Bloggang.com : : joblovenuk :

>> ภาพสวยๆรอบเพรส " หนังผี " และบทวิจารณ์ของ Joblovenuk <<

หนังผี ( สองดาวครึ่ง )

.................................เมื่อวานซืนตอนโทรไปขอตั๋วผู้กำกับสราวุธ อินพรหมเพิ่มอีกใบ แกบอกผมว่า หาตั๋วให้ได้นะ แต่ ... ต้องเขียนชม และเชียร์หนังแกอย่างเดียว ห้ามติห้ามด่า 555 เล่นเอาผมอึ้งไปเลย แต่ก็บอก โอเคๆๆ เดี๋ยวจะเขียนเชียร์ให้เต็มที่อยู่แล้ว แต่ในใจก็แอบคิดนะว่า เฮ้ย คนตรงๆอย่างผมเนี่ยนะ จะให้เขียนอำๆแบบโกหกตัวเอง ไม่เป็นความจริงก็จะให้ปั้นเรื่องเป็นหน้าม้า ไม่ใช่สไตล์ผมนะเนี่ย คราวก่อนสงสัยยังไม่เข็ด เดาว่าแกคงยังไม่เคยเห็นที่ผมเขียนถึงหนังเซ็งเป็ดของแก ที่ผมสับเละเป็นหมูบะช่อเลย แต่ยังไงก็ต้องขอบคุณในความน่ารักของแกที่อุตส่าห์หาตั๋วที่นั่งพิเศษแบบว่าวีไอพีมากๆมาให้พวกเรา ตั้งแต่ดูหนังรอบเพรสมาครั้งนี้แหละครับที่ได้ที่นั่งเจ๋งที่สุด รู้สึกซาบซึ้งมาก ที่ปลื้มอีกเรื่องก็คือ ผกก.เคยชวนให้ไปเล่นบทรับเชิญในหนังเรื่องนี้ด้วย 1 ฉาก วันเดียวเสร็จ แต่พอดีช่วงนั้นติดไปเชียงราย เลยอดเล่นหนังใหญ่ด้วยประการฉะนี้ นึกแล้วยังเสียดายอยู่ไม่หาย นานๆจะมีโอกาสดีๆแบบนี้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับที่จะมีคนชวนเล่นหนัง ? ( จะว่าไปแล้ว ผกก.สราวุธ ก็เป็นเพื่อนคนแรกและคนเดียวจากในเน็ทของผมที่รู้จักกันตั้งแต่ยังไม่ดัง พยายามไต่เต้าขึ้นเป็นผู้กำกับ และสุดท้ายได้ทำหนังสมใจถึงสองเรื่องแล้ว )

.................................หนังผีของ ผกก.สราวุธ เป็นหนังสยองตามสูตร มิใช่หนังผีแนวใหม่ที่น่าประหลาดใจอะไรแต่อย่างใด ผกก.บอกเราว่า นี่คือหนังที่พยายามจะเป็น ศุกร์ 13 หรือไม่ก็พวก Texas Chainsaw ในแบบไทยๆอ่ะครับ ไม่ได้คาดหวังว่าจะเป็นอย่าง Scream ซึ่งก็จริงครับ หนังสยองขวัญที่บทฉลาดๆอย่าง Scream มันไม่ได้ทำกันง่ายๆหรอก หนังเรื่องนี้เป็นเรื่องราวของคนกลุ่มหนึ่งซึ่งไปติดอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน พื้นที่ปิดล้อม เกิดเหตุฆาตกรรมสยดสยองต่อเนื่อง ไม่รู้ว่าใครเป็นฆาตกร และไม่รู้ว่าจะหาทางเอาตัวรอดออกจากที่ตรงนั้นได้อย่างไร ก็ต้องพยายามช่วยตัวเองกันสุดฤทธิ เพราะถ้าไม่สำเร็จนั่นก็หมายถึงความตายเท่านั้นเอง !! จะว่าไปแล้วหนังมีประเด็นนำเสนอให้จับต้องได้ และมีความเก๋ไก๋ในแบบที่ผมชอบ นั่นคือความเป็นหนังซ้อนหนัง และมุขตลกร้ายเสียดสีวงการ แต่หนังก็หยิบมาเล่นพอหอมปากหอมคอเท่านั้น ไม่ได้เล่นมุขลึกๆแบบที่คนวงในเท่านั้นจะรู้ บทหนังก็เว้ากันซื่อๆเลย ไม่ได้พยายามที่จะทำตัวเองให้ดูฉลาดมากนัก เหมาะสำหรับตลาดหนังเมืองไทยแบบสุดๆ คิดว่าคนดูทั่วไปน่าจะชอบ เพราะส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ชอบหนังขั้นสูงที่ต้องคิดเยอะ หรือปีนกะไดอยู่แล้ว หนังแบบนี้ แบบเรื่อง แฟนเก่า นี่แหละ ซื่อๆบ้านๆ คนถูกใจ

