สวัสดีค่ะ ขอให้สุขสดชื่นตลอดไปนะคะ

* วันอาสาฬหบูชา *

เดือนแปดสิบห้าค่ำ......................ครองขวัญ
ป้องโศกหยุดจาบัลย์.....................บทร้อน
หอมอวลกลิ่นไม้สรรค์..................โสตสุข
กราบบทขอบวงอ้อน......................อุ่นชื้นหอมถวิล

ยินยอมก้มกราบไหว้.........................วรรณพระ
ปรุงภาษด้วยสัจจะ.............................แจ่มแจ้ง
ด้วยหนึ่งจิตอาชวะ.............................วงวาด ไว้เอย
หวังอุสวะอย่าเหือดแห้ง.....................ห่อหุ้มด้วยแสง

แหล่งทองประทีปแก้ว.........................กุมสาน
ลอยประดับชัชวาล...............................แวะย้ำ
ธูปเทียนกรุ่นงามสราญ........................รอยเสก
วรรคประณีตเว้นล่วงล้ำ.......................เลื่อนแล้วประกายหวัง

พรั่งสุวภาพร่วมพร้อง............................พลิ้วพัน
รูปหนึ่งดวงบุหลัน.................................ล่องฟ้า
จินต์ประณตไป่รั้งฝัน.............................ใฝ่ฝาก นภาเนอ
ให้สุขสงบทั่วหล้า...................................หล่อปลื้มผ่านสมัย

วัยวานผ่านวับท้อ.....................................ทางพระเศียร
ผู้วัฏฏะมองเวียน......................................หว่างเว้น
ท่วงทีกร่ำเธียรเฉวียน...............................ว่อนร่าย
ร่มแผ่ใจรับเน้น..........................................หนึ่งนี้ทะนุถนอม

สุขสันต์ วันอาสาฬหบูชานะครับ คุณ น้องญามี่

มาอ่านบทกวี

ืที่สร้างสรรค์ครับ

ประทับใจจริงๆ
นี่คือคนที่ไม่ได้ใช้ภาษาไทยทุกวันเขียน
เก่งจริงๆ ค่ะหนูมี่

หนู "เข้าใจ" ในพระพุทธศาสนามากเลยนะคะ

วัยวานผ่านวับท้อ.....................................ทางพระเศียร
ผู้วัฏฏะมองเวียน......................................หว่างเว้น
ท่วงทีกร่ำเธียรเฉวียน...............................ว่อนร่าย
ร่มแผ่ใจรับเน้น..........................................หนึ่งนี้ทะนุถนอม

ตรงนี้บอกน่ะซีคะ

ฝึกปรือไว้ให้โคลงฉันท์กาพย์กลอนอยู่มือ
เหมือนเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์เลยนะคะหนูมี่
พี่นาถเชียร์นะคะ

ประทับใจจริงๆ
นี่คือคนที่ไม่ได้ใช้ภาษาไทยทุกวันเขียน
เก่งจริงๆ ค่ะหนูมี่

หนู "เข้าใจ" ในพระพุทธศาสนามากเลยนะคะ

วัยวานผ่านวับท้อ.....................................ทางพระเศียร
ผู้วัฏฏะมองเวียน......................................หว่างเว้น
ท่วงทีกร่ำเธียรเฉวียน...............................ว่อนร่าย
ร่มแผ่ใจรับเน้น..........................................หนึ่งนี้ทะนุถนอม

ตรงนี้บอกน่ะซีคะ

ฝึกปรือไว้ให้โคลงฉันท์กาพย์กลอนอยู่มือ
เหมือนเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์เลยนะคะหนูมี่
พี่นาถเชียร์นะคะ

โดย: nart (sirivinit )

ความรู้สึกขณะนั้นคือมองเศียรพระแล้วนึกในใจว่า
หลวงพ่อเจ้าขาลูกอยากได้...อิอิ

อารมณ์ที่เวียนว่ายไปมาในสมองกับคำอวยพรของพระที่เราได้ยิน
เกิดภาพร่มสบายแต่ใจยังอยาก..อยากทะนุถนอมอาการเหล่านั้น
นานแสนนานนานถาวรทั้งที่บอกตนเองแล้วว่า..ควรวรรคเว้น

เป็นอาการเกิดตลอดคิดเรื่องตามจงกลกิ่งเทียนค่ะ555 พักนี้มี่ดูละครไทยบ่อยไปหน่อยค่ะพี่นาถ

พระคุณเจ้าตรัสรู้......................ไตรลักษณ์
หลงโลภพารู้จัก........................ปวดร้าว
ยามชังบ่ยอมหัก........................หันอื่น
ใจขื่นไม่รู้ก้าว............................พร่ำเพ้อสงสาร

