หนังล้วนๆ

[จุใจ รีวิว] Julie/Julia – หนังง่ายๆแต่สนุกเพลิดเพลินด้วยหลากหลายรสอร่อย

เรื่องนี้เข้าที่อเมริกานานแล้ว ตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2009 เพิ่งจะได้เวลาเข้าเมืองไทยสักที จริงๆก็ไม่ถึงกับอยากดูอะไรนัก แม้จะมีดาราระดับฝีมืออย่าง เมอรีล สตีพ มาประชันกับ เอมี อดัมส์ หลังจากเฉือนกันอย่างสนุกมาแล้วใน doubt ก็เถอะนะ แต่ว่า ก็หนังเรื่องนี้มันเป็นหนังเล่าเรื่องสุดยอดคนทำอาหารและคนที่ทำอาหารตามนั้น แล้วคนที่ไม่นิยมทำอาหาร ขยันต้มแต่มาม่าอย่างผมจะดูรู้เรื่องได้เรอะ ??? (ไม่ค่อยจะสนใจด้วยว่าสามนาทีหรือเปล่า)



หนังสร้างจากเรื่องจริงสองเรื่อง (Base on two true stories) เนื้อเรื่องต้องบอกว่าแสนจะธรรมดามากๆ จนไม่คิดเลยว่าจะเป็นหนังได้ เพราะเนื้อหาของหนังค่อนข้างจะเป็นสูตรสำเร็จ เริ่มจาก ปี 1942 จูเลีย ไชลด์ ภรรยาไม่สาวชาวอเมริกันของข้าราชการในกระทรวงต่างประเทศ มีอันต้องย้ายตามสามีไปอยู่ฝรั่งเศส เธอต้องออกจากงานเดิมและไปหาอะไรทำในที่ใหม่เมืองใหม่ หลังจากลองมาสองสามอย่าง เธอก็พบว่าอาหารเป็นสิ่งที่ถูกโฉลกกับเธอที่สุด แน่นอนว่า ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เธอก็มุ่งมั่นฝ่าฟัน จนสามารถสำเร็จมีหนังสือของตนเองจนได้

60 ปีต่อมา จูลี่ พาวเวลผู้มีวัยใกล้ 30 แต่ยังมีชีวิตที่เหมือนหลักลอย หาเป้าหมายให้กับชีวิตไม่เจอ จะมีดีอยู่ก็ตรงที่มีสามีที่แสนดี เธออยากจะหาอะไรสักอย่างให้กับชีวิตของเธอ และจากพื้นเพที่เคยเขียนนิยายมาก่อน บวกกับความรักชอบในการทำอาหาร และความหลงใหลไปกับเสน่ห์ของจูเลีย จูลี่จึงตัดสินใจตั้งเป้าหมายแรกให้กับชีวิตด้วยการทำอาหารฝรั่งเศส 542 อย่างตามตำราของจูเลีย ภายใน 365 วัน และเขียนบันทึกเรื่องราวของเธอลงบล็อกทุกวัน ทั้งที่ยังคงทำงานประจำอยู่ด้วย

จากเนื้อหานี้ ดูแล้วก็ไม่รู้สึกแปลกใหม่อะไรนัก การดำเนินเรื่องตั้งแต่ต้นจนจบ ก็จะตัดสลับระหว่างสองสาวนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงจุดหมายปลายฝั่งฝันของทั้งสองคน ระหว่างทางก็ย่อมมีทั้งสมหวังและผิดหวัง ทุกข์และสุข ดีใจและเสียใจ สลับกันไป เป็นรสชาติของชีวิต ซึ่งก็ดูจะธรรมดาเสียเหลือเกิน