.................................ฉากโหดๆของหนังไม่ได้มากอย่างที่คิด และก็ไม่ได้สุดๆอย่างที่กลัว ฉากน่ากลัวของหนังก็มีให้ชวนสะดุ้งอยู่เนืองๆ เสียดายหนังไม่ได้ใช้ประโยชน์ของแนวหนังซ้อนหนังมากเท่าที่คิด สมควรจะใส่เซอร์ไพร๊ซ์หรือหักมุมให้มันเข้ากับท้องเรื่องมากกว่านี้อีกสักหน่อย หนังมันดูเป็นหนังมากๆแทบทั้งเรื่อง ขาดความสมจริงบางอย่างที่น่าจะทำให้น่าเชื่อถือ เช่นการแสดงที่พยายามแข็งๆแบบให้รู้ว่านี่คือการแสดง เหตุและผลของการกระทำของตัวละครในท้ายที่สุดแล้วไม่ได้ทำให้เราเชื่อมากนักถึงบทสรุปการกระทำ ถ้าใส่ช็อตชวนช็อค หรือมุขที่เรานึกไม่ถึงได้ หรือฉากเฉลยที่แรงกว่านี้ได้ หนังน่าจะดูดีขึ้น แต่ถ้าไม่ได้คาดหวังหรือไม่ได้ซีเรียสอะไรนัก นี่คือหนังที่ดูเพลินๆ ฆ่าเวลาได้ดีเรื่องนึง น่าจะดีกว่าหนังฟอร์มยักษ์ที่มี่แต่ตัวละครเยอะๆแล้วไม่ได้ทำอะไรเป็นสาระเท่าไหร่ !! ความเจ๋งและความเก่งของผกก.สราวุธ ในการทำหนังทั้ง 3 เรื่องที่ผ่านมาที่ผมต้องขอยกนิ้วชื่นชมให้นั่นก็คือ สามารถทำหนังออกมาได้ดูสนุกพอประมาณ ไม่ต้องฉลาดมาก แต่ก็มีสาระและมีความพยายามที่จะยกระดับของหนังแนวนี้ ที่สำคัญเขาสามารถทำมันออกมาได้เทียบเท่ากับหนังแนวเดียวกันของบางค่ายที่ต้องใช้เงินมากกว่าถึง 4 - 5 เท่า เขาทำได้อย่างไร ??

