มุมน้อยๆๆๆๆ ค่อยๆๆๆๆ โตๆๆๆๆ

Ericlien
Location :
อุบลราชธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
 
ธันวาคม 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
24 ธันวาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add Ericlien's blog to your web]
Links
 

 
.:*~My Lovely Story~*: ตอนที่ 1

งานเขียนงานแรกในชีวิตค่ะ

เขียนไว้นานแล้ว ตั้งแต่ 25 มีนาคม 2006,
แอบหยิบยกมาจากเรื่องจริงค่ะ
อ่านจบแล้วลองเดาดูนะคะว่านักร้องคนนั้นเป็นใคร

((((((((((((.:*~My Lovely Story~*:.))))))))))))
อารัมภบท

เช้าวันจันทร์อย่างงี้แทนที่ฉันจะต้องนั่งปั่นงานหัวโตอยู่ที่ออฟฟิศตามปกติ แต่กลับต้องมานั่งเหงื่อแตกพลั่ก ด้วยความตื่นเต้นอยู่ที่ห้อง VIP ของสนามบินนานาชาติภูเก็ต
เพราะจู่ๆ ฉันก็ได้รับคำสั่งแบบสายฟ้าฟาดจาก บก. สุดเลิฟ ให้มาทำหน้าที่ PR (จำเป็น)
"อะไร? นะคะพี่.. พี่จะให้หนูไปดูแล ริคกี้นะเหรอค๊า" O_o ฉันร้องเสียงหลง หลังจากได้ยินเสียงพี่โอ๋บอกผ่านทางสายโทรศัพท์
"แล้วทำไมต้องเป็นหนูล่ะคะ"
"ก็พี่ไม่เห็นใครจะเหมาะไปกว่าฝนนะสิ" ฝน หรือ ฝนดาวคือชื่อของฉันเอง
"ตะ..แต่ว่า...." ฉันกำลังจะหาข้ออ้างมาปฎิเสธ แต่พี่โอ๋ก็ร่ายยาวถึงเหตุผลที่ไม่สามารถปฎิเสธได้....T T;
"แล้วงานที่จะต้องส่งพี่ล่ะคะ.."
"ฝนก็ส่งพี่ทางอีเมล์ก็ได้นี่..จ๊ะ"
เจอประโยคนี้เข้าฉันจึงพูดไม่ออก ได้แต่ ค่ะ ค่ะ แล้วก็ค่ะ....( __ )( -- )
....................................................................................
ริคกี้! ริคกี้! ริคกี้! หรือ เอริค...ตลอดทั้งเดือน ฉันได้ยินแต่ชื่อนักร้องหนุ่มชาวเกาหลีคนนี้..
ไม่ว่าจะเป็นพี่ๆ เพื่อนๆ ที่ออฟฟิศ ยิ่งในโลกของอินเตอร์เน็ต ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทุกกระทู้ที่เกี่ยวกับบันเทิง ต้องพูดถึงเรื่องที่เอริคจะมาเปิดคอนเสิรท์ครั้งใหญ่ที่เมืองไทย บัตรคอนเสิร์ทก็ถูกขายเรียบภายในเวลาไม่นาน
ช่วงเวลานั้น ฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่ต้องการของใครต่อใครมากมายนัก..
"ฝน ฝนมีเพื่อนไปดูริคยังอะ"
"ฝน เราอยากไปจัง เราชอบริคกี้มากกกก.."
ฝน ฝน แล้วก็ฝน เราอยากไปด้วย... ทุกคนรักฉัน เพราะผู้ชายคนนั้นแท้ๆๆ
เฮ้ย!! ทำไมไม่เป็นจีซบน้า...ฝนดาวคนนี้จะถวายตัวและหัวใจแบบเต็มที่เล้ย 555.. ฉันแอบฝันถึงดาราในดวงใจ
"โหย.. เมื่อไหร่จะมาถึงเนี่ย.. รอนานแล้วนะ." ทั้งหงุดหงิด ทั้งกระวนกระวาย และตื่นเต้นไม่น้อย
ที่จริงต้องบอกว่ามั่กมากด้วยถึงจะถูก เพราะ...พี่โอ๋อีกนั่นแหละ...บอกแกมขู่มาว่า เรื่องนี้ห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด เพราะเป็นความลับของบริษัท ตัวเอริคและทีมงานของเขาก็ไม่รู้ว่าฝนเป็นนักข่าวแฝงตัวไปเพื่อจะทำข่าว โชคดีที่เจ้าของโรงแรมแห่งนั้น เป็นเพื่อนสนิทกับบอสใหญ่เรา..งานนี้ถ้าออกมาดี ฝนได้เกิดแน่ๆ จ๊ะ...
ฮึ! จะตายเอาละไม่ว่า...ถ้าถูกจับได้ บรื๋อ!!! ไม่อยากจะคิดเล้ย..เพราะในแวดวงสื่อมวลชน ต่างก็รู้กันดีว่า "เอริค หรือ โจจุงฮยอค " นักร้องดังคนนี้ ประกาศตัวเป็นปรปักษ์กับเหล่าปาปารัซซี่ อย่างออกหน้าออกตาแค่ไหน
"ผมมาเมืองไทยครั้งนี้ รู้สึกสบายใจมากครับ..ไม่ต้องคอยระวังตัวเรื่องคนมาแอบถ่ายภาพเหมือนประเทศอื่น และซอกแซกเรื่องของผมมากนัก" คำบอกเล่าของเขาที่ผ่านทางล่าม จู่ๆๆ ก็ก้องเข้ามาในโสตประสาทของฉัน
"อ๋ายยยยยย!!..." (-- )( --) ฉันสั่นหัวไปมา เพื่อไล่เสียงที่ก้องอยู่ให้หายไป
"ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรน่ากลัวซักหน่อย"
Fighting Fighting!! ^O^;

