ตั้งศาลพระภูมิและศาลเจ้าที่
เป็นความตั้งใจตั้งนานแล้วตั้งแต่ก่อนที่จะย้ายมาอยู่เชียงดาวแบบจริงจัง ว่าจะตั้งศาลเจ้าที่
ก่อนที่จะมาอยู่ที่นี่ได้ไปดูหมอดูกับเพื่อนใกล้ที่ทำงาน หมอดูมองเห็นบ้านหลังนี้สามารถพูดลักษณะบ้าน สิ่งแวดล้อมได้ตรงทั้งๆ ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน และเราเองก็ไม่เคยบอกอะไรเกี่ยวกับบ้านด้วย
หมอดูที่ชื่อว่าหมอนิดบอกว่าเจ้าที่บ้านหลังนี้เป็นบรรพบุรุษของเราในอดีต มาซื้อบ้านหลังนี้ เขาทำอะไรให้ทุกอย่างจนเราแทบไม่ต้องทำอะไร ก็จริง ทุกสิ่งทุกอย่างเจ้าของบ้านเก่าทำไว้ดีมาก หากจะทำก็คือรีโนเวทให้เป็นไปอย่างที่เราต้องการเท่านั้น หากไม่รีโนเวทก็อยู่ได้สบาย
หมอนิดแนะนำว่าให้ตั้งศาลเจ้าที่ ก็เลยอยู่ในใจตลอดเวลาว่าจะต้องทำ
พูดถึงความเชื่อ ดิฉันนี่เป็นคนที่เชื่อก็เชื่อไปอย่างนั้น ปฏิบัติอะไรก็ไม่ค่อยจะทำกับเขาหรอก การตั้งศาลเจ้าที่ก็เพียงพอแล้ว ไม่ต้องถึงศาลพระภูมิหรอก
แต่พอมีน้องที่ทำงานแนะนำให้รู้จักอาจารย์ที่ตั้งศาล อาจารย์แนะนำให้ตั้งศาลพระชัยมงคลด้วย พร้อมกับศาลเจ้าที่ พอแม่ทราบ แม่ก็ไม่เห็นด้วย กลัวเราจะไม่ปฏิบัติบูชา แล้วจะเป็นโทษในภายหลัง แต่เราอยากมีนะ คิดถึงสมัยเด็กๆ ที่บ้านก็มีศาลพระภูมิของคุณปู่
บางครั้งการทำอะไรสักอย่างที่ทำให้หวลถึงความหลังในวัยเด็กนี่มันมีความสุขนะ เหมือนกับการมาอยู่มาทำงานที่เชียงใหม่นี่ มันเหมือนย้อนเวลากลับไปสู่กรุงเทพฯ ในอดีต การใช้ชีวิตมันสบายๆ ผ่อนคลายเหมือนย้อนกลับไปในอดีตที่กรุงเทพฯ ยังไม่เร่งรีบเหมือนทุกวันนี้
คิดว่าการใช้ชีวิตที่นี่เริ่มลงตัวแล้ว ไม่ว่าการพักอาศัยในเชียงดาวหรือการทำงานในเชียงใหม่ คงไม่ย้ายกลับกรุงเทพฯ แล้วล่ะ
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาก็เลยได้ฤกษ์ตั้งศาลพระภูมิและศาลเจ้าที่เสียที
วูบแรกที่เห็นศาลผิดหวังเรื่องสีเหมือนกัน แต่อาจารย์บอกว่าเป็นสีวันเกิดของเกรย์ ก็เลยต้องทำใจ จริงๆ อยากได้สีขาวมากกว่า
การจัดการ การทำพิธีต่างๆ โดยอาจารย์ยอดรับทำให้ เราไม่ต้องทำอะไรเลย
อาจารย์สวดทำพิธียาวมากเป็นชั่วโมง ตอนเริ่มพิธีฝนทำท่าจะตก หยดลงมาสองสามแหมะ แล้วฟ้าก็สว่างด้วยแสงแดด สว่างทั้งวัน
ศาลจะอยู่ด้านซ้ายของทางเข้าบ้าน ตรงกับที่หมอนิดมองเห็นเมื่อปีที่แล้วเลย เวลาบูชาศาล เราจะหันไปทางดอยเชียงดาว เหมือนได้บูชาเทวดาอารักษ์ที่ดอยเชียงดาวด้วยเช่นกัน
ศาลพระภูมิ
หลักของการปฏิบัติบูชา อาจารย์ยอดบอกว่าไม่ต้องทุกวัน แต่ที่สำคัญคือต้องสม่ำเสมอ เช่นจะถวายผลไม้ทุกอาทิตย์ก็ต้องทุกอาทิตย์หรือเดือนละครั้งก็ต้องเดือนละครั้ง ไม่สับไปสับมา ก็ไม่น่าจะยุ่งยากนะ
ดิฉันเคยเจอนักธุรกิจฮินดูเจ้าของห้างสรรพสินค้าใหญ่ในมุมไบ ถามเขาว่า คเณศวร์ศักดิ์สิทธิ์จริงไหม เขาบอกว่าไม่รู้ รู้แต่ว่าหากเรามีความเชื่อความศรัทธาต่อสิ่งใด ไม่ว่าสิ่งนั้นจะศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ ไม่ต้องไปอยากรู้ แต่ให้มีความเชื่อความศรัทธา แล้วความเชื่อความศรัทธานั้นแหละที่จะทำให้เรามีความสุข เมื่อใจเป็นสุข ทำอะไรก็มักจะประสบความสำเร็จ มากกว่าทำเมื่อใจเป็นทุกข์
Create Date : 12 สิงหาคม 2554 |
|
15 comments |
Last Update : 12 สิงหาคม 2554 21:59:50 น. |
Counter : 13998 Pageviews. |
|
|
|