Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
29 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
New!! home .. ฉนวนกันร้อน

++




ด้วยความสงสัยใคร่อยากรู้
เมื่อมานั่งเปรียบเทียบภาพของบ้าน 2 หลัง

หลังแรกคือบ้านที่เคยไปจองไว้ แต่ตัดสินใจยกเลิก (ทิ้ง) ไป
เพราะความง่าวของคนขาย และด้วยสภาพบ้านที่เกินจะแบกรับได้

หลังต่อมาเป็นหลังที่กำลังเล็งว่าจะใช้เป็นที่อยู่หลับนอน
ในยามแก่เฒ่า (มั้ง)

จุดที่สังเกตเห็นถึงความแตกต่าง
ที่ชัดเจนที่สุดคือ ... หลังคา

.

เอาละสิ ความรู้ในเรื่องแบบนี้ ไม่มีเอาซะเลย
จะถามใครดีล่ะ ?

ถาม google ดีกว่า ...
เมื่อตัดสินใจได้แล้วก็เริ่มลงมือ

คำแรกที่ค้น

- หลังคา
- การมุงหลังคา
- บ้านร้อน
- แผ่นสะท้อนความร้อน

ค้นไปเรื่อย ๆ ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ยิ่งอ่านยิ่งงง
จนกระทั่งไปเจอคำว่า " ฉนวนกันความร้อน " จึงเริ่มจะจับใจความได้
เอาล่ะ .. ทีนี้ก็เริ่มลงมืออ่าน

.



ภาพที่ ๑ .. บ้านหลังเก่า



ภาพที่ ๒ .. บ้านหลังใหม่



.

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับฉนวนกันความร้อน

"เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ไม่ว่าฤดูกาลใด ความร้อนมักมาเยือนก่อนเสมอ ๆ ดังนั้น ฉนวนเพื่อกั้นความร้อนจึงกลายเป็นวัสดุยอดฮิตที่เจ้าของบ้านได้รับคำแนะนำจากผู้รับเหมา แล้วจะติดตั้งอย่างไรดี"

การแก้ปัญหาอย่างหนึ่ง
ซึ่งจะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าได้ก็คือ
การปูฉนวนป้องกันความร้อน ซึ่งทำได้ไม่ยาก
โดยเริ่มตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

ขั้นตอนแรกให้เราเปิดฝ้าเพดานดูก่อนว่าเป็นลักษณะอย่างไร
มีสิ่งของหรือสิ่งกีดขวางอยู่หรือไม่ ขนาดกว้างยาวเท่าไหร่
แล้วเก็บของทำความสะอาดเท่าที่จะทำได้

แต่ต้องระวังสายไฟฟ้าให้ดี
ต่อมานำฉนวนกันความร้อนมาวางบนฝ้าเพดาน
คลี่ฉนวนกันความร้อน ทำทีละแผ่น

คลี่ตามแนวของฝ้าเพดานจนเต็มพื้นที่
ถ้าเหลือให้ใช้กรรไกรตัดออก แล้วใช้เทปใสหรืออลูมิเนียมฟอยล์ปิด
เพื่อเป็นการป้องกันความชื้นและการฟุ้งกระจายของใยแก้ว

เสร็จแล้วเปิดฝ้าจุดอื่นๆ
เพื่อปูฉนวนกันความร้อนให้เต็มฝ้าเพดาน
ในการปูฉนวนกันความร้อน ถ้ามีสายไฟฟ้าวางพาดบนฝ้าเพดาน
ให้พิจารณาดูเอาเองว่าจะปูทับสายไฟฟ้าหรือปูลอดใต้สายไฟฟ้าก็ได้

ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการซ่อมแซมในอนาคต
ถ้าเป็นดวงไฟก็ให้เว้นระยะห่างเป็นรัศมีอย่างน้อย 3 นิ้ว
เท่านี้เป็นอันเรียบร้อย ใช้เวลาไม่นาน แล้วยังช่วยเราประหยัดไฟฟ้า
ได้มากอีกด้วย