"นั่นไงเธอ.. ริค ออกมาแล้ว.." เสียงวี้ดว้ายของผู้หญิงที่นั่งอยู่ไม่ไกลฉันนัก กำลังละล่ำละลักบอกเพื่อนๆ ของเธอ ฉันกำลังจะลุกเดินตามไป แต่พอดีกับที่พี่บอดี้การ์ดคนไทยที่นั่งรอมาด้วยกันตั้งแต่เช้าเรียกไว้ซะก่อน พลางกระซิบเบาๆ
"น้องครับ..ทางนี้ครับ เอริคจะออกทางประตูด้านนี้ครับ"
"่อ่อ..ค่ะ " ฉันรับคำแล้วเดินตามไปแบบงงๆ อ้าวแล้วที่แฟนคลับกลุ่มนั้นวิ่งตามไปนั้น..เป็นใครกันล่ะ หรือว่าตัวปลอม แกล้งหลอกให้คนไปอีกทาง

ทั้งที่แอร์ของสนามบินนั้นเย็นฉ่ำ แต่ฉันกลับรู้สึกว่า ร้อนเสียยิ่งกระไร ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ประตูห้องนั้นเท่าไหร่ ยิ่งรุ้สึกเหมือนเหงื่อออกท่วมตัวเท่านั้น จิตใจคอยกังวลว่า จะเริ่มประโยคทักทายยังไงดี จะปล่อยไก่ไหม..จะมีพิรุธให้เขาจับได้ไหม??? O_O และที่สำคัญเขาจะเชื่อไหมว่า ฉันเป็นพีอาร์(ตัวปลอม)จริงๆ

"อัน นยอง ฮา ซิม นิ ก๊ะ"^^; ประโยคทักทายที่เตรียมไว้ตั้งแต่เมื่อคืน
เอริค ปรายตามามองเล็กน้อย ก่อนจะมองไปที่พี่บอดี้การ์ดสุดหล่อที่พาฉันเข้ามา
พี่บอดี้การ์ดจึงแนะนำฉันกับเขาและคนอื่นๆ
"เธอคือพนักงานที่ทางโรงแรม ส่งตัวให้มาคอยดูแลคุณเอริค ในระหว่างที่พักผ่อน อยากได้อะไร อยากไปเที่ยวที่ไหน ให้บอกกับน้อง..... " คนพูดมองหน้าฉัน เหมือนขอความช่วยเหลือ..

"ฝนดาวค่ะ" ฉันรีบบอก จากนั้นล่ามหนุ่มคนไทย จึงรีบแปลประโยคนั้นให้ทุกคนรู้
เอริคพยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงว่ารับรู้ แล้วเดินนำหน้าออกไปทันทีโดยไม่ได้พูดอะไรสักคำ
เอริคท่าทางอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด คงจะเหน็ดเหนือยจากคอนเสิร์ทรอบสุดท้าย แต่รวมๆแล้ว ก็ยังดูดี สาวๆ เห็นแล้วก็ต้องกรี๊ดเสียงแหบเห้งเช่นเคย แต่...หืม!! ยกเว้นฝนดาวคนนี้คนนึงละ -^-

รถตู้คันหรูที่ทางโรงแรมจัดมาข้างในโอ่อ่า สมหน้าตาซุปเปอร์สตาร์ยิ่งนัก.... 9 ชีวิต เบียดเสียดกันนั่งตามแต่สะดวก...
พระเจ้า!! เหตุเพราะฉันขึ้นรถเป็นคนสุดท้าย จึงเหลือที่นั่งตรงข้างๆ เอริคอยู่เพียงที่เดียว... เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย รถตู้คันหรู ก็มุ่งหน้าสู่รีสอร์ทที่พักทันที

"เอริค" ท่าทางผ่อนคลายขึ้นมาก เขาหันหน้ามองดูวิวข้างทางตลอดที่รถวิ่งผ่าน ส่วนฉันที่นั่งข้างๆ ก็แอบชำเลืองดูเป็นระยะๆๆ...โอ้!! ทำไมใจฉันเต้นแรงจัง ^^;



รักบทแรก

พอรถจอดร๊สอร์ทที่พัก ฝนดาวอดทำตาลุกวาวไม่ได้ เพราะไม่นึกไม่ฝันมาก่อนว่า ชีวิตนี้จะได้มีโอกาสมาพักในที่หรูหราอย่างนี้
ทุกคนต่างขนสัมภาระของตัวเองเดินเข้าไปในโรงแรม ยกเว้น....พ่อนักร้องดัง ที่พอลงจากรถปุ๊บ ก็เดินตัวปลิวไปนั่งที่ล็อบบี้ก่อนใคร
ภายในล็อบบี้ นอกจากคณะของเอริคแล้ว ก็ไม่เห็นมีแขกคนอื่นอีกเลย สมกับเป็นรีสอร์ทส่วนตัวยิ่งนัก...ฝนดาวสำรวจด้วยสายตาไปทั่ว ก็พอดีไปเห็นสุดหล่อของสาวๆ เดินถือแตงโมจานโตมานั่งทานอยู่ที่โต๊ะมุมสุด..
แอบไปหยิบมาจากไหนหว่า?? ก่อนจะถามตัวเองอีก ก็พอดีเห็นว่าเลยถัดไปอีกด้านนึง มีมุมของว่างเล็กๆ ไว้คอยบริการแขกที่มาพัก
'หึๆๆ สงสัยจะหิว'
เสียงของทีมงานพูดคุยกันเอะอะเสียงดัง คงจะเป็นเพราะที่ภาษาด้วย ผู้หญิงสองคนคงจะเป็นแดนซ์เซอร์..คุยอะไรกันก็ไม่รู้ แต่มองมาที่ฝนดาว.เห็นแล้วชวนหงุดหงิด เพราะฟังไม่ออก -^-
เมื่อทุกอย่างถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว ทุกคนต่างก็แยกยายกันเข้าไปในห้องใครห้องมัน ส่วนเอริคเดินท่าทางง่วงๆ หายไปอีกทางนึง คิดว่าถึงห้องแล้วคงต้องนอนพักผ่อนยาว

