|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ความรู้เกี่ยวกับน้ำมันมะกอก
น้ำมันมะกอก Extra Virgin ไม่ผ่านกระบวนการอื่นในการฟอกสีหรือสกัดแยกสารปนเปื้อน หรือกรดไขมันอิสระที่เป็นพิษออก สามารถนำมาบรรจุขวดขายได้ในราคาแพงๆ น้ำมันมีสีอมเขียวบ้าง อมสีทองบ้าง คุณภาพไม่ได้ขึ้นกับสี ผู้บริโภคบางคนมักจะเข้าใจเอาว่าหากอมสีเขียวน่าจะมีคุณค่า กว่าสีเหลืองหรือสีทองซึ่งเป็นความเข้าใจผิด อันที่จริงคุณค่าไม่ต่างกันสักเท่าไหร่
น้ำมันอีกประเภทหนึ่งคือ Virgin เป็นน้ำมันมะกอกที่กระบวนการผลิตผ่านความร้อนบ้าง ส่วนใหญ่หรือเกือบทั้งหมดจะเป็นน้ำมันที่สกัดจากผลมะกอกที่มีคุณภาพรองลงมาจาก Extra Virgin น้ำมัน Virgin Olive Oil นี้ให้คุณค่าไม่เท่า Extra Virgin เพราะสารอาหารรวมถึงสารเคมี ที่เป็นประโยชน์หลายชนิด ถูกทำลายด้วยความร้อน แต่ราคายังแพงพอประมาณ Vigin Olive Oil ที่แยกออกมาได้นี้ ตามปกติส่วนหนึ่งจะถูกบรรจุขวดขายเป็น Virgin Olive Oil อีกส่วนหนึ่งแบ่งไว้ผสมกับน้ำมัน Refined Olive Oil
น้ำมัน Refined Olive Oil มีราคาถูกลงค่อนข้างมาก เป็นน้ำมันมะกอกธรรมดาที่สกัดจากเนื้อมะกอก ด้วยกระบวนการผลิตน้ำมันพืชทางอุตสาหกรรม มีการใช้ความร้อน ใช้สารเคมี โซลเวนท์ เมื่อผ่านการสกัดแยกน้ำมันออกมาแล้วยังมีการผ่านกรรมวิธีต่างๆ เช่น ฟอกสี ฟอกกลิ่น น้ำมัน Refined Olive Oil ที่ผ่านกรรมวิธีนี้ มักเติม Virgin Olive Oil ลงไปส่วนหนึ่ง เพื่อทำให้น้ำมันมะกอกขวดที่ได้นี้ยังมีกลิ่นสีของน้ำมันมะกอกดั้งเดิมอยู่บ้าง อีกทั้งเพื่อเป็นการเติม สารต้านออกซิเดชั่นที่มีอยู่ในน้ำมัน Virgin ลงไปในน้ำมัน Refined
น้ำมันกลุ่มสุดท้าย คือ Pomage Oil เป็นน้ำมันมะกอกที่สกัดจากเนื้อมะกอก ที่ผ่านการสกัดเอา Virgin หรือ Extra Virgin Oil ออกไปแล้ว น้ำมันที่ยังค้างอยู่จะผ่านกระบวนการ สกัดทางอุตสาหกรรม คุณภาพของน้ำมันจะสู้ Refined Olive Oil ไม่ได้ แต่ยังสามารถนำมาบริโภคได้
น้ำมันมะกอกกลุ่มสุดท้ายคือ Light Olive Oil เป็นน้ำมัน Refined ที่ไม่มีการเติม Virgin กลับเข้าไปทำให้ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น
สุดท้ายผู้บริโภคคนใดอยากจะเลือกบริโภคน้ำมันประเภทไหน ก็เชิญตามสะดวกเถิดค่ะ แต่อย่าเผลอนำเอาน้ำมันมะกอกเกรดต่ำที่ใช้ใส่ผมมาบริโภคก็แล้วกัน เพราะเป็นน้ำมันที่ไม่เหมาะ ต่อการบริโภคอย่างสิ้นเชิง
ดร.วินัย ดะห์ลัน ที่มา... เนชั่นสุดสัปดาห์ ปีที่ 9 ฉบับที่ 455 วันที่ 19-25 ก.พ. 2544]
แล้วจะใช้น้ำมันมะกอกได้อย่างไร
Extra virgin olive oil ไม่นิยมนำมาปรุงอาหารที่ใช้ความร้อน เนื่องจากความร้อนจะทำให้รสชาติของมันเสียไป แต่จะนิยมใช้เป็นส่วนผสมของสลัด เดรซซิ่ง หรือเหยาะบนขนมปังแทนการใช้เนย เพราะให้รสชาติที่อร่อยและมีประโยชน์
Virgin olive oil สามารถนำมาประกอบอาหารได้เกือบทุกประเภทยกเว้นการทอด นิยมนำมาทำอาหารเมดิเตอร์เรเนียน
Pure olive oil เป็นน้ำมันมะกอกที่ผ่านการกลั่นและผสมระหว่างน้ำมันมะกอกแบบ virgin oil กับแบบ refined oil ให้กลิ่นอ่อนกว่าน้ำมันมะกอกสองแบบแรก เหมาะสำหรับทำอาหารทุกประเภท
Olive-pomace oil เป็นน้ำมันผสมระหว่าง refined pomace olive oil กับ virgin oil มักใช้ปรุงอาหารบางชนิดในร้านอาหาร
ที่มา //www.foodstylist.co.th/web/highlight_inside.php?id=16&lang=th
น้ำมันมะกอกคุณภาพดี ราคาแพง ควรเอามาปรุงเป็นน้ำสลัด หรือเครื่องปรุงรสของอาหารอื่น ไม่เหมาะจะนำมาทอดหรือผัด ซึ่งอาจใช้น้ำมันมะกอกเกรดต่ำลงมาได้ และน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์พิเศษจะเสียรสหากถูกความร้อนทำให้มีอุณหภูมิสูงกว่า 60 องศาเซลเซียส และควรทอดไม่เกินอุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียส
น้ำมันมะกอกไม่สามารถเก็บนานๆ ได้ เมื่อเปิดขวดแล้ว ต้องใช้ให้หมดภายในเวลา 3-6 เดือน และไม่ต้องแช่เย็น เพียงเก็บให้ห่างจากความร้อนหรือแสงแดดมิฉะนั้นจะเหม็นหืน ไม่ควรให้ ถูกแดดหรือความร้อนใดๆ และควรปิดฝาขวด ไว้เสมอ
Create Date : 23 สิงหาคม 2550 |
|
2 comments |
Last Update : 22 กุมภาพันธ์ 2551 9:27:37 น. |
Counter : 2865 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: chamnan T. IP: 202.41.187.241 22 กุมภาพันธ์ 2554 14:18:03 น. |
|
|
|
|
|
|
|