<<
สิงหาคม 2554
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
12 สิงหาคม 2554

สุวรรณเกษร








เล่ากันว่า...นานมาแล้ว ที่ชายป่าแห่งหนึ่ง มีนกกระจาบผัวเมียคู่หนึ่งทำรังอยู่บนต้นไม้ ทั้งสองมีลูกเล็กๆด้วยกันอยู่สี่ตัว

แม่นกจะอยู่กับรังเพื่อเฝ้าดูแลลูกๆ ส่วนพ่อนกมีหน้าที่ออกหาเหยื่อมาเลี้ยงลูกเมียเป็นประจำ

ที่บึงนั้นมีดอกบัวสล้างอยู่มากมาย พ่อนกจึงร่อนลงคลุกเคล้าเกสรในดอกบัว ความเพลิดเพลินทำให้พ่อนกลืมเวลา เผลออยู่จนเย็น ดอกบัวที่บานอยู่ก็หุบกลีบเข้าหากัน และได้ขังพ่อนกอยู่ในนั้นด้วย ไม่ว่าพ่อนกจะพยายามดิ้นรนอย่างไร ก็ไม่สามารถหลุดออกจากดอกบัวได้

ฝ่ายแม่นกและลูกๆในรังที่ตั้งหน้าตั้งตาคอยพ่อนกนั้น ต่างรู้สึกหิวโหยเป็นกำลัง ซ้ำร้ายคืนนั้นได้เกิดไฟไหม้ป่าขึ้น แม่นกช่วยลูกๆหนีออกจากไฟไม่พ้น ลูกนกจึงถูกไฟคลอกตายหมด

แม่นกได้แต่จับกิ่งไม้ร้องไห้ด้วยความเศร้าเสียใจเป็นที่สุด

รุ่งขึ้นพอดอกบัวบานออกรับแสงอรุณ พ่อนกก็เป็นอิสระ ก็รีบบินกลับรัง
แต่ภาพที่พบก็คือ รังที่กลายเป็นเถ้าถ่าน และแม่นกที่จับกิ่งไม้ร้องไห้ในบริเวณใกล้เคียง

แม่นกกล่าวหาว่าพ่อนกไปติดพันนางนกอื่นจนลืมลูกเมีย(เฮ้อ!...แม้แต่นกยังหนีไม่พ้นข้อนี้...เหมือนคนเลยเนอะ)ไม่ว่าพ่อนกจะอธิบายอย่างไรก็ไม่ยอมเชื่อ

พอต่อว่าเสร็จแล้ว แม่นกก็บินเข้ากองไฟตามลูกๆไป พ่อนกเสียใจอย่างยิ่ง จึงบินเข้ากองไฟไปอีกตัว(กองไฟที่ว่านี้ คงเหลือจากไฟไหม้เมื่อคืนมอดยังไม่หมด เหลือเป็นหย่อมๆ)

เศร้าตอนตาย


เสียงหัวใจรัวรอบ...แต่ตอบถาม
ปล่อยตามตรมลำเค็ญตามเป็นอยู่
กรีดร้องสะอื้นคั่ง...ก่อนพรั่งพรู
กราวกรูกรายไห้ร่ำครวญคร่ำร้าว

เธอห่างหาย..รอยพ้อชะลอหา
มิอาจคาแล้วซึ่งรำพึงกล่าว
คลื่นพายุอารมณ์ล้มล่มราว
หัวใจผ่าวเดือดแทงทุกแห่งอณู

เหลือแค่แววนัยน์ตาอันล้า..โหย
กระหน่ำแน่นโดยไม่เกรงรอเร่งสู่
เสียงหัวใจหอบสั่นฉับพลันดู
ทะลักไห้ต่อสู้เกินรู้ตัว

ใจแพ้พบคิดตัดดับขัดข้อง
ไม่หวังปองหลายจิตเพลินพิศทั่ว
ซัดกระหน่ำโถมหาอย่างบ้ามัว
รอนรอนรัวแรงแค้นยากแล่นเลือน

ปานเผาสิ้นทุกอย่าง...ที่ขวางหน้า
แรงน้ำตาชะล้างเห็นวางเกลื่อน
รอยพิษร้ายเรียงหลอก..เข้าออกเตือน
ตะกอนเหมือนมาเย้ยคอยเผยความ

ร้ายกลัดกร่อนพลอยถลาคลื่นพายุ
โถมประทุแล้วเสร็จให้เข็ดขาม
ไม่มีทางเห็นในนามงดงาม
ไม่มียามเห็นซึ้งของหนึ่งวาร

น้อยใจรักไร้หมายมลายฝัน
ที่สุดสรรค์บอบช้ำไห้ร่ำผ่าน
หนึ่งร่างลาร้อนร้ายระคายพาน
ขอไกลกาลมีเธอเสนอมา..









แล้วก็เล่ากันต่ออีกว่า แม่นกไปเกิดใหม่ คราวนี้ไม่ใช่นก แต่เกิดเป็นคน แถมเป็นคนผู้หญิงที่.......

จิ้มลิ้มนิ่มนวล........น่ายวนโลกีย์
เกศเกล้ามาลี.........ดังปีกภุมรา
คิ้วโก่งคือศิลป์........พระทนคือนิล
งามสิ้นโสภา...........พระโอษฐ์นางนาฎ
ดังเอาชาดทา..........พระเนตรซ้ายขวา
คือตาทรายทอง........พระกรสองข้าง
คือดังงวงช้าง..........ไอยราผันผยอง
พระปรางสองข้าง.....เหมือนอย่างปรางทอง
พระถันทั้งสอง..........ดังดอกบุษบง
พระพักตร์เป็นนวล....ราศีถี่ถ้วน
นิ่มเนื้อนวลหงส์........ไหล่ผายท้ายทอย
รอยรับรององค์.........งามรูปงามทรง
ดังอนงค์กินนร...

นอกจากจะมีรูปโฉมงดงามเหมือนหยาดฟ้าดังคำกลอนข้างต้นแล้ว นางยังเป็น พระธิดาโทน(ลูกคนเดียว)ของท้าวพรหมทัต กับพระนางโกสุมาแห่งเมืองโกสัมพี

พระธิดาสุวรรณเกษรนั้นเป็นผู้ที่มีรูปลักษณ์สิริโฉมโสภาเกินกว่าหญิงใดในหล้า แต่เมื่อเกิดมาจวบจนถึงวัยครองเรือน นางกลับไม่ยอมเอ่ยปากพูดกับผู้ชายคนไหนทั้งสิ้น แม้แต่ผู้เป็นพระบิดาของตนเอง ท้าวพรหมทัตรู้สึกทุกข์ในพระทัยยิ่งนัก ถึงกับให้มีประกาศไปทั่วทุกแคว้นแดนดินว่า หากชายใดสามารถทำให้พระธิดายอมพูดด้วย ก็จะให้อภิเษกสมรสกับเจ้าหญิงสุวรรณเกษรทันที

บรรดากษัตริย์รวมทั้งเศรษฐีจากเมืองต่างๆ ได้ส่งพระโอรสและทายาทของตนมาขอทดสอบ แต่ไม่ว่า

จะใช้วิธีไหนเจ้าหญิงสุวรรณเกษรก็ไม่ยอมเอ่ยปากเจรจากับเจ้าชายหรือทายาทหนุ่มของเศรษฐีคนใดเลยแม้แต่เพียงคำเดียว ต่างรู้สึกท้อใจและเดินทางกลับบ้านเมืองของตนไปจนหมดสิ้น

กล่าวถึงพ่อนกกระจาบซึ่งได้มาเกิดใหม่เป็น เจ้าชายสรรพสิทธิ์ พระโอรสของ พระเจ้าวิชัยราชกับพระนางอุบลเทวีแห่งอลิกนคร เมื่อทราบเรื่องราวเกี่ยวกับพระธิดาสุวรรณเกษร ทำให้เจ้าชายสรรพสิทธิ์สนใจนึกอยากจะไปทดสอบดู เพราะเคยไปเรียนวิชาอรภินทวิทยา อันเป็นวิชาเกี่ยวกับการถอดจิต คิดว่าคงจะพอมีวิธีทำให้เจ้าหญิงสุวรรณเกษรพูดกับตนได้

