|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
The Devil Wears Prada
สอบเสร็จแว้ววว!!! ...เอ่อ จริงๆ ก็ถือว่ายังไม่เสร็จหรอก เหลืออีกวิชานึงอะ ...แต่ใครจะไปสน 555+ ...เมื่อวานพอเลิกปุ๊บก็ชวนเพื่อนผู้ร่วมกันใช้ชีวิตก่อนสอบอย่างเก็บกดมาหลายสัปดาห์วิ่งแจ้นไปหาหนังดูที่สยามพารากอนโดยพลัน แต่งานนี้ผมแอบเอาแต่ใจนิดนึงล่ะ อิอิ เพราะฟันธงว่าต้องดูเรื่องนี้เท่านั้น ก็แหม... มันอยากดูมาตั้งนานแล้วอะ แถมนี่มันเข้าวันแรกซะด้วยนา สอบเสร็จทั้งทีก็ต้องตามใจตัวเองให้สุดๆ ไปเลย จริงปะล่ะ ...เหตุผลที่อยากดูเหรอ? ...อืม ก็นอกจากจะสร้างมาจากหนังสือขายดีในชื่อเดียวกันนี้ แถมโปสเตอร์ก็สวยโคตรๆ แล้วก็เห็นจะเป็น 1 สาวกับ 1 เหี่ยวที่แสดงนำอย่างน้องหนู Anne Hathaway ที่น่ารักวันน่ารักคืน กับคุณป้าเหี่ยวฟ้ามารศรีอย่าง Meryl Streep นั่นแหละ แต่ขอบอกว่าที่ทำให้ผมอยากดูสุดๆ นั้นเป็นเพราะคนหลังมากกว่าล่ะ
แอนเดรีย แซคซ์ (Anne Hathaway) สาวน้อยร้อยชั่งผู้เพิ่งจบจากมหาวิทยาลัยนอร์ธเวสเทิร์นหมาดๆ เข้ามาหางานทำในมหานครนิวยอร์ค โดยวาดฝันจะได้ทำงานหนังสือพิมพ์ที่เธอรัก แอนเดรียก็ทำเหมือนคนอื่นทั่วๆ ไป เธอสมัครไปเรื่อยจนวันหนึ่งก็ถูกนิตยสารแฟชั่นชื่อดังอย่างรันเวย์ เรียกไปสัมภาษณ์ ก่อนจะรู้ผลอย่างงงๆ ว่าสุดท้ายเธอได้ทำงานที่ "สาวๆ ทุกคนยอมฆ่ากันตายเพื่อให้ได้มันมา" นั่นก็คือการเป็นผู้ช่วยของมิแรนด้า พรีสต์ลีย์ (Meryl Streep) บ.ก. ของนิตยสารรันเวย์ผู้โด่งดังจากความเฮี้ยบสุดๆ ของเธอนั่นเอง...
The Devil Wears Prada ไม่ทำให้ผมผิดหวัง แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ให้อะไรที่เกินความคาดหมายของผมไปสักเท่าไหร่ ก็อย่างที่เห็นเนื้อเรื่องหลักๆ มันมีอยู่แค่นั้น ส่วนมากก็จะเป็นเรื่องที่แอนเดรียจะต้องทำอย่างไรให้เจ้านายนางมารของเธอพึงพอใจ การดำเนินเรื่องนั้นแสนเรียบง่าย เล่าเรื่องไปเรื่อยๆ จนพาเราไปสู่ปมปมหนึ่ง แล้วก็คลี่คลายมันออกด้วยวิธีธรรมดาๆ ไม่ได้มีอะไรหวือหวา ตอนแรกผมกะจะมาฮา สุดท้ายก็ไม่ค่อยได้ฮาอะไรมากมาย เพราะบอกได้เลยว่าไม่มีมุกที่จงใจใส่เข้ามาเพื่อเรียกเสียงหัวเราะโดยเฉพาะ แต่เราจะฮาได้จากอากัปกิริยาของตัวละคร โดยเฉพาะ ...แน่นอน คุณนายมิแรนด้านั่นเอง อันนี้เดี๋ยวไว้เล่าให้ฟังอีกที ...