San Antonio อยู่ห่างจาก Houston ประมาณ 3 ชั่วโมง เหมือนกรุงเทพ-โคราชประมาณนั้น 2 ข้างทางก็เป็นทุ่งกว้างเลี้ยงวัว ทำเกษตรกรรมกันเยอะ ลมแรงมาก จะเห็นดอกหญ้าสีม่วง สีเหลืองลู่ตามลม เรียกว่าชมวิวกันไปเรื่อยๆ เราออกจากบ้านกันก็เกือบเที่ยงแล้วและก็ไปแวะเดินเล่นที่ San Macros Outlet ก่อน พอไปถึงปรากฎว่า The Alamo หรือป้อมอลาโม ที่ตั้งใจจะไปดูให้ได้ ปิดแล้ว ก็เลยได้แต่ถ่ายรูปข้างนอกกัน

มองเห็นอลาโมกันรึเปล่าเอ่ย

ตอนที่ดูรูปจาก net แล้วก็อ่าน travel guide มา จินตนาการไว้ว่าป้อมอลาโมน่าจะใหญ่กว่านี้ อาจจะเป็นเพราะมีตึกใหม่มาสร้างอยู่ไม่ไกล เวลาดูแล้วทำให้ป้อมอลาโมเตี้ยไปหน่อย

อาทิตย์ถัดมาก็ขับรถไปกันใหม่ คราวนี้ได้เข้าไปข้างในป้อมแล้วจ้ะ ในตัวตึก เค้าไม่อนุญาติให้ถ่ายรูป ก็จะถ่ายรูปได้ตามสวนด้านข้าง ต้นไม้ข้างในสวยๆ ทั้งนั้น ใหญ่มาก

ป้อมอลาโมเดิมชื่อ Misión San Antonio de Valero สร้างประมาณปี 1740 เป็นสำนักมิสชันนารี San Antonio และ the Alamo มีบทบาทที่สำคัญมากในช่วง Texas Revolution

วันที่ 23 กุมภา 1836 กองทหารแม็กซิกันซึ่งนำทัพโดยนายพล ซานตา อันนา (General Antonio López de Santa Anna) มาถึง San Antonio ชาว Texian และ Tejano ก็ช่วยกันปกป้องอลาโม เพราะอลาโมเป็นจุดสำคัญที่จะปกป้อง Texas ไว้ ผู้ที่ช่วยกันนำทีมอาสาสมัครปกป้องอลาโมก็จะมี William B. Travis, Jim Bowie และ David Crockett ก่อนถึงรุ่งอรุณของ วันที่ 6 มีนา 1836 กองทหารแม็กซิกันเข้าประชิดกำแพงอลาโม ปืนใหญ่และปืนต่างๆ ยิงออกมาจากอลาโมเพื่อตรึงไม่ให้กองทหารแม็กซิกันบุกเข้ามา แต่สุดท้ายอลาโมก็พ่ายแพ้ แต่การรบครั้งนี้เป็นแรงบันดาลใจชาวเท็กซัสทั้งหลายให้ร่วมมือกันลุกขึ้นต่อสู้เพื่อเอกราชจากเม็กซิโก — a place where men made the ultimate sacrifice for freedom ประมาณนั้น (แปลแล้วไม่ซึ้งเลยก๊อบมาเลยดีกว่า)

จะมีทางเดินลงมาเดินริมแม่น้ำตลอดถนนรอบๆ นี้ เราก็เดินขึ้นฝั่งนึง ลงอีกจุดนึงเดินวนไปวนมา รอบๆ River Walk จะมีแต่ร้านอาหาร ห้าง แล้วก็โรงแรม อาหารส่วนใหญ่ก็เป็นอาหารแมกซิกัน