เมื่อพระเจ้าพรหมทัตทราบว่ามีเจ้าชายจากเมืองใกล้เคียงมาอาสาก็ดีพระทัย สั่งให้ทำการกั้นม่านขึ้นเจ็ดชั้นเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา โดยเจ้าชายจะพูดคุยกับเจ้าหญิงได้แต่เพียงข้างนอก ห้ามรุกล้ำเข้าไปด้านในอย่างเด็ดขาด และในห้องใกล้กันนั้นมีวงมโหรีคอยฟังอยู่ หากได้ยินเสียงเจ้าหญิงสุวรรณเกษรเมื่อใดก็จะพากันบรรเลงขึ้นเพื่อเป็นพยาน

ครั้นตกค่ำเจ้าชายสรรพสิทธิ์จึงเข้าไปในที่ซึ่งจัดไว้ พร้อมด้วย ชานุ ผู้เป็นพี่เลี้ยงคนสนิทซึ่งไปเรียนวิชาอรภินทวิทยาจากเมืองตักศิลามาด้วยกัน เจ้าชายได้ถอดดวงจิตของชานุไปสถิตไว้ที่ชวาลาหรือตะเกียงรูปร่างคล้ายคนโทแต่มีพวยเหมือนกาน้ำซึ่งใช้จุดให้แสงสว่างในสมัยโบราณ

แล้วเจ้าชายได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า หากตนกับพระธิดาเป็นเนื้อคู่กัน ขอให้นางยอมเอ่ยปากเจรจาด้วย จากนั้นเจ้าชายได้เอ่ยปากพูดคุยกับชวาลาชวนให้เล่านิทานให้ฟัง ชวาลาตอบว่าตนไม่มีเรื่องอะไรจะเล่า หากเจ้าชายมีเรื่องสนุกก็จงเล่ามาเถิด

เจ้าชายสรรพสิทธิ์ได้เล่าเรื่องราวของพ่อค้าเรือ ๔ คนซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกัน วันหนึ่งพ่อค้าคนหนึ่งเห็นท่อนจันทน์ลอยมาจึงเก็บนำมาแกะเป็นสตรีที่สวยงามและมีชีวิตขึ้นมา พ่อค้าคนที่สองได้นำเครื่องประดับมาตกแต่งให้ พ่อค้าคนที่สามนำอาสนะมาให้รูปแกะสลักนั่ง ส่วนพ่อค้าคนที่สี่ได้นั่งสนทนากับรูปแกะสลักนั้น ในตอนท้ายเจ้าชายเอ่ยถามปริศนากับดวงชวาลาว่า เมื่อพ่อค้าทั้ง ๔ ต่างก็มีใจรักในรูปแกะสลักนั้น ควรตัดสินให้นางเป็นกรรมสิทธิ์ของใคร ชวาลาตอบว่าควรเป็นของผู้ที่แกะสลักนางขึ้นมาจากท่อนไม้จันทน์

เจ้าหญิงสุวรรณเกษรซึ่งนิ่งฟังเรื่องราวมาโดยตลอดก็เผลอแย้งขึ้นว่า พ่อค้าผู้แกะสลักควรอยู่ในฐานะบิดา พ่อค้าผู้นำอาสนะมาให้นั่งควรอยู่ในฐานะมารดา พ่อค้าผู้มานั่งสนทนาด้วยควรอยู่ในฐานะพี่ชาย ส่วนพ่อค้าผู้นำเครื่องประดับมาตบแต่งให้เธอนั้นเป็นผู้ควรอยู่ในตำแหน่งสามี










ทันใดนั้นเสียงปี่พาทย์ก็บรรเลงขึ้น เจ้าหญิงสุวรรณเกษรทรงนึกได้ว่าเผลอพูดออกไปจึงนิ่งเงียบเหมือนเช่นเดิม เจ้าชายสรรพสิทธิ์ได้ย้ายดวงจิตของชานุผู้เป็นพี่เลี้ยงจากดวงชวาลาไปไว้ ณ ข้างเตียงบรรทมของเจ้าหญิง แล้วเล่านิทานปริศนาเรื่องใหม่ว่า มีพระกุมาร ๔ องค์จากเมืองต่างๆ มาเรียนวิชาในสำนักเดียวกันจนกลายเป็นสหายสนิท และต่างก็มีวิชาดีกันคนละอย่าง วันหนึ่งทั้ง ๔ ได้ไปนั่งอยู่ชายฝั่งทะเล คนที่มีวิชาหมอดูบอกกับเพื่อนๆ ว่าประเดี๋ยวจะมีนกอินทรียักษ์โฉบผู้หญิงผ่านมา คนที่เป็นนักแม่นธนูรีบเล็งศรไว้คอยท่าและสามารถยิงสังหารนกอินทรีนั้นได้อย่างแม่นยำ

หญิงที่นกนั้นโฉบมาก็ตกลงสู่ทะเล คนที่เก่งทางดำน้ำก็รีบดำลงไปช่วย ครั้นเห็นว่าหญิงนั้นเสียชีวิตไปแล้ว คนที่มีวิชาชุบคนตายให้ฟื้นจึงชุบชีวิตของนางขึ้นมา ในตอนท้ายเจ้าชายถามต่อดวงจิตของชานุผู้เป็นพี่เลี้ยงว่า เมื่อพระกุมารทั้ง ๔ เกิดการยื้อแย่งกันครอบครอง หญิงผู้นี้ควรเป็นของใคร

ดวงจิตตอบว่าหญิงผู้นี้ควรเป็นของชายคนที่เก่งทางยิงธนู เพราะเป็นผู้ช่วงชิงเธอมาจากนกอินทรียักษ์ เจ้าหญิงสุวรรณเกษรนิ่งฟังอยู่และพิจารณาตามเนื้อเรื่อง เผลอแย้งว่า หญิงนั้นควรเป็นสิทธิของนักประดาน้ำเพราะเขาได้แตะต้องตัวเธอ ครั้นเมื่อได้ยินเสียงปี่พาทย์บรรเลงขึ้นเจ้าหญิงจึงทรงนึกขึ้นได้ก็นิ่งเงียบอีกครั้ง เจ้าชายสรรพสิทธิ์ได้ย้ายดวงวิญญาณของชานุผู้เป็นพี่เลี้ยงไปไว้ใกล้พระที่บรรทมของเจ้าหญิงแล้วเล่านิทานปริศนาเรื่องที่ ๓ เกี่ยวกับชายและหญิง ๔ คู่ซึ่งได้มาพบปะพูดจาเกี้ยวพาราสีกัน

เมื่อฝ่ายชายถามฝ่ายหญิงว่าเรือนของเธอนั้นอยู่ที่ไหน หญิงคนแรกใช้นิ้วลูบศีรษะแล้วบอกว่าเรือนของตนอยู่ที่นี่ หญิงคนที่สองเอามือลูบนมพลางบอกว่าเรือนของฉันอยู่ที่นี่ หญิงคนที่สามใช้มือลูบแก้มพลางบอกว่านี่เรือนของฉัน ส่วนหญิงคนที่สี่เอามือลูบคิ้วพลางบอกว่านี่เรือนของฉัน ครั้นหญิงทั้งสี่กลับไปยังเรือนของตน ชายทุกคนต่างปรึกษากันแต่ก็ไขปริศนาไม่ออก เผอิญมีโจรคนหนึ่งถูกหลาวเสียบนอนกลิ้งเกลือกอยู่ใกล้กันนั้น ครั้นได้ยินเรื่องราวของชายทั้งสี่จึงไขปริศนาให้

โดยโจรบอกว่าให้ชายคนที่หนึ่งเดินไปทางทิศตะวันออกราว ๕ อุสุภ (๑ อุสุภยาวประมาณ ๑ เส้น ๑๕ วา)

เรือนของหญิงคนรักอยู่ใกล้ต้นไทร ให้ชายคนที่สองเดินไปทางทิศตะวันตกราว ๘ อุสุภ เรือนของหญิงคนรักอยู่ใกล้ต้นขนุน ให้ชายคนที่สามเดินไปทางทิศใต้ประมาณกึ่งโยชน์ เรือนของหญิงคนรักอยู่ใกล้เตาของช่างปั้นหม้อ ให้ชายคนที่สี่เดินไปทางทิศเหนือประมาณ ๑ โยชน์ เรือนของหญิงคนรักอยู่ใกล้สระสาหร่าย (เป็นเรื่องของคำศัพท์ในภาษาจากต้นฉบับ จึงยากแก่การแปลความหมายให้เข้าใจในปริศนา)

เมื่อหญิงทั้งสี่ทราบว่าชายคนรักของตนรู้ปริศนาเพราะโจรช่วยเฉลยจึงพากันขับไล่ และพวกนางต่างไปนำโจรนั้นมารักษา หญิงคนที่หนึ่งนำอาหารมาให้เป็นประจำ หญิงคนที่สองทำหน้าที่อาบน้ำชำระร่างกาย

