ลุยทุ่งบัวตองต่อ... ก่อนไปไห้วพระธาตุดอยกองมู

พวกเราสาละวนอยู่กับการซื้อผักหญ้าสด ๆ จากพวกแม้ว แล้วก็ขับรถต่อไปยังน้ำตกแม่สุริน สถานที่ซึ่งเราจะกางเต๊นท์นอนกันค่ะ

พื้นที่โล่งดี แล้วทำเป็น Step สำหรับกางเต๊นท์ ลดหลั่นกันเป็นชั้น ๆ ไป อากาศเย็นดีค่ะ ตอนกลางคืนซักตี 3 ตี 4 จะได้ยินเสียงใบไม้วิ่งกันเกลียวเลยค่ะ เพราะว่าลมหอบใบไม้ที่ร่วงหล่นมากระทบกับเต๊นท์ที่เรานอนกันน่ะค่ะ เสียงมันเพราะดี ชอบมาก ๆ เลย ตื่นฟังอยู่ตั้งนานแน่ะ พอเช้าเราก็ต้มกาแฟกินกันค่ะ เก็บเต๊นท์แล้วก็ไปถ่ายรูปกับดอกบัวตอง เห็นมีนักท่องเที่ยวมาจอดรถถ่ายรูปกันเยอะพอสมควร ส่วนใหญ่เค้ามากันเป็นรถตู้น่ะค่ะ รุ่นคุณป้านี่เยอะมาก ๆ เป็นที่น่าสังเกตุว่าคนสูงอายุบ้านเรานั้นผู้หญิงจะสุขภาพดีกว่าผู้ชาย เพราะเท่าที่เห็นมีแต่กลุ่มผู้หญิงทั้งนั้นเลย ไม่ค่อยเห็นคุณลุงซักเท่าไหร่ หรือว่าผู้สูงอายุเพศชายไม่ค่อยชอบท่องเที่ยวกัน ?

สภาพเต๊นท์ก่อนกางเสร็จค่ะ แต่ไม่มีภาพที่กางเสร็จแล้วนะ เพราะอยู่ที่กล้องเพื่อนอีกตัวนึงน่ะค่ะ ตอนกางเต๊นท์อยู่ก็เห็นมีคู่สามีภรรยาฝรั่ง-ไทยมาเดินดู ๆ อยู่เหมือนกัน เห็นคุณสามีบอกภรรยาว่าคราวหน้ามากางเต๊นท์นอนแบบนี้บ้างดีกว่า

กางเสร็จก็ต้องต้มกาแฟกินก่อน ส่วนกาน้ำนั่นน่ะ คือเอาไว้ต้มน้ำอาบค่ะ ที่อุทยานไม่มีน้ำอุ่นให้อาบนะคะ ต้องทำน้ำร้อนมือถืออาบเอาเองค่ะ ฮิ ฮิ เข้าไปกระโดดเหย็ง ๆ ปากก็ร้อง หุ๊ย ! หนาว หนาว ประมาณนี้กว่าจะอาบน้ำเสร็จ คนอื่นเค้าไปถึงไหน ๆ แล้วเรายังเอาผ้าขนหนูเล็ก ๆ ชุบน้ำอุ่นถูตัวอยู่เลย โฮ้ย ! สนุกจริง ๆ กว่าจะอาบน้ำเสร็จเกินเวลา 20 นาทีไปตั้งเยอะแน่ะ ฮุ๊ย.....หนาว บรื๋อ.....









ฟักแม้ว และผักอื่น ๆ ที่หอบขึ้นดอยเพื่อทำอาหารเย็นค่ะ เราลาตลาดแม้วไปก่อนที่ตะวันจะตกดินเล็กน้อย เพราะไม่งั้นเดี๋ยวมืด กางเต๊นท์ลำบากค่ะ





