Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2548
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
13 กุมภาพันธ์ 2548
 
All Blogs
 

© ถ้อยคำ/ สาระ/ ภาพ/ ตามทางเดิน ภาค 1 - 6


กลางหมู่เมฆ

หลังจากที่สำรวจซอกมุมต่างๆ ภายในโรงแรมและร้านค้าต่างๆ ที่อยู่ในโรงแรมจนเหนื่อยแล้ว เราจึงออกมาชมกับบรรยากาศภายนอกบ้าง

อากาศภายนอกของโรงแรมเย็นสบายแม้ว่าจะมีแสงแดดยามบ่ายที่สาดแสงแรงกล้าก็ตาม ประกอบกับในบางช่วงเวลาจะมีกลุ่มเมฆลอยมาปกคลุมจนทั่วบริเวณทำให้รอบตัวเราเต็มไปด้วยละอองไอน้ำสีขาวที่แสนจะเย็นสบาย ซึ่งสร้างความตื่นตาและตื่นเต้นให้กับเราเป็นอย่างมาก

เมื่อมองลงไปในแนวเขาเบื้องล่างที่เคยเป็นแนวพาดผ่านของแนวกระเช้าลอยฟ้าที่ยาวสุดลูกหูลูกตา และเป็นพาหนะที่พาเราขึ้นมายังเก็นติ้งแห่งนี้ บัดนี้เราไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลยนอกจากสีขาวของกลุ่มเมฆที่กำลังเคลื่อนที่ผ่านยอดเขาแห่งนี้ตามสายลมที่พัดโชยมาอย่างต่อเนื่อง

เราใช้เวลาชื่นชมกับทิวเขาที่ถูกปกคลุมด้วยกลุ่มเมฆอยู่เป็นเวลานาน เพราะรู้ว่าคงมีไม่ บ่อยครั้งนักที่เราจะได้เข้ามายืนอยู่บนก้อนเมฆสีขาวที่ปกติแล้วเราทำได้เพียงแต่แหงนหน้ามองดู จากพื้นดินในขณะที่มันลอยผ่านไปในท้องฟ้าสีครามเท่านั้น





แล้วก็ถึงเวลาที่เราจะต้องนั่งกระเช้าลอยฟ้าผ่านกลุ่มเมฆลงจากเมือง ในกลุ่มเมฆลงไปสู่โลกเบื้องล่างเพราะเราจองตั๋วรถบัสกลับไป KL.เวลา 4 โมงครึ่ง เพราะในคืนนี้เรามี แผนการที่จะไปชมวิวของเมือง KL.จากมุมสูงแบบ 360 องศา ที่ KL TOWER

CD /สะเต๊
รถบัสที่เรานั่งใช้เวลาพอสมควรกับการฝ่าการจราจรที่ติดขัดใน KL.เนื่องจากเป็นช่วงเวลาเลิกงานพอดี เราลงรถที่หน้าที่พักพอดีก็เป็นเวลาเกือบ 6 โมงเย็น จากนั้นเราก็รีบจัดแจงเตรียมตัวสำหรับการไป KL TOWER ทันทีโดยการเตรียมขาตั้งกล้องเพื่อที่จะใช้ในการบันทึกบรรยากาศยามค่ำคืนของเมือง KL.

นอกจากนั้นเรายังต้องไปยังร้านถ่ายรูปเพื่อที่จะ WRITE CD รูปภาพจากการเดินทางที่ผ่านมาทั้ง 3 วัน เสียก่อนเพราะการ์ดที่เตรียมมาถึง 256 + 128 MB มันเต็มตั้งแต่อยู่บนเก็นติ้งแล้ว

เราเดินหาร้านถ่ายรูปในย่านไชน่าทาวน์เจอร้านแรกสอบถามแล้วปรากฏว่าคิดค่าบริการตั้ง 30 RM แถมยังได้พรุ่งนี้อีกต่างหาก เราจึงเดินเลยไปอีกหน่อยจนพบอีกร้านที่คิดราคาเพียง 10 RM แถมยังทำให้เสร็จใน 10 นาที จึงตกลงเลือกร้านนี้แต่เมื่อกลับมาถึงกรุงเทพปรากฏว่ามี virus แอบอยู่ในแผ่นด้วย......อันตรายจริงๆ

