Tokyo Tower ..... หนังแม่ลูกผูกพันธ์ที่ดูแล้วยังไม่โดนเท่าไหร่
Tokyo Tower : Mom and me , and sometimes dad ( สองดาวกว่าๆ )
ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมแห่งปี ที่ครองใจคนญี่ปุ่นทั่วประเทศ สร้างจากนวนิยายขายดีเรียกน้ำตาผู้อ่านที่ทำยอดขายกว่า 2 ล้านเล่ม 5 Winners Japan Academy Award Best Film / Best Screenplay / Best director Best Actress / Best Supporting Actor
ทุกๆฤดูร้อนในญี่ปุ่น เด็กหนุ่มผู้เปี่ยมความฝัน ต่างเดินทางจากบ้านเกิดตัวเอง เพื่อมุ่งหน้าสู่โตเกียว ด้วยความหวังว่าสักวันหนึ่งเขาจะประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงโด่งดัง " Me " รับบทโดย โจ โอดางิริ คือหนึ่งในเด็กหนุ่มเหล่านั้น เขาหลงใหลไล่ตามความฝันของตัวเองอยู่นานปี และใช้ชีวิตเรื่อยเปื่อยไปวันๆ โดยหวังว่าจะประสบความสำเร็จ จนวันหนึ่งเขารู้ข่าวว่า แม่กำลังป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย และนั้นคือจุดเริ่มต้นของการที่ผู้ชายคนหนึ่ง ได้เรียนรู้คุณค่าของการมีชีวิตอยู่อีกครั้งหนึ่ง ผ่านความทรงจำแห่งความรักที่แม่มีให้กับเขา
....................อ่านแล้วขนลุกใหม๊ครับท่านผู้ชม ? เรื่องย่อที่บรรจงเขียนขึ้นมาโดยทีมประชาสัมพันธ์หนังเรื่องนี้ช่างอ่านแล้วน่าดึงดูดใจให้เราไปตีตั๋วซะเหลือเกิน แต่ขอโทษเถิดครับ ทั้งเรื่องย่อหนัง ทั้งใบปิดหนัง ชื่อหนัง และอีกหลายๆอย่างของหนังช่าง ... ต่างจากที่ผมคิดไว้มากทีเดียว ความต่างครั้งนี้อาจจะสร้างความสุขสมหวังให้กับหลายท่าน และอาจจะสร้างความผิดหวังให้กับใครต่อใครบ้าง บังเอิญว่าผมอยู่ในกลุ่มหลังครับ
....................ภาพรวมของหนังเรื่องนี้ก็น่าประทับใจนะครับ แต่ไม่มากอย่างที่ผมคาดการณ์ไว้ ด้วยจากเครดิตของหนัง และจากภาพลักษณ์ของหนังรางวัลจากญี่ปุ่นยุคหลัง ที่สร้างมาตรฐานไว้ได้ค่อนข้างดี ทำให้หนังเรื่องนี้ดูดร๊อปไปเล็กน้อย ความผิดหว้งของผมประการใหญ่มาจากการที่อาจจะคาดหวังไว้มากไปหน่อย และหนังมันธรรมดาไปหน่อยก็แค่นั้น หนังสัญชาติญี่ปุ่นโดยมากก็มักจะเป็นแบบนี้ เขาชอบเล่น ( เล่า ) เรื่องราวของชีวิตมนุษย์ได้อย่างลุ่มลึก ลึกซึ้ง และมักจะเนิบนาบ ให้คนดูดื่มด่ำไปกับเรื่องราวเอาเองโดยไม่บิ๊วท์อารมณ์อย่างหนัง ฮอลลีวู๊ด หรือหนังเกาหลี ซึ่งถ้าใครคุ้นชินกับหนังแนวบิ๊วท์ๆมาเจอหนังญี่ปุ่นเขา อาจจะม่อยหลับเอาได้ง่ายๆ