กรี๊ดๆๆๆ อยากจะกรี๊ดดังๆๆ... ไม่อยากจะเชื่อ ห้องพักของชั้น... สวยงามอะไรเช่นนี้้ ห้องพักที่เคยเห็นแต่ในทีวี หรือไม่ก็ตามนิตยสารตกแต่งบ้าน..
"พระเจ้า หนูไม่ได้ฝันไปใช่ไหมคะ.." กรี๊ด ... แอบหยิกตัวเอง ><
ฝนดาวทิ้งตัวเองลงบนที่นอนอย่างที่ในละครชอบทำ ^O^
นี่ขนาดห้องคนธรรมดาอย่างเรายังหรูซะขนาดนี้... ห้องเอริค จะหะรูหะราแค่ไหนน้อ...??? หญิงสาวเผลออดคิดถึงเขาไม่ได้ นอนยิ้ม กลิ้งไปกลิ้งมาสักพัก ก็เริ่มนึกได้...
แล้วนี่เราต้องนอนห้องนี้คนเดียวหรือเนี่ย?? O_O
ตั้งแต่เกิดมา น้อยครั้งนักที่จะได้นอนคนเดียว ไม่ใช่ว่ากลัวผีอะไรหรอกนะ.. แต่ห้องนี้มันใหญ่โตมากไปหน่อย แถมห้องก็เป็นแบบล้านนา....ถึงทุกอย่างจะเป็นของใหม่ซิงๆ แต่ก็อดนึกกลัวขึ้นมาไม่ได้
อาบน้ำแต่งตัวออกไปโชว์ความสวยดีกว่า..^^

ฝนดาวเดินเล่นรอบๆ รีสอร์ท มองดูโน่น ดูนี่ ไปทั่ว
ว้าววว!! เห็นฝรั่งอาบแดดเต็มไปหมด...แต่เป็นฝรั่งแก่ๆๆ ทั้งนั้น อิอิ เดินเรื่อยมาจนวกกลับเข้ามาทางด้านหลัง เธอก็ได้ยินเสียงคนกระโดดน้ำดังตูมตาม ตูมตาม ตามมาด้วยเสียงหัวเราะชอบใจ กำลังจะเดินเลี่ยงไปอีกทางนึง ก็ได้ยินเสียงคนในสระส่งภาษากัน คนพูดพูดอะไรไม่รู้ แต่ฟังก็รู้ว่าเป็นภาษาเกาหลีแน่นอน
และคนที่ขึ้นมาจากสระทำท่าจะกระโดดลงไปอีกครั้งก็คือ คนที่เดินทำท่าง่วงๆ หายเข้าไปในห้องพักคนนั้นนั่นเอง
"เอริค!!.. เมื่อกี้ทำท่ายังกะคนไม่มีแรง แล้วนี่...เอาเรี่ยวแรงมาจากไหนหว่า"
แผนเดิมกะไว้ว่าจะเดินเล่นไปเรื่อยๆ ฆ่าเวลา แต่ตอนนี้ชักขี้เกียจซะแล้ว นั่งดูคนเล่นน้ำดีกว่า


'ดีเหมือนกันจะได้จับผิดเขาไปด้วย ว่าแอบทำสาวให้เห็นหรือเปล่า' สมองก็คิดไปตามเรื่อง แต่ใจก็กลับเต้นแรง ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ปลื้มเอริคมากมายนัก แต่อย่างน้อย ถ้าเขาเป็นอย่างที่ข่าวลือกันก็น่าเสียดาย ( _ _;)

เอริคมีเพื่อนเล่นน้ำด้วยสองสามคน เขาไม่ค่อยได้ว่ายน้ำนัก แต่จะชอบกระโดดลงสระด้วยท่าทางต่างๆ มากกว่า.. สักพักก็วิ่งไปทางชายหาดแล้วก็วิ่งกลับมา
อะไรของเขานะ ดูแล้วก็เหมือนเด็กผู้ชายที่ได้เล่นอะไรที่ถูกใจ^^ ฝนดาวเผลอยิ้มกับกริยาของเขาที่เธอแอบนั่งมองอยู่ กำลังเพลินๆ อยู่แท้ๆ เอริคก็เดินตรงดิ่งมา
"ผมอยากเล่นเจ็ทสกี คุณไปเช่ามาให้หน่อย" เสียงเปล่งเป็นภาษาอังกฤษ ฝนดาวได้แต่ทำหน้าเหรอหราเพราะยังไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ได้ยินว่า เจ็ทสกี จึงพอจะเข้าใจความหมายของเขา
พอสอบถามเรื่องราคากับคนให้เช่าอยู่สักเดี๋ยว ฝนดาวจึงหันไปถามเอริคว่า
"คุณจะเล่นนานแค่ไหน.." คนถูกถามชูนิ้วชี้ขึ้นมานิ้วเดียวเป็นคำตอบ
หนึ่งนาทีหรือหนึ่งชั่วโมงละพ่อคู้นนน...
"พี่..งั้นขอเช่า 1 ชั่วโมงแล้วกันค่ะ" ฝนดาวพูดกับเจ้าของร้าน
จ่ายเงินเสร็จสรรพหญิงสาวคิดว่าเธอน่าจะเดินกลับไปนั่งเล่นตรงที่เดิม..แต่จู่ๆๆ มือใหญ่ๆๆ ของเขาก็คว้าแขนเธอไว้ก่อน
"คุณนั่งไปเป็นเพื่อนผมนะ"
"หา!!" @-@ ยังไม่ทันได้ตอบอะไร รู้ตัวอีกทีฝนดาวก็นั่งซ้อนท้ายเจ็ทสกีกับเอริคซะแล้ว!!ู ^^

หญิงสาวนั่งตัวเกร็ง เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้ขี่เจ็ทสกีโฉบไปโฉบมาอย่างงี้ แถมคนขับก็ไม่ใช่ผู้ชายธรรมดาซะด้วย เขาหันมามองเธอแว๊ปนึง เหมือนจะถามว่า กลัวเหรอ...ทีแรกฝนดาวคิดว่าเขาเห็นท่าทางเธอกลัวแบบนี้ คงจะลดความเร็วลงมาหน่อย..แต่ที่ไหนได้ คนขับกลังเร่งเครื่องให้แรงขึ้นไปอีก
กรี๊ด!! หญิงสาวส่งเสียงออกมาอย่างลืมตัว พลางจับคนขับแน่นขึ้น เป็นผลให้เขาส่งเสียงหัวเราะชอบใจ..............