แต่ว่าไม่ต้องห่วงครับ เพราะยังไงหนังเรื่องนี้ยังถือว่าเป็นหนังดูชิวๆ ที่มีมาตรฐานสูงอยู่ดีนั่นแหละ อย่างองค์ประกอบที่เด่นสุดๆ ก็ชัวร์เลยว่าเป็นบรรดาคอสตูมจากฝีมือดีไซเนอร์ชั้นนำของโลกอย่าง... ใครมั่งวะ เอาเหอะ จำไม่ได้ซักกะชื่อนึง ที่ทำให้ตัวละครทุกตัวดูดี มีสไตล์ยังกะหลุดออกมาจากนิตยสารแฟชั่นจริงๆ เลย ที่ผมชอบอีกอย่างคือดนตรีประกอบครับ ไม่ได้มีเยอะมากมาย แต่ว่าล้วนถูกเอามาใส่ได้ถูกช่วงถูกอารมณ์ทุกเพลง อย่างที่น่าจะรู้จักกันก็ Suddenly I See ของ KT Tunstall ที่ถูกเอามาใช้ประกอบตอนต้นเรื่องให้เห็นถึงสภาพชั่วโมงเร่งด่วนในเช้าวันทำงานของนิวยอร์คได้น่ารักดี รวมถึงเพลง Crazy ที่ Alanis Morissette เอาของลุง Seal มา cover ใหม่ ดนตรีร็อคเก๋ๆ ของเพลงนี้ก็ประกอบการถ่ายแฟชั่นได้เข้ากันอย่างเหลือเชื่อ
ผมรู้สึกว่ายังไม่เต็มอิ่มกับมิแรนด้า พรีสต์ลีย์ในหนังเรื่องนี้สักเท่าไหร่ ทั้งๆ ตัวละครตัวนี้ถือเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของหนังเลยก็ว่าได้ สังเกตง่ายๆ ก็ชื่อหนังนั่นก็ใช่แม่คนนี้แล้ว แต่เอาเข้าจริงเหมือนเป็นตัวละครสมทบยังไงไม่รู้ ออกมาน้อยจังเลย ที่ว่าเจ้าหล่อนน่ากลัวๆ กันก็แค่ได้ยินจากตัวละครตัวอื่นพูดกันว่าป้าเค้างั้นป้าเค้างี้ ยังกะกำลังบรรยายลักษณะของสัตว์ประหลาดชีวภาพอะไรซักอย่างอยู่มากกว่า พอออกมาจริงๆ ก็ไม่เห็นจะดุเลย ทั้งๆ ที่บทของเธอน่าจะเพิ่มความแสบ ร้ายกาจ เอาแต่ใจได้มากกว่านี้อีกตั้งเยอะ ...แต่ไฉนเลย ทั้งนี้ทั้งนั้นผมไม่โทษ Meryl Streep สักนิดเดียว บอกก่อนว่าผมไม่เคยรู้จักนักแสดงผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์มากที่สุดในประวัติศาสตร์ผู้นี้ในฐานะนักแสดงดรามาหนักๆ มาก่อน บทของเธอที่ผมเคยดูล้วนแต่เป็นบทตลกทั้งสิ้น ...ชอบที่สุดก็เรื่อง Death Becomes Her นี่แหละ ฮาได้ใจสุดๆ เรียกว่าเปิดเจอใน UBC กี่ทีก็นั่งดูตลอด ในบทของมิแรนด้านี้ Streep ยังเล่นได้เฉียบขาดกับมาดเริ่ด เชิด หยิ่ง แม้จะมีใบหน้าจิ้มลิ้ม ปากนิด จมูกหน่อย ตารึก็เล็กเป็นเม็ดแมงลักอบแห้ง แต่ต้องยอมรับเลยว่าเธอเล่นหูเล่นตาได้สุดยอดมาก อย่างเวลาจะด่าใครทีแค่ใช้สายตาจิกก็เล่นเอาขนลุกซู่แล้ว อีกอย่างที่ถูกใจก็วิธีการพูดของเขาล่ะ... แม้! มันช่างจีบปากจีบคอได้น่าถอนหงอกดีซะละเกิน ...พูดถึงหงอก เรื่องนี้สีผมป้าเค้าก็แนวดีนะ ดูสวยเหลี่ยมๆ ไปอีกแบบนึง 555+ แต่พอถึงคราวโทรมก็โทรมสนิทเหมือนกันนะ มีฉากนึงในโรงแรมที่ป้าเค้าไม่ได้โบ๊ะหน้าอะ หูย... คุณยายดีๆ นี่เอง ฉากนี้เป็นอีกฉากที่น่าประทับใจเพราะเป็นตอนที่มิแรนด้าแสดงให้เรารู้ว่าลึกๆ แล้ว เธอยังคงเป็นแค่เพียงผู้หญิงคนหนึ่ง ...