หญิงคนที่สามเอาน้ำร้อนมาให้ หญิงคนที่สี่เอาปัสสาวะอุจจาระไปเททิ้งให้ ต่อมานายโจรผู้นั้นก็หายเป็นปกติ อยากทราบว่าหญิงคนไหนสมควรอยู่ในฐานะภรรยาของนายโจร ดวงจิตตอบว่าควรเป็นหญิงผู้ที่นำปัสสาวะอุจจาระไปเททิ้งให้ เจ้าหญิงสุวรรณเกษรก็เผลอแย้งว่าควรจะเป็นหญิงที่นำอาหารมาให้เพราะทำหน้าที่เหมือนผู้เป็นภรรยา พลันเสียงพิณพาทย์ก็บรรเลงขึ้นเป็นครั้งที่ ๓

เจ้าชายสรรพสิทธิ์ได้ถอดดวงจิตของชานุย้ายไปไว้ที่พระเขนย (หมอน) ของเจ้า หญิงสุวรรณเกษรแล้วถามปริศนาว่า ระหว่างการสัมผัสนุ่นกับสัมผัสเส้นผมอันละเอียดอ่อนของสตรีรูปงามอันเป็นที่รัก สิ่งไหนจะนุ่มมือมากกว่ากัน ดวงจิตตอบว่านุ่น แต่เจ้าหญิงแย้งว่า สามีที่มีจิตอ่อนโยนไม่แข็งกระด้างต่างหากจึงชื่อว่ามีสัมผัสอ่อนยิ่งกว่านุ่นและสตรี พลันเสียงปี่พาทย์ก็บรรเลงขึ้นเป็นครั้งที่ ๔ พระเจ้าพรหมทัตจึงจัดพิธีอภิเษกสมรสให้กับเจ้าชายสรรพสิทธิ์และเจ้าหญิงสุวรรณเกษรและให้ครองเมืองอลิกนครอย่างมีความสุขนับแต่นั้นมา





เรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าหญิงนกกระจาบนี้ บางตำนานบอกว่าหลังจากพิธีอภิเษกแล้ว วันหนึ่งเจ้าชายสรรพสิทธิ์ได้ออกประพาสป่ากับชานุพระพี่เลี้ยง แล้วทรงถอดดวงจิตของเขาไปสิงในร่างกวางที่ตายแล้ว และออกวิ่งท่องเที่ยวในป่าอย่างสำราญพระทัย ฝ่ายชานุนั้นมีใจรักในตัวเจ้าหญิงสุวรรณเกษรขณะกำลังดูแลร่างของเจ้าชายสรรพสิทธิ์ก็คิดแผนการอันชั่วร้าย โดยทำการถอดดวงวิญญาณของตนไปเข้าร่างเจ้าชายเพื่อจะสวมรอย แต่ก็ไม่อาจแตะต้องเนื้อตัวของเจ้าหญิงสุวรรณเกษรได้เพราะรู้สึกร้อนดังจับต้องถ่านไฟ

เจ้าชายสรรพสิทธิ์ในร่างกวางกลับมาเห็นร่างของตนหายไป ส่วนร่างของชานุนั้นถูกไฟเผาไหม้เป็นเถ้าถ่านก็เดาเรื่องราวทั้งหมดได้ทันที แต่ไม่อาจทำอะไรได้นอกจากจะเดินไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีจุดหมาย จนกระทั่งพบร่างนกแก้วนอนตายอยู่จึงถอดวิญญาณไปเข้าสิงแล้วบินกลับไปหาพระชายาพร้อมเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟัง เจ้าหญิงสุวรรณเกษรจึงแกล้งขอให้ชานุถอดดวงวิญญาณไปเข้าร่างแพะให้ชม ในเวลา นั้นเองเจ้าชายสรรพสิทธิ์ก็รีบถอดดวงวิญญาณมาเข้าร่างของตนตามเดิมแล้วสังหารแพะตัวนั้น เรื่องราวของเจ้าหญิงนกกระจาบก็เป็นอันยุติแต่เพียงเท่านี้






เขียนและอัพโดย......ญามี่///...












Create Date : 12 สิงหาคม 2554
Last Update : 19 กุมภาพันธ์ 2558 12:02:10 น. 94 comments
Counter : 4581 Pageviews.  

 
เจ้าชายนกกระจาบลึกลับซับซ้อนจิน้องบ๊อง


โดย: ขุนพลน้อยโค่วจง วันที่: 12 สิงหาคม 2554 เวลา:23:52:01 น.  

 
สุขสันต์วันแม่ค่ะคุณมี่ หลับฝันดีนะคะ พรุ่งนี้กิ่งจะมาอ่านนะคะ




โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:0:02:23 น.  

 
ยกบะหมี่มาฝากน้องมี่ค่ะ



โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:1:42:27 น.  

 
อ่านเสร็จก็โหวตให้น้องมี่แล้วนะจ๊ะ
อ่านเสร็จแล้วมันเศร้าเนอะ เรื่องความรักน่ะ รักสมหวังก็สุขไปตลอดชีวิต
รักที่ผิดหวังก็ทนทุข์ทรมานไปตลอดชีวิตเหมือนกัน
ไม่เว้นแม้กระทั่งสัตว์โลก
น้องมี่ว่าป่ะ เอ วันนี้พี่เค็งมาบ่นอารายให้นู๋ฟังเนี่ย

ชอบภาพประกอบที่ 2 จัง ดูเหงา เศร้ามาก ๆ นึกถึงตัวเองสมัยฉาว ๆ 5555555
เพลงก็เศร้าอ่ะ

ฝันดีนะจ๊ะ นู๋มี่ขอเรียก น้องรักน่ะ ไม่มีน้อง อยากมีน้อง มีแต่ลูกชายน่ะ 5555 ไม่เกี่ยวกันเลยเนอะ
ขอบคุณที่โหวตให้อาหารที่พี่ทำ พอกินได้ ไม่ถึงกับอร่อย 5555



โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:1:48:10 น.  

 
จำเรื่องราวไม่ค่อยได้
แต่ชอบเรื่องนี้นะคะ
ยาวมาก ไว้มาอ่านตอนที่นกสองตัวนี้เกิดเป็นคนค่ะ
คุณมี่สบายดีนะคะ


โดย: ณ ปลายฉัตร วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:1:49:55 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: krittut_48 วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:7:59:15 น.  

 






อรุณสวัสดิ์เช้าวันเสาร์ค่ะ น้องญามี่


โดย: KeRiDa วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:8:45:31 น.  

 
โห ซ่อมทีตั้งหลายวัน ก็คิดถึงน้องโน๊ตบุ้คกันแย่เลยน้า
พักผ่อนมีความสุขในวันหยุดแยะๆน้า
ปล.เรื่องสุวรรณเกสร เดี๋ยวต้องแวะมาอ่านอีกรอบ วันนี้ไม่ได้หยุด ต้องรีบไปทำงานจ้า


โดย: multiple วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:9:59:00 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ญามี่ Literature Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 3 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
----------------------------

ทราบหรือไม่คะว่า ตัวละครตัวนี้ชื่อว่าอะไร?
สร้างกริตเตอร์

แวะมาทักทายยามเที่ยงวันหยุด น้องมี่สบายดีนะคะ


โดย: เกศสุริยง วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:11:37:30 น.  

 


ตะกร้าใสมีลายเป็นสีขาว
บรรจุดื่นดวงดาวแห่งความฝัน
รอคอยหนึ่งคนที่สำคัญ
มาดูดาวนั้นลอยคู่จันทรา

มาเถิดมาร่วมเคียงคอยมองหาว
ที่แต้มเต็มพราวพร่างบนเวหา
เรียงหมื่นดาวร้อยรายสุดสายตา
เป็นคำว่ายังคอยจะรักเธอ


โดย: รสรวยริน วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:19:27:14 น.  

 


เพียงแรกพบใจเกิดประทับจิต
เพียงร้อยคิดน้อยใจเฝ้าคอยฝัน
หวังใจฝากใจส่งให้ถึงกัน
คนสำคัญรู้ไหมอยากได้เจอ
เนตรสบเนตรดุจใจก็พบรัก
เพียงพบพักตร์ใจยิ้มพลันพร่ำเหม่อ
หมายบอกรักบอกด้วยใจละเมอ
เหมือนกับเพ้อหลงใหลใจหลุดลอย



โดย: เกรียงไกรกวีฝัน วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:19:56:41 น.  

