Bridge to Thirabetia ..... ขอเพียงแค่หลับตาลง เปิดใจให้กว้าง .....
.............................เมื่อคืนเล่นเน็ทถึงเที่ยงคืนแล้วแต่ยังไม่ง่วง ก็เลยหยิบแผ่นหนัง Thirabetia ที่เช่ามาดูวันก่อน มาเปิดเล่นสักหน่อย ไม่ได้คาดหวังอะไรกับหนังเรื่องนี้มาก แม้จะได้ยินเสียงวิจารณ์ในเชิงบวกมาเยอะก็ตาม หนังแฟนตาซีแนวๆนี้ไม่ใช่หนังแนวทางผมสักเท่าไหร่ แถมโปสเตอร์หนังเนี่ย ผมดูเผินๆแล้วนึกว่าเป็นหนังการ์ตูนซะอีก พอเปิดดูหนังจริงๆ อ้าว หนังคนแสดงเหรอเนี่ย ? พอกลับมาดูปก VCD จริงๆ อ้าว มันเป็นภาพคนจริงๆซะด้วย ทำไมเรามองเห็นเป็นภาพการ์ตูนไปได้หว่า ?? หนังเรื่องนี้สามารถตรึงความสนใจของผมให้ดูตั้งแต่ต้นจนจบได้อย่างไม่มีว่อกแว่กเลย ทั้งๆที่ดูตอนหลังเที่ยงคืนด้วย แต่ตาสว่างโร่เลย หนังดีจนน่าประหลาดใจครับ และไม่ค่อยมีหนังเด็กแนวๆนี้ที่ทำได้ถึง แบบหนังเรื่องนี้มานานแล้วในช่วงหลังนี้ !! ตัวหนังเรื่องนี้จริงๆแล้ว ต่างจากหน้าหนังที่เห็น เป็นคนละเรื่องไปเลยครับ
.............................เคยได้ยินเพื่อนที่ทำงานผมเขาไปดูในโรงแล้วมาเล่าให้ฟังว่า หนังห่วยมาก แถมยังสปอยด์ส่วนสำคัญที่สุดของหนังให้ฟังอีกตะหาก ตอนนั้นผมก็คิดว่าไม่เป็นไร เพราะคิดว่ายังไงก็ไม่ได้ไปดูโรงอยู่แล้ว พอมาดูจริงๆก็เสียเส้นไปเหมือนกัน เพราะถือว่ามันเป็นส่วนหัวใจของหนังเหมือนกัน ไอ้ที่เขาเล่าให้ฟัง ... ซึ่งผมก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเขาถึงไม่ชอบหนังเรื่องนี้ ก็คงเพราะเค้าคิดว่ามันจะแฟนตาซีเหมือนพวก Narnia หรือ Lord of the Rings แต่พอหนังมันออกมาลึกซึ้งกว่านั้น เค้าไม่เก็ตประเด็น เลยทำให้หลายๆคนมองหนังเรื่องนี้เป็นแง่ลบไป ทั้งๆที่จริงๆเพียงแค่คุณหลับตาลง เปิดใจให้กว้าง ให้จินตนาการเป็นตัวนำคุณเข้าไปสู่หนังเรื่องนี้ คุณจะพบกับประสบการณ์ภาพยนตร์ที่เอิมอิ่มหัวใจอีกหนหนึ่งทีเดียว อ้อ... หนังไม่ได้เล่าในแนวทางของหนังแฟนตาซีนะครับ แต่มันเป็นหนังดราม่า ( เด็ก ) แนว Coming of Age เต็มตัวเลยล่ะครับ .....
