Bloggang.com : กระจ้อน : วันสุดท้ายที่หลวงพระบาง ย่ำย่างวัดวิชุนฯ(ตอน 7 )

วันสุดท้ายที่หลวงพระบาง ย่ำย่างวัดวิชุนฯ(ตอน 7 )

เช้าวันนี้ ( 13 เม.ย 49 ) เราจะอยู่เที่ยวหลวงพระบางเป็นวันสุดท้าย เพราะในวันพรุ่งนี้ เราต้องเดินทางไปที่วังเวียง ค้าง 1 คืน ก่อนจะเดินทางเข้า เวียงจันทร์ และกลับประเทศไทย

ผู้อาวุโส รอคอยการตักบาตรอันเป็นกิจวัตรประจำวัน

จุตื่นตั้งแต่ ตี 4 มานั่งงมอ่านหนังสือ อยู่บันไดทางขึ้นห้องพัก ยาวนานราวว่าจะเอามันไปสอบ แต่แท้ที่จริงแล้ว หนังสือ “วัดในหลวงพระบาง” ทำให้จุติดใจจนวางไม่ลง (หลวงพี่) ต๋อง ก็เก็บงำ ไม่บอกว่า มีหนังสือเล่มนี้อยู่ แต่คงไม่ใช่หน้าที่ของเขา ที่จะบอกว่าจุว่า
“ เฮ๊ย ผมมีหนังสือเล่มนี้ อ่านเปล่า?”

พระเริ่มทะยอยบิณฑบาตร ที่วัดใหม่

ประมาณ 6 โมงเช้า เพื่อนฝูงไปกันหมดแล้ว เพราะมีโปรแกรมตักบาตรหน้าวัดพูสี จุที่ตื่นขึ้นมาอ่านหนังสือแต่เช้า เพิ่งจะอาบน้ำ สระผม เสร็จที่หลังเพื่อน และต้องเดินแกมวิ่งเพื่อให้ทันพวกเขา ตักบาตรวันนี้ ใส่กระโปรงเหมือนเคย ( ตัวนี้ ถอยออกมาใหม่ เพื่องานนี้โดยเฉพาะ) แต่พวกเราคงจะมาช้าไป เพราะเดินไม่ถึงวัดพูสี ได้แค่วัดใหม่ ฯ เท่านั้น แต่ไม่มีปัญหาที่ไหนก็ใส่บาตรข้าวเหนียวได้

สาวนุช ช่วยถ่ายภาพให้ค่ะ

เสร็จจากตักบาตรข้าวเหนียว พวกเราก็เดินลัดลี้ยวเข้าตลาดเช้ากันอีกรอบ ตลาดบางมุมมีการขายหวย มีหนังสือใบ้หวยด้วยการทำนายฝันหาเลขเด็ดเสียด้วย และเป็นไม่ได้เลย หาก หนุ่มต้นจะละเลยไปอย่างไม่สนใจ

หวยลาว....ตั้งโต๊ะขาย เหมือนหวยเมืองไทยค่ะ

ข้าวของในตลาด น่าสนใจดี อย่างข้าวแลงฟืน อาหารลาวแท้ๆ จุไม่ได้ลิ้มรส แต่รู้ว่าคงไม่ถูกปาก หรือ งบน้ำอ้อย ที่บ้านเราทำเป็นก้อนๆ แต่ของเขานี่มาเป็นแผ่นขนาดใหญ่มาก

ข้าวแลงฟืน เป็นอาหารที่นำแป้งข้าวเจ้าไปกวน มีเครื่องปรุงลาด เพื่อปรุงรสค่ะ

สังเกตุ น้ำอ้อย เป็นแผ่นใหญ่มาก

เดินมาสักพัก พี่โหนย สาวจี๊ด หนุ่มตง และสาวนุช ก็รุมล้อมซื้ออาหารเช้ากินกัน ก็ประเภทปลาส้ม ที่ในอนาคตอันใกล้มันทำร้ายเพื่อนของเรา อย่างไม่น่าให้อภัยเลย

เลือกซื้อหาอาหารเช้ากัน

สาวจี๊ด กับหนุ่มต้น เดินขึ้นฝั่งหลังจากเอาความขมขื่นไปทิ้งแม่โขงงงงง
( ปล่อยหอยขมกันค่ะ )