 
เรื่องนกกระจาบนี่เคยอ่านมาตั้งแต่สมัยเรียนประถมแล้วค่ะ ชอบมากเลย ขอบคุณคุณมี่ที่เอามาเล่าให้อ่านอีกรอบนะคะ

ไม่ได้มาทักซะนาน แต่คิดถึงเสมอนะคะ



โดย: นุ้ย (นารีจำศีล ) วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:20:07:23 น.  

 


สายฝนโปรยปรายหัวใจหวั่นหวาด
สายลมล้อวาดมาทักทายฉัน
คงอยากรู้ทำไมเพ้อขนาดนั้น
อยู่ตรงนี้เงียบงันกว่าคืนวาร

คงเป็นคำถามที่ไร้คำตอบ
ใจเริ่มชอบใครคนเคยเดินผ่าน
เพราะเธอผูกพันธ์หวานนานนาน
ยากจะพานแล้วเลยไม่เจอเธอ


โดย: เมืองมานะ วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:20:34:26 น.  

 


ฉันก็อยู่ตรงนี้เธอเห็นไหม
ส่งคิดถึงมาไกลถึงคุณเสมอ
แม้ว่าเรายังไม่ได้พบเจอ
ฉันยังเพ้อถึงวันหนึ่งเราพบกัน

แม้วันนี้ยังอยู่แบบเหงาเหงา
อยู่กับเฝ้าที่ไร้ซึ่งรอยฝัน
แต่ทุกวันเธอคือของขวัญนั้น
หัวใจฉันก็อุ่นขึ้นทันตา


โดย: ขอฝากแค่ฝัน วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:21:01:17 น.  

 
สักวันหนึ่งเราคงได้พานพบ
ได้บรรจบเจอะเจอคนคิดถึง
ได้จูงมือท่องเที่ยวอย่างซาบซึ้ง
ได้คำนึงหนึ่งฝันยามราตรี

แม้คืนนี้เดือนดาวดูเลือนลับ
ไร้แสงกลับมาสว่างอย่างกางที่
กลางความฝันยังมีนัยวจี
เหมือนคอยชี้ทางทิศให้เดินไป



โดย: ขุนพลน้อยโค่วจง วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:21:32:08 น.  

 

เมื่อลมจูบฉันเหมือนเธอนะที่รัก
คลายหนักหน่วงรำพันในคืนเหงา
คล้ายความเงียบของฝันอันพริ้งเพรา
เหมือนนั่งเฝ้าราตรีที่เยียบเย็น

ตื่นขึ้นมาด้วยฝันอันอ่อนไหว
อุ่นละไมในอ้อมโอบคลายทุกข์เข็ญ
เมื่อผวาตาโพลงตื่นในคืนเพ็ญ
ยะเยียบเย็นหนาวนั้นมาทวงทวน



โดย: คืนฝันปีศาจน้อย วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:22:16:21 น.  

 
ริมทางรักชุบชื่นในคืนฝัน
มองดวงจันทร์หม่นเศร้าเราขื่นขม
รายทางนี้มิอาจรักจำระทม
คอยอารมณ์ความรักมาพักพิง

สายลมหนาวลิบล่องมาอาบฝัน
คนสำคัญห่างหายใจร้าวยิ่ง
เพิงพักน้อยยามราตรีใครมาอิง
ห้องใจนิ่งหวังอุ่นมาหนุนทรวง



โดย: พระรามหัดท่องเน็ท วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:23:05:17 น.  

 


ทุกถ้อยคำร่ำครวญชวนรัก
หมายสมัครอำนวยด้วยภาษา
มีน้ำใสใจจริงมาพรรณา
หากไร้ค่าเธอจึงเหมือนผ่านเลย

หากรักหวานหอมหวนเหมือนดอกไม้
เธอคงไม่หันห่างอย่างเปิดเผย
คงหวังดอมดมกลิ่นที่คุ้นเคย
ไม่ทำเอ่ยเหมือนหน่ายกันและกัน


โดย: สุดสาครท่องสมุทร วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:23:19:00 น.  

 


เอ่ยคำ"รัก" หมื่นแสนช่างลำบาก
ไม่อาจฝากรอยรักได้หมดสิ้น
รัก...รัก...คำนี้คอยจะยิน
เหมือนถวิลคอยรอเคียงข้างเรา

บึงน้ำนิ่งมองรักลึกถลำ
ติดกับคำพิศวาสหัวใจเฝ้า
ยิ่งดิ่งลึกล้ำเข้าหวังบรรเทา
ใจกลับเศร้าสำลักเหมือนจะตาย



โดย: วาดฝันมธุรพจน์ วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:23:36:20 น.  

 


เมื่อรู้สึกรู้ภักดิ์ในความรัก
อิ่มเอมหนักเปรมทรวงด้วยเหตุผล
เหนือนิยามบทไหนแห่งตัวตน
มาเวียนกมลรัญจวนกับวาจา

มองฟ้างามความรักมาพักไฉน
สุกสดใสดุจดาวพ่วงห้วงเวหา
งามพิสุทธิ์ดุจน้ำค้างกลางวนา
เหมือนปริศนาท้าทายเยี่ยงทดลอง


โดย: ฝากซึ้งใส่ฝัน วันที่: 13 สิงหาคม 2554 เวลา:23:53:20 น.  

 


สุขสันต์วันหยุดคร้าบ


โดย: veerar วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:0:01:06 น.  

 



รักงดงามในลำนำของความรัก
ใจประจักษ์หวานนั้นประมาณไหน
ยามความรักรู้ซึ้งภาษาใจ
หวานใหม่ใหม่ก็เกิดอย่าง่ายดาย

รักว่ายเวียนรัญจวนกลางสายฝน
เมื่อมืดหม่นใจกลับสดับก่าย
ถึงความห่างชั่ววูบดุจใจวาย
หรือความหมายว่ารักยากปิดลง


โดย: ขวดแก้วสีฟ้า วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:0:22:04 น.  

 
ถึงเธอห่างจากฉันมากเพียงไหน
ความละไมของรักไม่ห่างหาย
เหมือนรู้เราห่างกันแต่เพียงกาย
แต่ความหมายในรักยังหวานเย็น

ความรักช่างอ่อนหวานและไหวอ่อน
ให้อาทรเหมือนแก้วตามนัยเห็น
ประคับประคองอ่อนน้อมตามแต่เป็น
ไม่ให้เข็ญยามรักในอุ้งมือ



โดย: แก้วกลมกลม วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:0:37:52 น.  

 
คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


Blog สวยมากมาย โหวตให้เลยครับ +1


โดย: krittut_48 วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:7:55:05 น.  

 


โดย: พันคม วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:9:04:24 น.  

 


หวัดดีจ๊ะญามี ..ตามมาอ่านบทกลอน ..ถึงที่นี้อ่ะจีะ ..เก่งมากมาย


โดย: ~anrin~ วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:9:31:44 น.  

 
ตอนนี้ที่บ้านมีนกตัวเล็กๆ เท่านกกระจาบ มาทำรังและออกลูกมา 2 ตัว เดินเข้าใกล้รังไม่ได้เลย ทั้งแม่และพ่อนกจะออกมาไล่จิกทันที ดุมากๆเลยจ๊ะ พักผ่อนวันหยุดนะจ๊ะ


โดย: multiple วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:10:29:44 น.  

 

ขอให้น้องมี่กับคุณแม่มีความสุขในทุกๆวันและเทศกาลวันแม่นะคะ


โดย: cengorn วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:13:42:21 น.  

 
หลับฝันดีค่ะ



* รอ(สุวรรณเกษร) *

ยามดอกฝนโปรยประคองละอองสาย
บรรจบมลายลับสิ้นสู่ดินผืน
ให้หนึ่งรากปลูกฝังมุ่งหวังยืน
ร่วมฝนฟื้นคืนคร่ำกลับอำไพ

ผ่านรอยยิ้มพิมพ์หลักบนอักษร
ลบตรมตอนโศกศัลย์กลับสรรใหม่
เนิ่นนานเอยคร่ำคอยอย่างน้อยใจ
สะอื้นไห้ท่ามฟ้าอยู่ครานั้น

เหลือรอยร้างสร้างขวัญในวันนี้
ยอมยินดีทั้งผองตรึกตรองฝัน
หวังรอยยิ้มหนึ่งวางเป็นรางวัล
ลดรอยทัณฑ์อ้างว้างเคว้งคว้างเคียง

ทะเลโล่งลมคลื่นเสียงครื้นครึก
พอดื่นดึกกลับเงียบไร้เลียบเสียง
หากหนึ่งใจดวงนี้หันคลี่เรียง
แสงตะเกียงหนึ่งภาพหันทาบทรวง

หวังแสงไฟพาจิตอธิษฐาน
มาประทานพบสรรค์ในชั้นสรวง
ช่วยดับเถิดถวิลหวังใจทั้งปวง
ดับรอยห่วงอาลัยระทดฤทัยคอย

อย่ารัญจวนไหวหวิวให้หิวหา
อย่างตั้งตารอเยี่ยงใจเบี่ยงบ่อย
ยอมตามตรึงภักดิ์สมัครพลอย
หมายล่วงรอยรอเนาไม่เศร้าตรม


โดย: ญามี่ วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:20:00:35 น.  

