... ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของหญ้าแห้วหมู
" หญ้าแห้วหมู " ... จัดเป็นพืชล้มลุกอยู่ในวงศ์กก เป็นวัชพืชอายุมากกว่า1ปี หรือหลายฤดู เติบโตและมีดอกผลได้หลายครั้งมีการสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศและแบบอาศัยเพศ ชื่อภาษาอังกฤษ nut grass หรือ nutsedge นอกจากนี้ยังมีชื่อที่เรียกต่างกันในแต่ละประเทศ เช่น อินเดียเรียก mutha, musta, mustuka ญี่ปุ่นเรียก ko-bushi และไทยเรียก หญ้าแห้วหมู และบางพื้นที่เรียกว่า หญ้าขนหมู
หัวและราก ... แห้วหมูมีหัวใต้ดิน เชื่อมต่อด้วยไหลขยายจากต้นเดิมไปเป็นหัวใหม่ และสามารถงอกเป็นต้นใหม่ได้ หัวมีขนาดเล็กปกคลุมด้วยเปลือกสีดำ เนื้อด้านในมีสีเหลืองขาว มีรสเผ็ดปร่า ส่วนไหลมีลักษณะสีน้ำตาลดำ พันธุ์ขนาดเล็กจะให้รสเผ็ดมากกว่าพันธุ์ใหญ่
ลำต้น ... ลำตั้นมีลักษณะตั้งตรง ผิวลำต้นมันเรียบ ไม่แตกแขนง รูปทรงสามเหลี่ยม มีสีเขียวแก่ มีความสูงประมาณ 10 -60 เซนติเมตร ตามลักษณะสายพันธุ์ เนื้อเยื่อด้านในอ่อน มีลักษณะเป็นเส้น
ใบ ... ใบมีลักษณะเรียวแคบ และยาว ปลายแหลม กลางใบมีสันร่อง ขนาดใบกว้าง 2-5 มิลลิเมตร ยาว 5-20 เซนติเมตร ใบสีเขียวเข้ม ผิวใบด้านบนมีสารจำพวก cutin เคลือบ ไม่มีปากใบ ส่วนผิวใบด้านล่างมี cutin เคลือบเช่นกัน แต่มีปากใบ
ดอก ... ดอกมีขนาดเล็กสีขาว ดอกออกเป็นช่อสีน้ำตาล ประกอบด้วยก้านชูดอก มีลักษณะเป็นก้านแข็งรูปสามเหลี่ยม ตั้งตรง มีดอกเชิงลด ยาว 5-10 เซนติเมตร กว้าง 3-8 เซนติเมตร มีใบประดับรองรับช่อดอก 1 ช่อดอกประกอบด้วยช่อดอกย่อย 3-10 ช่อ ดอกย่อยไม่มีก้านดอก ภายในดอกมีเกสรเพศผู้จำนวน 3 อัน อับเรณูยาว 1 มิลลิเมตร และมีเกสรเพศเมีย 3 อัน เกสรตัวผู้มี 3 อัน อับเรณูยาวแคบ ปลายท่อรังไข่มี 3 แฉก
ผลและเมล็ด ... ผลมีเปลือกแข็งรูปยาวเรียว รูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ ปลายแหลม มีหน้าตัดเป็นรูป 3 เหลี่ยมขนาดยาว 1.3-1.5 มิลลิเมตร กว้าง 0.5-0.7 มิลลิเมตร สีน้ำตาล เป็นที่สะสมอาหารประเภทแป้ง และสารสำคัญหลายชนิด เช่น alkaliods, cardiac glycoside, flavonoides, polyphenols, vitamin C, essentail oils ทำให้เกิดกลิ่นฉุนเล็กน้อย
การขยายพันธุ์ ... หญ้าแห้วหมูเกิดและขยายพันธุ์ได้ดีตามพื้นที่ต่างๆ ตามธรรมชาติ มีการขยายพันธุ์ด้วยการแตกต้นใหม่จากส่วนหัวที่เกิดจากไหลใต้ดินแพร่กระจายตามความยาวของไหล ส่วนไหลแก่จะตายเมื่อมีอายุมาก นอกจากนั้น ยังสามารถขยายพันธุ์ด้วยเมล็ดที่หล่นเมื่อแก่ เจริญเติบโตได้ดีและหนาแน่นในช่วงฝนตกชุก
... สรรพคุณทางยาของหญ้าแห้วหมู
หัวแห้วหมูได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์ในหลายด้านด้วยกัน ทั้งใช้เป็นทาภายนอก ใช้เป็นอาหาร ใช้เป็นยาบำรุงร่างกาย ยารักษาโรคภายในที่ถูกเขียนหรือปรากฏในตำรับยาแผนโบราณของไทย และต่างประเทศหลายขนาน การใช้ประโยชน์จากหญ้าแห้วหมู นิยมนำส่วนหัวใต้ดินมาใช้มากที่สุด เพราะประกอบด้วยสารหลายชนิดดังที่กล่าวข้างต้น สารสกัดที่ได้จากหัวแห้วหมูหรือการนำหัวแห้วหมูมาใช้นั้น นิยมใช้รักษาโรคต่างๆ ได้แก่