กลับถึงที่พัก จุเปลี่ยนเครื่องทรง เป็นกางเกงยีนส์ สะดวกและเป็นตัวของตัวเองหน่อย แม้ว่าจะทำให้ความงดงาม ( ที่พอจะมีอยู่) ลดน้อยลงก็เหอะ

ทานกาแฟ อาหารเช้า ก็พร้อมลุย.. ไปเที่ยววัดวิชุนฯ ดูพระธาตุหมากโมและวัดอาฮามกัน งานนี้ จุนำทาง ปั่นรถจักร(ยาน) ไปด้วยความรู้สึกลิงโลด ถนนสายนี้ แหละ ที่เราได้เจอชายหนุ่มผู้นั้น

ถึงวัดวิชุนฯ ประตูโขง เอกลักษณ์ของวัดลาว ดูตระหง่านอลังการดี เห็นคุณต๋อง ตั้งกล้องไว้แล้ว จุเลยไปยืนแอ็คซะยังงั้น... มันโบกมือไล่ด้วยนะ แหม นางแบบออกจะซวย เอ๊ย สวย

ประตูโขง ด้านข้างของวัดวิชุน

มุมอีกด้านของวัดวิชุน

ที่วัดวิชุนฯ นี้ จุแปลกใจที่เห็นพระ เณร วางของที่ระลึกจำหน่ายด้วย เพราะที่อื่นๆ จุไม่พบว่า มีการวางของขายแบบที่วัดนี้

แผงขายของที่ระลึก

สำหรับวัดวิชุนนั้น มีอายุกว่า 500 ปี สร้างขึ้นตามพระดำรัสของ เจ้ามหาชีวิตชุนนะราช เคยเป็นที่ ประดิษฐานของพระบาง ซึ่งถูกอัญเชิญไปไว้ในพระราชวัง หลังจากเมืองหลวงพระบางถูกพวกฮ่อเข้าทำลาย

ประตูสิม สวยมากๆ จุชอบจริงๆ เลย

ที่วัดวิชุนฯ นี้ ภายในสิมราวกับพิพิธภัณฑ์รวบรวมของเก่า มีพระพุทธรูป ข้าวของเครื่องใช้มากมาย

ต้องใช้ลูกกรงเหล็กดัด เพิ่มกลัวของหาย วิวของลูกมะหวดเลยสวยแบบแปลกๆ

ลูกกรงเหล็ก ก็ ป้องกัน ของพวกนี้ แหละค่ะ

แต่รวมคนนี้ด้วยหรือเปล่าไม่รู้นะคะ

รวมทั้งมีจารึกด้วย จุเคยถามต๋องว่า มันมีข่าวว่ามีจารึกอะไรสักอย่างที่เขาบอกว่า เก่ากว่าของพ่อขุนรามคำแหง แต่ต๋อง ไม่ได้ติดตามข่าว ส่วนน้องตง บอกว่า ผมอ่านข่าว แต่คนละที่ นั่นที่เมืองไทย ส่วนจุ...ขี้ลืมค่ะ จำได้แค่มี มีการพบจารึกที่คาดว่า เก่ากว่าของไทย

หลักศิลาจารึก ซึ่งจุไม่รู้ว่าหลักไหนที่เป็นข่าวกันอยู่

ภายหลังกลับมาแล้ว จึงได้รู้ว่า จารึกที่พบนั้น รศ.ศรีศักร วัลลิโภดม พบจากบทความคอลัมน์มรดกลาว ในนิตยสารท่องเที่ยวเมืองลาว ฉบับที่ 26 เดือนกรกฎาคม-กันยายน ค.ศ.2005 นิตยสารประจำสายการบินลาว ซึ่งบุนมี เทบสีเมือง ผู้เขียนบทความดังกล่าวว่า
*ศิลาจารึกดังกล่าวสร้างขึ้นเมื่อ ร.ศ.532 ตรงกับ ค.ศ.1713* จึงนำไปสู่คำถามที่ว่า ศิลาจารึกดังกล่าวสร้างขึ้นใน ร.ศ.532 จริงหรือไม่ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นจริง เท่ากับศิลาจารึกหลักดังกล่าวเก่ากว่าศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง 113 ปี เพื่อแสวงหาคำตอบดังกล่าว สมาคมไทย-ลาวเพื่อมิตรภาพ และคณะนักวิชาการด้านโบราณคดีไทย ได้เดินทางไปเยือนหลวงพระบางเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ไปยังวัดวิชุน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของศิลาจารึกหลักดังกล่าว “