บ่าย โมงกว่าๆ แดดก็เริ่มแรงขึ้น เอริคที่ยังคงขับแล่นไปเรื่อยๆ บางครั้งก็หันมามองคนข้างหลัง ที่นั่งหน้ามุ่ย เพราะความกลัว..เขาผ่อนความเร็วลงแล้วค่อยๆเข้าไปจอดเทียบริมหาด..ดับ เครื่องแล้วเดินหนีไปเฉยๆ ปล่อยให้ฝนดาวนั่งเหวออยุ่คนเดียว
"อะไรของเขาอีกละเนี่ย..." ฝนดาวบ่นพลางยกแขนขึ้นดุนาฬิกาที่ข้อมือ
"เอ๋! นี่บ่ายโมงกว่าเข้าไปแล้วเหรอ มิน่าละถึงได้เลิกเล่น"
ฝนดาวจึงรีบเดินลิ่วๆตามเขาไป แดดจัดเสียยิ่งกว่าอะไร หญิงสาวยกแขนขึ้นดูทั้งสองข้างก่อนจะรำพึงกับตัวเองว่า
"ตายละ เสร็จงานนี้ ชั้นต้องตัวดำปี๋ดปี๋แน่ๆ..ซันบล็อคก็ไม่ได้ทาออกมา.." คนพูดเดินบ่นกระปอดกระแปดไปจนถึงริมสระว่ายน้ำ..เห็นมีคนดำว่ายผลุบโผล่ ดูคุ้นๆ..ฝนดาวยืนสงสัยอยู่เพียงประเดี๋ยวเดียว ก็แทบผงะเพราะคนที่โผล่หัวขึ้นมาคือ.."เอริค"
นี่เค้าเอาเรี่ยวแรงมาจากไหนกันเนี่ย..มาถึงก็ทั้งว่ายทั้งกระโดดน้ำ แถมขี่เจ็ทสกีแบบไม่หยุดเป็นชั่วโมง นี่ยังจะมาว่ายน้ำต่ออีก...รู้แล้วน่าว่าแข็งแรง แต่ไม่ต้องโชว์พาวมากมายขนาดนี้ก็ได้... เรารึยังเมื่อยแทบแย่ ขนาดนั่งเฉยๆ แท้ๆ...ฝนดาวมองคนในสระที่ดูเหมือนจะไม่มีอาการเหน็ดเหนื่อยแต่อย่างใด
"แล้วนี่เค้าไม่หิวอะไรบ้างเลยเหรอ.แตงโมจานเดียวจะอิ่มได้นานแค่ไหน..." คนนึกพลางเอามือลูบท้องตัวเอง ที่ทำท่าจะส่งเสียงร้องหามื้อกลางวันซะแล้ว ฝนดาวทำท่าว่าจะไปหาอะไรรับประทาน.เพราะตั้งแต่เช้าแล้ว มีนมและแซนด์วิซเพียงชิ้นเดียวเท่านั้นที่ลงท้อง
"Miss....??" เสียงห้าวตะโกนมาจากสระ ฝนดาวหันควับไปตามเสียง ทันได้เห็นร่างสูงใหญ่ของเอริค ที่ทำท่าจะขึ้นมาจากสระ...พอดี
ฝนดาวทำหน้าไม่ถูก..ก็คนที่เพิ่งขึ้นมาจากสระนั้น..สวมแค่กางเกงว่ายนำ้เพี ยงตัวเดียว..ถึงจะเป้นกางเกงขาสั้นก็เหอะ!! เอริคเดินเข้ามาใกล้ฝนดาวซึ่งยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูก แล้วจู่ๆๆ เขาก็โน้มตัวลงเข้ามาใกล้ๆ
ฝนดาวอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ ใจเต้นระรัวไม่เป็นจังหวะ กลั้นลมหายใจสุดฤทธิ์เพราะทั้งชีวิตยังไม่เคยได้ใกล้ชิดบุรุษใดๆ ที่ไม่ใช่พ่อ น้องชาย เช่นนี้มาก่อน......แล้วนี่ เค้าจะทำอะไรชั้นเนี่ย.. ก่อนที่สติสตังจะเตลิดเปิดเปิงและ คิดอะไรไปไกลมากกว่านี้ พลันเห็นว่าเอริค กำลังยืนเซ็ดผมที่เปียกอยู่ ฝนดาวจึงค่อยๆๆ ผ่อนลมหายใจอย่างช้าๆ ไม่ให้เค้าจับได้ว่า เธอกำลังรู้สึกเช่นใด
ที่แท้เธอยืนขวางเก้าอี้ที่วางผ้าเช็ดตัวไว้นั้นเอง เขาอาจจะบอกให้เธอหยิบให้ แต่เพราะมัวแต่ใจลอยคิดอะไรต่างๆ นาๆ มากไป...จึงไม่ได้ยินสิ่งที่เขาพูด
เพราะยืนประจันหน้ากัน และห่างเพียงแค่ช่วงตัว ฝนดาวจึงได้เห็นแผงหน้าอกของเอริคอย่างช่วยไม่ได้ ก็มันอยู่ในระดับสายตาเข้าพอดี คนมองเผลอกลืนน้ำลายเอื้อกใหญ่.เพราะรู้สึกได้ว่าหน้าร้อนผ่่าวๆๆ ด้วยความเขินอาย ส่วนเขา ที่ยืนเช็ดผมอยู่ ก็ทำเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไรแต่อย่างใด...เสร็จสรรพ ก็ยื่นผ้าเช็ดตัวมาให้ไม่พูดอะไรเช่นเคย พร้อมกับเดินจากไป
ฝนดาวยืนตะลึงก่อนจะแอบกรี๊ดกับตัวเองเบาๆๆ
"ตายแล้ว!! ชั้นลืมเอากล้องติดตัวลงมาได้ไงเนี่ย เลยอดถ่ายรูปเก็บไว้เลย..."