ทางที่ขึ้นไปกางเต้นท์จะเขียนว่าน้ำตกแม่สุรินค่ะ



อ้นนี้เป็นสภาพหลังจากอาบน้ำตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น อย่างที่บอกเมื่อคืนนอนฟังเสียงใบไม้วิ่งเล่นทั้งคืน มันรู้สึกสนุกยังไงก็ไม่รู้อ่ะ เช้ามาเลยสดชื่นมาก เราทำข้าวต้มกินกันแล้วก็เก็บเต๊นท์ จะลงดอยไปไหว้พระธาตุดอยกองมูก่อน แล้วถึงไปกางเต๊นท์ต่อที่ปางอุ๋ง (อันนี้สวยมาก ๆ ขอบอก)














เห็นป้าย 1,864 โค้งก็เป็นอันยืนยันได้ว่ามาถึงแม่ฮ่องสอนแล้ว ป้ายนี้อยู่บนพระธาตุดอยกองมู มุมที่ตั้งของพระธาตุสวยมาก







พระพุทธรูปนี้อยู่ในโบสถ์ข้างบนนี้แหละค่ะ พระพักตร์ท่านยิ้มแย้มดี เป็นศิลปของพม่าน่ะค่ะ จะสังเกตุได้จากโบสถ์ และการตกแต่งเป็นแบบพม่าทั้งหมด







ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เมื่อมองลงไปจากพระธาตุดอยกองมู เห็น run way ของสนามบินเลยค่ะ เที่ยวเดินสำรวจจนทั่วบริเวณพระธาตุไปเจอต้นโพธิ์ทองโลหะนี้ด้วยค่ะ ร้านขายของที่ระลึกก็มี ที่เด็ดมาก ๆ ก็คือร้านกาแฟบนดอยมองลงไปจะเห็นวิวเทือกเขาสวยมาก ๆ ค่ะ กาแฟก็พอใช้ได้ คือกาแฟทางเหนือนี่มักจะคั่วเมล็ดจนไหม้หน่อย ๆ เวลาชงจะได้ไม่ต้องใส่เมล็ดกาแฟมาก แต่มันทำให้รสชาดแย่ลงไปเยอะเลย เท่าที่ชิมมาทั้งหมดมีกาแฟของบราซิลนี่แหละที่รสชาดกลมกล่อมที่สุด ของอิตาลีก็ดีแต่ต้องของ Lavazza นะ ถึงจะหอมกลมกล่อม












เจ๊ขอแจมค่ะ ขอนั่งเต๊ะท่าหน่อย ทั้ง ๆ ที่ร้อนแสบผิวอย่างสุด ๆ เธอก็ยังทำเต๊ะนั่งยิ้ม แต่พอถ่ายรูปเสร็จนะ โดดเหย็ง ๆ เลย ! ก็มันร้อนจริง ๆ นี่ เฮ้อ...ทำไปได้คนเรา







กำลังจะ publish ค้นเจอรูปดอกบัวตองหลงอยู่อีก เลยเอามาเหน็บไว้ท้าย
บล๊อกค่ะ คนอ่านเลยอารมณ์สะดุดยังไงไม่รู้เนอะ บล๊อกหน้าจะเป็นปางอุ๋งแล้วค่ะ คราวนี้คงจะเขียนได้เร็วแล้วค่ะ เพราะว่างานที่ทำให้รัฐบาลเสร็จเรียบร้อยแล้ว แต่อีกอาทิตย์ก็ยุ่งเหมือนเดิมอีกเพราะต้องเก็บงานปลายปี เตรียมของให้นายเก่าที่จะย้ายกลับญี่ปุ่น Design งานใหม่สำหรับปีหน้า วางแผนการตลาดใหม่อันเนื่องมาจากเหตุการณ์ยึดสนามบิน (เดือดร้อนกันไปทั่วเลย) วัดองศาทิศที่ดีใหม่สำหรับวางฮวงจุ้ยปีหน้า โฮ้ย ... อีกสามแสนแปดหมื่นเรื่องให้ทำ แต่จะมาวนเวียนในบล๊อกบ่อย ๆ แหละค่ะ
อ้าว ! ก็คิดถึงเพื่อน ๆ น่ะเนอะ ไปแล้วค่ะ บ๊าย บาย

Create Date : 06 ธันวาคม 2551 Last Update : 7 ธันวาคม 2551 20:32:54 น. Counter : 1246 Pageviews.		27 comments
Share Tweet