น่าเสียดายแท้ แต่จุ ก็เก็บภาพมานะคะ แต่ไม่รู้ว่า หลักไหน

ด้านหน้าของสิม คือ พระธาตุหมากโม ที่เรียกอย่างนี้ คงเป็นรูปทรงของพระธาตุเหมือนแตงโมผ่าครึ่ง พระนางพันตินะเชียงเบด พระอัครมเหสีของพระเจ้าวิชุนราชโปรดฯ ให้สร้างขึ้นหลังจากสร้างวัดแล้ว 11 ปี

พระธาตุหมากโม

และเหมือนเคยค่ะ พระธาตุและวัดนี้ถูกจีนฮ่อบุกทำลาย รื้อค้นทรัพย์สินไปเสียมากมาย สงครามไม่ได้ให้อะไรกับเราเลย นอกจากสภาพบอบช้ำของจิตใจและเศษซากของสิ่งที่เหลืออยู่.....
น่าน เศร้ากับเขาก็เป็นนะคะ

เช้าที่เที่ยววัดวิชุนฯ อารมณ์จุยังงัยไม่รู้ อยากอยู่คนเดียวเหมือนกับที่น้องตง อยากอยู่คนเดียว อิอิ .... มันรู้สึกร้อนรุ่ม ซึ่ง พยายามจะไม่คิดว่า วัดนี้เจ้าที่แรง เพราะจุไม่ใช่สัมภเวสี นี่นะ ต้องเที่ยววัดได้สิ

หันหน้าเข้าหากันดีกว่า

ข้างวัดวิชุนฯ เป็นวัดอาฮาม แต่เดิมนั้น เคยเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชลาวก่อนที่จะเปลี่ยนไปประทับอยู่ที่วัดใหม่ ตอนนี้ เป็นวัดที่เก็บชุดแห่ของ ปู่เยอ ย่าเยอ... ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เอ่อ ไม่รู้ว่าใครเล่าประวัติ ของ ปู่เยอ ย่าเยอ ให้อ่านหรือยังคะ

วัดอาฮาม

จุไม่ได้เก็บรูปมาให้ดู อยากดู ต้อง คลิ๊กไปที่ BG คุณ ต๋อง ด้านซ้ายมือนั่นละคะ ปู่เยอ ย่าเยอ เล่าคร่าวๆ คือ บรรพบุรุษของชาวลาวนี่ละค่ะ มีสัตว์เลี้ยงเป็นสิงโต เมื่อนานมาแล้ว มีต้นไม้ใหญ่บดบังดวงอาทิตย์ ทำให้ทั้งเมืองมืดมิด ปู่เยอ กับย่าเยอ นี่แหละที่อาสาไปตัดต้นไม้นั่น เขาอธิษฐานเพียงว่า ขอให้ชื่อชาวลาวนึกถึงชื่อของเขาไปตลอด แม้ว่าต้องเสียชีวิตเพราะถูกต้นไม้ทับ หลังต้นไม้ถูกตัดชาวเมือง ก็พบกับแสงสว่างอีกครั้ง และคำว่า เยอ ก็กลายเป็นคำเรียกติดปาก ของชาวลาว คล้ายคำสร้อย ไปเยอ มาเยอ จนถึงทุกวันนี้