มื้อเย็นของวันนี้เราได้ลิ้มลองสะเต๊ะต้นตำหรับของมาเลย์ ซึ่งเป็นสะเต๊ะเนื้อกับสะเต๊ะไก่ ไม่มีหมูเพราะว่าเป็นร้านแขก สะเต๊ะที่นี่ไม้ใหญ่พอๆ กับหมูปิ้งบ้านเราและน้ำจิ้มก็เข้มข้นกว่าโดยเสิร์ฟมาพร้อมแตงกวาสดไม่มีน้ำอาจาดเปรี้ยวๆ หวานๆ เหมือนบ้านเรา ส่วนเรื่องรสชาดไม่ต้องพูดถึงเพราะ อาหย่อยมาก..........




KL TOWER
หลังจากที่เตรียมตัวพร้อมอุปกรณ์และเรี่ยวแรงแล้ว เราจึงเริ่มต้นเดินทางไป KL TOWER ทันทีโดยเราจะต้องนั่งรถไฟฟ้าไปที่สถานี Bukit Nanas แล้วต้องเดินต่ออีกประมาณ 20 นาที จึงจะไปถึง KL TOWER ได้

บริเวณรอบ KL TOWER ถูกจัดเป็นสวนอย่างสวยงามมีพนักงานต้อนรับจำนวนมาก เราคาดว่าคืนนี้คงจะมีงานอะไรสักอย่างบนห้องอาหารที่อยู่บนยอด KL TOWER เพราะมีชาวมาเลย์ที่คาดว่าน่าจะเป็นประเภทไฮโซ มารวมตัวกันอย่างคับคั่ง

ค่าบัตรเข้าชมทิวทัศน์บนยอด KL TOWER สำหรับนักท่องเที่ยวอยู่ที่ราคา 15 RM ต่อคน KL TOWER จะเปิดให้เข้าชมจนถึงเวลา 4 ทุ่ม โดยมีความสูงถึง 421 m และบริเวณยอดยังมีห้องอาหาร สถานีส่งสัญญาณวิทยุ โทรทัศน์ และที่ชมวิวที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ของเมืองได้โดยรอบ 360 องศา



เราขึ้นลิฟท์ที่ความเร็วสูงไปถึงชั้นที่จัดเอาไว้สำหรับชมวิว เมื่อออกจากลิฟท์ก็มีพนักงานมาต้อนรับและให้ชุดหูฟังเพื่อฟังคำบรรยายถึงข้อมูลและประวัติของแต่ละสถานที่ที่สำคัญต่างๆ ที่สามารถมองเห็นจากมุมต่างๆ รอบหอคอย ที่สำคัญคือมีเสียงบรรยายเป็นภาษาไทยให้ฟังด้วยไม่อย่างนั้นคงจะไม่รู้เรื่องแน่ๆ

เมื่อมองออกไปยัง ตัวเมือง KL. ที่ปรากฏเป็นแสงไฟระยิบระยับจากท้องถนนและอาคารต่างๆ เราสามารถมองสถานที่ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นตึกรัฐสภา,พระราชวังของสุลต่านของประเทศมาเลย์ รวมถึงที่พักของเรา และที่เห็นจะพลาดไม่ได้แถมยังดูโดดเด่นที่สุดคือ ตึก Twin Tower ที่เราได้ไปชมมาเมื่อคืนวานนั่นเอง ตึกและถนนเบื้องล่างล้วนแต่ดูเล็กเหมือนกำลังมองดูเมืองจำลองที่ประดับไปด้วยแสงไฟดวงน้อยจำนวนนับล้านๆ ดวงจนเป็นแผ่นผืนแห่งแสงสีที่ทอดตัวกว้างไกลออกไปจนสุดสายตา






หลังจากที่ชื่นชมและถ่ายรูปทิวทัศน์ยามค่ำคืนของ KL.จนพอใจแล้วเราก็กลับมายังที่ พัก และระหว่างที่กำลังเดินอยู่ในย่านไชน่าทาวน์นั่นเองเราก็ได้พบกับรถเข็นขายข้างถนนมีคนกำลังต่อคิวซื้ออยู่ 4 – 5 คน