..............................เมื่อโลกแห่งความเป็นจริงไม่ว่าบ้าน โรงเรียน หรือที่ใดๆมันก็ไม่น่าพิศมัย ดังนั้นเด็กสองคนจึงยึดชายป่าใกล้บ้านของตนเองเป็นดังแหล่งพักพิงทางใจ ( Sanctuary ) และเส้นทางเดียวที่จะเข้าสู่สถานที่ลับเฉพาะของทั้งสองคนนั้นก็คือ จะต้องโหนเชือกข้ามลำธารน้ำเชี่ยวไปยังอีกฟากฝั่งหนึ่งของป่า สถานที่แห่งนั้น ทั้งสองคนขนานนามให้ว่า " ธีราบีเตีย " แม้พล๊อตจะฟังดูคล้ายๆหนังแฟนตาซีอีกเรื่องอย่าง Pan's Labyrinth แต่ทว่าหนังก็ไม่ได้มืดหม่นหดหู่เหมือนอย่างหนังเม๊กซิโกเรื่องนั้นหรอกครับ .... หนุ่มน้อยพระเอกเป็นคนมีพรสวรรค์ในด้านการวาดภาพ ส่วนสาวน้อย ( นางเอกน่ารักมาก หน้าตาเหมือนโตเป็นสาวแล้วเลย แถมยังแสดงได้ดีมั่กๆๆ ) เป็นคนที่ช่างจินตนาการและเขาทั้งสองค่อยๆมีอิทธิพลระหว่างกันขึ้นทีละเล็กละน้อย โดยเฉพาะสาวเจ้าที่เป็นคนค่อยๆสอนให้พระเอกได้มองโลกอย่างที่เค้าไม่เคยใฝ่ฝันถึงมาก่อน ... แต่ " ธีราบีเตีย " จะเป็นอย่างที่ฝันไว้จริงหรือไม่ และมันจะคงอยู่ตลอดไปหรือเปล่านะ ? หนังถ่ายทอดจินตนาการแบบเด็กๆได้น่าประทับใจครับ ทำให้เราเข้าใจความคิดแบบเด็กๆได้มากขึ้น บางทีก็อดคิดไม่ได้ว่า ทำไมนะ พอโตขึ้นมาจินตนาการของคนเราถึงได้หดหายไป เวลาเป็นผู้ใหญ่ เป็นเพราะเราไม่รู้จักคิดหรือเปล่า เราถึงได้เสียโอกาสในการเป็น หรือโอกาสในหลายๆอย่างของชีวิต ? ลองดูหลายๆคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตดูสิครับ จากหลายๆหน้าที่การงานซึ่งเป็นคนที่ยังมีจินตนาการกว้างไกล ( โดยเฉพาะที่เห็นๆก็คนทำหนังล่ะครับ )
..............................เห็นเด็กๆตัวละครนำในหนังเรื่องนี้ใช้ชีวิต และได้พบประสบการณ์ใหม่ๆแบบในหนังเรื่องนี้แล้ว ผมไม่ประหลาดใจเลยถ้าเขาจะโตขึ้นมาเป็นฝรั่ง หรือผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ เพราะสังคมและครอบครัวของเขาสอนให้คิดเป็น ทำเป็น และมีจินตนาการ ดูครูของเขาสอนหนังสือสิครับ ดูวิธีการสอน และวิธีการเข้าถึงเด็กของเขา ผมลองมองกลับมาเมืองไทย เมืองไทยเรามีวิธีการสอนแบบนี้อยู่บ้างใหม๊ เราเคยสอนให้เด็กคิดเอง ทำเอง และใช้ชีวิตด้วยตัวเองกันบ้างหรือเปล่า หรือว่าสักแต่สอนตามวิชาในตำรา ? ดูสิครับ เด็กอายุไม่น่าจะถึง 10ขวบ รู้จักเที่ยวเล่นในป่า รู้จักช่วยเหลือครอบครัวทำงานบ้าน รู้จักซ่อมแซมโน่นนี่ รู้จักใฝ่หาความรู้ และเทคนิคในการเอาตัวรอด ฯลฯ ผมยังนึกเลยว่า แล้วเด็ก10ขวบบ้านเราเป็นไงกันบ้าง ? นอกเหนือจากอบรมศึกษาความรู้ในชีวิตประจำวัน พัฒนาไอคิวแล้ว หนังเรื่องนี้ยังสอนให้เด็กรู้จักพัฒนา E Q ของตัวเองอีกด้วย .... การให้คำแนะนำ ความอบอุ่น และเข้าหาเด็กในจังหวะที่สมควรเข้า ถือเป็นกรณีศึกษาที่ดี เพราะการผิดพลาดของจังหวะนิดเดียว อาจจะทำให้เด็กคนนั้นเปลี่ยนแปลงไปคนละทางได้ตลอดกาล ( ดูอย่างไอ้หมาแฮม ลูกไฮโซเหี้ยๆนั่นก็ได้ ) ผมไม่ใช่ผู้ใหญ่ในกระทรวงศึกษา หรือผู้มีอำนาจที่จะดลบันดาลความเปลี่ยนแปลงในวงกว้างได้ แต่ที่น่าจะทำได้ก็คงเป็นสโคปเล็กลงไปกว่านั้น ถ้าทุกคนค่อยๆพัฒนาจากวงแคบๆอย่าง ในครอบครัวตัวเองให้ดีได้ก่อน ผมเชื่อว่าในระดับกว้าง มันน่าจะค่อยๆดีขึ้นตามไปแหละครับ .... ผมว่านะ ....... ให้สามดาวครับ สำหรับ Bridge to Thirabetia ......
ป.ล. ใหนๆก็แวะมาบล็อคแล้ว แวะตามลิงค์มาเยี่ยมบ้านแพนด้าบ้างนะครับ //www.pandagroup.pantown.com/
Create Date : 22 สิงหาคม 2550 |
|
11 comments |
Last Update : 22 สิงหาคม 2550 19:20:15 น. |
Counter : 1200 Pageviews. |
|
|
|