Group Blog
 
<<
มีนาคม 2556
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
17 มีนาคม 2556
 
All Blogs
 
I'm a marathon finisher (Rock ‘n’ Roll USA Marathon)

In my life, finishing a marathon was always something that I never thought possible. But today I ran the Rock N Roll DC marathon and finished at 04:21:50. I'm officially a marathon finisher. I'm so proud of myself, especially when I couldn't even run a mile 9.5 months ago.



เคยอ่านเจอในหนังสือ 100 สิ่งที่ควรทำก่อนตายว่าหนึ่งในนั้น คือ การวิ่งมาราธอน ในชีวิตฉันไม่เคยคิดว่า การวิ่งมาราธอนจะเป็นอะไรที่เป็นไปได้สำหรับฉันเลย ใครจะไปบ้าวิ่ง 42 กิโล 26.2 ไมล์ ใช้เวลาวิ่ง 4-5 ชั่วโมง แค่วิ่งห้านาทีไม่เดินเลยก็ยากจะตายอยู่แล้ว ดังนั้น ไอ้การวิ่งมาราธอนสำหรับฉันก็คงจะต้องบอกว่า ตัดไปได้เลย

แต่วันนี้ฉันตื่นมาตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง กินข้าวเช้า แต่งตัว แล้วก็เตรียมตัวไปวิ่งมาราธอนรายการ Rock ‘n’ Roll USA Marathon & CareFirst BlueCross BlueShield Rock ‘n’ Roll USA 1/2 Marathon ในดีซี ฉันรู้สึกปกติอย่างไม่น่าเชื่อ ไม่มีอาการตื่นเต้นเหมือนที่วิ่งฮาล์ฟ มาราธอนเมื่อห้าเดือนที่แล้ว เตรียมตัวเสร็จแล้วก็ออกจากบ้านกับไบรอันตอนประมาณตีห้าครึง ไปขึ้นเมโทรใกล้ ๆ บ้าน ปรากฏว่าเมโทรมีการซ่อมแซมรางรถไฟระหว่างสถานี ก็เลยได้นั่งเมโทรไปสี่ห้าสถานี แล้วก็นั่งรถบัสมาต่อเมโทรอีก กว่าจะถึงสถานที่แข่งก็ประมาณหกโมงเช้ากว่า ๆ 

พยากรณ์อากาศวันนี้บอกว่าจะมีฝนประปรายตลอดทั้งวัน ฉันกังวลมาก เพราะว่าอากาศอยู่ที่ประมาณ 5-10 องศา ถ้าหากว่าฝนตกลงมาจริง ๆ คงจะหนาวน่าดู ตอนที่ไปถึงฟ้าครึ้ม ยังไม่มีฝน ได้แต่ภาวนาขอให้ฝนไม่ตกจนกว่าฉันจะวิ่งเสร็จ  พอไปถึงปุ๊ป สิ่งแรกที่ทำก็คือ ไปเข้าแถวรอเข้าห้องน้ำ 5555 แถวก็ยาวมากกกก รอไปประมาณยี่สิบนาที เข้าห้องน้ำเสร็จก็ไปหา 4:25  pace group (คือ กลุ่มที่มีนักวิ่งนำหน้าที่จะวิ่งเข้าเสันชัยที่ 4 ชั่วโมง 25 นาที) เห็นคนยืน ๆ กันอยู่แปะป้ายที่หลัง 4:25 ก็เลยไปถามเค้าว่า pacer มาหรือยัง เค้าก็บอกว่ายังไม่เห็นเลย เราก็เลยตัดสินใจไปเข้าแถวรอเข้าห้องน้ำอีกรอบ คนเยอะเหมือนเดิม รอไปรอมา ประมาณเจ็ดโมงยี่สิบ pacer ก็มา แล้วรายการวิ่งจะเริ่มต้นตอน 7:30 ก็เลยบอกไบรอันว่า ไม่รอห้องน้ำแล้ว จะไปอยู่กับกลุ่ม เพราะว่าฉันไม่มีนาฬิกาจับเวลา มีแต่นาฬิกาข้อมือธรรมดา ฉันเลยต้องการคนที่จะช่วยบอกฉันได้ว่าฉันวิ่งเร็วเท่าไหร่ ฉันไม่อยากวิ่งเร็วเกินไปแล้วปรากฏว่าหมดแรงทีหลัง 

