|
Hulk 2 + Open City + Hell Boy 1 .... ดูครบหมดเนี่ย 50 บาทเอง
..............เช่าร้านแถวบ้านผมไงครับ เสียดายว่าเป็นพากษ์ไทย แต่ก็โอแหละครับ เขาก็พากษ์ใช้ได้ เด๋วนี้ดูหนังพากษ์ไทยบ่อยจนเริ่มรู้สึกไม่ค่อยตะขิดตะขวงกับการไม่ได้ดูซาวแทรคแล้ว แต่ถ้าเลือกได้ ณ วันนี้ก็ยังอยากดูหนังเสียงภาษาต้นฉบับอยู่ดีแหละครับ !! ขอคุยถึง Open city ก่อนละกันครับ เป็นหนังเกาหลี ชื่อไทยประมาณ ล่าจารกรรมรัก สะท้านโลก อะไรประมาณนี้ ตั้งชื่อซะเว่อร์ จริงๆก็เป็นหนังแนวตำรวจจับผู้ร้ายที่แทรกประเด็นรักๆลงไปด้วย จริงๆมันก็ไม่ได้เป็นหนังรักนะครับ เป็นหนังชิงไหวชิงพริบ ธรรมะกับอธรรมตามสูตรดาดๆธรรมดา แต่ที่ไม่ธรรมดาก็คือ หนังเรื่องนี้สลับตัวละคร โดยใช้ตัวผู้ร้ายเป็นนางโจรสาว หัวหน้าแก๊งค์ ที่รับเล่นโดย ซอน เย จิน นางฟ้า และนางเอกในดวงใจของผม เยจินนั้นปกติจะเป็นนางเอกหน้าหวาน รับบทแต่สาวใสซื่อ บทเรียบร๊อย เรียบร้อย มาช่วงหลังเธอฉีกบทบาทมากขึ้น มาเล่นบทสาวเปรี้ยวบ้างใน Art of Seduction ครั้งก่อนก็รับบทรักเล่นชู้ใน April Snow ของ เฮอ จิน โฮ คราวนี้มารับบทนางร้าย เป็นตัวร้ายสุดๆกันไปเลย
............. City นั้นแทบจะเรียกได้ว่าเป็น Art of Sedution ภาค 2 เพราะเรื่องนี้ เยจิน ใช้เสน่ห์หญิง มารยาพันเล่มเกวียน ปั่นหัวนายตำรวจหนุ่มให้ไปไม่เป็น เล่นไม่ออก กันเลยทีเดียว เรียกว่าปั่นหัวชายซะยิ่งกว่าในหนังเรื่อง Art เสียอีก !! ซึ่ง เยจิน ก็เล่นได้ดีมากๆๆ งานนี้เธอร้ายแบบสุดๆทีเดียว แทบจะใกล้เคียงกับ Joker ใน Dark Knight เลยทีเดียว !! เสียดายว่าบทบาทอย่างหัวหน้าแก๊งค์ล้วงกระเป๋าอะไรเนี่ย มันดูกิ๊กก๊อกไปสักหน่อยสำหรับบทหัวหน้าตัวร้าย ที่สำคัญก็คือผมไม่ค่อยจะเชื่อว่าจะมีหัวหน้าแก๊งค์สาวอะไรแบบนี้จริงๆ ไม่ใช่ว่าเธอเล่นไม่ดีนะครับ แต่บทบาท และคาแรคเตอร์ที่หนังพยายามตั้งให้เนี่ย มันดูเกินจริงๆไปสักหน่อย จริงๆถ้าเธอเล่นเป็นหัวหน้าแก๊งค์ที่ได้รับการสืบทอดมาจากรุ่นพ่อ อะไรแบบนั้นยังจะดูเวิร์คกว่านะผมว่า !! แม้ดวงตาเธอจะดูเหี้ยม แต่ทรงผม และอะไรอีกหลายอย่างที่ยังเป็นเธอ มันทำให้ผมรู้สึกตะขิดตะขวงเล็กๆอยู่เหมือนกัน อีกประการนึงก็คือหนังมีพล็อตรองที่ว่าด้วยความสัมพันธ์ระหว่าง พระเอกกับแม่ที่เคยเป็นโจร และมีความพัวพันกับตัวนางเอก ตรงจุดนี้ที่หนังขับเน้นมากไปหน่อยจนแทบจะกลบพล็อตหลัก !! แถมหนังยังหาทางออกแบบแตกหักเกินไป ถ้าหนังไปเล่นความสัมพันธ์ซับซ้อนและแง่มุมความรักระหว่างพระเอกนางเอกมากกว่านี้ แบบพิศวาสซ่อนเงื่อน เหมือนพวกหนังฝรั่ง หนังน่าจะออกมาเร้าใจกว่านี้ ผมคิดว่าผู้หญิงคนนึงสามารถร้ายได้เต็มพิกัด โดยไม่ต้องแสดงออกโจ่งแจ้งว่าเป็นผู้ร้ายหรือโจรหรอกครับ ... คุณว่ามั้ย ? ( สองดาวกว่าๆ )
..............Hell Boy 1 ( สามดาว ) หนังเรื่องนี้ถือเป็นหนังนอกสายตาผมมากๆ ขนาดว่าผู้กำกับมีงานเด่นอย่าง Pan 's Labyrinth ออกมาจนคว้าออสการ์ไปหลายตัวผมก็ยังไม่หยิบมาดูสักที จนหลังๆเจอหนังซูเปอร์ฮีโร่เด่นๆหลายเรื่องแล้วประทับใจ เลยคิดว่าหยิบเรื่องนี้มาดูก็คงไม่เสียหายเกินไปนัก หนังออกแนวตลกร้าย บ้าๆกวนๆได้ใจครับแถมออกแฟนตาซี กลิ่นและลายเซ็นของผู้กำกับคนนี้หึ่งไปหมดเลยครับ เรียกว่ารักษาความเป็นตัวของตัวเองไว้ได้เป็นอย่างดีมากๆ ผมชอบหนังเรื่องนี้ตรงสร้างเงื่อนไขและให้รายละเอียดของตัวละครได้อย่างน่าสนใจมาก แม้ฉากแอคชั่นจะไม่ได้บู๊มากมาย แต่ตัวละครก็สร้างความโดดเด่นให้กับตัวเองได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญนักแสดงเล่นได้บ้าและฮามากๆ โดยเฉพาะตัว เฮลล์บอย กับ นางเอก ที่สมกับราวกับกิ่งทองใบหยก คนเราก็แบบนี้แหละครับ ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์ แต่ก็สามารถเติมเต็มและทดแทนกันให้กลายเป็นความสมบูรณ์ได้ นั่นกระมังคือพลังแห่งความรัก ผมชอบบทสรุปของหนังเอามากๆเสียด้วย ซีจีและเมคอัพรวมถึงงานสร้างโดยรวมๆทำได้ระดับเกรดเอ ดูแล้วเชื่อเลยว่าต้องลงทุนไปอย่างสูง แต่เห็นรายได้กลางๆแล้วน่าเหนื่อยใจแทนคนสร้าง ดีใจที่ยังมีภาคสองออกมา คงเพราะชื่อเสียงของผู้กำกับในยุคหลัง ก็คงต้องรอแผ่นล่ะครับ ออกเมื่อไหร่ต้องรีบหามาดูทันที ตอนฉายโรงไปดูไม่ทันอ่ะ
Hulk 2 ( มนุษย์ตัวเขียวจอมพลัง ) .... สองดาวกว่าๆ ....