เอริคหายเข้าไปในห้อง ไม่นานนักเขาก็โผล่ออกมาสวมเสื้อเชิ๊ด และกางเกงขาสั้น รองเท้าแตะที่ดูสบายๆ มองเผินๆ ก็เหมือนหนุ่มน้อยทั่วๆไป ที่ไม่ใช่นักร้องเจ้าของท่าเต้นอันเร่าร้อนผุู้กระชากหัวใจสาวๆบนเวทีคนนั้น
ฝนดาวก็เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เหมือนกัน แต่ก็ยังเป็นแบบ เสื้อยืด กับกางเกงยีนส์เช่นเคย คิดไว้ว่าจะเดินหาอะไรใส่ท้องแถวๆๆนี้...เพราะคงสู้ราคาค่าอาหารของโรงแรม ไม่ไหวแน่ๆ ส่วนเขานั่งเล่นที่ล็อบบี้..เหมือนไม่รู้จะไปไหน..หยิบนิตยสารพลิกไปมาหลาย เล่ม สีหน้าไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆทั้งนั้น...
ฝนดาวชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง จะเข้าไปถามดีไหม ว่าต้องการอะไรบ้าง แต่ใจนึงก็บอกว่า ช่างเหอะ! ปล่อยให้อยุ่อย่างนี้แหละ เดี๋ยวจะวุ่นวายเปล่าๆ ออกไปเดินโท่งๆ อย่างนั้น มีรึคนจะจำไม่ได้.. แต่..เรามาทำหน้าที่ดูแลเขานี่ จะปล่อยให้เขานั่งหง่าวอยุ่คนเดียวอย่างนี้เหรอ
เอาไงดีน้า...บางทีเขาอาจจะว่าเราจู้จี้ก็ได้ ถ้าอยากได้อะไรคงบอกเองแหละ ฝนดาวพยายามหาเหตูผลต่างๆ นาๆ มห้ตังเอง ท้ายที่สุดฝนดาวก็ตัดสินใจได้
"เป็นไงเป็นกัน ..แต่ตอนนี้หิวจะแย่ หาอะไรกินก่อนดีกว่า" คนพูดเดินลิ่วไปยังข้างนอก ฝนดาวเดินลัดเลาะมาตามถนน แดดเปรี้ยงทำให้ฝนดาวที่มีเพียงหมวกแคปเท่านั้นที่ช่วยบังแดดได้เพียงเล็ก น้อย หญิงสาวเดินจ้ำอ้าว อย่างไม่ได้สนใจอะไร เพราะทั้งหิวและแดดที่ร้อนระอุ
ร้านขายของต่างๆ มากมาย ...แต่มองๆดูแล้ว ทำไมไม่มีร้านก๋วยเตี๋ยวหรือร้านอาหารตามสั่งเลย มีแต่ สะเต็ก สะเต็ก บาร์เบียร์...นอกนั้นก็เป็นร้านขายของต่างๆ พวกเครื่องประดับที่ทำจากหอย เสื้อผ้า ร้านขายบิกีนี่...
เฮ้ย! แล้วจะมีอะไรให้เรากินนี่....ฝนดาวพยายามกวาดสายตาไปรอบๆๆ มองหาร้านอาหารที่ราคาเหมาะสำหรับนักข่าวจนๆ อย่างเธอ เหมือนสวรรค์เข้าข้าง รถเข็น(แต่ที่จริงน่าจะเป็นมอเตอร์ไซด์เข้นมากกว่า) ปลาหมึกย่าง แล้วข้างๆ กัน ก็เป็นบาร์บีคิว
"ก้ยังดี กินแก้หิวดีกว่า"
ฝนดาวสั่งปลาหมึกย่างกับบาร์บีคิว จ่่ายเงินเรียบร้อยหันหลังจะกลับ ปรากฎว่าชนใครคนหนึ่งเข้าอย่างจัง
"ขอโทษ ..เอ่อ Sorry ค่ะ" ฝนดาวกล่าวขอโทษก่อนที่จะเงยหน้าขึ้นไปมอง
เขามองมาเหมือนอยากจะถามอะไรสักอย่าง
"คุณซื้ออะไร?" ฝนดาวอ้าปากค้าง เมื่อเห็นว่าเป็นใคร
"ผมอยากลองดู" คนพูดถามเป้นภาษาอังกฤษประโยคสั้นๆ
กรี๊ด เขาแอบตามชั้นมาตอนไหน เมื่อไหร่กัน
"คุณเดินตามชั้นมาเหรอ แล้วมีใครจำได้ไหม??" O_O
เอริคโครงศีรษะนิดๆ แทนคำตอบ ซึ่งเดาได้สองอย่างคือ ไม่มีใครจำได้ หรือว่า เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกัน
เขามองดูปลาหมึกย่างบนเตาอย่างสนใจ ทำท่่าเหมือนจะสั่ง แต่ฝนดาวห้ามไว้ก่อน
"คุณไม่เคยกินของแบบนี้ ฉันกลัวว่าคุณจะท้องเสียเอาได้นะ"เธอกระซิบเขาเป้นภาษาอังกฤษ เอริคยังคงมองปลาหมึกย่างที่เตา ทำเหมือนไม่ได้ยินที่ฝนดาวบอก..พลางชูมือขึ้นทั้งสองข้างให้กับคนขาย
"ผมซื้อ 10 ไม้" พูดกับคนขายหน้าตาเฉย ฝนดาวมองด้วยความหมั่นไส้
' ไม่เชื่อชั้นก็ตามใจ อย่ามาโวยทีหลังแล้วกัน' บ่นในใจพร้อมกับมองคนข้างๆ อย่างค้อนๆ
"เอ่อ..ไม่ต้องราดน้ำจิ้มนะคะ" ฝนดาวรีบบอกพ่อค้า ก่อนที่เขาจะราดน้ำจิ้มลงไป คนขายกุลีกุจอจัดการเอาใส่ถุงพร้อมกับยื่นให้ เอริคทำหน้างงพร้อมกับถามว่า ทำไมของเขาไม่เป้นเหมืิอนอย่างของหญิงสาว
"มันเผ็ดนะ คุณคงกินไม่ได้"
"ผมทานเผ็ดได้ เพราะคนเกาหลีก็ทานพริก" ครั้งแรกเขาตอบโต้ประโยคกันเธอ
"งั้นก็ตามใจ" แต่เพื่อความปลอดภัยฝนดาวให้พ่อค้า แยกน้ำจิ้มให้ต่างหาก
เอริคล้วงหาอะไรสักอย่างในกระเป๋ากางเกง ธนบัตรใบใหม่ๆ ถูกหยิบขึ้นมาหลายใบ คนจ่ายเก้ๆ กังๆ คงเพราะไม่รู้จำนวนราคาของอาหาร ตัดสินใจยื่นสีม่วงส่งให้คนขายทันที
"ไม่มีทอนหรอก.. จ่ายแบงค์ใหญ่ขนาดนี้" พ่อค้า ทำท่าโบกมือไปมาประกอบคำพูด
ฝนดาวจึงจัดแจงหยิบ ธนบัตรใบละร้อยส่งให้.....