คนเยอะแยะมากมายทีเดียว แล้วฉันก็รู้สึกว่ายังไงก็ต้องเข้าห้องน้ำอีกครั้ง ฉันเลยเดินนำหน้ากลุ่มไปใกล้ ๆ จุดสตาร์ท (เค้าสตาร์ทกันเป็น corral พวกเราอยู่ที่ corral 18 มีนักวิ่งเข้าร่วมรายการวิ่งทั้งฮาล์ฟและฟูลรวมกันประมาณ 30,000 คน) ระหว่างรอเข้าห้องน้ำก็มัวแต่กระวนกระวายใจว่าสรุปจะได้เข้าห้องน้ำก่อนกลุ่ม Pace เริ่มต้นหรือเปล่า โชคดีที่ด้านหน้า คนรอเข้าห้องน้ำไม่เยอะมาก ฉันก็เลยได้เข้าห้องน้ำสมใจ ออกมาจากห้องน้ำรออีกแป็ปหนึ่ง ก็เจอกับกลุ่ม pacer สักประมาณ 5 นาทีหลังออกจากห้องน้ำ พวกเราก็วิ่งข้ามจุดสตาร์ท นาฬิกาข้อมือฉันบอกเวลา 8:04 (ไม่มีบอกวินาทีอีก อนาถจริง ๆ )

อยากจะบอกว่าวิ่งไป ๆ จำอะไรไม่ค่อยได้สักเท่าไหร่ ได้แต่วิ่งไป ๆ ๆ ฟังเพลงจากไอพอดไป ช่วง 2-3 ไมล์แรกก็พยายามจะวิ่งอยู่ใกล้ ๆ pacer แต่คนเยอะมาก ฉันก็เลยวิ่งนำหน้าไป เออ วิ่งสบายขึ้นแฮะ ตอนที่ผ่านป้ายบอกหลักไมล์แรก ๆ ดูนาฬิกาแล้ว ปรากฏว่าเหมือน pacer จะวิ่งเร็วกว่า pace ที่เค้าควรจะวิ่ง เพราะถ้าหากว่าจะวิ่งถึงเส้นชัยที่เวลา 4 ชม 25 นาที pace จะอยู่ที่ 10.06 นาที/ไมล์ แต่ทุกครั้งที่ก้มลงมองนาฬิกาตอนข้ามป้ายบอกไมล์ นาฬิกาจะบอกเวลาที่ลงท้ายด้วย 3 ตลอด เช่น วิ่งสามไมล์ จริง ๆ เวลาควรที่จะเป็นประมาณ 8:34 - 8:35 แต่มันโชว์เวลา 8:33 แทน ฉันเลยถามผู้หญิงคนข้าง ๆ ฉันที่มีนาฬิกา Garmin ว่าตอนนี้วิ่งเร็วเท่าไร เค้าบอกฉันว่า pace โชว์ที่ 9:30 ฉันเลยถาม pacer ว่า เราวิ่งเร็วเกินหรือเปล่า เค้าก็เลยบอกว่า ตอนครึ่งหลังจะวิ่งช้าลง

คนเยอะมาก ๆ ตลอดช่วงครึ่งแรก เพราะว่าฮาล์ฟกับฟูลวิ่งคอร์สเดียวกันไปจนถึงประมาณไมล์ 12 ฉันวิ่ง ๆ ไปจนถึงประมาณไมล์ 4-5  ก็เริ่มแกะ Gu gel เข้าปาก ตั้งใจว่าจะกิน Gu gel ทุก ๆ 5-6 ไมล์ เผื่อให้แน่ใจว่าฉันจะมีแรงจนกว่าจะถึงเส้นชัย ประมาณไมล์ 7-8 ฝนตกลงมาสองสามเม็ดแล้วก็หยุดไป ฉันก็วิ่ง ๆ ไปเรื่อย ๆ แอบมีน้ำตาคลอเป็นจุด ๆ ตอนที่วิ่งๆ แล้วรู้สึกว่า เฮ้ย นี่ฉันกำลังวิ่งมาราธอนจริง ๆ เหรอเนี่ย ไม่อยากจะเชื่อ คนที่ไม่เคยวิ่งมาก่อนอย่างฉันเนี่ยอ่ะนะ