แล้วอะไรที่ทำให้หนังเรื่องนี้ไม่ธรรมดา? อะไรที่เป็นเสน่ห์ของหนังเรื่องนี้?
1. เนื่องจากไม่ได้ทำการบ้านก่อนเข้าโรง อย่างแรกที่ผมเฝ้าสังเกตก่อนเลยคือ ผู้กำกับและผู้เขียนบท หนังที่ออกมาแนวผู้หญิงขนาดนี้ ผมก็อยากให้เป็นผู้หญิงกำกับ และพอดูชื่อแล้วก็ ใช่จริงๆ Norah Ephron เป็นผู้กำกับและผู้เขียนบทเองด้วย สิ่งที่เราเห็นได้ชัดจากผู้กำกับและผู้เขียนบทหญิงคนนี้ ก็คือ กลิ่นอายของหนัง และ ความใส่ใจในรายละเอียด รวมไปถึงการเล่นกับอารมณ์ของผู้หญิง ซึ่งจะมีผู้ชายคนไหนเข้าใจได้เล่า ??? อีกทั้งหลายๆฉากที่เน้นโรแมนติก มันก็ดูช่าง... ช่างเป็นสิ่งที่ผู้หญิงอยากได้เสียจริงๆ Magic words ก็มี และไม่ต้องมามากมายฟุ่มเฟือย ก็ง่ายๆแค่ว่า “เธอเป็นเหมือนเนยบนขนมปังของฉัน” (อีกแล้ว คนที่ไม่พิถีพิถันเรื่องการกินอย่างผมคงไม่อินเท่าไหร่กับประโยคอย่างนี้ แต่พอเข้าใจได้ว่า มันเป็นประโยคที่โรแมนติกอยู่มากทีเดียว)
2. การประชันกันอีกครั้งของ ดาราค้างฟ้า กับ ดาราดาวรุ่ง ซึ่งครั้งนี้ต้องบอกว่า ห่างชั้นกันเลยทีเดียว สตีพ คู่ควรกับรางวัลอย่างน้อยสอง-สามรางวัลจากการแสดงในเรื่องนี้ ในขณะที่ อดัมส์ ไม่สมควรได้อะไรเลย หากจะบอกว่าบทของสตีพดูเด่นกว่าบทของอดัมส์ มันก็ใช่ แต่ถ้าคุณได้ดูจะรู้ว่า บทจูเลียของสตีพนั้น เกิดจากสตีพรังสรรค์มันขึ้นมาให้โดดเด่นด้วยตัวเองจริงๆ ใครคนอื่นจะมาสวมทับบทนี้ก็คงทำไม่ได้อย่างเธอ ผมเดาอย่างค่อนข้างมั่นใจว่าเธอต้องออกแบบตัวละครนี้เองมากกว่าครึ่งของบทที่เธอได้ ในขณะที่อดัมส์ไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติมกับบทจูลี่สักเท่าไหร่ จนผมรู้สึกว่าเธอโดนกลบฝังซะมิด ผมเชื่อว่าหากเปลี่ยนเป็นนิโคลคิดแมนหรือเรเน่เซลเวเกอร์ น่าจะทำได้ดีกว่านี้



3. เมอรีล สตีพ อย่างที่บอกในข้อที่แล้ว แต่ที่ต้องเอามาพูดอีกครั้ง เพราะการแสดงของเธอนั้น ยอดเยี่ยมจริงๆ เธอเป็นคนแก่ที่มีเสน่ห์ สามารถเปลี่ยนเสียงสำเนียงบุคลิกลักษณะเสียจนคนดูไม่รู้สึกได้เลยว่าเธอเป็นเมอรีลสตีพ หรือเป็นตัวแสดงอื่นๆในหนังที่เธอเคยแสดง คนดูแม้จะไม่รู้จักจูเลียไชลด์ว่าเป็นใครอย่างไร แต่ก็จะหลงรักเธอซึ่งแสดงโดยสตีพนี้ได้อย่างง่ายดาย เหมือนดังที่ตัวละครอื่นๆในหนังก็หลงรักเธอเช่นกัน
4. ความกลมกล่อมของหนัง ก็หนังเรื่องนี้มีอาหารถึง 542 จาน (ถ้าผมจำไม่ผิด) แม้เราจะไม่ได้เห็นครบทุกจาน แต่รสชาติของหนังมันก็ต้องมีให้ครบ หนังถึงจะกลมกล่อมสมกับเป็นหนังอาหาร ฉนั้น รส(อารมณ์)ต่างๆจึงใส่มาอย่างครบเครื่อง และได้จังหวะจะโคน แม้จะน่าเสียดายไปนิดที่ดูไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่ในแง่รสชาติต้องบอกว่า มาได้หลากหลายอย่างพอดี

สิ่งที่ขัดใจเล็กน้อย
1. สามีตัวประกอบ ผู้ชายที่แสนดีมีจริงๆในโลก และในหนังเรื่องนี้ก็มีถึงสองคน แต่ที่ขัดใจคงเป็นน้ำหนักของหนังที่มันไม่ถ่ายมาให้คุณสามีได้โชว์ของเลย สองสามีจึงขาดมิติ/รายละเอียดไปสักหน่อย
2. ความมหัศจรรย์ของอาหาร ดูตั้งแต่ต้นจนจบ ผมก็ยังไม่ยักกะรู้สึกอยากกินอะไรสักอย่าง นี่มันหนังอาหารหรือเปล่าเนี่ย? ไม่ Appetit เลย จริงๆแล้วในอาหารชุดสุดท้าย อย่างน้อยก็น่าจะทำให้เกิดความรู้สึกว่ามันสุดยอด ยอดที่สุด แต่ก็...ไม่

