fighting with Kaliya)

DSC_0404
ภาพที่หน้าบันชั้นบนสลักเล่าเรื่องเกี่ยวกับอวตารของพระวิษณุ ตอนกฤษณาวตาร พระกฤษณะเป็นผู้มีพละกำลังเหนือธรรมชาติ วันหนึ่งฝูงวัวดื่มน้ำในแม่น้ำยมุนาเกิดล้มตายลงเป็นจำนวนมากเพราะว่านาคพันเศียรชื่อ "กาลียะ" ได้คายพิษลงในแม่น้ำ พระกฤษณะได้ขึ้นไปเต้นรำอยู่บนพังพานของนาค ต่อสู้กับนาคจนนาคหมดฤทธิ์




พระวิษณุทรงครุฑ และการยกทัพของพระราม
(Vihnu riding Garuda and Rama's Army)

DSC_0410
ภาพบนทัพหลังนี้ เป็นภาพพระวิศณุทรงครุฑ พระหัตถ์ข้างขวาบนของพระวิษณุทงถือจักร ภาพที่หน้าบันสลักเล่าเรื่องในมหากาพย์รามารณะ ตอนสุครีพยกไพร่พลวานรร่วมทัพไปกับพระราม ในภาพพระรามกับพระลักษมณ์ถือศรประทับอยู่บนราชยาน แวดล้อมด้วยไพร่พลวานร






ปราสาทน้อย
(Prasat Noi The Minor Prasat)

DSC_0420
ปราสาทน้อยสร้างขึ้นในศาสนาฮินดู ราวปลายพุทธศตวรรษที่ 16 ตรงกับครึ่งแรกของศิลปะแบบบาปวน แต่ไม่ทราบแน่ชัดว่า สร้างขึ้นในลัทธฺไศวนิกาย หรือ ไวษณพนิกาย องค์ปราสาทมีทางเข้าเฉพาะด้านหน้า ส่วนยอดสันนิษฐานว่าอาจจะยังสร้างไม่เสร็จ หรือมีการเคลื่อนย้ายวัสดุก่อสร้างที่พังทลายลงไปใช้ที่อื่นในครั้งอดีตที่หน้าบันด้านหน้าของปราสาทองค์นี้สลักภาพเล่าเรื่องพระกฤษณะยกภูเขาโควรรธนะ คือ อวตารปางที่แปดของพระวิษณุ

ได้เวลาพอสมควร เราก็ออกจากปราสาทพนมรุ้ง ไปทานข้าวเที่ยงกันที่โรงแรมต่อ





หลังอาหาร เดี๋ยวไปต่อกันที่ หน้าบล๊อกต่อไปนะ

ไปหมู่บ้านช้าง
บ้านตากลาง ตำบลกระโพ อำเภอท่าตูม
จังหวัดสุรินทร์

เลยนะ

ว่าแต่ว่า ตอนนี้

ที่ปราสาทหินพนมรุ้ง
อยู่ที่จังหวัดอะไร

ใครรู้ เข้ามาเม้นท์ให้หน่อยนะ





Create Date : 31 กรกฎาคม 2553
Last Update : 12 เมษายน 2554 17:17:19 น. 2 comments
Counter : 2542 Pageviews.

 

From Facebook Networking, They added any pictures about this. Let's See more, Please ?

www.Facebook.com:
รูปภาพของอนุสาร อ.ส.ท. - คาราวาน ๕๐ ปี





โดย: JyHorseman (yoadjarust ) วันที่: 5 สิงหาคม 2553 เวลา:16:29:33 น.  

 
โอ้โห! ข้อมูลเอาไปทำรายงานได้เลยนะคะ เดี๋ยวจะเก็บไว้ให้ ด.ญ.เพลงค่ะ


โดย: แม่ ด.ญ.เพลง IP: 161.200.100.2 วันที่: 6 สิงหาคม 2553 เวลา:11:03:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yoadjarust
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




:Users Online
Jy Horseman
New Comments
Friends' blogs
[Add yoadjarust's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.