หวานใดไม่รู้สนิท.......................ดังหวัง
ใจเกิดพลังกำลัง..........................เดือดดิ้น
คิดแต่สักสร้างยัง........................ความคิด
ใจเอ่ยไม่รู้สิ้น..............................เร่าร้อนรอหา

พระพุทธองค์แจ้งขับ................ธรรมะ
ให้จิตได้สัจจะ...........................แก่นแท้
คำคุณจากองค์พระ....................ที่มอบ
เห็นแก่หัวใจแล้.........................สว่างแจ้งในกมล

มัวแต่ไปทานมื้อเย็นมาค่ะ

น้องมี่เก่งมาก
ผู้ใหญ่ชาวพุทธตามทะเบียนบ้าน
บางคน "รู้" ไม่ได้กระผีกหนูมี่

การรู้แล้วรจนาเป็นโคลงได้
มันไม่ใช่เรื่องง่าย
การใชคำจำกัด
แล้วอธิบายได้ กว้าง..เลิศค่ะ

ขอให้แบ่งเวลาเขียนกลอนธรรมะบ้างนะคะ
น้องมี่ มีเพื่อนนักกลอนหลายคน
น้อมนำใจ ให้เพื่อนๆ เขียนกลอนแบบนี้
ได้บุญ ได้ความประเสริฐ สบสิริมงคล

อย่างน้อย เด็กๆ ก็จะสนใจในธรรมะ
สนใจในแก่นธรรมจริงๆ
มิใช่รู้แต่กระพี้ แล้วกระดี๊กระด๊า..เฮ้อ..

ขออนุโมทนาในจิตประภัสสร์
ของน้องมี่และผองเพื่อน
ที่ทำแต่สิ่งดีมีมงคล
ขอให้มีแต่ความสุขกายสบายใจ
พระพุทธคุณคุ้มครอง
ป้องเกศปกเกล้าไปตลอดกาลนะคะ
น่ารักมากๆ ค่ะ พี่นาถขอสดุดี

สวัสดีครับ

ได้ไปทำบุญหรือเปล่าครับวันนี้
วัดใน กทม.คนไปทำบุญมากจริงๆครับ
วันนี้เป็นวันสำคัญทางพุทธศาสนาขอให้จิตใจมีความสุข ร่างกายปราศจากโรคภัย เช่นกันนะครับ

สวัสดีค่ะคุณมี่ เอาบุญมาฝากค่ะ กิ่งไปทำบุญกับแม่เมื่อเช้านี้ค่ะ คุณมีไปทำบุญหรือเปล่าคะ
สุขสดชื่นวันพระใหญ่นะคะ


Beautiful Blog

ใจเอยเหมือนติดต้อง.............ในกรรม
เวียนผูกร่ายลำนำ..................ไป่พ้น
นานวันกลับยิ่งจำ...................เจ็บปวด ยิ่งเอย
กร่ำหลั่งน้ำตาท้น....................ท่วมด้วยอาดูร

กรรมใดหรือตกเศร้า...................พัวพัน
หรือบาปจากปางบรรพ์................ก่อนนี้
เจ็บย้อนสบด้วยมหันต์................นัยสาป
รอทุกข์จนอกลี้...........................จากให้ทรมาน

ขอรักอย่าร้างตอบ.............ตัวเรา
เวียนจบมานอนเนา...........แต่น้อง
นานวันอย่ารู้เหงา..............มีป่วย
ให้จิตอย่ารู้ร้อง..................ร่ำไห้คะนึงหา

วังเวงอย่ารู้รับ...................,,ดักตา
ให้จิตไม่กรุณา.....................คิดค้น
มลายเจ็บประสา..................รู้ตื่น
จงห่างไกลทิศพ้น..................จะเศร้าบ่งบาน

พรุ่งนี้ไปทำบุญกันนะคะน้องมี่ พี่เกศส่งแรงใจให้๑โหวตด้วยค่ะ

หากต้องตามติดค้าง..................รอยกรรม
ปวงบาปเคยกระทำ....................ก่อเศร้า
จักรับทุกผลนำ..........................ขมขื่น
แม้นจิตต้องร้อนเฝ้า....................เจ็บสิ้นเกินทน

ร้อนเร่าคร่ำครุ่นไหม้.................ในจิต
รอยบาปเข้าเป็นนิจ...................ช่างร้าย
สัญญาผูกจำมิด.......................จากคร่า
ขอส่งคืนไม่ย้าย........................เพื่อแล้วไม่ถอย

แม้ชาติหน้าทั่วด้าว...................แดนไกล
ขออยู่ให้ห่างไป.........................สุดฟ้า
กี่ภพกี่สมัยใจ.............................ขอห่าง
คนจิตร้ายมากหน้า.....................คิดให้ขาดกัน