.................................ลองนึกดูสิครับว่าต้นทุนสร้างหนังไทยทั่วไปในยุคปัจจุบันนี้ราคาเท่าไหร่ ผมขอบอกเลยนะครับว่า ส่วนใหญ่อยู่ในราคาราวๆ 20 - 30 ล้านบาท อันนี้คือหนังสแตนดาร์ดทั่วไปนะครับ ไม่รวมหนังฟอร์มยักษ์ หรือหนังที่รวมดารากันเยอะๆ ต่ำกว่า 20 ล้านบาทนี่ทำหนังยากมากแล้วนะ ไม่ค่อยมีใครเขาทำกัน ยกเว้นหนังที่ผู้กำกับบริหารเงินเก่งๆ หรือว่าเป็นโครงการทำหนังอินดี้ ทำหนังทุนต่ำเท่านั้น ขนาดหนังนอกกระแสดังๆบางเรื่องก็ยังใช้งบถึงระดับเดียวกับหนังทั่วไปก็ยังมี ( ลุงบุญมีระลึกชาติ ทุนสร้าง 33 ล้านบาท ) หรือหนังอย่างจีทีเอชก็ไม่เคยต่ำกว่า 20 ล้านนะ ยิ่งถ้าเป็นหนังฟอร์มใหญ่ๆ บอกได้เลยว่าที่คุยว่าลงทุนร้อยล้านอะไรนั้นน่ะ ก็โม้เกินไป แต่การลงทุนในระดับ 70 - 80 ล้านบาทนี่มีจริงๆ แต่โดยมากหนังลงทุนสูงมักจะได้ผลลัพธ์ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ หรืออย่างดีก็แค่รอดตายหวุดหวิด ที่จะทำกำไรให้นายทุนจริงๆแทบจะไม่มีครับ แต่หนังที่จะได้กำไรโดยมากมาจากหนังที่ใช้ทุนน้อยๆแล้วบังเอิญทำเงินซะมากกว่า ? แล้วคุณรู้ใหมว่า หนังของผกก. สราวุธ สองเรื่องล่าสุดที่ผ่านมา ลงทุนเท่าไหร่ ทำเงินเท่าไหร่ ? เคยสงสัยกันมั้ยครับว่าทำไม " ตายทั้งกลม " ของผู้กำกับ ซึ่งทำเงินในเขตกรุงเทพแค่ 9 ล้านบาท ซึ่งน่าจะเรียกได้ว่าหนังเจ๊ง แต่ไหง๋ ผกก.ได้มีโอกาสทำหนังเรื่องต่อมาในระยะเวลาอันรวดเร็ว นั่นก็เพราะหนังมีกำไรน่ะสิครับ เมืองไทยนี่ถ้าผกก.คนใหนทำหนังขาดทุน โอกาสจะได้ทำหนังต่อแทบไม่มี หรือไม่ก็ต้องรอนานมากกกก หลายๆปีกว่าจะกลับมาได้ !!

.................................แท้จริงแล้วตัวเลขของทุนสร้างหนังตายทั้งกลม และ หนังผี น้อยจนผมได้ยินแล้วสะดุ้งว่า เป็นไปได้ยังไง ทำหนังในราคาระดับนี้ได้อย่างไร ? แล้วที่น่าประหลาดใจก็คือ ทุกอย่างที่เราเห็นบนจอ ก็ไม่ต่างจากหนังที่ลงทุนสูงกว่ามากๆแต่อย่างใด เรียกได้ว่าด้วยเงินทุนอันน้อยนิด แต่กลับเนรมิตหลายๆสิ่งให้ดูเหมือนมีมูลค่าได้ ตรงนี้ถือเป็นส่วนที่ผมชื่นชมความเก่งของผกก.และทีมงานครับ !! ผกก.สราวุธ กล่าวอย่างถ่อมตัวว่า ขอเป็นได้สักครึ่งหรือตามอย่างพี่พจน์ อานนท์บ้างก็ดีใจแล้ว แน่นอนว่าตรงนี้ต้องอาศัยเวลา ประสบการณ์และการสั่งสมเครดิตครับ ถ้ายังรักษาหรือเพิ่มมาตรฐานได้ ไม่แน่ ผกก.สราวุธ ก็น่าจะมีโอกาสยืนหยัดในวงการอย่างยาวนานไม่แพ้พี่พจน์ก็เป็นได้นะ กลับไปต่อที่หนังดีกว่า หนังได้ดารามาเยอะเหมือนกันนะ โดยเฉพาะ คุณอัญชลี สายสุนทร ที่เป็นเจ้าแม่ในสายหนังอินดี้ เสียดายที่ใช้ประโยชน์จากตัวละครนี้น้อยไปหน่อย มีคนบอกว่าหนังเดาง่ายไปนิด ซึ่งก็จริง ผมยังรู้สึกว่าอยากโดนหลอกให้มากกว่านี้หน่อย และอยากเห็นอะไรวาบหวามมากกว่านี้ด้วยเช่นกัน สำหรับช่วงสงกรานต์ปีนี้ถ้าใครไม่ได้เดินทางไปเที่ยวใหน ก็ลองไปสัมผัสหนังสยองขวัญ ขนหัวลุกแบบไทยๆกันดูนะครับ 12 เมษายน ทุกโรงภาพยนตร์

ป.ล. งานรอบเพรสจัดแบบประหยัด เรียบง่าย แต่ก็ออกมาดีนะครับ

//www.pandagroup.pantown.com/

คุยกับผู้เขียนในเฟสบุค แอ่ดได้เลย

//www.facebook.com/ayuwat.angkhawut?ref=profile

Create Date : 07 เมษายน 2554

0 comments

Last Update : 7 เมษายน 2554 9:58:24 น.

Counter : 1449 Pageviews.