หนุ่มต้นดี๊ด๊า ราวเจอญาติผู้ใหญ่ที่จากกันไปนาน น่ารักดีค่ะ

เรานั่งอยู่ที่วัดวิชุนฯ และอาฮาม สักพัก 4 สหายก็ถีบรถกลับไปจองตั๋วรถตู้ ทิ้งให้จุอยู่กับชาวหนุ่ม 2 คน คือน้องตง และหนุ่มต๋อง น้องตงนั่น วันนี้ คุณน้องปลีกวิเวก ส่วน จุกับต๋องนั้น จักรยานเราล็อคคู่กัน ตอนเพื่อน ๆไปกันหมด ต๋อง เที่ยวซนที่ไหนไม่รู้ คาดว่า จะเดินถ่ายรูปภายในวัด ส่วนจุก็นั่งคุยกับรุ่นพี่ของต๋องที่ร่มไม้ รอการกลับมาของคุณท่าน แต่พวกเราก็นัดกันว่า เด๋วไปเจอกันที่วัดมะโนลม

สักพักต๋องก็เดินมาด้วยสีหน้าชาเฉย และแก้มป่องเหมือนเคย พูดคุยกันรุ่นพี่ที่ศิลปากรของเขาสักครู่ ก็เดินทางต่อไปที่วัดมะโนลม ระหว่างทางที่ถีบรถจักร(ยาน) ไปด้วยกัน ต๋องเลี้ยวขึ้นไปไหนไม่รู้ ไม่ใช่ทางไปวัดสักหน่อย จุก็ถีบตามขึ้นไป นึกในใจ “มันจะไปไหนฟ่ะ”

เรื่องของเรื่องต๋องเขานึกว่า วัด เห็นหลังคาแหลมๆ คิดว่าวัด เลยถีบรถจักร เข้ามาดู ส่วนจุนั้น ขอบอกว่า เหนื่อยค่ะ ก็รถจักรยานคุณต๋องอ่ะเปลี่ยนเกียร์ได้ ของจุ อ่ะ ต้องใช้แรงงานจากน่องล่ำๆ ล้วนๆ ฮ่วย !

ถึงวัดมะโนลม เพื่อชมพระเจ้าแขนกุ๊ด เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ที่สุดของหลวงพระบาง ถูกจีนฮ่อตัดแขนไปข้างหนึ่ง แต่เอาไปไม่ได้ เพราะกองทัพไทยยกมาช่วยทัน ประวัติ แวะอ่านที่ บล็อก น้องตง ได้เลยค่ะ

พอถึงวัดต๋องก็ทิ้งจุไปไม่ใยดี... แต่จุไม่ยอมหรอก เพราะเมื่อเท้าเหยียบย่างเข้าไปภายในสิมวัดนี้ เณรก็ปรี่เข้ามาหาจุ ถามศัพท์ภาษาปะกิต ซึ่งจุคุ้นเคยที่ไหน อะไรไม่เท่า จุดันอ่านปะกิตให้เณรฟังอย่างผิดๆ ถูกๆ ต้องเรียกต๋องเข้ามาใกล้ชิดโดยพลัน (เธอทิ้งฉันไม่ได้นะ เรื่องนี้ฉันโง่) แล้วมอบงานให้มันไปเลย

ส่วนจุ เมื่อต๋องกับเณรได้สนทนากัน จุก็ม้วนหางออกมาด้วยความอับอาย

ภาพลักษณ์ ของจุนั้น เหมือนคนเก่ง และมีความสามารถ ใครจะรู้ว่า จริงๆ แล้ว
จุโง่!

กุฎิเข้ากรรม ที่ชาวบ้านนำมาถวายวัด เห็นเขาว่างั้นนะคะ

ไม่นานเท่าไหร่ น้องตงก็เดินทางมาสมทบ พร้อมสนทนาภาษาปะกิต กับเณร ร่วมกับต๋อง ชั่วครู่ เหล่าสี่สหายที่ตามมาพร้อมเสบียงแก้กระหาย พวกนี้ ไม่มีอะไรมาก มาเพื่อถ่ายภาพกันโดยเฉพาะ และเรามีความสุขกัน เมื่อได้ถ่ายภาพกับแหล่งท่องเที่ยวที่อุตส่าห์ดั้นด้นมาจนถึง

ขบวนการเบียร์ลาว ( เขยลาว)

กลับออกมาจากวัดมะโนลม พบว่า ขวดชาเขียวหายไปอย่างไร้ร่องรอย 1ขวด รู้สึกตกใจเล็กๆ แต่นั่น ทำให้จุ คิดว่าตัวเองตัดสินใจถูกที่ล็อครถจักร(ยาน)ทุกครั้งที่จอด เพราะแม้ว่า โดยเนื้อแท้ คนหลวงพระบางจะ ใจดี และไมตรีจิต แต่ความเจริญทางวัตถุ ก็มาพร้อมกับความต่ำของจิตใจ ไม่มากก็น้อย