ความอ่อนแออย่าได้....................ใกล้มา
ขอห่างไม่ศรัทธา..........................อีกแล้ว
ขอหลับอย่างไร้ตา.......................มองอยู่
คนมากร้ายไม่แคล้ว....................หักสิ้นต่อกัน

แสงนวลฉายทั่วฟ้า..........คืนเพ็ญ
เงากระทบสายน้ำเห็น...............คลื่นริ้ว
ลมพัดผ่านเยือกเย็น................เข้าสู่ ใจเอย
แววแผ่วทำนองพลิ้ว...............ขับร้อยคำนึง

ท่ามเพ็ญฉาบกลบสิ้น.............กำสรวล
ใครหนึ่งเคยเชิญชวน...............ร่วมรู้
รอยหวานรักฝากครวญ...........ในจิต
แล้วนี่สองคนผู้.......................ร่วมร้ายหายไฉน

ลมโบกหวาดหวั่นแท้..............แหนงใจ
ร้อนเร่าไม่แจ่มใส....................ค่ำเช้า
ในใจเจ็บขนาดไหน.................ใครทราบ
อุปสรรครุกใจเศร้า......................หลอกแล้วขื่นขม

ระบมบทร้าวร่ำ.............................แต่หา
คนหนึ่งในเวลา.............................เดือดร้อน
เขากลับหมดปัญญา......................ตอบต่อ
ใจเจ็บถึงสะท้อน...........................บอกเร้าความหลัง

ศรัทธานำจิตเข้า.....................บูชา
ใจคิดถึงศาสนา.......................ที่ตั้ง
ใจสงบเปี่ยมหรรษา..................ใครกล่าว
ระลึกตนครารั้ง..........................ประสบด้วยความงาม

ดาวเดือนลอยล่องฟ้า..................เวหน
เพ็ญผ่องสาดทั่วสกล...................ภพหล้า
แสงธรรมสว่างส่องตน..................ให้ตื่น
ในค่าแห่งดินฟ้า...........................ยึดไว้ดีเสมอ

ไพเราะจริง ๆ ๆค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาฝากไว้ค่ะ

เรื้อร้าย คือทั้งร้ายและรกเรื้อรึเปล่า มี่จัง

สวัสดีวันเข้าพรรษาค่ะ ทานข้าวเย็นให้อร่อยนะคะ



* เข้าพรรษา *


เข้าพรรษาเทศน์ถ้อย...............ถึงธรรม
คืนค่ำบำเพ็ญนำ......................เนื่องน้อม
จารโอวาทจดจำ........................จากจิต
เพ็ญพร่างกำหนดพร้อม...........พากย์พร้องคุณหวน

นัยมวลปาติโมกข์เน้น...............นึกสอน
ละชั่วเย็นกมลพร.......................เพริศฟ้า
ทำดีกร่ำขจายขจร.......................จรดทั่ว สกลเฮย
ผ่านพิภพวางวุ่นว้า......................หว่างไหว้อธิษฐาน

พานบัวหอมธูปน้อม.....................เนืองโพยม
อรหังสัมมาประโคม.....................เคลื่อนแจ้ว
นะโมตัสสะโหม...........................เหินกระจ่าง
สงฆ์หยุดกรายจรแล้ว...................หล่อสร้างสัตย์ศีล

สิ้นอบายมุขพร้อม..........................พัดพาน
จิตแจ่มเกิดสำราญ..........................ร่วมรู้
สงฆ์ไม่ห่างวัดสาน..........................สงบสุข
ฝนพักเดินทางสู้..............................สวดซ้ำคำสอน

สวัสดีค่ะน้องมี่

แวะมาอ่านบทกวี พรุ่งนี้จะมาโหวตนะคะ
คะแนนวันนี้หมดซะแล้ว
สบายดีนะคะ

แอมอร

สวัสดีค่ะคุณมี่กิ่งมาอ่านกลอนเพราะและก็โหวตให้คุณมี่แล้วค่ะ หมวดงานเขียนนะคะ หลับฝันดีนะคะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะ


Beautiful Blog

ไม่ใช่หมอกหรือควันดอกขวัญจิต
ที่เธอคิดผิดเพี้ยนจนเวียนหัว
ไม่เป็นพิษเป็นภัยอยู่ไกลตัว
หูตามัวเพราะรักหนักใจจริง

เช็ดน้ำตาที่นองทั้งสองแก้ม
บอกจันทร์แรมคนดีมีเพียงหญิง
ไม่ต้องกลัวเจ็บช้ำย้ำอ้างอิง
อย่าประวิงอาวรณ์สะท้อนใจ

