joblovenuk's วิจารณ์ The Fighter ..... แบบนี้เหรอเรียกว่า นักสู้ ??
The Fighter ( สองแกร่งหัวใจเกินร้อย ) ... 2 ดาวครึ่ง ....
............................ผิดหวังพอสมควรกับการเลือกหนังดูครั้งนี้ เดิมทีผมก็สังหรณ์อยู่แล้วว่ามันไม่น่าจะเท่าไหร่ แต่ผมไปเผลอโดนหลอกด้วยคำว่า " หนังชิง 7 ออสการ์ " และอีกประการคือหนังน่าจะฉายในโรงทั่วไปเมื่อวานนี้วันสุดท้าย ก็เลยคิดว่าต้องรีบดูสักหน่อยใหนๆก็วันพุธ 80 บาท ที่เซนทรัลเวิลด์ แต่กลับต้องเสียอารมณ์เรื่องแสตมป์บัตรจอดรถไม่ได้ แล้วยังมาเจอคุณภาพหนังที่ไม่ถึงขั้นน่าได้ชิงออสการ์อีก ยิ่งหงุดหงิดไปกันใหญ่ ~ หนังเรื่องนี้ถือว่าเป็นหนังดราม่าดาดๆมากๆเลย ไม่น่าจะได้ชิงออสการ์ด้วยซ้ำ เป็นหนังคุณภาพระดับกลางๆที่ดูแผ่นเอาก็ได้ ไม่สมควรเสียเวลามาดูในโรงหนังสักกะนิด มันเป็นหนังที่เค้าว่าสร้างมาจากเรื่องจริงของนักมวยที่ชื่อ มิคกี้ วอร์ด กับ ดิคกี้ พี่ชายขี้ยาที่รับมาเป็นเทรนเน่อร์มวยให้ด้วย โดยกระแสรางวัลล้วนบ่งชี้ว่า ปีนี้ คริสเตียน เบล น่าจะคว้าออสการ์สมทบชาย จากบทเทรนเน่อร์มวยขี้ยา ค่อนข้างแน่ ? เลยทำให้ต้องไปพิสูจน์เสียหน่อย ใหนๆปีนี้ก็จะหยุดงานเชียร์ผลรางวัลออสการ์ทางทีวีเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 10 ปี
............................The Fighter ของ เดวิด โอรัสเซลล์ เป็นหนังดราม่าที่ค่อนข้างน่าเบื่อ และมีตัวละครที่แปลกประหลาดเกินไป สถานการณ์ที่ไม่ทำให้ตัวละครก้าวไปข้างหน้าเท่าไหร่ จุดพลิกผันก็ไม่น่าเชื่อถือและไม่น่าจะมีแรงกระตุ้นเพียงพอที่จะทำให้ตัวละครเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมได้ !! ปัญหาทั้งหมดล้วนมาจากบทหนังที่อ่อนปวกเปียก และไม่สมเหตุสมผล แต่ที่ตลกร้ายก็คือ บทหนังเรื่องนี้ดันได้เข้าชิง Oscar ซะด้วยสิ ? ผมขอยกตัวอย่างความไม่เข้าท่าอย่างน้อย 3 จุดมาให้ดูเป็นกรณีศึกษา .. หนังเรื่องนี้เป็นภาพสะท้อนสังคมอเมริกาที่ให้ความยกย่องกับผลลัพธ์มากกว่า ภาพรวม คือถ้าคุณทำอะไรสักอย่างสำเร็จ เช่นได้แชมป์ ได้ตำแหน่งสูงๆ เป็นผู้นำ ชนะเลิศอะไรสักอย่างมา เค้าไม่สนว่าคุณจะมาถึงตำแหน่งนั้นได้ไง และถ้าได้แล้วจะรักษามันไว้ได้นานใหม ? พวกนี้ไม่มอง มองแค่ว่าขอให้ไปถึงยอด จะด้วยวิธีใหนหรืออยู่นานใหม ก็ช่างมัน ? ครอบครัวที่มีปัญหาของพระเอก ซึ่งดูพิลึกประหลาดราวกับ Addams Family ก็ไม่ปาน ไม่ได้รับการแก้ไข ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเลยแม้แต่น้อย ปล่อยให้คนดูงงกับความรักแบบผิดๆ
............................หนังพยายามปกปิดอะไรหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตตัวละคร เหมือนพยายามนำเสนอให้มันดูซอฟส์ และไม่ทำให้ตัวละครดูมืดหรือเลวร้ายจนเกินไป เน้นบางจุด แต่เหมือนพยายามละเลยบางจุด เช่น มีที่ใหนตัวละครชกไม่กี่ครั้งก็ได้ขึ้นชิงแชมป์แบบฟลุ้คๆแล้ว ผมว่าเล่าเรื่องราวการไต่เต้าสู่ตำแหน่งแชมป์โลกของคนไทย ผมว่ามันยังยากกว่านี้ไม่รู้กี่เท่า ? และหลังได้แชมป์เกิดอะไรขึ้น แทบจะไม่ได้บอกเลย การที่ไอ้ขี้ยาคนนึงเกิดคิดจะเลิกยา เปลี่ยนตัวเองเป็นคนดี มันเกิดง่ายๆแค่เค้าติดคุกเหรอ ? ผมไม่คิดว่าคุกจะเปลี่ยนชีวิตคนได้ง่ายแบบนั้น ไอ้สารคดี Hbo อะไรนั่นก็อาจจะกระตุ้นได้นิดนึง แต่ด้วยสถานภาพความเป็นอยู่ผมว่ามันง่ายกว่าถ้าเค้าจะกลับไปติดยาอีกครั้ง เพราะงั้นผมเลยไม่เชื่อว่า นายดิคกี้จะสามารถสลัดยาเสพติดหลุดได้ง่ายๆแบบที่เห็นในหนัง ชีวิตของนักมวยกลางๆที่เคยเป็นแค่ บันไดให้นักมวยคนอื่นก้าวข้าม สามารถพลิกผันได้ง่ายๆแบบไม่ต้องมีแรงดลใจ หรืออะไรมาปลุกเร้าเชียวหรือ ? ผมว่ามันดราม่าน้อยไปหน่อย แล้วบทบาทของเทรนเน่อร์ก็แทบไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน วางแผนอะไรนี่แทบไม่มีเลย
............................สรุปก็คือตัวละครในหนังเหมือนจะก้าวสู่ความสำเร็จได้แบบฟลุ้คๆ และผมก็เชื่อว่าเค้าไม่น่าจะรักษาตำแหน่งไว้ได้นานนักหรอก ในเมื่อมีมวยอีกมากมายที่พร้อมจะล้มเขาแบบนั้น ไม่แค่ไม่มีฝีมือ แต่ตัวพระเอกยังมีอีกหลายปัจจัยเสี่ยงที่ไม่ได้แก้ไข และรอวันที่จะมาทำลายตัวเขาเอง ? ครอบครัวเจ้าปัญหาที่คอยสูบเลือดสูบเนื้อพระเอก นั้นไม่มีที่ทาจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเลยแม้แต่น้อย พระเอกหมดท่า หมดน้ำยาตั้งแต่รับปากทีมงานชุดใหม่ที่คอยปลุกปั้นตัวเองให้ว่า จะไม่ให้แม่กับพี่ชายเข้ามายุ่มย่าม แต่พอพี่ชายออกมาจากคุก ก็ยังมาวุ่นวายอีกจนได้ เป็นเพราะพระเอกไม่เข้มแข็งเด็ดเดี่ยวพอ พูดง่ายๆว่าเป็นไก่อ่อนไร้น้ำยา ไม่เป็นนักสู้เอาซะเลย ? ฉากชกมวยในหนังก็ไม่ค่อยได้ลุ้น พระเอกโดน พี่ชาย ( เบล ) ข่มซะอยู่หมัด เล่นขโมยซีน แต่ด้วยความที่คาแรคเตอร์และบทหนังไม่เอื้อเท่าไหร่ ผมเลยไม่ค่อยรู้สึกปลื้ม เบล ในบทบาทนี้มากนัก ด้วยความที่เห็นแกเล่นทำนองนี้มาหลายครั้งเลยไม่รู้สึกประหลาดใจ แต่ถามว่าควรได้ออสการ์ใหม ก็ด้วยผลงานที่สั่งสมผ่านมา ชั่วโมงบินที่สูงพอ ผมคิดว่าออสการ์จะสมนาคุณรางวัลให้ก็คงไม่แปลก ?
ป.ล. ปีนี้ใครจะมาเชียร์ออสการ์สดๆด้วยกัน เชิญมาแจมที่บ้านผมได้นะครับ
//www.pandagroup.pantown.com/
ท่านที่เล่นเฟสบุค แอ่ดมาเป็นเพื่อนกันได้เน้อ
//www.facebook.com/ayuwat.angkhawut?ref=profile
Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2554 |
|
7 comments |
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2554 13:31:46 น. |
Counter : 1572 Pageviews. |
|
|
|
ปล.โดยส่วนตัวแล้วผมชอบหนังเรื่องนี้ครับ