เรื่องความอ่อนไหวอันนี้ก็เป็นที่หนักใจของครอบครัวมากค่ะ บางเวลาคุณนายดูเป็นเด็กที่มีความมั่นใจสูง แต่บางเวลา บางเรื่อง เธอก็ดูอ่อนไหวจนเกินเหตุ เช่น
เรื่องที่เธอนำแหวน ไปขายให้เพื่อนๆที่ รร.ค่ะ มีลูกค้าคนนึงสวมแหวนของเธอแล้วถอดออกไม่ได้ค่ะ ดึงก็แล้ว ฟอกสบู่ก็แล้ว มันก็ยังไม่ออก คุณนายคงรุ้สึกผิดมาก เลยโทรมาถามเราว่าถ้าเพื่อนถอดแหวนไม่ออก จะมีวิธีไหนที่ช่วยถอดแหวนออกจากนิ้วเพื่อนได้ เราก็นึกว่าลูกล้อเล่นอ่ะค่ะเลยพูดติดตลกไปว่าสงใสต้องตัดนิ้ว เท่านั้นแหละค่ะ ร้องไห้โฮเลย 555+เราจึงต้องบอกวิธีให้เธอไปบอกเพื่อนคนนั้นสุดท้ายแหวนก็หลุดออกจากนิ้วอย่างง่ายดายค่ะ เรายังบอกคุณนายตัวดีไปอีกนะค๊ะว่า (ทีหลังแหวนติดนิ้วเพื่อนไม่ต้องโทรมาบอกนะ เอาไว้แหวนติดคอเพื่อนเมื่อไหร่ค่อยโทรมาบอก555)
เรื่องไฟแช็คระเบิด วันที่คุณนายเตรียมของเพื่อจะไปเข้าค่าย ก็ขาดไฟฉายและไฟแช็ค วันถัดมาเราไปซื้อของดันเหลือบไปเห็นไฟฉายอันเล็กๆซึ่งเป็นไฟแช็คในตัวด้วย จึงซื้อมาให้เค้า คุณนายก็เก็บใส่กระเป๋าเดินทางตามปกติ แต่ปัญหามันเกิดเพราะว่า คุณครูให้ นร.ทุกคนเก็บกระเป๋าไว้ที่ช่องเก็บของไต้ท้องรถนั่นเองค่ะ เราส่งขึ้นรถไปกับเพื่อนๆและคุณครูได้แป็ปเดียว(ยังไม่ทันพ้น กทม.)เลยค่ะ โทรกลับมาหาเราร้องห่มร้องไห้ยกไหญ่ ไม่ทราบเหมือนกันว่าคุณนายเธอไปได้ยินมาจากไหน ว่าไฟแช็คเวลาโดนความร้อนมากๆจะระเบิด เธอจึงวิตกกังวลถึงกับคิดว่า ถ้าไฟแช็คในกระเป๋าของเธอเกิดระเบิดขึ้น ไฟก็จะลุกลามไปที่ถังน้ำมันของรถทำให้รถระเบิด เพื่อนๆกับคุณครูรวมทั้งตัวเธอต้องตกอยู่ในอันตราย ยังไงเธอก็จะเอาไฟแช็คอันนั้นออกมาจากกระเป๋าให้ได้ ฮาๆๆๆๆมั้ยล่ะค่ะลูกสาวเรา
เรื่องนิสัยนางงาม คุณนายเปรียบเสมือนนางฟ้าน้อยๆประจำบ้านเราเลยค่ะ แต่ว่าถ้าออกไปนอกบ้่านเธอก็จะเหมือนนางงามมากค่ะ คือมีจิตรใจเมตตาต่อสัตว์ที่ยากไร้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นน้องหมา น้องแมว ตาบอด ขาเป๋ เป็นเห็บ หมัด ขี้เรื้อน เร่ร่อน มอมแมม แค่ไหน เมื่อเธอพบเห็น ก็จะตรงเข้าไปกอดทันทีค่ะ (คิดว่าเกินไปมั้ยค๊ะ) เราอดใจหายไม่ได้อ่าค่ะกลัวว่าคุณน้องหมาทั้งหลายจะงับเธอเข้าให้ครั้งนึง คุณนายเคยโดนแมวจรจัดข่วนด้วยค่ะ ต้องไปฉีดยากันยกไหญ่ก็เพราะความที่เธอมีนิสัยแบบนี้ล่ะค่ะ
ถึงอย่างไรเราก็ต้องยอมรับค่ะว่าคุณนายเธอคือ นางฟ้าองค์น้อยๆที่มาดลบันดาลความสุขความสดใสให้กับชีวิตของเราจริงๆสิ่งที่เธอทำทุกๆอย่างนั้นล้วนออกมาจากใจ ไร้มารยา (แต่ว่าแอบเจ้าเล่ห์ นิสๆ)ทำไปตามประสาของเด็กเท่านั้นเองค่ะ ยังคงมีอีกหลายอย่างที่เธอจะต้องเรียนรู้ และปรับเปลี่ยน คนเป็นพ่อ-แม่ก็ได้แต่คอยประคับประคองและสอนให้เค้าเป็นคนดีของสังคม กตัญญูต่อผู้มีพระคุณ ส่วนวันข้างหน้าเราเองไม่อยากจะคาดหวังค่ะ รู้แต่ว่าวันนี้ลูกๆของเราเป็นเด็กที่ดี สมวัยของเค้าแล้ว แค่นี้ก็ดีใจและภูมิใจที่สุดแล้วค่ะ
Free TextEditor
Create Date : 25 มกราคม 2554 |
Last Update : 17 มกราคม 2555 0:03:24 น. |
|
2 comments
|
Counter : 460 Pageviews. |
|