เอริคหยิบปลาหมึกทำท่าจะจิ้มน้ำจิ้ม..แต่ฝนดาวทักท้วงไว้ก่อน
"อย่าจิ้มมากนะ..ลองดูก่อนว่าทานได้ไหม" เขาพยักหน้ารับรู้ ปลาหมึกย่างชิ้นแรกถูกเคี้ยวเข้าปาก ท่าทางที่ดูจะอร่อยในตอนแรก ก็เปลี่ยนเป้นหน้าแหย่ๆ ......เขามองมาที่ขวดน้ำที่ฝนดาว...หญิงสาวเห้นแล้ว ก็อดขำไม่ได้ ทั้งสมน้ำหน้า ทั้งสงสาร
"บอกแล้วไม่เชื่อ...ไหนว่า คนเกาหลีก็กินเผ็ดได้ไง..เชอะ!!.."
เอริคมองหน้าฝนดาวเหมือนรู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่...
"ไม่คิดว่าจะเผ็ดมากขนาดนี้"
ฝนดาวเองก็ยอมรับว่า ขนาดเธอเองทานแล้วยังรู้สึกว่าเผ็ดมาก..แต่ก็กลัวว่าจะเสียฟอร์ม.จึงทำเฉย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคนขายถึงได้ปรุงรสจัดนัก ทั้งที่ละแวกนี้ มีแต่คนต่างชาติทั้งนั้น... เอริคยังคงกัดกินปลาหมึกย่างต่อ อย่างเอร็ดอร่อยเพียงแต่คราวนี้เค้าไม่จิ้มน้ำสีแดงๆ ส้มๆ นั่นอีกเลย ปลาหมึกย่าง 10 ไม้ ถูกจัดการอย่างรวดเร็ว ในขณะที่ฝนดาวที่บ่นว่าหิว ค่อยๆ กินไปเรื่อยๆ....
"คนอะไรกินเร็วชะมัด...แถมเยอะด้วย มิน่าตัวถึงได้โตซะขนาดนี้"