ด้วยความอยากรู้อยากเห็นเราจึงแอบเข้าไปสำรวจดูปรากฏว่าเป็นร้านขายแฮมเบอร์เกอร์ใส่ไข่ คงเป็นด้วยกลิ่นและหน้าตาของแฮมเบอร์เกอร์ที่กำลังทอดอยู่บนกระทะนั้นน่ากินมากเราจึงได้แฮมเบอร์เกอร์ใส่ไข่ติดมือกลับที่พักไปเป็นอาหารก่อนนอนคนละ 1 อัน แฮมเบอร์เกอร์ที่นี่รสชาดจะค่อนข้างออกไปทางอาหารพื้นเมืองแบบแขกๆ นิดๆ แต่ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่าอร่อย....






ก่อนนอนในคืนนี้ผมเจอเรื่องน่าประทับใจอีกเรื่อง ก็คือระหว่างที่กำลังอาบน้ำอยู่ผมก็ได้ยินเสียงดัง ตูม ! คล้ายกับเสียงระเบิดดังติดต่อกัน 4 – 5 ครั้ง ด้วยความสงสัยว่าจะเป็นการก่อการร้ายหรือเปล่า จึงมองออกไปด้านนอกผ่านช่องบานเกล็ดในห้องน้ำปรากฏว่าจากหน้าต่างในห้องน้ำนั้นสามารถมองไปเห็นตึก KL TOWER ได้อย่างชัดเจน และเสียงระเบิดที่ได้ยินนั้นก็คือเสียงจากการจุดพลุดอกไม้ไฟจาก KL TOWER นั่นเอง

ไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันพิเศษหรือมีงานเทศกาลอะไรของมาเลเซีย จึงได้มีการจุดพลุดอกไม้ไฟ แต่ที่แน่ๆ คืนนี้ผมได้อาบน้ำในห้องน้ำที่สามารถมองเห็น KL TOWER และได้ชื่นชมกับดอกไม้ไฟที่ช่วยเพิ่มเติมสีสันที่สวยงามให้กับท้องฟ้าในค่ำคืนสุดท้ายที่อยู่ใน KL.




 

Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2548
14 comments
Last Update : 26 เมษายน 2548 2:41:11 น.
Counter : 906 Pageviews.

 

หิวเลยครับ สะเต๊ะไก่

 

โดย: ravi 13 กุมภาพันธ์ 2548 11:29:20 น.  

 

ไม่เคยคิดอยากไป มาเลย์ และสิงคโปร์ มาก่อน...
แต่พอ....อ่านแล้วอยากตามรอยไปบ้างจังค่ะ....
ดูเหมือน....มีอะไรๆ ที่น่าสนใจ ที่เราเองคิดไม่ถึง ไม่น้อย
ขอขอบคุณ ที่นำเรื่องและภาพดีๆ เหล่านี้ มาให้ชมค่ะ
รอ...ติดตาม สิงคโปร์

 

โดย: elle.bkk IP: 203.150.217.117 16 กุมภาพันธ์ 2548 9:37:59 น.  

 

รอติดตามสิงคโปร์ต่อค่ะ เห็นด้วยกับคุณ elle นะคะที่ว่าไม่เคยอยากไปมาเลย์เลย แต่อ่านแล้วรู้สึกว่ามีที่เที่ยวน่าสนใจเยอะเหมือนกันนะคะ แล้วก็อย่าลืมสิงคโปร์นะคะ เพราะว่ากะจะไปเหมือนกันก็หาข้อมูลไว้แต่คิดว่าได้เพิ่มอีกก็ดีค่ะ

 

โดย: IP: 61.91.247.246 16 กุมภาพันธ์ 2548 20:08:17 น.  

 

อาหารการกินที่นั่นน่าหม่ำจิงๆ นะเนี่ยย .. เหงรูปแย้วหิวเลยคับ ..

 

โดย: เด็กชายหัวหอม 17 กุมภาพันธ์ 2548 0:56:25 น.  