 
ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ แต่คิดว่า น่าจะเกี่ยวกับเงื่อนไขของแต่ Web อ่ะ...


โดย: krittut_48 วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:21:04:13 น.  

 
ยกมาฝากน้องมี่ค่ะ



โดย: Schnuggy ชนุ๊กกี้ วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:21:40:51 น.  

 
จิตที่ตั้งไว้ถูกต้อง ทำคนให้ประเสริฐ ประสบผลดี
ยิ่งกว่าที่มารดาบิดา หรือญาติทั้งหลายใดจะทำให้ได้

หลับอย่างมีความสุข ตื่นขึ้นมาพบแต่สิ่งที่ดีงาม ตลอดไป...นะคะ




โดย: พรหมญาณี วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:22:03:13 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณมี่ มาอ่านนิทานก่อนนอนค่ะ สนุกมากมาย กิ่งอ่านจบแล้วก็โหวตให้แล้วนะคะ หมวดงานเขียนค่ะ
หลับฝันดีค่ะ





โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:22:08:41 น.  

 
คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ

[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]
ช่วงนี้แวะมาไม่เป็นเวลาเลยค่ะ เอาฤกษ์สะดวกอย่างเดียว กลางวันก็ยุ่งนิดหน่อย เพราะต้องซ้อมการแสดงแสงสีเสียงที่จะมีขึ้นในวันที่15และ16นี้ และหลังจากนั้น วันที่18/19/20และ21ครูเกศนำเด็กแสดงนาฏศิลป์4ภาค ที่อิมแพคเมืองทองธานี ถ้าหายไปบ้างอย่าโกรธนะคะ เพราะโดยปกตินิสัยแล้วถ้าว่างตอนไหนก็จะรีบเข้าbloggangทันทีอิอิอิ ระลึกถึงเสมอและหลับฝันดีนะคะน้องมี่


โดย: เกศสุริยง วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:22:10:07 น.  

 
เคยฟังเรื่องนกกระจาบจากเพลงแหล่ของคุณพร ภิรมย์ค่ะ เพิ่งจะได้อ่านเรื่องละเอียดก็บล็อกนี้แหละค่ะ ขอบคุณมากที่เล่าให้ฟังนะคะ


โดย: haiku วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:22:17:31 น.  

 
คืนค่ำแห่งการรอคอยหวัง
เหมือนพลังเดินหน้าไม่รู้เหงา
ยังเดินได้ผ่านจันทร์ไม่รู้เร้า
ไม่รู้เศร้ารู้ตรมกับใครไกล

ความมืดมิดแห่งใจปรารถนา
เหมือนเด่นค่าแต่ผลคอยหวั่นไหว
ยามเห็นเธอคนดีเดินจากไป
ฉันร่ำไห้เธอเอ๋ยรู้ไหมนา


โดย: เกรียงไกรกวีฝัน วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:22:40:33 น.  

 
ในสายลมเหมือนยังอบอุ่น
ด้วยมีคุณมาหามาเป็นเพื่อน
กลางคืนท้องฟ้าสว่างด้วยแสงเดือน
เหมือนมีเพื่อนคู่ฟ้าเหมือนฉันมีเธอ

รักยังรักเธอนั้นเป็นเช่นเก่า
ยังคอยเฝ้าเรื่อยเรื่อยมาสม่ำเสมอ
แค่เพียงเธอยังพบยังได้เจอ
รอยละเมอก็คงยังยิ้มแย้ม


โดย: เมืองมานะ วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:22:58:28 น.  

 
แววหวานไหวคราวแรกแห่งแรกรัก
ใจประจักษ์เลือนหายกลายเป็นขม
ใจร่ำไห้ให้ช้ำร้าวระบม
ต้องซานซมรอด้วยคราบน้ำตา

แรกรักหวานหายห่างเกินรู้ทั่ว
เธอมาพัวพันให้ใจฉันร่ำหา
รักเธอมากเกินจากเอ่ยคำลา
เหลือเพียงว่าจะรักเธอร่ำไป


โดย: ขอฝากแค่ฝัน วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:23:25:14 น.  

 


ราตรีสวัสดิ์คร้าบ


โดย: veerar วันที่: 14 สิงหาคม 2554 เวลา:23:56:53 น.  

 
font ใหม่น่ารัก เชียวค่ะคุณญามี่



โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:0:14:23 น.  

 
»✿สวัสดีค่ะญามี่

มาโหวตหั้ยน๊าสบายดีนะค่ะ
มีความสุขเยอะๆมากมายน๊า^^!

✿.。(*‧*) ( ̄︶ ̄)>มัททะนะ <( ̄︶ ̄)(*‧*)Gd Night naja^^✿.。


โดย: mastana วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:0:25:13 น.  

 
ปกตินก ที่บ้านจะเชื่องมากจ๊ะ
มีแต่นกแม่ลูกอ่อน นี่แหละ ที่ดุมากๆ 555 ที่บ้านนกแยะ ทั้งตัวเล็ก ตัวใหญ่ แต่ไม่ค่อยรู้จักเหมือนกันจ๊ะ
กินเชอรี่บำรุงผิวกันดีกว่านะ



โดย: multiple วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:6:51:18 น.  

 
อยากผูกพัน
แม้รักนั้นเป็นแค่ปันน่าสงสาร
รักแล้วเจ็บเก็บไว้จำใส่มาน
หวังรักนานคอยพลิ้วตามสายลม

อยากรักเฉยเฉย
หวังคุ้นเคยพาใจเราผ่านขมผสม
ให้หายเหงารวยรื่นชื่นภิรมย์
ฉ่ำเชิญชมดอกรักปักกลางใจ


โดย: ขุนพลน้อยโค่วจง วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:8:01:58 น.  

 
ผูกพันด้วยห่วงใยมานานแสน
ใจคิดแล่นติดตามร้อยเรียงรื่น
ความรักที่แสนหวานของวันคืน
ไยมาตื่นสุดถักรักต่อไป

ความรักของสองคนที่มาห่าง
มาสิ้นทางจะยืนยงและยิ่งใหญ่
ต้องอดทนหมดแล้วความจริงใจ
เคยมอบไว้ไยสิ้นกันและกัน


โดย: คืนฝันปีศาจน้อย วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:8:21:55 น.  

 
เป็นเรื่องหนึ่งที่พี่อ่านแล้วเศร้ามากๆ อะจ้ะ

มาขอบคุณมี่ที่ไปโหวตให้พี่ด้วย

เพลงเพราะมาก


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:8:30:34 น.  

 
แรกรักประทับจิตให้ชื่นหวาน
ราวคิดปานฉ่ำนี้ใจเฝ้าฝัน
คอยฝากใจส่งให้ไปถึงกัน
ฝันเท่าฝันว่าพบจะได้เจอ

ยามเนตรประสบเข้าก็พบรัก
ใจกับพักตร์พบกันให้พลันเผลอ
รักในใจพาให้ใจถึงเพ้อ
หลงเดินเหม่อเหม่อหลงยากรั้งรอ


โดย: พระรามหัดท่องเน็ท วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:9:00:08 น.  

 
ก็เพราะเธอคือฝันที่ฉันรัก
ให้ตระหนักรักนี้สำคัญหนา
หัวใจร้องอยากบอกตลอดมา
ด้วยเกรงว่าเธอไปจากฝันนี้

ขออยู่อย่างแอบรักจะดีกว่า
รอเวลาเธอหาฉันในทุกที่
จะทำตัวเป็นนาฬิกาคอยชี้
ที่ไปมาไม่หนีไปจากเธอ


โดย: สุดสาครท่องสมุทร วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:9:17:39 น.  