มาอ่าน
เรียงร้อย
ถ้อยคำ
บทกวี

สวัสดีตอนเช้าจ๊ะ

เอามื้อเช้ามาฝากจ๊ะ

ใจเอยช่างร้ายรุ่ม.............วุ่นวาย
รักจืดหวานมาคลาย.........หมดแล้ว
กิจสัจจะห่างหาย..............ทุกข์ขื่น
ราวกิ่งฝันหมดแพร้ว........เรียกถ้อยบ่คืน

เมื่อรักลืมร้างผ่าว..............ผ่านไป
ในจิตหมดสิ้นไฟ..............อย่างตั้ง
เมาเหม่อพิษในใจ..............ใคร่เร่า
คิดขยับบ่คลายรั้ง................ร่วมร้อนครวญคราง

รัตติกาลเร่าร้อน............มากมาย
คิดใคร่ฟุ้งกำจาย............กลับย้อน
ปริศนาเร่าลึกกราย.........มาสู่
ใจส่งเสียงแทรกซ้อน......โสตให้ถวิลหา

ใครผู้เคยผูกสร้าง.............กันมา
แววแว่ววันเวลา...............สนิทนั้น
เป็นศึกทุกข์กังขา..............เหลือรับ
ค้นคิดไปตามขั้น...............โศกแท้โศกขม

ถึงเรื้อร้ายรักพร้อม............ยืนยง
เหลือแค่ภาพดำรง...............คู่หล้า
ใจรักมั่นประสงค์.............ในสุข
เลิกเถิดระแวงว้า...............ก่อเศร้าหลอนไหว

ให้รักแล้วเชื่อรู้................อดทน
ฉันเชื่อในเหตุผล..............ที่อ้าง
แม้ชวนคิดสับสน............ถึงซื่อ สัตย์นา
ใจจะหายหมองข้าง.........ทุกข์เร้าไกลฝัน

ไกลสุดยังเคลิบเคลิ้ม..........ทุกวัน
ความทุกข์ให้ผูกพัน.............คิดรู้
สุดตาหวั่นความฝัน.............แปรเปลี่ยน
ตาห่างใจกลับสู้...............ส่งแจ้งนัยหมาย

ร้อนเร่าเรื้อขื่นคล้อง.........อาทร
ในหนึ่งประสงค์วอน.........หยุดล้า
ภูเขาอยู่บังหลอน................ในจิต
ร้อนลึกมิเทียวท้า................หนึ่งร้อนวุ่นวาย

ร้ายเรื้อเมื่อสร้างรัก........สานหวาน
ในเจ็บใจก็บาน..........หลั่นชั้น
ลืมวันสุขสำราญ..........จำฉ่ำ
ขื่นรุกเริงขั้นปั้น..........รุ่มร้อนโหยหา

เศร้าโศกมีรักด้วย.........ช้ำนำ
เคียงขื่นคืนวันทำ..........อิ่มพริ้ม
พจนาร่ายเรียงคำ..........เหน็บเก็บ
ใจเจ็บอยู่ร้อยลิ้ม...........แต่เศร้ามาอิง

ขมในเร่ารักนั้น......ทรนาน
ใจโศกเลิกเบิกบาน....เหว่ว้า
ร้ายเรื้อเร่าขับหวาน...ไปหน่าย
ขมขื่นคล้ายเลื่อนล้า....เลื่อนแต้มโศกทรวง

ช้ำชอกเชื่อมซึ้งเชื่อม...รักหมาย
พาเร่ามักครุ่นกราย....ครุ่นไห้
ถ้อยร่ำร่ายฝากหลาย...ฝันใฝ่
ล้วนแต่รุ่มเร้าใกล้....รุ่มซ้อนกระแส

รักร้าวเร่าฝากด้วย.......ดวงมาน
เหมือนนึกอยู่เนานาน.....เหนื่อยแท้
บนหวังภักดิ์แต่ราน......ใครทราบ
วับหนึ่งไหม้ถึงแพ้.......เพิ่มร้อนรอคอย

คอยแล้วคิดแล้วสบัด.......จัดหวง
หวงหนึ่งละโหยทรวง.......ทรุดช้ำ
คืนรับแต่ปรับลวง........เลือนไล่
ขืนคร่าหลอกล่วงล้ำ.......ล่วงเข้ารังแก

เรื้อร้ายให้โกรธกริ้ว.........ใจตาม
ขมขื่นเช่นคำถาม...........ไม่ค้าน
เรียนรู้คร่ำนิยาม............ใครเชื่อ
รู้เครียดเกลียดการบ้าน..........ปวดร้าวคอยเขียน

เพียรในใจหักพร้อม............จังหวะ
ร่ำเร่าอย่างบ่ผละ............ห่างคล้อย
ไม่อายขื่นทุกขณะ...........เดินรอบ
ยอมเปลี่ยนมาผูกถ้อย.........เปลี่ยนคว้างเป็นหนี