 

"เยี่ยมมากครับ ติดตามอ่านทุกตอน
สำนวนภาษาที่ใช้ ผสมลีลาในการเขียน
ทำให้ที่ที่ไม่เคยคิดจะไป ดูน่าสนใจขึ้นมาทันที
ไม่ได้อินไปกับสถานที่
แต่สนใจในมุมมองของผู้เขียน
ทำให้อยากรู้ว่าเกิดอะไรกับพวกเขาบ้าง
ระหว่างทางเดิน.."

 

โดย: miragery (miragery ) 17 กุมภาพันธ์ 2548 12:10:00 น.  

 

ขอบคุณทุก comment นะครับ

สำหรับใครที่ตามอ่านอยู่ก็อดใจรอนิดนึงครับ...ตอนนี้นายกฤษณ์กำลังปรับปรุงต้นฉบับอยู่ครับ..เสร็จเมื่อไรผมจะรีบนำเอามาลงทันที่ ครับ ^_^

 

โดย: อ้น (Onter ) 17 กุมภาพันธ์ 2548 15:37:05 น.  

 

เราเคยไปสิงคโปร์แต่ไปกะบ.ทัวร์ไปเครื่องวาลูแอร์ เราอยากเที่ยวแบบนี้บ้าง แต่คงอีกนานกว่าจะได้ไปอีกเก็บตังค์ก่อน เราอยากเที่ยวแบบสบายๆแบบนี้บ้างไม่ใช่บีบเวลา เราอยากกินของข้างทาง เดินตลาด และกินร้านอาหารพื้นเมือง เราไปสิงคโปร์กับทัวร์เหมือนไม่ได้ไปเพราะไม่ได้เดินตลาดของเขาเลย

 

โดย: lee IP: 203.150.217.120 19 กุมภาพันธ์ 2548 22:55:31 น.  

 

ลองอ่านดูทุก ๆ ตอนแล้วนะค่ะ เป็นการเขียนบนความที่ดีมากค่ะ มีมุกตลกอ่านแล้วทำให้เกิดความรู้สึกอารมณ์ดี แล้วก็อยากไปแบบนั้นบ้างจัง ยังงัยฝากความคิดถึงคุณหนุย (คนซื้อข้าวหมูกระเทียมด้วยนะค่ะ)

 

โดย: อ๋อม IP: 61.91.33.38 25 กุมภาพันธ์ 2548 14:19:19 น.  

 

ขอบคุณภาพสวยๆ เพลงเพราะๆๆ

 

โดย: แบ่งกันเซ็ง 2 มีนาคม 2548 23:55:17 น.  

 

ภาพสวย เรื่องน่าสนใจ เพลงเพราะ..เพอร์เฟ็คจริง ๆ บล๊อกนี้

 

โดย: B.F.Pinkerton 4 มีนาคม 2548 7:55:53 น.  

 

แล้วสิงคโปร์ล่ะ หายไปเลยอยากอ่านต่อ...

 

โดย: BHU IP: 61.90.52.144 4 มีนาคม 2548 17:10:39 น.  

 

อยากไปมั่งจัง ภาพส๊วยสวยเห็นแล้ว สดชื่น

ปล. เวปนี้พี่อ้นเค้าแนะนำมาค่ะ ^^

 

โดย: PUsukaE IP: 203.151.140.118 4 มีนาคม 2548 19:18:59 น.  

 

จริง ๆ นะ ไม่เคยคิดอยากไปเที่ยวที่นี่เลย
แต่หลังจากมาได้อ่านบทความนี้แล้ว ขอบอกว่า อยากที่จะลองไปสำรวจเมือง ๆนี้แล้วสิ ถ้ามีโอกาสจะขอไปบ้างและจะกลับมาเล่าให้ฟัง ในรูปแบบใหม่แต่เรื่องเดิมนะ

 

โดย: ลิงน้อย IP: 203.150.233.178 8 มีนาคม 2548 17:54:57 น.  

 


กะลังรอดูอยู่ว่า อาหารอะไร

ที่กิตลองชิมแล้ว ไม่อร่อยบ้าง ???

 

โดย: uhu IP: 58.147.86.172 12 เมษายน 2549 13:01:10 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Onter
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Onter's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.