กับชีวิตที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงสุดในหน้าที่การงาน มีหน้ามีตา ชื่อเสียง เกียรติยศ และการยอมรับจากสังคม แต่กลับบอบช้ำภายในด้วยความล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าในชีวิตส่วนตัว Streep ในฉากนี้ลบข้อสงสัยทุกประการที่ผมมีในฝีมือในการแสดงบทดรามาของเธอไปจนหมด ผมชอบวิธีการเล่าเรื่องที่ทำให้คนดูรู้สึกเห็นใจมิแรนด้า ก่อนจะถูกตลบหลังกลับเข้าสู้ชื่อหนังได้อย่างให้แง่คิดมากมายในตอนสุดท้าย ...อีกฉากโปรดเลยก็คือตอนจบของเรื่องที่ Streep แค่แสดงสีหน้าเพียงไม่กี่วินาทีก็ทำให้ฮาได้ แถมผมยังรู้สึกรักมิแรนด้าขึ้นมาซะงั้น ...ยังนึกไม่ออกเลยว่าถ้าไม่ใช่นักแสดงมากฝีมือผู้นี้มารับบทมิแรนด้าแล้ว หนังจะประสบความสำเร็จได้ขนาดนี้หรือเปล่า...
ว่ากันว่าเธอคือ Julia Roberts คนต่อไป สำหรับ Anne Hathaway ผู้น่ารักน่าชังคนนี้ อันนี้เค้าหมายถึงขนาดของริมฝีปากอย่างเดียวหรือเปล่าไม่ทราบ แต่บอกได้เลยว่าตอนนั่งดูหนังเรื่องนี้อยู่ รู้สึกเหมือนถูกคุกคามเล็กๆ โดยใบหน้าสุดสวยของเธอ ...โหย นั่นปากเหรอวะน่ะ แล้วนั่นมันลูกกะตาใช่ปะ มันไปยัดอยู่ในใบหน้าอันแค่นั้นได้ไงเนี่ย มหัศจรรย์บันลือโลกเจงๆ ...เอาเถอะ สรุปคือสวยครับ ไม่ได้ว่าอะไรนะตะเอง ถ้าจะพูดเรื่องฝีมือในการแสดงล่ะก็ มีสิทธิ์เป็นเดอะนิวเจ๊จูได้ทีเดียวนา บทของแอนเดรียถือว่าเป็นตัวเดินเรื่องขนานแท้ ซึ่ง Hathaway ก็ทำได้สำเร็จในการทำให้คนดูคอยเอาใจช่วยลุ้นไปกับเธอ แม้จะต้องเข้าฉากกับ Streep บ่อยๆ แต่เธอก็ยังหาที่ยืนของตัวเองได้เหมาะสม และเธอก็ดูดีมากๆ ไม่ว่าจะตอนโทรมในชุดของโหลเฉิ่มๆ หรือตอนสวยแล้วในเสื้อผ้าอาภรณ์ของดีไซเนอร์ Hathaway ยังคงเป็นนางเอ๊กนางเอกสุดแสนน่ารักผู้ที่คนดูพร้อมจะมอบหัวใจให้เสมอ ...นักแสดงสมทบท่านอื่นๆ ต่างก็ทำหน้าที่กันได้เกินหน้าเกินตากันทุกราย ตั้งแต่มิสเตอร์เจนเนอรัลตัวประกอบ Stanley Tucci เรื่องนี้ลุงตุ๊ดซี่ก็ยังคงแต๋วแหววตามสไตล์ได้มาตรฐานของตัวเอง บทไนเจลของเขาเป็นที่พึ่งที่ไว้วางใจได้เสมอสำหรับแอนเดรีย ...Adrian Grenier ในบทของเนท แฟนหนุ่มของแอนเดรีย ก็เล่นได้ดีสมกับที่สุดสวยอย่างแอนเดรียทั้งรักทั้งหลง ...เกิดสุดๆ เพราะขโมยซีนไปได้เยอะทีเดียวต้องยกให้ Emily Blunt ที่เล่นเป็นตัวละครชื่อเดียวกัน เค้าสวยแบบเฉี่ยวๆ ดีอะ ที่สำคัญคือชอบสำเนียงของเธอมากๆ บริติชจ๋าเลย มีเสน่ดี บทของเอมิลี่ก็เหมือนนางร้ายละครบ้านเรา เธอเป็นผู้ช่วยคนดั้งเดิมของมิแรนด้า เลยจะต้องคอยสอนงานให้กับแอนเดรียอยู่เสมอ ที่ทำไปทั้งหมดนี่ก็ไม่ใช่เพื่อใคร แต่เพื่อตัวเธอเองเท่านั้น อย่างไรก็ตามสุดท้ายแล้วเอมิลี่ก็เป็นเหมือนเพื่อนทุกข์เพื่อนยากคนหนึ่งของแอนเดรียเหมือนกัน