ร้ายเหลือร้ายรู้รอบ........ เรียงราย
เมียงตอบความมอบหมาย.....อวดแม้น
ลำนำเกลียดมากราย........ก่อกวด
ควรห่างคล้ายเคืองแค้น.....ครุ่นสร้างทางขม

ลมชวนช่วงร้าวหลอก.....ช่ำเชิญ
เพียรพอกบังห่างเมิน.......เพื่อแล้ว
ใจกลับด่าวดันเดิน........ดื่นด่ำ
ไห้ก่ายเกาะกอดแก้ว...... ครุ่นไหม้ในกาล

เหมือนเรื้อร้ายเปลี่ยนด้วย......เวลา
วันเปลี่ยนด้วยศรัทธา........คิดค้น
คำเอ่ยหนึ่งพาหา.............แต่คิด
เขียนพจน์ด้วยขื่นท้น........ปวดเต้นหลอกฝัน

ยังทุกข์มากทุกข์ให้..........ร้าวหนัก
ตามเปลี่ยนตามทวนหัก.......ขื่นไข้
ทุกคิดหมั่นคิดหลัก..........ต้องเกิด
สะอื้นใคร่พ่ายแพ้ได้......ตระหนักพร้อมเปลี่ยนตาม

สวัสดีค่ะคุณมี่
แวะมาเยี่ยม มาอ่านกลอนค่ะ
ญามี่ Literature Blog
คุณมี่สบายดีนะคะ

สวัสดีวันหยุดที่ฝนตกค่ะ ทานข้าวเย็นให้อร่อยนะคะ






* เรื้อร้าย *

เดี่ยวมาอ้อยส้อยโธ่.............................ธานินทร์
วิเวกในนครอินทร์..............................เอี่ยมฟ้า
อารมณ์คั่งกระแสสินธุ์........................สอนป่วน
เวียนกรอบกาลกรอหล้า......................หลับล้อมล้ำหลง

ดงเปล่าเปลี่ยวเปิดเอื้อ.........................อ่านมนต์
ทรวงทุกข์ท่วมทัณฑ์ทน......................เทิดไว้
รัถยากำหนดหน...................................หาหน่วง
วอดหวั่นเปิดทางใกล้...........................กร่ำถ้อยหยามหยัน

สรรสำเหนียกเพรียกแพ้.......................เพิ่มแผล
สร้อยโศกมาเหลือบแล.........................ลูบเนื้อ
ตระหนกครุ่นครางกระแส....................เสริมเหยียด เย้ยแล
อาภัพอาเพศเอื้อ....................................อาบม้วยอวลอหัง

ฟังฟ้าทอส่องคล้อย...............................คลาขบวน
ร้ายเร่าอำนวยจวน................................จ่อมห้อม
ยินแววเห่หันหวน.................................เหิมล่วง หทัยเฮย
กรองมาศกรึงจิตพร้อม.........................พลาดอะคร้าวเหือดเห็น

เร้นเข็ญเรื้อร้ายรุก.....................................รวิวรรณ
พากย์พจน์แสดงรำพัน..............................พอกรั้ง
แนบคะนึงสู่ในขวัญ..................................ขังขื่น
ตรมตื่นตามติดตั้ง......................................แต่งแต้มกำสรวล

ดีใจนักรักนี้ให้พี่หมด
ทุกถ้อยพจน์จำได้ดวงใจจ๋า
ผิดคำพูดเมื่อไหร่ไม่เมตตา
พี่จะลาไปบวชสวดให้เธอ

รักเป็นบวกโชคดีไม่มีลบ
ใจสงบมากนักรักเสมอ
รักของพี่สดใสเมื่อได้เจอ
อย่าให้เพ้อนะน้องจองดวงใจ


Beautiful Blog

ดีใจนักรักนี้ให้พี่หมด
ทุกถ้อยพจน์จำได้ดวงใจจ๋า
ผิดคำพูดเมื่อไหร่ไม่เมตตา
พี่จะลาไปบวชสวดให้เธอ

รักเป็นบวกโชคดีไม่มีลบ
ใจสงบมากนักรักเสมอ
รักของพี่สดใสเมื่อได้เจอ
อย่าให้เพ้อนะน้องจองดวงใจ


Beautiful Blog

เห็นกินผัดไทใส่กุ้ง ทานข้าวหรือยังไม่รู้เลยเอาต้มยำกุ้ง น้ำท่วมทุ่งมาฝากจ๊ะ

สวัสดี...ยามค่ำครับ
วันนี้อากาศ ครึ้มๆฝนตกสบายๆ

ยินแววเห่หันหวน.................................เหิมล่วง หทัยเฮย
กรองมาศกรึงจิตพร้อม.........................พลาดอะคร้าวเหือดเห็น
คำไพเราะมากค่ะ
ความก็แสนดี