แวะพักชั่วครู่........ ค่อยไปชมวัดอื่นๆ กันต่อในตอนหน้านะคะ

ลิงค์ของเพื่อนต๋อง

สะบายดี หลวงพระบาง ตอน 7 น้ำตกกวางซี

สะบายดี หลวงพระบาง ตอน 6 พะทาดจอมสี

สะบายดี หลวงพระบาง ตอน 5 วัดใหม่ หอพิพิธภัณฑ์

สะบายดี หลวงพระบาง ตอน 4 ตลาดเช้า

สะบายดี หลวงพระบาง ตอน 3 ล่องโขง 6 ชั่วโมง

สะบายดี หลวงพระบาง ตอน 2 สวมเสื้อ ใส่หมวก พร้อมลุย!

สะบายดี หลวงพระบาง ...พวกเขา เพื่อนผม

ลิงค์น้องตง

Lao Trip - วันที่ 1 และ 2 - รถต่อเรือ เรือต่อรถ สู่หลวงพระบาง

Lao Trip - วันที่ 3 - ดูศิลป์วัดใหม่ฯ ไหว้พระธาตุพูสี ตาดกวางซีน้ำงาม

Lao Trip - วันที่ 4 (ตอนที่ 1) - วัดเชียงทอง : สุดยอดศิลป์แห่งล้านช้าง ประทับใจไม่รู้ลืม

Lao Trip - วันที่ 4 (ตอนที่ 2) - ตะลุยชมวัด ซัดแหนมเนืองลาว

Lao Trip - วันที่ 4 (ตอนที่ 3) - ชื่นชมวังเก่า เล่าเรื่องในวัด ลัดเลาะริมคาน

Lao Trip - วันที่ 5 (ตอนที่ 1) - เช้าวันเหงาๆ..กับวัดวิชุน

Lao Trip - วันที่ 5 (ตอนที่ 2) - วัดมะโนรม วัดทาดหลวงและ เด็กน้อยน่ารัก

ลิงค์เพื่อนนุช

นางสังขาร กับนางและนายหน้าบาน

สี่สาวสวยผู้ร่วมทริป

Create Date : 04 พฤษภาคม 2549

Last Update : 31 พฤษภาคม 2549 19:12:48 น.

47 comments

Counter : 2153 Pageviews.

ความรู้สึกใกล้กันทางใจ
สำหรับคนที่รักกันนั้น
บางทีก็ต้องมีการเติมใจให้กัน
ทุก ๆ วันสม่ำเสมอ
เพราะบางทีจากใกล้ก็อาจกลายเป็นไกลได้

รักษาระยะห่างบ้าง
เพราะบางทีใกล้กันมากเกินไป
ใกล้ตาก็อาจจะไกลใจได้
รักษาความเชื่อใจให้คงไว้
แล้วรักจะอยู่กับคุณชั่วนิรันดร์

ปล. มาเร็วดีแท้เดี๋ยวมาอ่านและคอมเม้นท์อีกทีนะ

โดย: คนเดินดินฯ

วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:11:59:58 น.

ต้องมาอาศัยเที่ยวตามบลอกแบบนี้
หลายๆวัด ไม่ได้เข้าไปเลย
เพราะตอนที่ไปหลวงพระบางคราวก่อน ก็มีแต่ทำงานๆๆ
สำรวจตามป่าตามเขา รอบนอกเขตตัวเมืองหลวงพระบาง..

โดย: กุมภีน

วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:12:22:28 น.

น่าไปเที่ยวจังเลยน้องจุ บรรยากาศดีมากๆเลยจ้ะ ไม่มีมลพิษอะนะ

โดย: อินทรีทองคำ

วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:20:30 น.

สวัสดีค่ะ สี่สาว เทียวสนุกเชียวน๊า
ยังไม่เคยไปเลยค่ะ

โดย: พลอยสีรุ้ง

วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:47:57 น.