................................
เอริคเดินนำหน้าดูโน้นดูนี่ไปเรื่อย แต่ฝนดาวก็ไม่เห็นว่าเขาจะสนใจอะไรเป็นพิเศษ หญิงสาวขี้เกียจจะเดินเพราะแดดก็ร้อน อยากจะไปนอนเล่นที่ห้องให้เย็นๆมากกว่า แต่ครั้นจะทิ้งเขาไว้ลำพังก็ดูกระไรอยู่
"คุณมีชุดว่ายน้ำมาด้วยไหม" จู่ๆ คนนำหน้าก็ถามขึ้น ชนิดที่คนฟัง ฟังแล้วตกใจ ฝนดาวส่ายหน้า
"แล้วว่ายน้ำเป็นไหม?" คนฟังพยักหน้า คนถามก็พยักหน้านิดๆๆ เป็นเชิงว่ารับรู้เช่นกัน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร.. เดินต่อไป
"ถามอะไรของเขานะ จะซื้อให้หรือไง" แล้วฝนดาวก็ฉุกคิดขึ้นมาได้
"เกือบลืมแล้วมั้ยล่ะ" เจ้าตัวรีบควักกล้องดิจิตอลขนาดจิ๋วที่พกใส่กระเป๋าไว้ขึ้นมา
"งานนี้ไม่พลาดแน่" ฝนดาวพยายามโฟกัสภาพไปยังเอริค ที่เดินดูของไปเรื่อยๆ
'ว้า! เห็นแต่ข้างหลังอย่างนี้ แล้วจะใช้ได้ไหมนะ' หญิงสาวรำพึง
ทันใดนั้น เอริคก็หยุดดูแผงขายสร้อยลูกปัด..ที่มีทั้งสร้อยข้อมือ และสร้อยข้อเท้าอย่างละนิดละหน่อย.. คนขายซึ่งเป็นสาวใหญ่ ก็จ้องเขาอย่างไม่กระพริบตา หล่นอาจจะจำได้ว่าเป็นเอริค หรือไม่ก็คงเห็นว่าเขาหล่อซะขนาดนั้น^^ ฝนดาวเองก็ยังเผลอมองเขาตั้งหลายครั้ง แหม..คนเราไม่ใช่พระอิฐพระปูนนี่...
ช่วงที่เขากำลังเผลอนี่แหละ เหมาะนัก แต่ก็ทำได้ไม่ถนัดเท่าไหร่ เพราะต้องแอบๆ ไม่ให้เขารู้ตัว เอริคหันหน้ามาพอดีกับที่ฝนดาวลั่นชัตเตอร์พอดี....
'แย่แล้ว! แย่แล้ว! ทำไงดี' แต่ก็ยังคงทำใจดีสู้เสือเอาไว้
"ถ่ายรูปทำไม" น้ำเสียงค่อนข้างห้วน
"เอ๋อ...เผื่อเอาไปลงหนังสือของโรงแรมนะค่ะ... ก็ชั้นเป็นพีอาร์ของโรงแรมนี่คะ " หญิงสาวแก้ตัวพัลวัน นึกไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะโกหกได้ไวขนาดนี้
"แต่ถ้าคุณไม่ชอบชั้นลบทิ้งก็ได้" ทำท่าจะลบไฟล์รูปนั้นทิ้ง เอริคจึงพูดว่า
"ต่อไปบอกผมก่อนแล้วกัน" พูดจบก็เดินหนีไปเลย
"แล้วเมื่อไหร่ละ" ฝนดาวงึมงำ
ไม่น่าเล้ย ไม่น่าเลยเรา..น่าจะรออีกซักหน่อย...ถ้าเกิดสงสัยขึ้นมาจะทำไงดี...เฮ้ย! ฝนดาวเดินบ่นกระปอดกระแปดไปตามทาง
เย็นนี้เอริคต้องออกไปรับประทานอาหารค่ำกับประธานหอการค้าจังหวัด โขคดีที่ฝนดาวไม่ต้องไปด้วย เพราะการที่ต้องไปเจอะเจอคนใหญ่คนโต ช่างเป็นเรื่องน่ากลัวยิ่งนักสำหรับเธอ มื้อเย็นแสนอร่อยสำหรับนักข่าวตัวเล็กๆ เช่นเธอ ก็คือ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ที่แวะซื้อเมื่อตอนบ่ายนั่นเอง..ลมพัดผ่านตรงระเบียงทำให้รสชาติของบะหมี่ใน ถ้วยโฟมอร่อยยิ่งขึ้น อะไรจะสุขเท่าช่วงเวลานี้......ดวงตะวันเริ่มคล้อยต่ำลง บรรยากาศรอบๆๆตัว ช่่างสวยงามดังเช่นภาพวาด.... ฝนดาวคว้ากล้องขึ้นมาเก็บภาพประทับใจเหล่านั้นไว้..
เอ่..ทำไมเราไม่ลงไปนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินที่ข้างล่างน้า.. แต่มุมนี้ก็สวยดี..
ขณะที่กำลังโฟกัสภาพไปเรื่อยๆ จู่ๆ สายตาก็หยุดมองไปยังตึกอีกด้านหนึ่ง ห้องมุมด้านข้าง ที่เขาคนนั้นพัก... ป่านนี้คงจะกำลังแต่งตัวเพื่อออกไปรับประทานมื้อค่ำ ฝนดาวพยายามไล่ความคิด ต่างๆๆออกไป....
'ลงไปถ่ายรูปที่ริมหาดดีกว่า...' ฝนดาวรีบวิ่งอกจากห้อง เพราะกลัวว่าพระอาทิตย์ ท่านจะหนีหายไปซะก่อน...

" ว้าววว สวยจริงๆๆ... นี่ถ้าเป็นที่แหลมพรหมเทพ จะสวยงามแค่ไหนน้า...." ฝนดาวพยายามสูดอากาศท้องทะเลเข้าปอดให้ได้มากที่สุด... น่าขำที่มาถึงตั้งแต่เช้า แถมลงมาเล่นน้ำทะเลก็แล้ว แต่เพ่งจะนึกได้ว่า ยังไม่ได้สูดเอาทะเลเข้าปอด เหมือนอย่างที่เคยทำเช่นทุกครั้ง
หญิงสาวคว้ากล้องขึ้นมาดู เพื่อจะถ่่ายภาพ...แต่กล้องมันฟ้องว่า เมมโมรี่กำลังเต็ม "แย่จังไม่ทันไร เมมเต็มซะแล้ว" เธอจึงกดเลื่อนไปมาเพื่อจะลบภาพทั้งหลายที่ไม่ต้องการใช่ออกไป จนมาถึงภาพที่แอบถ่ายไว้เมื่อตอนบ่าย....ภาพแรกๆๆ มือยังไม่นิ่งพอ เลยดูไหวๆ เหมือนเอริคมีหลายคน ฝนดาวจึงต้องลบทิ้งไปเรื่อยๆๆ
"ว้า.. จะเหลือสักกี่รูปกันละทีนี้" เพราะไม่ว่าจะเลื่อนดูรูปไหน ก็ไม่ได้ดั่งใจ นี่ก็เห้นแค่ช่วงไหล่ อย่างดีหน่อย ก็เห้นด้านหลังแบบเต็มๆ... ฝนดาวลบรูปทิ้งไปเรื่อยๆ ก็มาถึงรูปสุดท้ายที่เธอกดชัดเตอร์แบบไม่ได้ตั้งใจ
"แต่รูปนี้ดีแฮะ...หันหน้ามาพอดี ไม่เบลอด้วย" ฝนดาวชื่นชมกับฝีมือตัวเอง
"มุมนี้เค้าก็หล่อดีนะ.. " ฝนดาวอดชมไม่ได้..แต่ก็ยังหมั่นไส้อยู่ คนอะไรตั้งแต่เจอหน้า ยังไม่เคยยิ้มแบบจริงๆ เลยสักครั้งเดียว ได้แต่ทำหน้านิ่งๆ เอ่.แล้วตอนที่เค้าหัวเราะเราตอนนั่งเจ็ทสกีนี่นับได้ไหมนะ