หนูมี่ขา
เขียน ยอ คนมาเยี่ยมบล็อกพี่นาถครบ
"หนึ่งล้านห้าแสน ไอพี"
ให้ชื่นชมบ้างนะคะ
ขอบคุณค่ะ

ญามี่ Literature Blog ดู Blog

วันนี้มาทักทายค่อนข้างดึกพอสมควร ด้วยภารกิจที่ยุ่งมากๆ blogอัฟไว้แต่เมื่อวานเพิ่งเข้ามาเยี่ยมเอาวันนี้55555 หลับฝันดีนะคะน้องมี่

เยี่ยมครับ

สวัสดีค่ะคุณมี่ ขอบคุณมากมายนะคะอาหารมื้อเย็นแถมน้ำหวานอีก 1 แก้ว กิ่งอิ่มแปร้เลยค่ะ อิอิ
กิ่งรู้จักคุณมี่มาครบ 1 ปีวันนี้แล้วนะคะ ดีใจที่ได้รู้จักนักเขียนกลอน
เก่งมากๆเลยค่ะ เขียนกลอนได้ทุกแบบและไพเราะมากมาย ขอบคุณในไมตรีที่ดีที่มีให้กันเสมอมานะคะ
กิ่งจะติดตามอ่านผลงานคุณมี่ตลอดไปค่ะ
หลับฝันดีนะคะ



Friends18.com Good Night Scraps

แวะมาอ่านบทกวีเพราะ ๆ ก่อนนอนค่า

น้องมี่ส่งผัดไทยไปให้กินชิมิ
น่ากินอ่ะ
ทำเองป่ะ

ฝันดีนะจ๊ะ
จุ๊ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ

รอคะแนนโหวตนะ ตะเอง กร๊ากกกกกกก ต้องได้ 20 แว้ววววววว
โฮฮฮฮฮ ลงสะพาน..เลี้ยวขวา มีคะแนนเหมือนกัลลลลลล555555555

สวัสดีค่ะ คุณมี่
วันนี้ต้องทำงานรึเปล่าคะ

แม่หมูมาส่งความคิดถึงนะคะน้องมี่

สรรเรื้อร้ายเร่าไว้........ในใจ
เพียรมุ่งหมายสืบไป.......ใคร่สร้าง
หวังจิตยั่งยืนไข.........ความเจ็บ นั่นนา
คงอยู่ตราบโลกร้าง........ลึกเร้าด้วยฝัน

จินตนาสรรสู้ไป่........จากทรวง
เรียงเฉกด่าวในดวง......ถ่วงร้าว
รุ้งสายที่ปรายสรวง.......มืดบอด
คือเร่าร้ายเรื้อก้าว......ขับคล้องพรรณนา

รอเรื้อร้าวเร่าร้าย.......ครวญคราง
หวังมุ่งหายจากทาง......บาปร้อน
หวังจิตยั่งยืนขวาง.........ความขื่น
ท้นทบตราบโลกย้อน......ซุกซ้อนลมแสลง

ใจครวญเร่าล้มกราบ......อ้อนวอน
อย่ารุกหยุดมารอน......จิตนี้
ในสัมผัสครานอน.......เหนื่อยนัก
วรรคด่าวยังไม่ลี้......หลบร้อนรังคราน

คงกรรมยังเร่าร้าย.......รุมลน
หวังมุ่งทางเวียงวน......บอกแจ้ง
บนจิตที่สับสน........ระหว่างเร่า ร้อยเอย
เรื้อร่ายบนบทแกล้ง......จิตต้องสูญเสีย

เพลียใจลนเร่าแท้......บัญชา
ยามหยุดดูเวลา......เหนื่อยนั้น
ในสัมผัสปริศนา.....ใครด่าว
จิตคั่งค้างคอยกั้น.....โสตให้สิ้นสลาย

ยังเช่นเฉกเร่าร้าย.......รุมครวญ
หวังบอกความเรรวน.....อกนี้
บนจิตมากสำนวน......บันทึก เร่าเอย
ก่อเกลื่อนคือเร้ารี้......ร่วมพร้อมทำลาย

หมายใจลนเร่าไข้......มิราวี
แววโศกยามชีวี......ตอบเศร้า
อยากลี้หลีกทางหนี....ไป่ผ่าว
คอยขื่นจนทุกเช้า.....ตอบพร้อมสูญขวัญ

ราตรีหรีดหริ่งร้อง........คงนาน
เดือนเด่นดาวไสวกาล......ส่องพื้น
ลมโบกโยกไม้พาน.......ร้อนรุ่ม
เย็นฉ่ำน้ำค้างชื้น.........วาบร้อนระทมหนุน

