ลุ่มน้ำ Rhein 2

ต่อจากคราวที่แล้วค่ะ ตอนใกล้ ๆ เมือง Mosel สองฝั่งแม่น้ำเห็นมี Park สำหรับจอด Motorhome เป็นแถวเลยค่ะ แฟนบอกว่าคนยุโรปนิยมท่องเที่ยวด้วยรถ Motorhome นี้มาก ๆ เพราะว่าสะดวก มันเป็นเหมือนบ้านเคลื่อนที่เลย แล้วเวลาไปจอดตาม Park ซึ่งเค้าจะมีที่จอดให้เฉพาะ นะคะ จะสามารถลากสายไฟฟ้า ไปใช้ในรถได้ หุงข้าวต้มแกงได้ มี Kitchen , toilet , shower ในอาคารของ Park ให้ใช้ เสียค่าจอดรถไม่มากเท่าไหร่ คิดไว้เหมือนกันว่าจะหาโอกาสขับรถเที่ยวแบบนี้บ้าง เพราะมี magazine เกี่ยวกับ Motorhome ตั้งหลายเล่ม บางคันก็จะมี Roofslide จากด้านบน ยื่นเป็นกันสาดออกมา สำหรับตั้งโต๊ะกาแฟข้างใต้ ทำเป็นห้องกินกาแฟยามเช้าได้เลย แล้วจะเห็นเยอะมาก ๆ ในการไปเที่ยวรอบหลัง ๆ น่ะค่ะ



แถบนี้เป็นที่ตั้งของร้านอาหารแบบ Home made มีทั้งชีส ไส้กรอก แฮม ขนมปัง รวมถึง มีไวน์ที่หมักเองอีกต่างหาก เราหมายตาร้านเอาไว้แล้ว จะแวะมา dinner ก้นตอนเย็นน่ะค่ะ






นี่ค่ะโรงแรมที่จองเอาไว้ Location ดีมาก ๆ เพราะว่าอยู่ตรงสะพานข้ามแม่น้ำพอดี วิวตอนพระอาทิตย์กำล้งจะลับขอบฟ้าสวยมาก ๆ แถมมองลงไปได้เห็นเรือลำใหญ่กำล้งล่องแหวกแม่น้ำมาเอื่อย ๆ โดยมีหงส์บินนำอยู่ข้างหน้าเรืออยู่หนึ่งคู่น่ะ เป็นภาพประท้บใจที่ชอบมาก ๆ เลยค่ะ เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้พอดีกล้องมีปัญหานิดหน่อย



ที่ว่า Location ดีคือนี่เลยค่ะ โรงแรมน่ะอยู่ด้านหน้าตรอกที่จะเดินเข้าไปยังลานกว้างที่เป็นศูนย์กลางของเมืองน่ะค่ะ ห้องพักก็สะอาดสะอ้านดี ห้องน้ำทันสมัยมาก ๆ แอบสังเกตุว่าโรงแรมนี้ตกแต่ง Style Oriental โดยวางฮวงจุ้ยเป็นยุค 8 ตามวาระของยุคพอดี ยุค 8 ฮวงจุ้ยจะเกี่ยวข้องกับน้ำตลอดเริ่มตั้งแต่ปี 2547 แล้วนับไปอีก 20 ปีค่ะ ถ้าใครช่างสังเกตุจะเห็นว่าตามสำนักงานหลาย ๆ แห่ง จะมีน้ำพุ น้ำผุด น้ำตก น้ำหยด อะไรก็แล้วแต่ที่จะเรียกกัน ทุกที่จะนำมาประดับหน้าทางเข้าสำนักงาน แล้วต้องเป็นพื้นที่ ๆ ที่มีลมถ่ายเทได้สะดวกตลอดเวลา เพื่อนำพาชี่ที่ดีเข้ามาให้ ยุคนี้เป็นยุคของน้ำ + ลม การมีสองสิ่งนี้ คือตัวจักรที่จะนำโชคลาภมาให้ค่ะ อ้าว ! ทำไมไปไกลจัง เลย ฮ่า ฮ่า

พอวางกระเป๋าเสร็จ จัดการซ่อมกล้องแล้ว ก็ออกเดินสำรวจตลาดกันทันทีเลยค่ะ อากาศกำล้งดีพระอาทิตย์กำลังเมื่อยจะขอตัวกลับบ้านอยู่รอมร่อ ต้องรีบถ่ายรูปน่ะค่ะ











ชอบเหล็กดัดรูปคนน่ารัก ๆ ตามระเบียงร้านเหล่านี้จังเลยค่ะ เห็นแทบทุกร้านเลยน่ะ



เดินเมื่อยแล้วขอนั่งพักแป๊บนุงนะ ฮิ ฮิ





พอใกล้ ๆ ค่ำผู้คนก็มาจับจองโต๊ะสำหรับ dinner ก้นใหญ่ แต่เราไม่สนค่ะ เพราะว่าจะออกไปกินที่ร้าน Home made ที่หมายตาเอาไว้แล้ว โชคดีไปถึงมีที่จอดรถว่างอยู่พอดี เราเป็นแขกคู่ที่สองของร้านค่ะ เจ้าของร้านเป็นคุณตาคุณยายน่ารักมาก รับแขกเองเสิร์ฟเอง ทำอาหารเองอีกต่างหาก ดังนั้นคู่ที่มาหล้ง ๆ จึงค่อนข้างรออาหารนานหน่อย แต่ว่าคุณตาก็เอาไวน์มาปิดปากกันบ่นไว้ก่อนค่ะ หน้านี้มีไวน์ที่ออกใหม่ยังไม่มีแอลกอฮอล์มาก ดังนั้นรถชาดจะออกหวาน ๆ ชุ่มคอ ชอบมากเลย เราขอไวน์ขาว ส่วนแฟนเขาชอบแต่ไวน์แดงค่ะ อาหารที่มาเสิร์ฟก็โอเคค่ะ นั่งคุยกันไป จิบไวน์กันไปหมดคนละขวดแบบไม่รู้ตัวเลยค่ะ ยิ่งพอค่ำ ๆ แขกทะยอยมากันเรื่อย ๆ แน่นร้านพอดีตอนที่เราลุกออกมา ยังแอบสงสารคุณตาคุณยายว่าจะเสิร์ฟทันมั้ยนะนั่น





พอกลับมาถึงโรงแรมก็นั่งกินกาแฟต่อ สักพักแล้วถึงกลับขึ้นไปนอน อยู่ดึกมากไม่ได้ค่ะ เพราะว่าพรุ่งนี้ต้องขับรถออกไปเที่ยว Luxamburg ต่อค่ะ

วิวในซอกใจกลางเมืองค่ะ








นี่ไงบ้านฟี่บ ฟี่บ บนตอม่อเล็กกะจึ๋งนึง ฮิ ฮิ มันเป็นสัญญลักษณ์ของเมืองนี้ค่ะ ตอม่อนั้นน่ะถ้าไปยืนแล้วกางแขนออกไปเต็มที่ทั้งสองข้างยังยาวเลยตอม่อเลยค่ะ เห็นฝรั่งไปยืนถ่ายรูปแบบเนี้ยะกันเยอะมากเลย เวลาเห็นบ้านนี้ทำให้นึกถึงตึกโรงแรม Banyan Tree บนถนนสาทรน่ะมันดูสูง ๆ ฟี่บ ฟี่บ เหมือนคนเป็นโรคขาดอาหารน่ะ ว่ามั๊ย

Create Date : 30 กันยายน 2551 Last Update : 2 ตุลาคม 2551 20:21:46 น. Counter : 1525 Pageviews.		18 comments
Share Tweet