ไปกี่วันกันคะเนี้ย ถึงตอน7 แล้วอะ

โดย: erol

วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:57:30 น.

ภาพแรกน่ารักดีค่ะ ผู้อาวุโสเข้าแถวนั่งพับเพียบเรียบร้อยเชียว

โดย: Petit Patty

วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:15:28:06 น.

อยากไปเที่ยวหลวงพระบางจัง แต่ยังไม่มีโอกาส

โดย: พนมรุ้ง12

วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:15:28:48 น.

แวะมาทักทายค่ะ

โดย: ทูน่าค่ะ

วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:16:17:41 น.

วัดที่คุณจุพาไปชมสวยมากเลยค่ะ ยังไม่เคยไปเลย ...

โดย: ตะกร้าหวายสีขาว

วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:47:39 น.

อ่านไปด้วยความสนุก ... แบบนี้มีขอให้เที่ยวต่อแล้วเขียนบล็อกเป็นอาชีพแทนได้หรือเปล่าคุณจุ ... เพราะมีทริปทีก็สนุกทีนึงค่ะ เอาแบบไปด้วยกันอีกนะค่ะ จะได้ช่วยกันเขียนแล้วเราก็จะได้อานกันเรื่อยๆ ค่ะ ...

โดย: JewNid

วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:19:15:44 น.

อยากไปมั่งจัง แต่ไม่มีเวลาเลย ขอบคุณที่แวะไปที่บล๊อคน๊า

โดย: N-Bankk

วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:19:55:13 น.

คุณคนเดินดิน ขอบคุณมากสำหรับเพลงค่ะ เพลงขี้เมานี่ เหมาะกับจุทุกบล็อกแระค่ะ

คุณกุมฯ - จุกลับอิจฉาคุณเข้น๊า

คุณพี่ปลา - จุยังคิดถึงเสมอค่ะ ประทับใจมากๆ

คุณพลอยสีรุ้ง - ถ้ามีโอกาสก็จะละทิ้งโอกาสนะคะ น่าไปมากค่ะ

คุณจ้าว -ไป 1 อาทิตย์ค่ะ

คุณPetit Patty - ภาพนั้น คุณนุชถ่ายค่ะ ขอบคุณค่ะ

คุณพนมรุ้ง 12 - เห็นชื่อคุณ แล้ว อยากไปปราสาทขอมเลยค่ะ

คุณทูน่าค่ะ - ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ

คุณตะกร้าหวายสีขาว - ขอบคุณมากค่ะ

คุณนิด - จุก็อยากเที่ยวๆๆๆ เป็นอาชีพเหมือนกันค่ะ

คุณ N-Bankk - แล้วจะแวะไปเยี่ยมเรื่อยๆ นะคะ

อ่ะ มีคนมาส่งเพลง แต่ยังไม่มีใครเสิร์ฟสุราเล๊ยยย

โดย: กระจ้อน

วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:22:17:19 น.

ต้องเรียกโคตรน้ำอ้อยมานหญ่ายจัง

โดย: ชายคา

วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:22:25:09 น.

ขบวนการ "เบยลาว"

โดย: ตงเหลงฉ่า

วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:22:45:08 น.

...วัด
..
ไม่ว่าที่ไหน
...
น่าไปทั้งนั้นเลยบครับ
มันสงบ ยังไงไม่รู้สิ

โดย: แร้ไฟ

วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:14:14 น.

คงอิ่มบุญกลับมาเลยซีนะเนี่ย

แบ่งๆ กันบ้างนะจ้ะ (น่านนน ไม่ทำแล้วยังจะมาขอส่วนแบ่งอีก)

เอาไก่ย่างมาฝากค่ะ

โดย: Malee30

วันที่: 4 พฤษภาคม 2549 เวลา:23:47:57 น.

มีที่ให้เที่ยวเยอะเลยนะครับ อยากไปอยากไป

โดย: L-twin

วันที่: 5 พฤษภาคม 2549 เวลา:0:30:27 น.