.....................หนังทั้งเรื่องไม่เกี่ยวกับหอโตเกียวแต่อย่างใด ไม่เกี่ยวกับการตามล่าหาความฝัน หรือความรักแต่อย่างใด เป็นเรื่องราวที่บ้านๆมาก พ่อแม่ลูก พ่อเลิกกับแม่ ลูกอยู่กับแม่ ลูกรักแม่ คิดถึงพ่อ ( บ้างบางครั้ง ) เล่าแบบว๊อยซ์โอเว่อร์ไปเรื่อยๆตั้งแต่เด็ก เหมือนเขียนไดอารี่ เรียนที่ใหน เจออะไรมาบ้าง สอบเข้าที่ใหน วันนี้แม่เป็นยังไง แม่เจอแฟนใหม่ เราชอบใหม๊ ? แม่ห่วงเรารักเรา เราสอบติดที่โน่นที่นี่ ติดแฟน ล้มเหลว ลุกขึ้นยืน ทำงาน รับแม่มาอยู่ด้วย เลิกแฟน เจอแฟนใหม่ ฯลฯ บลาๆๆ ไปเรื่อยๆ ไม่มีจุดหักเหสำคัญ ไม่มีจุดพลิกผัน ไม่มีจุดเร่งเร้า ไม่มีช่วงดร๊อป เล่าเป็นเส้นเรียบๆไปอย่างนั้น เหมือนเราดูชีวิตจริงของครอบครัวหนึ่ง อาจจะเป็นครอบครัวเราเองหรือครอบครัวใหนก็ได้ในโลกใบนี้ .... และหนังก็จบ ......
..........................หนังยาวนะครับ 142 นาที แต่ไม่รู้สึกว่าอืดอาดหรือยืดยาด แต่ผมก็อดคิดไม่ได้ว่ามันมีอะไรแค่นี้เองเหรอ แล้วหอโตเกียวมาเกี่วอะไรด้วย แล้วทำไมพระเอกไม่พาแม่ไปหอโตเกียว ฯลฯ จริงๆหนังเว้นวรรคไปหลายช่วง แต่ด้วยความที่หนังเล่าเรื่องผ่านมุมมองตัวพระเอกก็เลยไม่เป็นปัญหาสำคัญอะไรนัก หนังเรื่องนี้เหมาะสำหรับคนรักแม่ มันเป็นหนังวันแม่ที่ไม่บิ๊วท์อะไรมากมาย ดูแล้วคุณๆน่าจะคิดถึงคุณแม่ของคุณแน่ๆ ( ทั้งๆที่หนังก็ไม่ได้โฟกัสความห่วงหาอาทรระหว่างแม่ลูกอะไรมากนัก ) แต่หลายๆคนก็น่าจะสัมผัสได้ รอบที่ผมดูเมื่อวานที่เฮ๊าส์ ก็ได้ยินเสียงสะอื้นอยู่หลายคน จุดที่ผมชอบที่สุดในหนังเรื่องนี้คือการตัดต่อซึ่งตัดได้ดีมากๆ และการแสดงของดารานำเป็นจุดรองลงมา แต่ผมไม่ยักกะรู้สึกปลื้มหนังโดยรวมๆเท่าไหร่ ถือว่าพลาดไปก็ไม่เสียหาย แต่ถ้าสะดวกไปดูก็น่าจะไม่เสียดายตังอะไรมากนัก ......
ป.ล. มีฉายอยู่ 2 โรง ที่ House กับ โรงหนังสกาล่า ถ้าจำไม่ผิดครับ
//www.pandagroup.pantown.com/
Create Date : 07 พฤษภาคม 2551 |
|
11 comments |
Last Update : 7 พฤษภาคม 2551 21:11:01 น. |
Counter : 1648 Pageviews. |
|
|
|
เห็นชื่อเรื่องเลยเข้ามา
แต่ไม่อ่านนะ
ข้ามไป เพราะ วันอาทิตย์ จาไปดู คริ คริ