ตอนนี้เรามาทำความรู้จักกับฉนวนกันความร้อนกันหน่อย
ฉนวนกันความร้อนแบบประหยัดที่มีในบ้านเรานั้น มีราคาไม่แพง
อีกทั้งยังหาซื้อไม่ยาก ราคาไม่แพง หาซื้อไม่ยาก ทำเองในประเทศ
และติดตั้งด้วยวิธีกรรม ธรรมดาแบบช่างพื้นบ้านได้ น่าจะมีอยู่ ๔ ประเภท

ประเภทแรกได้แก่ แผ่นเงาสะท้อนความร้อน
เป็นแผ่นบาง ๆ มันวาว เช่น พวกอลูมินั่มฟลอยส์ ทำหน้าที่หลักคือ
การสะท้อนรังสีความร้อนไม่ให้เข้ามาในบ้านเรา
มักจะติดไว้ที่หลังคาเป็นส่วนมาก

บ้านหลังแรกน่าจะใช้แบบนี้ ?

ต่อมาคือแผ่นยิปซั่มบอร์ดเป็นแผ่นบาง ๆ
ใช้กั้นผนังหรือทำฝ้าเพดาน บางแผ่นก็ติดแผ่นสะท้อนความร้อนเข้าไปด้ว แผ่นยิปซั่มบอร์ดนี้จะป้องกันการนำความร้อนได้

ใยแก้ว เป็นฉนวนกันความร้อนอีกตัวหนึ่ง
มีลักษณะเป็นแผ่นฟูโปร่งด้วยเส้นใย สีเหลืองหรือสีขาว
บางอย่างจะมีแผ่นเงาสะท้อนรังสีความร้อนหุ้มอยู่ด้วย
ความหนาโดยประมาณ ๒ - ๔ นิ้วฟุต น้ำหนักเบา
ป้องกันความร้อนได้ดีมาก ใช้ติดตั้งทั้งที่ฝ้า
เพดานและผนัง การติดตั้งก็ไม่ยาก

สุดท้ายยังมีอิฐกันความร้อน
เป็นอิฐสมัยใหม่ที่ตอนนี้เราผลิตได้แล้วในประเทศ เช่น
พวกคอนกรีตมวลเบา ซึ่งมีรูพรุน อยู่ใน ก้อนคอนกรีตนั้น
และ รูพรุนนั้นเอง ทำหน้าที่เป็นฉนวนกันความร้อน
ใช้ก่อเป็นผนังเหมือนอิฐมอญ หรือ
คอนกรีตบล๊อคทั่วไป

บ้านหลังที่ 2 ก็คงจะเป็นแบบนี้ ?

สิ่งที่ควรระวังคือ การก่ออาจจะต้องมีความระมัดระวังมากขึ้น
กว่าการก่ออิฐมอญ เพราะหากก่อฉาบผิดกรรมวิธีที่เขากำหนดไว้
อาจจะต้องเจอปัญหาเรื่องการแตกร้าวของปูนฉาบได้


.

อ่านมาจนถึงตรงนี้ก็เริ่มเข้าใจบ้างแล้ว (( และเมื่อย้อนกลับไปดูที่ภาพ ))
แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่า ... แล้วแบบไหนล่ะดีกว่ากัน ?