ฝนดาวเก็บภาพพระอาทิตย์ยามอัสดง ไปสี่-ห้าภาพ..ก็หยุด.. เพราะกล้องยังต้องใช้ประโยชน์อีกมาก จะเอามาถ่ายไร้สาระมากก็คงไม่ได้
เสียงคลื่นที่สาดเข้ามากระทบฝั่ง ทำให้อดคิดถึงทุกครั้งที่มาทะเลกับเพื่อนๆ สมัยที่เรียนไม่ได้... ฝนดาวคิดไปยิ้มไป..บางครั้งก็เผลอหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว....
ลมแรงทำเอาผมที่ปล่อยไว้กระจายไปตามแรงของลม สร้างความรำคาญให้ยิ่งนัก.. ฝนดาวจึงจัดแจงรวบเป็นมวยไว้อย่างง่ายๆ.........
"Beautiful" เสียงห้าวๆ ดังขึ้นมาจากข้างหลัง ฝนดาวหันควับไปดู เขาซึ่งยืนกอดอกทำท่ามองดูพระอาทิตย์ตกดินอย่างตั้งอกตั้งใจ หญิงสาวค้อนให้ทีนึงอย่างไม่ตั้งใจ
'ฮึ! ทำไมเขาชอบมาแบบเงียบๆ จังนะ เล่นเอาใจหายทุกที'

บรรยากาศขณะนั้นได้ยินเพียงเสียงของคลื่นที่ซัดสาดเข้ามาเป็นระลอกๆ เอริคยังคงยืนนิ่งอยู่ท่าเดิม ฝนดาวรู้สึกอึดอัด ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่า ทำไมเวลาที่เขามาอยุ่ใกล้ๆ อย่างนี้ เธอมักรู้สึกว่าไม่เป็นตัวของตัวเองเอาเสียเลย
และความเงียบก็ถูกทำลายด้วยเสียงของใครคนหนึ่ง เข้ามาบอกกับเอริคว่า
"ได้เวลาแล้ว ไปกันเถอะ ให้ผู้ใหญ่รอจะไม่ดีนะ" คนฟังพยักหน้านิดๆ แล้วเดินตามบอดี้การ์ดร่างยักษ์คนนั้นไปโดยที่ไม่ได้กล่าวอะไรสักคำ

..........................................................
"พรุ่งนี้คุณเอริค มีโปรแกรมจะไปเที่ยวอ่าวมาหยานะคะ ทางเราจัดการเรื่องเช่าเรือ แล้วก็เรื่องอาหารไว้เรียบร้อยแล้วนะคะ.." ประชาสัมพันธ์ สาวสวยประจำโรงแรม(ตัวจริง) บอกถึงรายการต่างๆ ให้ฝนดาวรับรู้ พร้อมกับอธิบายว่าเธอต้องทำอะไรบ้าง
อ่าวมาหยา สถานที่ที่ฝนดาวใฝ่ฝันเอาไว้ว่าอยากจะไปมากที่สุด...ไม่คิดว่าจะมีโอกาศได้ ไปเสียที ส่วนวันนี้ฝนดาวถือว่าได้ทำภาระกิจผ่านพ้นไปอีกหนึ่งวัน..หนึ่งวันที่ดู เหมือนว่าเธอจะยังไม่ได้ทำงานที่ได้รับหมอบหมายมาได้แต่อย่างใด เขาที่ทำตัวตามสบาย และดูเหมือนจะไม่ได้ระวังตัวอะไรมากมาย แต่ฝนดาวกลับรู้สึกว่าเธอยังเข้าไม่ถึงตัวเขาอยู่ดี อะไรทำให้เธอไม่กล้าเอาวิสัยของอาชีพนักข่าวมาใช้กับเขานะ........TT;



บทส่งท้ายตอนที่ 1 ค่า ^^;

บทเพิ่มเติมท้ายตอน ^^;

".......ฮัลโหล พี่เจนนี่ ฝนนะ.." ฝนดาวโทรหาเจนนี่พี่ร่วมงานที่สนิทกัน หลังจากที่เอริคเดินจากไป
" เอ้อ..ว่าไง..ฝน..แล้วเป็นไงบ้าง" เสียงจากปลายทางเอ่ยขึ้นอย่างละล่ำละลักด้วยความดีใจ
" เอริคอะ น่ารักไหม" ประโยคท้ายนั้นทำให้ฝนดาวรู้แล้วว่า มันคงไม่ใช่เรื่องลับสุดยอดต่อไปแล้ว
"ใครบอกพี่อะ.." ฝนดาวถาม เจนนี่ก็บอกทุกอย่างที่รู้มายืดยาว....ฝนดาวก็เล่าทุกอย่างให้เจนนี่ฟัง ตั้งแต่ออกจากดอนเมืองเลยทีเดียว
"เมื่อกี้ก็นั่งดูพระอาทิตย์ตกดินกับเค้าอะพี่" ฝนดาวแกล้งยั่ว เพราะรู้ดีว่าเพื่อนรุ่นพี่ของเธอคนนี้คลั่งไคล้เอริค อยู่เหมือนกัน
"กรี๊ดดดดดดดด.............อย่ามาโม้นะ...เก็บใจไว้รักพี่ซบของแกต่อไปเหอะ อย่ามายุ่งกับริคกี้ของชั้นนะ" คำหลังคนพูดออกแนวอาฆาต..........
ฝนดาวคุยโทรศัพท์อยู่สักพัก จู่ๆๆ สัญญาณก็ตัดไป กดเบอร์ใหม่หาคนอื่น ก็ไม่ติดเลยสักคน จู่ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองโดดเดี่ยวยังไงก็ไม่รู้...



.




Create Date : 24 ธันวาคม 2552
Last Update : 25 ธันวาคม 2552 11:21:15 น. 1 comments
Counter : 312 Pageviews.

 
น่ารักเนอะ เราก็ยิ่งคลั่งเกาหลีด้วย กรี๊ดๆๆๆๆๆ...
เนี่ยแค่จินตนาการเอาว่าต้องเป็นแบบนี้ๆ ก็ใจจะละลายแล้ว


โดย: สเลเต IP: 222.123.225.186 วันที่: 25 ธันวาคม 2552 เวลา:7:36:07 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.