พรมหยาดเพ็ชรเกล็ดแก้ว......จินตนา
ค้างหล่นบนจันทรา........เคลื่อนล้อม
ไพรพฤกษ์พร่างดงพา.......ผ่านหลุด พ้นเอย
ละอองหล่นทรวงห้อม......แต่พื้นไพรสณฑ์

ราตรีเรียงเร่าร้อน.......เกินควร
เดือนขับเริงผ่านขบวน....รื่นเร้า
ใจขื่นก่อกวนทวน......ไปกลับ
เย็นเยียบน้ำค้างเฝ้า.......หยดไล้อารมณ์

อกเอยเร่าร่ำไห้......นำวาง
ใจหล่นบนริมทาง.....ทุกข์ร้อน
เกรงทุกข์ช่วยอำพลาง..ผูกจิต เศร้าเอย
หวั่นหล่นทรวงสะท้อน..โศกเศร้าขืนผสาน

ผ่านคืนใจคิดด้วย.......อาดูร
เพลิงปวดมาขับพูน....ลับแล้ว
เรื้อเร่ารุกสาบสูญ......โศกสลด
เหลือแต่รอยสิ้นแก้ว.....ระทดสะอื้นทรวงถวิล

ตะวันลอยเลื่อนขึ้น......สู่นภา
ใจขื่นตามลมพา.....ผ่านพร้อม
ขื่นแท้คู่ชะตา............เร่าโศก
ครองจิตยากรู้ล้อม..ร่วมร้าวรพีไหว

เศร้าหรือสุขมากน้อย......เพียงใด
ปวดป่วยเกินได้ไป....อย่างคล้อย
เวียนว่ายคิดแค่ไหน......ใจเอ่ย
เหลือแค่รอยทักถ้อย.....พากย์เย้ยเหยียดหยัน

เงาเสแสร้งบิดพลิ้ว......เจรจา
หากจิตคิดเวทนา.....เชื่อแล้
เร่าเรื้อเร่าเวลา..........เจ็บปวด
ให้ทราบยากก่อแก้..บทช้ำในใจ

แรงโศกเศร้าตอกย้ำ......บรรยาย
หวาดหวั่นเกินมากมาย....กลับย้อน
เวียนว่ายอยู่ในสาย......เสมอป่วน
เหลือแค่รอยขยักขย้อย.....ประโยคย้ำช้ำเชิญ

ดวงมานเร่าร้อนรุก......ทุกวัน
ในร่ำคิดโปรยปลุก.....ฆ่าม้วย
เร่าสิ้นจิตคิดสนุก..........ด่ำสวาดิ
ดื่นด่าวระทมด้วย.....ฉุดพ้นเผาผลาญ

ในเร่าร้อนเรื้อร่าย..................บทกวี
เห็นเจ็บเติมราคี......................ข่มละห้อย
แววหวาดหวั่นไม่หนี..............ไปจาก
ตามลู่รู้ทางถ้อย........................ก่อร้อนหักหวน

หนทางห่างสุขร้อย..................คลามวล
ผ่านปร่าใจคิดหวน...................แยกห้อม
เจ็บจมจ่อมเจียนจวน................ใครนึก
ทุกอย่างถูกล่อล้อม....................ทุกข์ด้วยเสน่หา

ความรักยามเคลื่อนคล้อย..............คลายคะนึง
มีปวดมาเอ็ดอึง.............................ก่อร้อน
ความรักถูกติดตรึง........................ด้วยทุกข์
ย่อมเบื่อหน่ายสะท้อน..................สุขนั้นมืดบัง

ขังใจด้วยเร่าร้อน............................ทรมาน
เพลิงพ่ายมาสำราญ.........................ปวดแท้
ใจเอยอยากประทาน........................โทษทิศ
เพื่อเพิ่มหนทางแก้...........................รุ่มเร้ารอนราน

มัวมากหมองไหม้มุ่ง....................มืดมน
เรื้อเร่าร้ายกว่าคน..........................ตกคว้าง
อุ่นอิงอาบในผล............................อาภัพ
ใจแจ่มเกิดรู้กว้าง...........................กว่าร้ายเข้ามา

มองหมายใดม่านรั้ง.......................รุมรน
จิตเจ็บกว่าหยาดฝน........................โอบแสร้ง
ทุกวันหวั่นมากกมล.......................ใครคิด
เกณฑ์กฏแห่งความแล้ง.................ไล่ล้อมรังแก

ฝันดีนะคะน้องมี่

สั่งความรักหลีกผู้....................คุกคาม
สั่งหลั่งหวานในนาม................ประสบเศร้า
สั่งเร่ารักคิดถาม........................แต่สุข
เอกภพไม่รู้เร้า...........................อีกทั้งรอนราน

อาณารักเรื้อร่าย..........................สงสาร
หมดโศกมาแบ่งบาน..................ขื่นไข้
รุมรนร่ำรำคาญ...........................คราวเพรียก
ใจทุกข์ยังรอใกล้..........................รุกด้วยเสมอระทม