................เคยเห็นสภาพตกต่ำน่าใจหายของซูเปอร์ฮีโร่อย่างไอ้แมงมุมมาแล้วในภาค 2 แต่พอเจอกับชะตากรรมของซูเปอร์ฮีโร่อย่าง Hulk เข้าไปแล้วทำให้รู้สึกว่า สิ่งที่ ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ได้รับนั้นดูจะเป็นเรื่องกระจ้อยร่อยไปซะจริงๆเลย ! คนเรามักจะมองซูเปอร์ฮีโร่ หรือผู้มีพลังวิเศษด้วยสายตาชื่นชม พร้อมยกย่องให้เป็นเหมือนคนพิเศษ แต่จริงๆแล้วเรามักจะลืมไปว่าเนื้อแท้แล้วเค้าก็เป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งไม่ต่างจากเราๆท่านๆ การที่ได้เห็นมนุษย์ธรรมดาคนนึงประสบชะตากรรมอันน่าสะเทือนใจ ไม่ว่าใครก็คงอดที่จะสงสารและเห็นใจต่อสิ่งที่เค้าได้รับ ไม่มากก็น้อย !! การได้รับพลังพิเศษแบบที่ควบคุมไม่ได้อย่างที่ บรูซ แบนเนอร์ ได้รับคงไม่ใช่ของขวัญจากสวรรค์แน่ แต่คงเป็นคำสาปจากนรกมากกว่า !! ใครจะอยากเป็นล่ะครับ ถ้าวันใหนโกรธขึ้นมาหรือหัวใจเต้นแรง วันดีคืนดีก็แปลงร่างเป็นมนุษย์ยักษ์ตัวเขียวเรี่ยวแรงมหาศาล ควบคุมตัวเองไม่ได้ เป็นอันตรายต่อคนรอบข้าง นี่ถ้าพี่แกมาอยู่เมืองไทย สงสัยจะแย่ เพราะมีเรื่องให้เครียดให้โกรธได้เยอะเหลือเกิน !!
................นอกจากต้องเผชิญกับศึกใน ซึ่งก็คือการพยายามควบคุมอารมณ์ ควบคุมสภาพร่างกายแล้ว พระเอกของเรายังต้องระวังศึกนอกอีก ได้แก่พวกหน่วยงานลับทางทหารของสหรัฐ ที่รู้ความลับความเป็นมาของพระเอก และต้องการจับตัวพระเอกเพื่อกลับไปทดลอง และวิจัยเพื่อให้ได้อาวุธชีวภาพในการทำสงคราม ! ส่งผลให้พระเอกต้องคอยหนีหัวซุกหัวซุนไปอยู่ถึงบราซิล ถึงกระนั้นไอ้พวกทหารชั่วๆก็ยังตามล่าพระเอกไปถึงโน่น และแน่นอนว่าการเผชิญหน้าของ ไอ้ตัวเขียว กับ กองทัพย่อมจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ !! งานนี้เพื่อถ่วงดุลความแข็งแกร่งของพระเอก หนังก็เลยสร้างตัวร้ายขึ้นมาอีกตัว เป็นพวกทหารบ้าระห่ำที่ยอมอุทิศตัวเองเพื่อการรบ ยอมสละตัวเองเป็นหนูทดลองใส่สารอาวุธชีวภาพ กลายเป็นปีศาจขึ้นมาอีกตัว สุดท้ายตัวเองก็บ้าคลั่งและควบคุมไม่ได้ และแน่นอนว่าต้องมาดวลตัวตัวกับมนุษย์ตัวเขียว เพราะไม่งั้นมันก็ผิดสูตรหนังแอคชั่น ซูเปอร์ฮีโร่น่ะสิครับท่านผู้ชม !! ส่วนตัวแล้วค่อนข้างขัดใจกับการตัดสินใจช่วงท้ายของพระเอกเหมือนกัน เพราะมันคิดแบบคนดีเกินไปสักหน่อย
................ภาคที่แล้วจำได้คลับคล้ายคลับคลาว่า อังลี พยายามเล่าแบบดราม่ามากจนหนังน่าเบื่อ แต่มาภาคนี้ผู้กำกับ Louis Leterrier เปลี่ยนแนวมาเล่นแอคชั่นกันเพียวๆเลย เรียกว่าบู๊เอามันส์กันอย่างเดียวโดยไม่ต้องคิดมาก แม้บทจะรั่วๆเรื่องความสมเหตุสมผลอยู่บ้าง แต่อาศัยการตัดต่อที่กระชับฉับไว และการคุมอารมณ์แอคชั่นที่แม่นยำ ฉากแอคชั่นต่อเนื่องที่เร้าอารมณ์ ช่วยให้ลืมความสมจริงบางอย่างไปได้ !! เห็นได้ชัดว่าผู้กำกับคนนี้ถนัดกำกับหนังแอคชั่นมากๆๆ แต่อารมณ์ในส่วนดราม่าก็ไม่ตกลงไปเพราะได้ฝีมือการแสดงของดาราคุณภาพอย่าง เอ็ดเวิร์ด นอร์ตัน , ลิฟ ไทเล่อร์ และทิม รอธ มารับหน้าที่ไป !! ซีจีของหนังก็ทำได้เนียนสมระดับหนังฟอร์มยักษ์ซัมเมอร์ เรียกว่าไม่มีอะไรให้ขัดตา ผู้กำกับแกสามารถบีบคนดูให้ลุ้นและเอาใจช่วยพระเอกได้เป็นอย่างดี ด้วยการสร้างคาแรคเตอร์ฝ่ายดี ฝ่ายร้ายแบบชัดเจน ! รวมถึงการสร้างสถานการณ์ต่างๆที่ชี้นำให้คนดูคอยเชียร์พระเอกด้วยความเต็มใจแบบไม่ยาก ! หนังสนุกครบเครื่องที่ดูแล้วไม่ต้องคิดมาก มันส์ถึงใจแบบนี้ไม่แปลกใจถ้านายทุนจะแฮปปี้ และผมจะประหลาดใจกว่าถ้ามันไม่ได้เป็นหนังร้อยล้าน !!
