Running Boy ...... แค่แวะมาบอกว่า หนังไม่โดนอย่างที่คิดไว้แฮะ....
............ไม่ได้อัพบล็อคซะหลายวัน เล่าเรื่องที่ไปดูหนังมาดีกว่า เรื่อง Running boy เป็นหนังที่ดองมานานพอสมควรเหมือนกัน เพราะรู้สึกจะเป็นหนังปี 2004 เคยอ่านวิจารณ์หนังเรื่องนี้มานานโขแล้ว แล้วก็พาลให้อยากดู เพราะรู้สึกจะเป็นหนังที่มีปัจจัยเอื้อ แล้วก็เป็นแนวที่น่าจะถูกอกถูกใจผมซะด้วยสิ แถมยังมาฉายในช่วงที่ถูกจังหวะอีก คือช่วงวันแม่ หนังเป็นเรื่องเกี่ยวกับ แม่และลูกชายที่เป็นออทิสทิกซ์ แล้วลูกชายคนนี้ก็ได้มาเป็นนักวิ่งแข่งมาราธอน โดยความสนับสนุนจากคุณแม่
..............เหตุผลหลักที่สุดที่อยากดูหนังเรื่องนี้ก็คงเพราะอยากดู ฝีมือของ โจ ซุง วู น่ะแหละครับ ก็พระเอก The classic คนนี้ผมชอบนักหนาเชียวล่ะ ( ดูในโรงประมาณ สามรอบ ที่บ้านอีกสองรอบ ) มาเรื่องนี้เค้าเล่นเป็นหนุ่มออทิสทิกซ์ได้ดีทีเดียวเชียว ถึงจะไม่สุดยอดอย่างพ่อ ดัสติน ฮอฟแมน ใน Rainman ก็เหอะ .... หนังเรื่องนี้ไม่ได้ขายความซึ้ง ไม่ได้เล่นกับอารมณ์แม่ลูกกันแบบ เอากันตายอย่างที่คิดไว้ จริงๆ มันไม่ใช่ปาฏิหาริย์จากแม่เลยด้วยซ้ำ
................จุดที่ผมชื่นชมมากๆสำหรับหนังเรื่องนี้ก็คือ บทหนังครับ โอเค มันอาจจะดึงอารมณ์ไม่ถึงที่สุด แต่มันเป็นงานเขียนบทที่เจาะลึกถึงคาแรคเตอร์ ได้อย่างดีมากทีเดียว แล้วพูดในประเด็นที่เราคิดไม่ถึงอย่างตรงไปตรงมา อย่างเช่น แทนที่หนังจะไปขับเน้น การรักษาลูกให้ดีขึ้น หรือว่า ความรักความผูกพัน ความเอาใจใส่ของแม่ หนังกับใส่ชีวิตลงไปในตัวแม่ ลูก แถมยังไม่ลืมตัวละครรองอย่าง พ่อ หรือ น้องชายด้วย
...............หนังกล้าพูดอย่างตรงไปตรงมา ถึงความรู้สึกของแม่ แล้วก็สิ่งที่อยู่ในใจลึกๆของแม่ ว่ามันใช่ความรักจริงหรือ คือความเอาใจใส่จริงหรือ หรือว่าเค้าทำเพื่อตัวเอง ?? แถมหนังยังหักมุมเล็กๆตอนท้ายอีกด้วย ซึ่งเชื่อว่าคงทำให้คนดูช็อคเล็กๆไปบ้าง .... หลังดูหนังจบ ผมอดรู้สึกอิจฉาคนทำหนังเกาหลีชมัด ที่ตลาดหนังเค้าเปิดกว้างสำหรับหนังหลากหลายแนวดีจริงๆ ผมได้ดูหนังเกาหลีสารพัดแนว ซึ่งคงยากที่จะเห็นจากหนังไทย อย่างเช่นหนังเรื่องนี้ ดราม่าซะ ( แต่จริงๆก็มีฉากตลกๆหลายฉากเหมือนกัน ) ถ้าเป็นหนังไทย มีคนทำหนัง ไปยื่นบทหนัง เกี่ยวกับแม่ และลูกออทิสทิกซ์ คุณว่าจะมีนายทุนหน้าใหนให้ทุนทำใหม๊ครับ ??? แต่ที่เกาหลี หนังเรื่องนี้เปิดอันดับ1 ถึงห้าสัปดาห์ แถมยังทำเงินรวมอันดับสามของปีอีกตะหาก ซึ่งถ้าเป็นหนังไทย ต่อให้ทำหนังแนวนี้ดีแค่ใหน ก็คงไม่มีปัญหาทำเงินได้ขนาดนี้ เพราะตลาดคนไทยมันดูแต่หนังอย่าง โกยเหอะโยม หรือไม่ก็ ไซเลนท์ฮิลล? ( ฮ่วย ) แล้วสะเออะมาบอกว่าอยากดูหนังดี ( อยากอ๊วกว่ะ ) อ้อ รอบที่ผมไปดูที่เมโทรโปลิส มีคนดูแค่ 7คนเองครับ เห็นใจค่ายบ๊อกออฟฟิศที่เอามาฉายจริงๆ อยากให้คนไปดูกันมากกว่านี้น่ะครับ อาจจะไม่ใช่หนังที่ถึงกับดีมากนัก แต่ก็เป็นหนังที่น่าจะคุ้มค่าตั๋วครับ ให้สองดาวกว่าๆ
Create Date : 12 สิงหาคม 2549 |
|
8 comments |
Last Update : 12 สิงหาคม 2549 23:12:11 น. |
Counter : 1533 Pageviews. |
|
|
|