 
เป็นไออุ่นกรุ่นหอมให้ตระหนัก
อวลล้วนรักพาจิตให้หายเหงา
พิมพ์พร่างพรมยิ้มแย้มยืนพริ้มเพรา
หวานบางเบาลอยล่องทั่วดินแดน

ดั่งโลกเอื้อมโอบไว้ให้รู้สึก
หวานในนึกสำราญไปสุดแสน
ร่าเริงรอคืนคลายไม่มีแม้น
ให้ใจแค้นคืนวารที่ผ่านมา


โดย: แก้วกลมกลม วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:9:42:58 น.  

 
ขอกุศลดลบันดาลในความคิด
ให้ได้ชิดชวนชื่นตามบุญเสริม
ไม่มีแม้อุปสรรคมาต่อเติม
มีแค่เพิ่มหวานรสมารดทวี

ไม่เหือดหายไร้โรยไร้รอยโยก
ทั้งไร้โศกเศร้าหาในทุกที่
ไร้ซึ่งความรอรั้งกับวจี
ไม่มีลี้หนีรักให้ประจักษ์ตา


โดย: โลกของหนึ่งคน วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:10:13:41 น.  

 
ในหัวใจอย่างไรก็ใจมนุษย์
ยังหวังสุดวันหวานมาประสาน
ให้รักนั้นสดชื่นเช่นวันวาน
บนวิญญาณวนรักใจภักดี

เพราะรักเลิศประเสริฐแท้กว่าไหนไหน
หวังได้ใช้ดังฝันที่ไม่หนี
จะยอมทนเร่าเศร้าทุรนราวี
เพราะใจมีเธอนั้นแค่นั้นเอง


โดย: ขวดแก้วสีฟ้า วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:10:29:59 น.  

 
แค่คนเหงาคนหนึ่งที่คิดถึง
มีความซึ้งในช่วงเวลาเหงา
ความผูกพันมีไว้รบเร้าเงา
กำลังใจคือเศร้าที่เธอให้มา

ถามดวงดาวของคนช่างฝัน
นานเพียงนั้นฉันยังจะรอหา
รอรับรู้คำว่าไร้เวลา
กังขารักเรานั้นคืออะไร


โดย: ฝากซึ้งใส่ฝัน วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:10:47:27 น.  

 
สานฝันส่งกำลังใจมาให้เสมอ
หวังเพียงเธอร่าเริงมีสุขสม
ลดร้อนเร่าอ้างว้างรอยระทม
ไม่มีถมหัวใจให้สิ้นสราญ

รักนี้มอบแด่เธอด้วยใจชื่น
หวังด่ำดื่นมาใกล้ไม่เดินผ่าน
ให้ซาบซึ้งรอยิ้มของวันวาน
เพราะรักหวานเจ้าของมอบแด่เธอ



โดย: วาดฝันมธุรพจน์ วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:11:14:27 น.  

 
ขอบคุณกับเรื่องราวที่นำมาแบ่งปันกันให้อ่านค่ะ


โดย: ฟ้าเวียงพิงค์ วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:12:24:25 น.  

 
ยินลมแว่วหวานนักในรักรส
เพียงร้อยพจน์ปลอบใจที่หวาดไหว
ปลอบห้วงขวัญอุราคราร้าวใจ
และลดใคร่ความเศร้าให้เบาบาง

ความรวดร้าวคราวจากแทบดับสิ้น
ความถวิลตรึงอยู่ไม่รู้สร่าง
ใจลำบากลำเค็ญเห็นเป็นทาง
แสงสว่างไม่มีนำทางเดิน


โดย: รสรวยริน วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:12:41:44 น.  

 
อย่ารัญจวนไหวหวิวให้หิวหา
อย่างตั้งตารอเยี่ยงใจเบี่ยงบ่อย
ยอมตามตรึงภักดิ์สมัครพลอย
หมายล่วงรอยรอเนาไม่เศร้าตรม (ญามี่)

รอสองรวมร่วมมองเดือนผ่อง,พบ
ฝากตาสบจำเพาะให้เหมาะสม
เป็นกระจกสะท้อนย้อนฝากลม
มาห้อมห่มหัวใจ...ใครสองคน

ทิ้งรอยร้างจากหายสู่สายหมอก
แล้วปาดปอกหลอกเล่ห์ฝากเวหน
ดึงอาภัพอัปภาคย์...จากตัวตน
ให้ห่างกล...มนต์ดำ..กระทำการ

เหลือเพียงจิตสองจิตต่างปลิดปลด
ทิ้งพยศหมดทั้ง...ในสังสาร
เก็บเพียงมาตรปรารถนาทิวาวาร
ให้สองมานมั่นคงดำรงปลาย

กลืนน้ำตาหนาวเหน็บเก็บในอก
อย่าให้ไหลล่วงตกจนหกหาย
กลืนกล้ำความช้ำเจ็บเหน็บใจกาย
แล้วสลายให้คล้อยด้วยถ้อยคำ-

เหลือภวังค์หวังเพียงคลอเคียงคู่
เหมือนจันทร์อยู่คู่ฟ้าทุกคราค่ำ
เหมือนอาทิตย์ตกดินถิ่นประจำ
เหมือนมัจฉาชอบน้ำยามเจิ่งนอง


โดย: พันคม วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:14:06:46 น.  

 
www.BeaLog.Net
Love heart 695

สวัสดียามบ่ายครับ


โดย: ก้อนเงิน วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:14:09:07 น.  

 


สวัสดีบ่ายวันจันทร์ค่ะ ....
หวัดดีค่ะ ..ญามี ...เก่งทั้งกลอนทั้งกาพย์เลยนะคะ ...ชื่นชมค่ะ



โดย: ~anrin~ วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:16:03:44 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณญามี่...เข้ามาอ่านค่ะ มีดอกไม้มาฝากค่ะ..


โดย: phanet วันที่: 15 สิงหาคม 2554 เวลา:20:11:56 น.  

 


สวัสดียามเช้า ครับ


โดย: พันคม วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:7:30:55 น.  

 


โดย: KeRiDa วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:9:00:50 น.  

 
แวะมา vote ให้คะ
ขอบคุณ BG สวยๆที่นำมาแบ่งปัน


โดย: pantawan วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:11:44:49 น.  

 

นาฏศิลป์บ้านครูเล็ก
สร้างกริตเตอร์

สวีสดียามบ่ายๆ ฝนมาครึ้มเลยค่ะ วันนี้แสดง แสง สี เสียงที่สิงห์บุรี ปัญหาก็คือฝนจะตกหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะเมื่อวานซ้อมใหญ่ ฝนก็เทลงมา คิดถึงนะคะน้องญามี่


โดย: เกศสุริยง วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:15:04:02 น.  

 
รักที่ใคร่ครอบครองด้วยสองแขน
ใจหวงแหนยิ่งเจ็บคอยคิดเสมอ
รักยอมทนปรนเปรอใจละเมอ
หวังคอยเจอแม้มิได้ครอบครอง

รักของคนแอบรักจักโศกเศร้า
เพราะรักเบามีเพียงเคียงคู่ต้อง
เขาไปคู่คนอื่นเราตรมตรอง
น้ำตานองหลั่งรดแทบขาดใจ


โดย: เกรียงไกรกวีฝัน วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:22:38:47 น.  

 
เขาไปดีมีชื่นเราสุขสม
ขอชื่นชมปรีดิ์เปรมหทัยไหว
ขออวยพรให้รักกันตลอดไป
ตลอดกาลไม่มีคลายมาวุ่นวาย

รักแท้แม้ได้แค่รักเชิญชัก
ฉันประจักษ์รักแท้ที่มั่นหมาย
ขออยู่กับเงียบเหงาความเดียวดาย
อยู่กับทางสุดท้ายที่ไร้เธอ


โดย: ขุนพลน้อยโค่วจง วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:22:48:59 น.  

 
ยิ้มยามเห็นต้นไม้และใบหญ้า
สุดสายตานิ่งตรงวิวเคียงข้าง
ดูคลื่นลมใบไม้รอบพื้นทาง
ดูความร้างวังเวงบนทางเดิน

สายลมโบกโบยปะทะทุกระยะ
ในขณะที่จิตคิดเหาะเหิน
ล่องลอยไปอย่างทวีความดำเนิน
เหมือนท่านเชิญเที่ยวไกลจากทุกข์รอน


โดย: ขอฝากแค่ฝัน วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:23:06:42 น.  