เท่าที่เดิน ๆ สำรวจไปรอบ ๆ ตัวบ้าน
ของทั้ง 2 หลัง เคยแอบไปดูงานก่อสร้างตอนที่ไม่มีใครอยู่
ความรู้สึกส่วนตัว บ้านทั้ง 2 หลัง ก็ไม่ร้อนมากนัก

หลังแรก .. หันหน้าไปทางทิศเหนือ
ตอนที่แวะเข้าไปดูบ้าน ก็เข้าไปในเวลาที่ต่างกันตลอด
เที่ยงบ้าง เย็นบ้าง ย่ำค่ำก็เคยแวะเข้าไป

ส่วนหลังที่สอง (คือหลังที่เลือก ณ ปัจจุบัน) หันหน้าไปทางทิศใต้
ส่วนใหญ่จะบังเอิญว่างแวะเข้าไปดูบ้านตอนเที่ยง ๆ เสมอ
บรรยากาศที่ลองเดินสำรวจไปรอบบริเวณ

แม้ว่าแดดจะร้อนจัดหน้าบ้าน แต่เมื่อเดินเข้าไปในบ้าน
ก็ไม่ถึงกับเหงื่อตกนัก ลมเย็น ๆ ยังมีพัดเข้ามาตลอด หรืออาจเป็นเพราะ
ช่วงนี้ยังก้ำกึ่ง "หน้าหนาว" ด้วยรึเปล่า ? ไม่ค่อยแน่ใจ

แต่ที่ชอบก็คือบริเวณ "หลังบ้าน"
ลมโกรกดีค่ะ ยืนแล้วรู้สึกได้เลยว่าเย็นสบาย
ถ้ามีเปลแกว่งและได้หลับแถวนั้น ... คงสุขไม่น้อย

.

อ่านต่อ ..

ป้องกันความร้อนให้บ้าน

หน้าร้อนนี้ บ้านที่เคยให้ความร่มเย็นดูเหมือนจะสู้ไม่ไหว
กับความร้อนที่รุนแรง เรามีหลากหลายวิธีคลายร้อนให้กับบ้าน

...

วิธีการทำให้บ้านเย็นสบายมีหลากหลายวิธีเช่น
ติดเครื่องปรับอากาศ ติดม่าน ติดฉนวนกันความร้อน ปลูกต้นไม้ใหญ่

การติดตั้งเครื่องปรับอากาศเป็นวิธีที่ทำให้ห้องเย็นสบาย
แต่เสียค่าใช้จ่ายสูง ไหนจะราคาของเครื่องปรับอากาศ ไหนจะค่ารักษา
ดูแลขณะใช้งาน อีกทั้งค่าไฟฟ้าที่พุ่งขึ้นอย่างน่าตกใจ

การติดม่าน ช่วยป้องกันแสงแดด
ราคาถูกกว่าการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ
แต่ลดความร้อนได้ไม่มากเท่าเครื่องปรับอากาศ
อีกทั้งยังปิดบังไม่ให้ลมพัดผ่านเข้ามา

การติดฉนวนป้องกันความร้อน เสียค่าใช้จ่ายมากกว่าการติดม่าน
แต่ถูกการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ให้ความเย็นได้มากกว่าการติดม่าน

ฉนวนกันความร้อน ที่แบ่งได้เป็น 2 ชนิดคือ
ฉนวนป้องกันความร้อน ที่ทำจากใยแก้ว โฟม และ
ฉนวนสะท้อนความร้อน มีลักษณะเป็นแผ่นมันวาว มีคุณสมบัติ
ในการสะท้อนความร้อนก่อนการสะสมความร้อน

บางท่านอาจใช้การระบายความร้อนโดยใช้ละอองน้ำรดบนหลังคา
โดยใช้อุปกรณ์ เช่นสปริงเกอร์ ก็เป็นวิธีหนึ่งในการช่วยลดความร้อน
ไปได้มากเช่นกัน

ฉะนั้นการเลือกวัสดุป้องกันความร้อนขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์การใช้งาน
และงบประมาณราคาที่ตั้งไว้ด้วย

แต่วิธีที่ดีที่สุด น่าจะเป็นการเตรียมพร้อมตั้งแต่เริ่มต้นสร้างบ้าน
นั่นคือควรจะสร้างให้ตรงกับทิศทางลมที่สามารถผ่านเข้าออกได้สะดวก
การจัดบ้านให้โปร่ง มีการระบายอากาศได้ดีก็เป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่ง
ในการช่วยลดความร้อนไปได้มาก