.................แอบตกใจอยู่เหมือนกันว่าหนังแนวซูเปอร์ฮีโร่ของฝรั่งมาออกมาเป็นสิบๆเรื่อง แต่ละเรื่องก็ช่างสรรหาพล็อตเรื่องราวมาใส่จนเรารู้สึกสมจริง มีเนื้อมีหนัง ไม่ได้โม้โอเว่อร์แบบหนังการ์ตูนเลยสักนิด เค้าคิดได้ไงให้ไม่ซ้ำกันได้เนี่ย ? ยิ่งฉากจบของหนังที่มีเซอร์ไพร๊ซ์ ใครบางคนโผล่มาเนี่ย แบบว่าฮามากๆ ไม่รู้ว่าคิดมุขมาทีหลังหรือใส่มาแต่แรกแล้ว ถ้าใส่มาแต่แรกแล้วนี่ถือว่าเป็นคนที่ล้ำมากๆเลยแหละ !! จะว่าไปแล้วหนังซูเปอร์ฮีโร่ของฝรั่งแต่ละเรื่องเนี่ย ถึงจะตัดซีจีหรือเอฟเฟคซ์ฉากอลังๆออกไปแล้ว เนื้อหนังของเค้าก็ยังเข้มข้นน่าติดตามอยู่ดีแหละครับ ทั้งนี้ทั้งนั้นเชื่อกันว่า ทีมเขียนบทคงจะขัดเกลากันมาอย่างดี อาจจะมีการใช้สคริปด๊อกเตอร์ด้วย กว่าจะได้หนังออกมาเนียนขนาดนี้ และแน่นอนว่าได้ฝีมือการกำกับของผู้กำกับมือดี ได้สายตานายทุนช่วยกันวิเคราะห์ ก่อนที่จะถึงมือผู้ชมอย่างเราๆ ก็เลยไม่แปลกใจว่าทำไมหนังเขาถึงได้ทำออกมาสนุก น่าติดตาม !! ที่สำคัญต้องชมคนดูหนังบ้านเค้าด้วยที่พร้อมเปิดใจดูหนังรสชาติแตกต่าง เพราะถ้าลองมานึกๆดูหนังดีๆหลายเรื่องที่เคยทำเงินในอเมริกา ถ้ามาเปิดฉายเมืองไทยโดยไม่มีฝรั่งยกย่องหรือฝรั่งกรี๊ดกร๊าด ผมว่าเผลอๆจะเหี่ยวไปโดยไม่ทันได้เกิดเลยด้วยซ้ำ !!
//www.pandagroup.pantown.com/
| Create Date : 26 ตุลาคม 2551 |
|
18 comments |
| Last Update : 26 ตุลาคม 2551 7:49:12 น. |
| Counter : 2653 Pageviews. |
|
 |
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [
ขอบคุณมากนะค่ะ ที่แวะไปอวยพรวันเกิด
ขอให้เจ้าของบล็อกมีความสุขมากๆ ในทุกๆ วันนะค่ะ
บล็อกน่ารักจังเลยค่ะ
ขอบคุณค่ะ