 



อังคารสวัสดิ์พิพัฒน์ผลค่ะคุณมี่

บ้านป้าฝนกำลังตก ถนนหน้าบ้านน้ำเจิ่งเป็นทะเลแล้ว
แต่ยังไม่เข้าบ้านค่ะ ยังหยุดอยู่แค่รั้ว

สภาพอากาศแบบนี้คงต้องรักษาสุขภาพกันเป็นพิเศษ
แต่ป้าเองตอนนี้โดนละอองฝนหวัดเลยมาเยี่ยมนิดหน่อยค่ะ 555
..............................


หลายคนพบว่า
เพียงแค่วิ่งจ๊อกกิ้งแล้วรู้สึกถึงเท้ากระทบแปะๆๆถี่ๆไปเรื่อยๆ
ก็เกิดสติดีขึ้นทันตาเห็น
เพราะจังหวะกระทบที่เข้าสู่ความรู้สึกสม่ำเสมอ
ย่อมเหลือพื้นที่ให้ใจตระเวนสุ่มฟุ้งซ่านได้น้อยลง

โดย... ดังตฤณ จากคอลัมน์ จากใจ บ.ก.ใกล้ตัว Lite Talk นิตยสารธรรมะออนไลน์ รายปักษ์ เว็บ dlitemag.com




โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 16 สิงหาคม 2554 เวลา:23:36:40 น.  

 





อรุณสวัสดิ์เช้าวันพุธค่ะ น้องญามี่ แวะมาทักทายด้วยความห่วงใย
มีความสุขกับการทำงานในวันนี้น๊า


โดย: KeRiDa วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:9:17:39 น.  

 
มาทักทายน้องมี่ในวันหนาววววววววววว

ไปหาพี่ขวดก่อนน่ะ รู้สึกคิดถึงจัง


โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:10:33:59 น.  

 
ขอเป็นแสงศรัทธาวันฟ้าเหงา
จะบรรเทาเรียงร้อยคราวหม่นหมอง
จะช่วยซับน้ำตาที่เอ่อนอง
จะเป็นสองแขนเหนี่ยวเกี่ยวรัดตรึง

ทุกคืนค่ำร่ำหาใครขิ่นเข็ญ
ดลฤดีให้เห็นเฝ้าคิดถึง
เหมือนภาพลวงดวงตาทุกคราคะนึง
ให้รำพึงทุกทิศจนติดทรวง


โดย: คืนฝันปีศาจน้อย วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:11:41:48 น.  

 
ขอเป็นคนแอบมองวันเธอเหงา
จะไม่เศร้าเรียกร้องความสงสาร
จะไม่เอ่ยถึงเคยของวันวาน
จะมองผ่านสองแขนเคยจูงเรา

ทุกคืนร่ำคอยใครในคนหนึ่ง
เฝ้าคิดถึงคืนวันที่เคยเฝ้า
แม้นจากกันห่างไปเกินบรรเทา
ใจยังเร่าร้อนหาความอาทร


โดย: พระรามหัดท่องเน็ท วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:12:16:25 น.  

 
อยากเป็นนกบินถลามาพร่ำขาน
เพื่อวอนวานเรียบเรียงกล่าวรักแน่
ทุกคืนวันเสกสรรค์มิผันแปร
คอยเหลียวแลมองแต่ท้องนภา

ยิ้มทุกครั้งยามใจคะนึงห่วง
กาลเลยล่วงผ่านแล้วคิดโหยหา
ความดีงามกรอนนั้นครั้งเคยมา
ผ่านเวลาทรมานจำสู้ทน


โดย: แก้วกลมกลม วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:13:35:00 น.  

 


สวัสดีค่ะคุณมี่...

อ่านนิทานสาดกจนเพลินเลยค่ะ

สนุกดีนะค่ะ วันหลังเอาเรื่องอื่นมาให้อ่านใหม่นะค่ะ

เดือนวันแม่นี้..

อ้อมแอ้มมีของรางวัลมาให้อีกแล้วค่ะ

ส่งรูปถ่ายที่ถ่ายกับคุณแม่

ที่คิดว่าเจ๋งที่สุด น่ารักที่สุด

มาประชันกันหน่อย

รูปของแม่-ลูกคู่ไหนที่ประทับใจอ้อมแอ้ม

จะมาของรางวัลส่งไปให้ค่ะ

ยังไม่กำหนดชิ้น ถ้าถูกใจหมด

อาจจะให้รางวัลหมดทุกคนก็ได้นะค่ะ

เป็นรูปสมัยคุณแม่สาวๆก็ได้ค่ะ

แต่ขอให้เป็นรูปคู่นะค่ะ

หมดเขตสิ้นเดือนสิงหาคมนี้ค่ะ

ขอให้รักคุณแม่ให้มากๆนะค่ะ



โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:14:21:59 น.  

 
ฝากลำนำร้อยพจน์ร้อยเรียงรัก
พึงประจักษ์ในอาลัยที่พ้นผ่าน
อุปสรรคทุกข์ทนยามพบพาน
เหมือนหม่นหมายประสานยามราตรี

คนพิเศษห้วงใจให้ขื่นขม
ในครั้งก่อนระทมเฝ้าเรียกถี่
แทนสัญญาบทรสในบทกวี
มอบคำนี้กับคนรักชั่วนิรันดร์


โดย: ขวดแก้วสีฟ้า วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:14:33:06 น.  

 
คราอ่านกลอนอ่อนหวานพาใจเหิน
ดังส่วนเกินหล่นร่วงสู่ห้วงฝัน
ความอาลัยมอบให้กับใครกัน
เล่นลวงสรรค์ร้อนผ่าวถึงในใจ

แอบยิ้มแย้มภิรมย์ใจห่มหา
ทุกทิวายังเพลินชื่นเข้าใกล้
อ่านกลอนหวานหวังสิทธิ์ใจคิดไกล
คนที่ได้ลืมปลื้มลืมระทม


โดย: ฝากซึ้งใส่ฝัน วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:15:18:43 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณมี่ เพิ่งหัดทำบล็อกค่ะ ประมาณ เดือนกว่า ๆ แล้วเพิ่งจะประสบผลสำเร็จ แค่นิดหน่อยค่ะ กำลัง ตกแต่งโดยใส่โค้ต อยู่ต้องขอขอบคุณ คุณมี่มากน่ะค่ะ ช่วยได้เยอะเลยค่ะ เลยเข้ามาทักทาย และทำความรู้จักด้วยค่ะ ไว้โอกาสหน้าจะเข้ามา comment ใหม่ค่ะ


โดย: นิด (hairpiece ) วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:16:09:37 น.  

 
คราอ่านกลอนอ่อนหวานพาใจเหิน
ดังส่วนเกินหล่นร่วงสู่ห้วงฝัน
ความอาลัยมอบให้กับใครกัน
เล่นลวงสรรค์ร้อนผ่าวถึงในใจ

แอบยิ้มแย้มภิรมย์ใจห่มหา
ทุกทิวาพรางเพลินเดินเข้าใกล้
อ่านกลอนหวานหวังสิทธิ์ใจคิดไกล
คนที่ได้เปรมปลื้มลืมระทม


โดย: วาดฝันมธุรพจน์ วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:17:32:08 น.  

 
เพียงเพราะเธอแค่เธอเสมอมั่น
กันและกันคือคำที่จะให้
จากวันนั้นผ่านมามีเรื่อยไป
จากหัวใจใครหนึ่งมอบคนดี

หากยามทุกข์ช้ำแท้มลายสิ้น
ใจถวิลมองไปในทุกที่
จะรับฟังหวังสิทธิ์คิดสิ่งมี
พร้อมบ่งชี้ช่องทางมาบอกเธอ


โดย: โลกของหนึ่งคน วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:17:42:04 น.  

 
เพียงแค่นี้ใจนี้ที่มีฝาก
แม้ลำบากยังห่วงรู้ร่ำหา
คิดถึงกันบางสิ่งในวาจา
คือสัญญาต่อกันใช่ห่างเธอ

คิดผูกพันต่อฝันกับวันพรุ่ง
พร้อมบำรุงดูแลอย่างสม่ำเสมอ
หากยามใดได้พานผ่านมาเจอ
อย่าได้เหม่อมองเลยคนเคยเคียง


โดย: รสรวยริน วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:17:57:52 น.  

 
เสียงที่ทำให้ใจเราพลอยเงียบ
ยากเปรยเปรียบอารมณ์ทำเกิดเสียง
เหมือนทั่วโลกไร้สิ้นกับคนเคียง
ความเงียบเมียงที่เราจนใจงง

ความรักไกลเสียงพลอยคิดลอยเลื่อน
สิ้นรักเหมือนสิ้นเสียงในประสงค์
ขาดรักไปเหมือนเดินเป็นวกวง
ไม่มีตรงตามใจอยากให้มี


โดย: ขุนพลน้อยโค่วจง วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:18:52:56 น.  