ถ้าบ้านคุณพอจะมีเนื้อที่อยู่บ้าง การปลูกต้นไม้รอบ ๆ บ้าน
จะทำให้บ้านร่มเย็นเพราะมีเงาไม้คอยคุ้มกันแดด อีกทั้งสีเขียวที่มองเห็น
ก็ทำให้ชื่นใจไม่ใช่น้อยในเมืองที่มีแต่ตึกเช่นนี้

ข้อมูลดังกล่าวได้รับการรวบรวมจากอินเทอร์เนต
ซึ่งไม่สามารถจำได้ว่าค้นพบว่ามาจากที่ใด และจากเว็บไซต์คุณวิญญู
จึงขอขอบคุณผู้เขียนบทความดังกล่าวเป็นอย่างสูง


.

ข้อมูลดังกล่าวค้นเจอมาจากที่นี่ค่ะ

//www.thaiengineering.com/viewnew.php?id=330

.

พยามทำความเข้าใจกับข้อมูลที่ได้รับมา
อ่านแล้วอ่านอีกอยู่หลายรอบ เป็นประโยชน์มากเลยนะคะ
แม้ว่าจะเข้าใจได้ไม่ทั้งหมด แต่ก็ยังดีกว่าไม่รู้อะไรเลย

ขอบคุณค่ะ .. ขอบคุณเจ้าของบทความ "ทุกท่าน"
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

จุ๊บ ๆ

.

ภาพประกอบ ((( อื่น ๆ ))) เพิ่มเติม
แวะเข้าไปดูบ้านเมื่อวันที่ ๒๖ ธันวา ๕๒
ได้ข่าวแว่ว ๆ จากคนงานก่อสร้างที่คุณแฟนแวะไปคุยด้วย
ว่าจะเริ่มลงมือปูกระเบื้องแล้ว ... เย้ ~ ใกล้ความจริงขึ้นมาอีกหน่อยแล้ว
" บ้านฉัน .. บ้านของฉัน "



เค้าทำอะไรเนี่ย จดจด จ้องจ้อง จิ้มจิ้ม ถ่ายถ่าย



ยึกยือ ยึกยือ ทำไมไม่สวยเลย



แอบนึกถึงตัวเอง ตอนทำงานออกแบบ
เล็ก ๆ น้อย ๆ ถ้ามีเบี้ยว ๆ แหว่ง ๆ จะรื้อทำใหม่ตลอด
จนกว่าจะตรงดิ่งสวยงาม พอมาเจอสภาพแบบนี้
อยากจะเดินไปตีมือพี่คนงานก่อสร้างจัง





บ้านยังไม่ถึงไหน "แม่นกน้อย" ก็แอบมาทำรัง
ถ้าเค้าติดฝ้าขึ้นมา จะทำไงล่ะเนี่ย ? ขอให้รอดปลอดภัยล่ะกันนะ "แม่นก"



ส่งท้ายด้วยภาพนี้ล่ะกันค่ะ
อ่างน้ำพุ (วน) ที่ตัวเองไปเล็งเอาไว้ ... กะจะเอามาตั้งตรงหน้าบ้าน
ราคาที่ถามไว้ 9 พันกว่าบาท (รวมค่าขนส่ง)



แต่คุณแฟนชอบแบบนี้มากกว่า
(รวมค่าขนส่งแล้ว) ราคาอยู่ที่ 7 พันเศษ



ไม่เป็นไร ... บ้านยังไม่เสร็จ
ยังพอมีเวลา (กล่อม)




Create Date : 29 ธันวาคม 2552
Last Update : 6 สิงหาคม 2553 9:36:45 น. 0 comments
Counter : 3956 Pageviews.

หม๋องแหม๋ง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




: Users Online
Friends' blogs
[Add หม๋องแหม๋ง's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.