ชอบภาพประกอบจังเลยค่ะคุณญามี่

หลับฝันดีค่ะ



* เรื้อร้าย *

ใจหมองไหม้หม่นแม้น.................เหมือนไฉน
ใครเร่าร้ายในใจ............................เจตแจ้ง
รักแล้วตระหนกภัยใคร.................ครวญอยู่
เห็นแต่ไห้มอบแล้ง.......................แหล่งเพี้ยนภาพโฉม

พร่าประโคมคลื่นคว้าง...................คอยเมียง
รางร่างเรื้อร้ายเคียง.........................คู่นั้น
เล็ดลอดขื่นทรวงเสียง....................สะท้อนสนั่น
ไห้สะอึกสะอื้นขยั้น.......................เยี่ยมท้นกมลสลอน

ศศิธรยามโศกซึ้ง.............................ซึ่งหน
ยังพร่องในเหตุผล...........................ผ่านแผ้ว
คราเผือเมื่อสับสน...........................เสนอสนิท
เปล่าเปลี่ยวใจสุดแล้ว.....................หลับสะอื้นในฝัน

รอยกรรมสรรร้ายเร่า........................เรียงคอย
วกช่วงละห้อยปรอย.........................ป่วยเศร้า
คืนขมคร่ำครวญพลอย.....................เพิ่มสะอึก สะอื้นนา
เห็นแต่ตนตะกายเฝ้า........................ฝ่าร้อนทรมาน

เพิ่งกลับจากแพร่เหงา ๆ
และคิดถึงเพื่อน ๆเลย up เฉพาะกิจทักทายกันนิดนึงค่ะน้องมี่
พรุ่งนี้ก็ต้องลุยงานต่อค่ะ
ฝันดีนะคะน้องมี่

เปล่าเปลี่ยวใจสุดแล้ว.....................หลับสะอื้นในฝัน

รอยกรรมสรรร้ายเร่า........................เรียงคอย
วกช่วงละห้อยปรอย.........................ป่วยเศร้า
คืนขมคร่ำครวญพลอย.....................เพิ่มสะอึก สะอื้นนา
เห็นแต่ตนตะกายเฝ้า........................ฝ่าร้อนทรมาน

โอย เศร้าด้วย...

ดีก ๆ แล้วนอนหลับเร็วน้องบ๊อง
นอนหลับฝันดีราตรีสวัสดิ์จ่ะ

เศร้าแต่เยี่ยมเช่นเคยค่ะคุณญามี่
วามาโหวตและส่งเข้านอนนะคะ
หลับปุ๋ยฝันดีมากๆ ค่ะ

นอนยังสาวน้อย

ขอบพระคุณนะค่า สำหรับคะแนน
จุ๊ฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟฟ
เออ พี่หายไปอาทิดกว่า เมื่อวานจะโหวตก็ลืม ไปโหวตก่อนน่ะ




เรียบร้อยแล้วนู๋
ฝันดีนะ

สวัสดีจ้ะมี่

พี่กลับมาแล้ว เลยมารายงานตัว

เพลงจากบล็อกมี่หรืออีกบล็อกเนี่ย
แต่เพลงเศร้าอย่างแรง

สวัสดี..ยามเช้าในตอนสายครับ

นตฺถิ ราคสโม อคฺคิ นตฺถิ โทสสโม
กลิ นตฺถิ ขนฺธสมา ทุกฺขา นตฺถิ สนฺติปรํ สุขํ

ไม่มีไฟใดเสมอด้วยราคะ ไมีมีโทษใดเสมอด้วยโทสะ
ไม่มีทุกข์ใดเสมอด้วยเบญจขันธ์ ไม่มีสุขใดเสมอด้วยความสงบ

ดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข ด้วยการรู้เท่าทันอารมณ์ ตลอดไป...นะคะ

Beautiful Blog

สวัสดียามสายครับน้องญามี่

สวัสดียามสายค่ะคุณมี่ วันนี้กำลังสอนสั่งงานแล้วแว๊บมาแป๊บนึงค่ะ อิอิ สุขสดชื่นตลอดวันนะคะ



Friends18.com Flowers Scraps

สวัสดีพี่ ฝากเข้าไปกดไลด้วยนะครับ //www.facebook.com/KrabiKrabong
แล้วเม้นไปนะ ผมจะได้ รู้ว่าญามี่ เดี๋ยวแอดเป็นเพื่อนในเฟคบุค ผมไม่ได้เล่นบล็อกแก๊งแล้วอ่า

แวะมาทักทายค่ะ คุณญามี่

สวัสดีค่ะ ทานข้าวเย็นให้อร่อยนะคะ