 
สวัสดียามค่ำครับ

Rose Images
Rose Scraps, Rose Day Graphics, Rose Day Comments and Glitter Graphics

Beautiful Orkut Scraps - Goodlightscraps.com



โดย: ก้อนเงิน วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:19:00:12 น.  

 
หลากหลายเรื่องที่ได้มาผ่านพบ
มิอาจลบอารมณ์เลือนลับสิ้น
ความด่างพร้อยมากมายรอยราคิน
เปรอะแผ่นดินหมองไหม้เข้าถมทับ

เถอะชีวิตในโลกบนหล้าแหล่ง
ตวงเติมแต่งอันใดใจรู้สดับ
ความดีงามรางสิ้นเกินชินรับ
รั่วซึมซับลงพื้นไร้รอยแล


โดย: ขอฝากแค่ฝัน วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:19:27:20 น.  

 
ฝากจดหมายจากชายคนอกหัก
เขียนถึงรักห้วงดาวอันพราวพร่าง
ทุกบทแห่งราตรีกาลที่ผ่านวาง
ดาริกาอ้างว้างมองผ่านมา

เหมือนวิโยคตามใจที่ไหวหวั่น
บทรำพันลอบล่วงท้นทรวงพร่า
หงอยเหงาแลโศกตามจนอ่อนล้า
ตามชีวาหลงไปจนไร้รอย


โดย: เมืองมานะ วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:19:56:54 น.  

 
ในหัวใจกังวลแห่งวิตก
สะท้อนทกอยู่ในห้วงหวงสิทธิ์
บนพื้นฐานงดงามแห่งความคิด
ลืมถูกผิดในทางบทก้าวเดิน

ผันผ่านราตรีกาลอันโหยหา
จินตนาการบอกกล่าวกับการเกริ่น
ดั่งมายาเปล่าเปลืองฝากเรื่องเมิน
รุมร้อนเชิญอารมณ์จมเวทนา


โดย: เกรียงไกรกวีฝัน วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:20:19:30 น.  

 
หลับฝันดีค่ะ

*ฝน*


เหลียวกลับหลังแล้วพะวงให้หลงใหล
ละอองไอสายฝนเวียนวนเยี่ยม
สายน้ำไหลวกเลียบหวังเทียบเทียม
สิ้นรอยเหลี่ยมมลายกับสายชล

เย็นนัยจิตมิดขวัญประหวั่นหา
เสียงเปาะแปะคราใกล้ยินในฝน
เพลินเพลงพิณส่งพรายมาร่ายดล
น้ำบนถนนลุล้ำตามทำนอง

ตรงเบื้องหน้าน้ำมาคอยท่าพร้อม
มองรอบล้อมน้ำขังกำลังล่อง
แรงกับแรงพลิ้วพัดหวังรัดครอง
สุดตาตรองลึกเร้นเฉกเช่นราง

เงียบงันนานบนทางอันว่างเปล่า
เหลือรอยน้ำกับเราให้เหงาข้าง
เกิดหนาวใกล้ให้เฝ้าบนเผาคราง
สะท้อนอ้างว้างบนเพลงบรรเลงรอ

สิ้นสุดแล้วสินะทุกข์ขณะแล้ง
พื้นดินแห้งกลับชอุ่มชื้นชุ่มห่อ
รอยเย็นซึมหลุมร้างคอยสร้างทอ
พะนอต่อแผ่นดินดุจถวิลเคียง


โดย: ญามี่ วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:22:20:24 น.  

 


ฝันดีครับ


โดย: veerar วันที่: 17 สิงหาคม 2554 เวลา:23:43:58 น.  

 
ขอบคุณค่ะคุณมี่หลับฝันดีนะคะ เพลงเพราะมากมายค่ะ

[ กดเบาๆนะจ๊ะ ]
[ กดเบาๆนะจ๊ะ ]



โดย: กิ่งฟ้า วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:0:20:09 น.  

 
ฝันดีค่ะคุณญามี่




โดย: Sweety-around-the-world วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:0:22:13 น.  

 
ดีใจที่คุณมี่แวะไปเยี่ยม
ขอบคุณข้อมูลที่ให้และภาพสวยๆ
แวะมา vote ให้คะแจกสกินhi5/คอมเม้นน่ารักๆส่งต่อให้เพื่อนคลิกเลยจ้า


โดย: pantawan วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:0:58:23 น.  

 
ดึก ๆ แย้วนอนกันเร็วน้องบ๊อง
นอนหลับฝันดีราตรีสวัสดิ์จ่ะ


โดย: ขุนพลน้อยโค่วจง วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:1:08:25 น.  

 


อรุณสวัสดิ์ ครับเมื่อคืนฝนตกหนัก อากาศน่านอน...


โดย: พันคม วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:6:58:53 น.  

 
พึ่งจะได้ต่อลำโพงกับคอม มาบ้านนี้ก็ได้ฟังเพลงเพราะๆทันที
เพลงนี้ ได้เคยฟังตั้งแต่สมัยเด็กๆเลยนะเนี่ย
ปล.อ่านกลอนแล้วนึกขึ้นมาได้
เมื่อวานฝนตกกลับบ้านมาลืมปิดหน้าต่าง ห้องเปียกหมอเลย 555


โดย: multiple วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:7:43:22 น.  

 




อรุณสวัสดิ์เช้่าวันพฤหัสบดีค่ะ น้องญามี่ สบายดีไหมค่ะวันนี้


โดย: KeRiDa วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:7:58:18 น.  

 
มา


น้องมี่สำหรับคะแนนค่า
แต่ก่อนมาจุ๊บพี่เค็งก็ไปหาพี่ขวดและก็โหวตให้น้องมี่ด้วยและ


โดย: ลงสะพาน...เลี้ยวขวา วันที่: 18 สิงหาคม 2554 เวลา:9:18:52 น.  

 
เมื่อพายุเข้ามา ทุกอย่างก็สลาย..


สวัสดีวันร้อนๆ ใกล้พายุมาค่ะ ร้อนมากๆค่ะ38แล้วค่ะ

*พายุมา*

หมายประสิทธิ์สุดสร้างชื่น.....................เชิดชู
ได้สุขเฝ้ามองดู...................................ดาษแจ้ง
หล่นค้างกลับอดสู................................สุดเทวษ
ภัยร่างรู้รอยแกล้ง................................ก่อร้ายส่งมหันต์

สรรค์สืบจิตหวั่นพลิ้ว..............................พะนอลม
หมายนฤมิตชะลอคม.............................เคลื่อนร้อน
พายุสัจจ์และส่งสม................................สร้างสุข
หายเร่าร้อนมาช้อน................................ชุ่มน้ำซึ้งผสาน

กาลกลับร่ายแล้งรด...............................ระทมวาง
จิตจ่อจินต์ร่วมพราง................................พรั่นพ้อ
มาดหมายมุ่งรู้สาง..................................เสมอสวาดิ
ตราบชีพหมดสิ้นท้อ................................ทุกข์นั้นคงหาย

สายโศกเลื่อนแต้มตื่น..............................ตรมภวังค์
ลอยเฟื่องบนความหวัง.............................วรรคแล้ว
โลกทัศน์ขื่นขมฝัง...................................ฝากโหด ร้ายเฮย
สิ้นสดับพจน์ผ่องแผ้ว................................ผ่านพร้อมยินเสียง

เมียงหมองเข้าข่มแพ้................................พลันเผา
หม่นเหม่อละอองน้ำเนา.............................เหนี่ยวไว้
เดือนเด่นจิตกลับเหงา...............................เงียบสนิท
ไร้ลู่ซึ้งสิ้นใกล้.........................................ก่องฟ้ากลบสวรรค์


โดย: ญามี่ วันที่: 19 สิงหาคม 2554 เวลา:13:46:54 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ญามี่
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 260 คน [?]






อัพบล็อกครั้งแรก ๑๔ มีนาคม ๒๕๕๑
free counters
who's online
คนพูดน้อยคิดบ่อยแต่ไม่เงียบ
ไร้ระเบียบเคลิ้มครุ่นอณูคุ้นฝัน
ไม่ประวิงหากทิ้งจักลืมวัน
พลัดผ่านพลันหากจากยากฝากคอย...











[Add ญามี่'s blog to your web]