วิ่งไปจนถึงไมล์ 12 ก็ถึงจุดแยกระหว่างฮาล์ฟกับฟูล คนบางตาลงเยอะ (มารู้ทีหลังว่าคนวิ่งฮาล์ฟประมาณสองหมื่น แล้วก็คนวิ่งฟูลแค่สามพันห้า) ฉันก็ยังวิ่งของฉันไปเรื่อย ๆ พยายามอยู่หน้า pacer แต่บางทีเค้าก็ตามมาทัน ในหัวฉันตอนที่วิ่งคิดแต่ว่า วิ่งไปให้ถึงไมล์ 20 เพราะว่าไบรอันจะรอวิ่งกับฉันจนถึงเส้นชัย ช่วงครึ่งหลังฉันหยุดแวะกินน้ำทุก ๆ จุดให้น้ำเลย แล้วก็กิน gu gel ทุก ๆ 4-5 ไมล์ วิ่งไปจนถึงไมล์ 19 ก็เห็นไบรอันรออยู่หลังจากฉันลงจากสะพาน ฉันยิ้มกว้าง ดีใจมาก ไบรอันชี้ ๆ บอกให้ฉันวิ่งรอบสวนแล้วก็มาเจอกันที่ไมล์ 20 ฉันแอบเร่งฝีเท้าขี้นหน่อยหนึ่ง อยากมีเพื่อนวิ่งเร็ว ๆ จนพอไบรอันมาวิ่งกับฉัน ฉันก็ให้หมวก แล้วก็โทรศัพท์กับไบรอัน ให้ไบรอันช่วยถือ แล้วฉันก็วิ่งไปเรื่อย ๆ จนถึงประมาณไมล์ 23 ที่ฉันโดนกลุ่ม pacer ไล่ตามทันอีก ฉันมองนาฬิกาแล้วคิดว่า ฉันว่าฉันวิ่งเร็วกว่า 10.06 pace นะ ฉันเลยถามเค้าว่า นี่เราวิ่งเร็วขนาดไหนเหรอ เค้าดู Garmin แล้วบอกฉันว่า ถ้าวิ่งเพซนี้ จะเข้าเส้นชัยที่ 4:22 เร็วกว่าที่เค้าควรจะวิ่งตั้ง 3 นาทีแน่ะ ฉันก็วิ่งของฉันไปเรื่อย ๆ พยายามอยู่หน้า pacer เหมือนเดิม

พอถึงไมล์ 23.5 ฉันเริ่มวิ่งช้าลง เพราะว่ามีเนินเขาติด ๆ กัน 3-4 เนิน ไบรอันพยายามบอกให้ฉันวิ่งเร็วขี้น วิ่งขึ้นๆ ลง ๆ เนินจนถึงประมาณไมล์ 25 ฉันรู้สึกว่าเท้าซ้ายฉันเริ่มจะเป็นตะคริว ได้แต่หวังว่าตะคริวจะไม่ไต่ขึ้นมาบนขา  พอถึงไมล์ 25.5 กลุ่ม pacer แซงหน้าฉันไป ไบรอันบอกให้ฉันเร่งเครื่องแซงกลับ แต่จุดนั้นฉันไม่ไหวจริงๆ  อารมณ์อยากเดินมากกกก แต่ยังแข็งใจวิ่งต่อไป เริ่มมองเห็นเส้นชัย ไบรอันก็ตะโกนบอกให้ฉันวิ่งเร็วขี้น ๆ ๆ ฉันได้แต่ส่ายหน้า บอกไม่ไหวจริง ๆ แล้วก็พยายามวิ่ง ทั้ง ๆ ที่อยากเดินแทบขาดใจ คนเชียร์มากมายตรงจุดที่ใกล้ ๆ เส้นชัย ประมาณ 0.1 ไมล์ก่อนถึงเส้นชัย ฉันรวบรวมกำลังสุดท้าย สปีดเข้าเสันชัยช้ากว่า pacer (ซึ่งเหลือแค่คนวิ่งนำสองคน ส่วนคนตามหายหมด ฉันคิดว่าคงไม่มีใครตามเค้าทัน) ไปประมาณ 5-10 วินาที ฉันเลยเข้าไปถามเค้าว่า เวลาเข้าเส้นชัยเท่าไหร่ เค้าบอกว่า 4:21:xx ฉันดีใจมากกก ไม่อยากจะเชื่อว่าฉันจะวิ่งมาราธอนได้เร็วขนาดนั้น  หลังเข้าเสันชัยไปสองสามนาที ฉันนั่งแล้วก็ยืดแข้งยืดขา แล้วพอจะลุกขึ้นเดินอีกครั้งก็เป็นตะคริวที่ขาซ้ายจริง ๆ อย่างที่คิดไว้ โชคดีที่มาเป็นหลังเข้าเส้นชัยแล้ว