แม้เสียงฮาจะหาได้น้อยกว่าที่ผมคิดเอาไว้ แต่สิ่งที่ผมได้กลับมาแทนคือแง่คิดมากมาย โดยเฉพาะเรื่องของการ "เลือก" มันทำให้เรายอมรับว่าชีวิตของเรานั้นต้องเผชิญกับทางเลือกมากมายให้เราเลือก แอนเดรียอ้างกับเนทว่าที่ต้องยอมทนทำงานเป็นเบี้ยล่างเค้าอย่างนี้ก็เพราะเธอไม่มีทางเลือก ที่ต้องแย่งโอกาสที่เอมิลี่ได้แต่ใฝ่ฝันถึงก็เพราะเธอไม่มีทางเลือก คำตอบสำหรับทุกข้ออ้างของแอนเดรียสุดท้ายกลับออกมาจากปากมิแรนด้าว่าจริงๆ แล้วทุกๆ อย่างที่แอนเดรียทำลงไป เธอได้เลือกด้วยตัวเองแล้วทั้งนั้น เธอเลือกความก้าวหน้าในหน้าที่การงานของตัวเองเหนือความฝันของเพื่อนร่วมงาน และการได้มีเวลาอยู่กับคนที่เธอรักมากขึ้น ก่อนที่มิแรนด้าจะเปิดประตูรถก้าวออกไปสู่บรรดาสื่อมวลชนที่รุมล้อมเข้ามาถ่ายรูปและสัมภาษณ์เธอ ...มิแรนด้าที่ "ใครๆ ต่างก็อยากเป็นเธอ" ที่ประตูรถอีกด้านแอนเดรียผู้มีงานที่ "สาวๆ ทุกคนยอมฆ่ากันตายเพื่อให้ได้มันมา" อยู่ในมือ ยืนมองเบื้องหลังของมิแรนด้าอย่างโดดเดี่ยว รถลิมูซีนคันสวยเพียงคันเดียวกั้นกลางระหว่างทั้งสองที่คนหนึ่งเลือกถูกแล้ว แต่อีกคนที่เพิ่งตระหนักว่าเธอเลือกผิดอย่างมหันต์ ...สุดท้ายแล้วหนังก็ไม่ได้ให้คำตัดสินว่าทางเลือกของใครเป็นสิ่งที่ "ถูก" หรือ "ผิด" มีเพียงมิแรนด้าและแอนเดรียเท่านั้นที่จะให้คำตอบได้ว่าสิ่งที่เธอเลือกนั้น "ถูก" หรือ "ผิด" ...สำหรับพวกเธอทั้งสองเอง
Create Date : 30 กันยายน 2549 |
|
20 comments |
Last Update : 30 กันยายน 2549 0:32:35 น. |
Counter : 1273 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: unwell 30 กันยายน 2549 10:08:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: Malee30 30 กันยายน 2549 16:26:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: BloodyMonday On Da Move IP: 211.139.145.21 30 กันยายน 2549 19:02:17 น. |
|
|
|
| |
โดย: BloodyMonday On Da Move IP: 211.139.145.21 1 ตุลาคม 2549 19:06:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: merveillesxx IP: 161.200.255.164 4 ตุลาคม 2549 5:37:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป้ามด 4 ตุลาคม 2549 10:22:21 น. |
|
|
|
| |
โดย: เจาหญิงไร้เงา IP: 125.26.78.167 31 มกราคม 2552 13:17:47 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jaja IP: 180.180.162.193 13 มีนาคม 2553 12:18:38 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ปล. แต่ก็ยังไม่รู้เลยครับว่าจะไปดูวันไหน และตอนนี้ที่บล็อกผมมีคนมาให้ Zoom ด้วยครับ ลองไป Zoom โนะครับผม