ยารักษาภายใน : ท้องอืด ท้องเฟ้อ อาการแน่นจุกเสียด แก้โรคบิด ขับปัสสาวะ ใช้ในการรักษาโรคบาดทะยัก มะเร็ง ยาลดไข้ แก้กระหายน้ำ รักษาโรคตับอักเสบ ยาถ่ายพยาธิตัว แก้ชัก เชื้อมาลาเรียลดฤทธิ์อะฟาทอกซิน ลดความเป็นพิษที่มีต่อตับ ลดฤทธิ์แอลกอฮอล์ รักษาแผลในกระเพาะอาหารเพิ่มความดันโลหิต กระตุ้นประสาท กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือด ลดอาการหดเกร็งของลำไส้ กล้ามเนื้อมดลูก และกล้ามเนื้อเรียบ บำรุงหัวใจ กระตุ้นระบบหายใจ ลดการอักเสบ
ยารักษาภายนอก : ใช้รักษากลาก เกลื้อน และโรคผิวหนังชนิดต่างๆ ใช้ต้านเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส รักษาแผล ฝีหนอง แผลติดเชื้อ
ทางเกษตร : ใช้เป็นสารต้านแมลงศัตรูพืช ป้องกันเชื้อรา ฆ่าไรทะเล
ตำรับยา ... 1. ใช้ส่วนหัวประมาณ 50-100 หัว ที่ล้างน้ำทำความสะอาด และลอกขุยเปลือกออกแล้ว นำมาทุบให้แตก และต้มน้ำดื่ม หรือนำส่วนหัวมาบดเป็นผงอัดใส่แคปซูลรับประทาน สำหรับลดไข้ แก้ไอ ปวดแน่นหน้าอก แน่นท้อง ขับปัสสาวะ ขับเหงื่อ แก้ปวดประจำเดือน แก้ท้องร่วง บำรุงครรภ์ บำรุงหัวใจ 2. ใช้ส่วนหัวแห้งที่ทำความสะอาดแล้ว นำมาบดหรือทุบเป็นผง ผสมน้ำทาแผล ทาโรคผิวหนัง 3. เมื่อมีอาการจุกเสียด แน่นท้อง ท้องอืด ท้องเฟื้อ ให้นำส่วนหัวแห้งหรือหัวสด ประมาณ 1 กำมือ ทุบให้แตกนำมาต้มน้ำดื่มหรือบดเป็นผงผสมกับน้ำผึ้งรับประทาน
... การกำจัดหญ้าแห้วหมู
ถึงแม้ว่าหญ้าแห้วหมู จะเป็นพืชที่มีสรรพคุณทางยาเยอะมากก็ตาม แต่ก็เป็นวัชพืชที่เติบโตและขยายวงกว้างได้รวดเร็วมากๆ จึงควรต้องมีการกำจัดไปบ้าง วิธีกำจัดคือ ขุดหญ้าแห้วหมูทิ้งก่อนที่มันจะออกดอก เพราะเมล็ดที่ร่วงจากดอกหญ้าจะสามารถฝังตัวลงดิน และงอกขึ้นมาใหม่ได้อีก และต้องหมั่นทำอย่างสม่ำเสมอ หรือใช้ตัวช่วยที่เป็นยาฆ่าหญ้าก็ได้ แนะนำให้ใช้ยาฆ่าหญ้าที่มีสารเคมีคือ(Glyphosate) เป็นตัวออกฤทธิ์ วิธีใช้ให้ผสมยาฆ่าหญ้าตามสัดส่วนที่ระบุไว้ข้างขวด แล้วใช้พู่กันหรือcottonbudจุ่มยาที่เตรียมไว้ นำมาป้ายบนใบวัชพืช สารเคมีจะถูกดูดซึมโดยใบลงไปยังหัวที่อยู่ใต้ดิน วิธีนี้อาจต้องทำซ้ำสัก2-3 ครั้ง และควรทำในช่วงฝนไม่ตกถึงจะได้ผล เพราะบางทียังมีหัวอยู่ใต้ดิน โดยที่ใบยังไม่โผล่ขึ้นมา ที่สำคัญอย่าลืมสวมถุงมือขณะป้ายยาด้วย วิธีนี้จะเหมาะกับการป้องกันไม่ให้ยาฆ่าหญ้าไปโดนหญ้าชนิดอื่นที่อาจปลูกไว้ประดับสวน หรือใช้วิธีฉีดพ่นยาไปเลยก็ได้ในกรณีที่มีหญ้าแห้วหมูขึ้นเยอะและไม่ได้ปลูกพืชชนิดอื่นอยู่ใกล้กัน
... ขอบคุณเจ้าของบทความและข้อมูล
https://puechkaset.com/หญ้าแห้วหมู/
https://th.wikipedia.org/wiki/แห้วหมู
https://medplant.mahidol.ac.th/pubhealth/cyperus.htm
https://www.kasetporpeang.com/forums/index.php?topic=46657.0
https://www.baanlaesuan.com/44597/ideas/nut_grass/
|