อ้อ จุดหนึ่งที่หนังใส่เข้ามา และถ้าจะไม่พูดถึงก็จะขาดอรรถรสในการรีวิวหนังไปสักหน่อย คือ เรื่องของคนในจินตนาการ(หรือว่าคนในสื่อ) กับ คนจริงๆ --- ก็ต้องยอมรับอยู่อย่างหนึ่งว่า สื่อที่เราได้รับมานั้นมันผ่านมาหลายต่อหลายทอด อย่าง จูเลีย ไชลด์ กว่าเธอจะรังสรรค์ปั้นแต่งหนังสือและสื่อวิดิทัศน์ของเธอนั้น มันก็มาจากการแต่งอยู่แล้วทอดหนึ่ง การส่งข้อความนั้นมาถึงคนดู/คนอ่านก็เป็นอีกทอดหนึ่ง แล้วคนดู/คนอ่านก็มาตีความด้วยกรอบของตัวเองเป็นอีกทอดหนึ่ง แค่นี้ไม่พอ คนดู/คนอ่านบางคนก็เสกสรรจินตนาการให้บรรเจิดเพริดแพร้วต่อไปอีก แล้วอย่างนี้จะให้สารที่คนดู/คนอ่านรับมันตรงกับความเป็นจริงทุกกระเบียดนิ้วได้อย่างไร หนังอาจจะอยากฝากให้ผู้รับสื่ออย่างเราๆ อย่าเชื่อ/คิดเติมแต่งหรือคาดหวังจากสารที่ได้รับให้มากเกินไปนักนั่นเอง

สรุป แม้คุณจะไม่ใช่คออาหาร แต่คุณก็จะชอบหนังเรื่องนี้ได้โดยไม่ยากนัก หนังยาวเกือบสองชั่วโมง แต่คนดูจะเพลิดเพลินไปกับการแสดงของเมอรีล สตีพ ที่อุ้มชูและครอบครองหนังเรื่องนี้อยู่ตลอดทั้งเรื่อง

ให้ 8/10 เพราะสตีพ เป็นหลัก และ ผกก&คนเขียนบท เป็นของแถม





 

Create Date : 27 พฤศจิกายน 2552
4 comments
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2552 8:51:09 น.
Counter : 5052 Pageviews.

 

เอ้าไปดูมาแล้วเหรอเนี่ย ให้เยอะนะเนี่ย เด๋วต้องไปดูมั่งละ

วันอาทิตย์ก็ไปดูเทศกาลหนังยุโรปเหมือนกัน แต่หลับอีกแล้ว

 

โดย: dfh 1 ธันวาคม 2552 10:36:29 น.  

 

ดูมาจากไหนอะ มันเข้าที่ไหน

 

โดย: dfh 1 ธันวาคม 2552 23:10:50 น.  

 

ดูมาแล้วเมื่อวานนี้ แอบหลับด้วย แต่หนังดีฮา แต่ว่า ยังไม่ทำให้รู้สึกถึงอยากกินอาหารตามหนังนี่สิ แต่ให้คะแยยนักแสดง สตีพ 8/10

 

โดย: dfh 4 ธันวาคม 2552 10:06:59 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ครับ ขอให้มีความสุขสมอารมณ์หมายในปีนี้อีกปีนะครับ
ปล.พักนี้หายไปไหนเอ่ย

 

โดย: Nanatakara 1 มกราคม 2553 3:51:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


จุใจ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นคนไม่ค่อยเขียนบล็อคเท่าไหร่ ที่สมัครก็เพราะเพิ่งจะคิดได้ว่า น่าจะเอา รีวิว ที่เขียนเป็นกระทู้ในพันทิปมาเก็บไว้ที่นี่สักหน่อย แล้วก็เผื่อว่าจะมีใครอยากพูดคุยกันก็น่าจะสะดวกขึ้น กระทู้พันทิปมันวิ่งเร็วเกินไป

ถ้าใครนับถือศีล5 ช่วยกรุณากระซิบมาทำความรู้จักกันหน่อย พวกเราเหลือกันน้อยเต็มที ผมอยากรู้จักคุณ
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
27 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add จุใจ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.