เห็นหลาย ๆ คนโพสต์ระยะทางวิ่งที่เค้าได้จาก Garmin ปรากฏว่าระยะทางไกลกว่า 26.2 พอสมควรที่ได้ บางคนได้ 26.6-26.8 ฉันคิดว่าระยะทางวิ่งจริงคงมากกว่า 26.2 ไมล์ ฉันควรจะภูมิใจตัวฉันเองนะเนี่ยที่วิ่งไกลกว่าระยะทางมาราธอน 26.2 ซะอีก

วันที่ฉันวิ่งเข้าเส้นชัยฮาล์ฟ ฉันรู้สึกว่าการที่จะพิชิตมาราธอนมันช่างยากเหลือเกิน ฉันวิ่ง 13.1ไมล์ แล้วรู้สึกเหมือนจะตาย จะให้วิ่งต่ออีก13.1 ไมล์เนี่ยจะเป็นไปได้ยังไง แต่พอเริ่มเทรนก็คิดว่า ถ้าหากว่าฉันเข้าเส้นชัยมาราธอนที่เวลาต่ำกว่าห้าชั่วโมงครึ่ง ฉันจะดีใจมาก แต่พอเริ่มเทรนไปได้สักสองเดือนก็คิดว่า ถ้าเข้าเส้นชัยที่ต่ำกว่าห้าชั่วโมง ฉันจะดีใจมาก แต่พอเทรนผ่านไปอีกประมาณสามสี่เดือน ฉันก็คิดว่า ฉันอาจจะทำได้ที่ 4:40 แล้วพอฉันเห็น Pacer ที่ 4:25 ฉันก็คิดว่า เอาวะ ลองดู เผื่อจะทำได้ แต่แค่วิ่งได้ที่ต่ำกว่า สี่ชั่วโมงครึ่งฉันก็คงจะดีใจมากแล้ว พอมาวิ่งจริง ๆ แล้วเวลาออกมาที่ 4:21:50 ฉันดีใจมาก ๆ ที่มาราธอนครั้งแรกฉันทำเวลาได้เกินความคาดหมายมาก ๆ :)

Split from Rock N Roll website
  • 5K - 30:34
  • 10 K- 1:02:31
  • 10 M - 1:39:55
  • half - 2:10:45
  • 20 M - 3:19:12
  • Finish - 04:21:50
ฉันไม่มีรูปจากรายการวิ่งมากกว่านี้ เพราะว่ากล้องถ่ายรูปที่เอาไปด้วย ไบรอันบอกว่าถ่านหมดตั้งแต่จุดสตาร์ทแล้ว ฉันเลยไม่มีรูปมาอวดเลยสำหรับรายการวิ่งรายการใหญ่อันนี้

คิดกลับไปเมื่อเก้าเดือนครึ่งที่แล้ว ฉันวิ่งไม่ได้แม้แต่ไมล์เดียว วันนี้ฉันพิชิตมาราธอนได้แล้ว ร่างกายคนเรานี่ช่างน่าประทับใจจริง ๆ อย่าคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้จนกว่าจะได้ลงมือทำด้วยตัวเอง ถ้าฉันทำได้ ฉันคิดว่าใคร ๆ ก็ทำได้เช่นกัน มันขึ้นอยู่กับว่า คุณตั้งใจที่จะทำมันหรือเปล่า 



Create Date : 17 มีนาคม 2556
Last Update : 15 มิถุนายน 2556 21:11:03 น. 0 comments
Counter : 1000 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

แมวเหมียวลาย ๆ สบาย ๆ อ้วนพี
Location :
Maryland United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




อยากเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับสถานที่ที่เราได้ไปเยี่ยมเยียนมา แต่ตัวขี้เกียจยังคงเข้าสิงอยู่ เฮ้ออออ....
Friends' blogs
[Add แมวเหมียวลาย ๆ สบาย ๆ อ้วนพี's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.