เห็นแล้วอิจฉาจังค่ะ
สี่สาวสวยหน้าตาดูมีความสุข
กับทริปนี้จริงๆ

ป้าติ๋วเองดูภาพแล้วก็เริ่มชื่นชม
ศิลปวัฒนธรรมที่งดงาม
ของบ้านพี่เมืองน้องของไทยเรา
อย่างมากตามไปด้วย

โดย: ป้าติ๋ว (nature-delight

) วันที่: 5 พฤษภาคม 2549 เวลา:5:17:38 น.

ขบวนการเบียร์ลาว

โดย: White_Cloud

วันที่: 5 พฤษภาคม 2549 เวลา:8:41:36 น.

อยากไปเที่ยวอีกครั้งเมื่อเห็นรูปถ่ายแล้ว แต่ตอนที่เราไปทำไมไม่เหมือนที่อยู่ในรูปถ่ายในนี้น้า มีแต่คนส๊วย สวย

โดย: เด็กชายพริกไทยตัวเล็ก IP: 202.93.8.147 วันที่: 5 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:01:54 น.

อู้ววว คงเป็นทริปแห่งควรามทรงจำอีกทริปนึงแน่ ๆ เลยใช่ไหมคะ

อยากไปเที่ยวแบบนี้มั่งจัง ส่วนใหญ่เพื่อน ๆ ชอบลากไปทะเล ซึ่งเรากลัวน้ำ เลยขอบายซะส่วนใหญ่

โดย: ZAZaSassY

วันที่: 5 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:44:28 น.

เมื่อวานที่บ้านฝนตกหนัก
น้ำท่วมรถติดนั่นคือเรื่องปกติ

วันนี้คือความแน่นอน
วันนี้คืออนาคตเพื่อข้างหน้า
วันนี้คือวันที่ดี ๆ ของเราอีกหนึ่งวัน
ขอให้พบกับความสำเร็จเล็ก ๆในวันนี้ครับ

โดย: คนเดินดินฯ

วันที่: 5 พฤษภาคม 2549 เวลา:11:43:06 น.

เคยเหมือนกัน ตักบาตข้าวเหนียว ฮาฮาเอิ้กส์....>

โดย: กลิ่นไอรัก (กลิ่นไอรัก

) วันที่: 5 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:39:27 น.

ได้เลยครับจุ

โดย: คนเดินดินฯ

วันที่: 5 พฤษภาคม 2549 เวลา:13:47:08 น.

บนหลังคาที่หันหน้าเข้าหากัน ดูแปลกดี
ทริปนี้ มีคนท้องเสียด้วยนะครับ ใครหน๊อออ ทานมากไปหน่อย

โดย: yyswim

วันที่: 5 พฤษภาคม 2549 เวลา:22:58:42 น.

สวยทุกสาวจริงๆครับ อิๆ

โดย: นายเบียร์

วันที่: 6 พฤษภาคม 2549 เวลา:5:21:08 น.

แม้วันเวลาจะผันผ่านไป
แต่โปรดจำไว้ว่า
เธอยังคงอยู่ในใจฉันตลอดมา
รักษาสุขภาพกายและใจให้ดี
ขอให้งานที่เธอทำนำไปสู่ความฝัน
ที่เธอหวังไว้อย่างต่อเนื่อง
ฉันจะคอยเป็นกำลังใจให้เธอเสมอ

โดย: คนเดินดินฯ

วันที่: 6 พฤษภาคม 2549 เวลา:8:41:35 น.

ขอบคุณน้องจุนะจ้า ที่ไปทักทายกันเสมออะจะ

โดย: อินทรีทองคำ

วันที่: 6 พฤษภาคม 2549 เวลา:12:39:16 น.

น้องจุอย่าไปใส่ใจเลยเรื่องไร้สาระของพวกว่างงานจัด

โดย: ชายคา

วันที่: 6 พฤษภาคม 2549 เวลา:12:43:41 น.

อ่านแล้วสนุกจังเลยค่ะจุ
อดใจไว้แป๋มเอ้ย............อย่าพึ่งอิจฉา อีก 4 วันแป๋มก็จะไปหลวงพระบางแล้ว ขอบอกๆๆๆๆๆๆ

โดย: หยิ๋งแป๋ม

วันที่: 6 พฤษภาคม 2549 เวลา:12:54:32 น.

