|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
แก้ว ๙ ประการ (เนาวรัตน์)
นางในไขสุหร่ายสายสินธุ์ วารินละอองอาบซาบซ่าน ทรงสุคนธ์ปนทองรองพาน พนักงานรำเพยพัชนี สนับเพลาเชิงงอนซ้อนกนก ภูษายกแย่งรูปราชสีห์ ฉลององค์ทรงสอดใส่อินทรีย์ สวมเกราะแก้วมณีสีประเทือง ปั้นเหน่งเพชรพรรณรายสายกระสัน สังวาลย์วัลย์สอดสร้อยห้อยเฟื่อง พาหุรัดรจนาค่าเมือง ทองกรประดับเนื่องเนาวรัตน์ ธำมรงค์รังแตนแหวนเพชร น้ำหนักแต่ละเม็ดเจ็ดกะรัต กรรเจียกจรเจียระไนดอกไม้ทัด กรีดพระหัตถ์ห้อยพ่วงพวงผกา
รามเกียรติ์ รัชกาลที่ ๒ ตอนศึกกุมภกรรณ
ยกบทพระราชนิพนธ์มาตั้งยาว แต่จอมยุทธฯ อยากพูดถึงเรื่องเดียวเอง คือ เนาวรัตน์ หรือ แก้ว ๙ ประการ ซึ่งแยกลักษณะตามสีได้ ดังนี้
๑. เพชร สีงามบริสุทธิ์เหมือนน้ำใส ๒. ทับทิม สีแดงอ่อนเหมือนเมล็ดทับทิมสุก หรือสีแดงสดเหมือนสีดอกบัว (ปทมราช) ๓. มรกต สีเขียวเหมือนสีปีกแมลงทับ ๔. ไพฑูรย์ สีตาไม้ไผ่สุก ๕. โกเมน สีแดงก่ำ คือสีแดงกับสีดำปนกัน ๖. เพทาย สีแดงสลัว คือสีแดงกับสีเหลืองปนกัน ๗. นิล สีเหมือนดอกผักตบ หรือสีน้ำเงินแก่ ๘. บุษราคัม สีเหลืองเหมือนแววหางปลาสลาด ๙. มุกดาหาร สีเหมือนไข่มุกด์
อันแก้วทั้ง ๙ ประการนี้ คนโบร่ำโบราณได้ผูกเป็นกลอนเพื่อให้ง่ายต่อการจดจำไว้ว่า
๑. เพชรน้ำดี (เพชรที่ ๑) ๒. มณีน้ำแดง (ทับทิม) ๓. เขียวใสแสง- มรกต ๔. เหลืองใสสด- บุษราคัม ๕. แดงแก่ก่ำ- โกเมนเอก ๖. สีหมอกเมฆ- นิลกาฬ ๗. มุกดาหาร- หมอกมัว ๘. แดงสลัว- เพทาย ๙. สังวาลสาย- ไพฑูรย์
แก้ว ๙ ประการนี้ บางครั้งเรียกว่า เนาวรัตน์บ้าง นพรัตน์บ้าง มณีนพหรือนพเก้าบ้าง เป็นเครื่องประดับชั้นสูงสำหรับประดับเรือนแหวนหรือดวงตรา เช่น ตรานพรัตน์ ราชวราภรณ์ เป็นต้น นับถือกันว่าเป็นเครื่องประดับที่ทำให้เกิดสิริมงคลแก่ผู้ประดับ จึงมักจะพบเห็นเสมอถ้าอ่านวรรณคดีเรื่องต่างๆ อย่างโคลงบทนี้ซึ่งหลายท่านน่า จะรู้จักเป็นอย่างดี
นาคีภุชแผ่เกล้า............................เกลือกเศียร คลี่อาตมวนเวียน..........................หัตถ์ไท้ นพรัตน์เรียบรายเฉวียน.............ฉวัดวิ่ง แสงนา เถือกเถกิงกลใต้............................ตากรุ้งเรืองโพยม
โคลงจากลิลิตตะเลงพ่าย ของกรมสมเด็จพระปรมานุชิตชิโนรส บทนี้ ถือเป็นบท ดีเด่นบทหนึ่งเลยทีเดียว คำว่า "ตากรุ้งเรืองโพยม" อ.เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ได้นำ ไปใช้ตั้งเป็นชื่อกวีนิพนธ์ของท่านเล่มหนึ่ง
กลัวจะนอกเรื่องไปมาก มาเข้าเรื่องกันต่อดีกว่า ครั้งแรกๆที่จอมยุทธฯ อ่านโคลง บทนี้ ยอมรับว่าไม่รู้เรื่องเอาเสียเลย ต้องมาค่อยๆแกะทีละบาทจึงได้เห็นความ อลังการอันมลังเมลืองของโคลงบทนี้ อย่างที่ อ.เนาว์ ว่าไว้ ลองมาแกะกันดูทีละ บาทดีกว่า ขอรับ
บาทที่ ๑ นาคีภุช คือกำไลมือรูปพญานาคขดลำตัวแผ่พังพานเกลือกศรีษะ บาทที่ ๒ คลี่ลำตัวออกเวียนรอบข้อพระหัตถ์ บาทที่ ๓ นพรัตน์ - แก้วทั้ง ๙ รายดวงกลอกแสงวิ่งอยู่รอบวงกำไลมือ คือกะพริบพราวเล่นแสงอยู่ตลอดเวลา บาทที่ ๔ สว่างลุกเหมือนดวงใต้ที่พลุ่งพลามปานจะแข่งกับรัศมีรุ้ง ณ ฟากฟ้า
ว่าจะกล่าวถึงเนาวรัตน์ สั้นๆ แต่ก็มาได้ยาวเหมือนกัน ขอจบก่อนดีกว่า ขอรับ
Create Date : 18 กันยายน 2548 |
Last Update : 18 กันยายน 2548 9:13:40 น. |
|
6 comments
|
Counter : 1799 Pageviews. |
|
|
|
โดย: ยัยบี๋ วันที่: 18 กันยายน 2548 เวลา:18:54:04 น. |
|
|
|
โดย: สุกัญญา ทองทา IP: 61.19.154.74 วันที่: 1 สิงหาคม 2549 เวลา:11:21:22 น. |
|
|
|
โดย: ทาย IP: 203.151.140.118 วันที่: 24 สิงหาคม 2549 เวลา:11:23:30 น. |
|
|
|
โดย: 123 IP: 125.27.173.182 วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:8:11:53 น. |
|
|
|
โดย: ฟาง IP: 58.147.74.6 วันที่: 8 สิงหาคม 2553 เวลา:11:17:15 น. |
|
|
|
|
|
|
|