โดย: หนูจำมัย

วันที่: 6 พฤษภาคม 2549 เวลา:17:39:10 น.

แวะมาหาคนไม่ค่อยชอบใส่กระโปรงเหมือนกันอีกรอบค่ะ

ดูไม่เป็นตัวของตัวเองไงม่ะรุ้เน๊อะ

อิอิ

"ได้เวลาจะหาแฟนคนใหม่ เศร้าจริงๆ แต่ โอเค "

โดย: พลอยสีรุ้ง

วันที่: 6 พฤษภาคม 2549 เวลา:18:29:47 น.

เข้ามาอ่านด้วยความเคยชิน....

โดย: guzupp (guzupp

) วันที่: 6 พฤษภาคม 2549 เวลา:21:13:31 น.

จะบาปไม๊เนี่ย ถ้าอยากจะบอกว่า อยากกินเจ้าห่อๆ นี้จัง...ใช่ บะจ่าง หรือเปล่าคะ

โดย: Malee30

วันที่: 7 พฤษภาคม 2549 เวลา:0:34:06 น.

กรุงเทพฟ้าครึ้มนะครับ วันนี้

โดย: yyswim

วันที่: 7 พฤษภาคม 2549 เวลา:10:33:36 น.

น่าจะไปเที่ยวนครวัดนครธมนะค่ะ เพราะว่าวันที่31 พ.ค.นี้เราก็จะไปดูหินแกะสลักใต้น้ำที่เสียมเรียบ ที่พนมกุเลน กะว่าจะไปเช้าเย็นกลับจากสุรินทร์ผ่านไปทางด่านช่องสะงำจ.ศรีษะเกษ เพราะเขาทำถนนให้ดีขึ้นหน่อยแล้ว ถ้าไปทางสุรินทร์ถนนยังไม่ได้ทำจะกระโดดไปตลอดทางแต่ก็สนุกดีได้อีกบรรยากาศ ได้ไปเที่ยวนครวัดแล้วสองครั้ง และคิดว่าถ้ามีโอกาสก็จะไปอีก สนุกดีตื่นเต้น และอลังการมาก ถ้าอยากไปติดต่อได้นะค่ะ

โดย: พนมรุ้ง12

วันที่: 7 พฤษภาคม 2549 เวลา:15:54:24 น.

รูปที่ไปเที่ยวนครวัดคราวที่แล้ว แต่เป็นเส้นทางจากสุรินทร์ เป็นครึ่งทางก่อนถึงเสียมเรียบประมาณชื่อเมืองอุดรมีชัยจะมีสะพานที่เป็นเส้นทางที่มาสู่การสร้างปราสาทต่างๆในประเทศไทย
https://www.bloggang.com/data/mungchang/picture/1142703075.jpg width='450' height='599' border=0>

โดย: พนมรุ้ง12

วันที่: 7 พฤษภาคม 2549 เวลา:16:09:31 น.

ส่งรูปผิดหรือเปล่าลองส่งใหม่นะ

โดย: พนมรุ้ง12

วันที่: 7 พฤษภาคม 2549 เวลา:16:11:34 น.

รูปไ
ม่ขึ้นเลยลองใหม่นะ

โดย: พนมรุ้ง12

วันที่: 7 พฤษภาคม 2549 เวลา:16:18:13 น.

โดย: พนมรุ้ง12

วันที่: 7 พฤษภาคม 2549 เวลา:16:23:28 น.

สะพานหินนี้มีอายุมากพอๆกับการสร้างนครวัด เพราะว่าเป็นเส้นทางสายขอม ซึ่งไม่มีใครไปดูเลยปล่อยให้รกร้าง ใกล้ๆกันก็มีปราสาทเล็กแต่ก็ไม่มีใครเข้าดูเหมือนกัน อาจจะเพราะเขมรไม่สนใจปราสาทปล่อยให้ต้นไม้คลุมไว้ ต้องดั้นด้นไปดูถึงจะได้เห็น ถ้ามาทัวร์ก็ไม่มีทางได้เห็นแต่ถ้าผ่านทางสุรินทร์จะมีโอกาสเห็นสะพานนี้

โดย: พนมรุ้ง12

วันที่: 7 พฤษภาคม 2549 เวลา:16:34:51 น.