My husband makes my dream come true
Life in the U.S.A.

สวัสดีค่ะ เพื่อน ๆ และน้อง ๆ ชาวบล๊อกแก็งค์


ก่อนอื่นต้องขอบคุณสำหรับกำลังใจจากผู้อ่านทุกท่านเรื่องงานน่ะค่ะ ดิฉันตอนนี้คิดในแง่ดีว่า ตัวเองโชคดีมาก ๆ ที่มีงานทำ และถึงแม้ว่าดิฉันจะรู้ทั้งรู้ว่าผู้จัดการไม่จริงใจกับดิฉัน หลอกใช้งานดิฉัน ดิฉันก็คิดตามที่น้องทิพย์บอกคือ น้ำพึงเรือ เสือพึงป่า

ทำไมดิฉันจึงคิดอย่างนี้ก็เพราะดิฉันก็ยังต้องการทำงานต่อไป เพราะงานอาสาสมัครตอนนี้ยังหาไม่ได้เลย และผู้จัดการก็ยังคงต้องการใช้งานดิฉันต่อไป ก็เป็นอันว่าน้ำพึงเรือ เสือพึงป่า

อย่างที่เพื่อน ๆ และน้อง พอทราบว่า เมือสัปดาห์ที่ผ่านมาดิฉันอารมณ์เสียมาก ๆ ที่ถูกลดชั่วโมงการทำงาน ดิฉันจึงเข้าไปพูดกับผู้ช่วยฯ เพราะดิฉันทราบว่าเธอเป็นคนจัดตารางและไม่ยุติธรรมกับดิฉัน และมากกว่านั้นดิฉันก็ไปร้องเรียนความไม่ยุติธรรมของเธอกับผู้จัดการ


ตอนแรกผู้จัดการก็โกรธ เกือบจะควบคุมอารมณ์ไม่อยู่เพราะไม่มีใครกล้าพูดอะไรแรง ๆ กับผู้จัดการคือดิฉันพูดว่า


“I’m done”


ถ้าแปลเป็นไทยก็คือสิ้นสุดกันที ไม่ขอทำงานด้วยอีกต่อไปแล้ว
สำหรับการพูดคำนี้ ดิฉันตอนนั้นโกรธมาก ๆ และพอมาบอกกับสามีว่าพูดคำนี้ไป สามีก็บอกว่าไม่น่าพูดเพราะเหมือนกับว่าขอลาออก แล้วยิ่งสภาพเศรษฐกิจขาลงแบบนี้ คนตกงานมาก ถ้าดิฉันลาออกก็ง่ายกับการหาพนักงานมาเสียบ แต่เพราะความสามารถแบบดิฉันนั้นหาไม่ได้ทั่วไปในคนอเมริกันคือไม่เคยลดล่ะความพยายามที่จะหาลูกค้ามาทำบัตรเครดิตและแทบทุกวันที่มาทำงานก็หาลูกค้าทำบัตรเครดิตได้ นี่ล่ะค่ะข้อดีของดิฉันที่ผู้จัดการตระหนักตลอดเวลา

ตั้งแต่วันนั้นดิฉันก็ยังโกรธผู้จัดการ จะพูดด้วยก็เรื่องงาน พอจบงานก็จบหน้าก็ไม่มอง เพราะรู้ว่าผู้จัดการหลอกใช้ดิฉัน ไม่จริงใจกับดิฉัน

แต่เมือวันเสาร์ที่ผ่านมา ดิฉันไม่ได้ไปทำงาน กำลังง่วนกับการทำขนมปัง ก็ได้ยินเสียงโทรศัพท์

แล้วเสียงในสายก็บอกว่า “นี่ผู้จัดการพูดน่ะ สบายดีน่ะจ๊ะ”
ดิฉันก็ตอบกลับ “สบายดีค่ะ แล้วผู้จัดการล่ะเป็นอย่างบ้าง”
ผู้จัดการ “วันนี้สะดวกมาทำงานพิเศษหรือไม่ “

เชื่อไหมค่ะพอดิฉันได้ยิน รีบตอบว่าสะดวก แล้วบอกกับสามีว่า พอทำขนมปังเสร็จ ดิฉันจะไปทำงานเพราะผู้จัดการตามตัวให้ไปทำงานพิเศษ โอกาสทองพลาดไม่ได้


พอดิฉันไปถึงที่ทำงานก็ไปถามผู้จัดการว่าจะให้ทำอะไร แล้วดิฉันก็พยายามพูดกับผู้จัดการดี ๆ และบอกว่าจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุด ถึงแม้ว่าดิฉันกับผู้จัดการจะชอบมีปากมีเสียงกัน แต่ในที่สุดเห็นไหมเราก็กลับมารักกันอีก ผู้จัดการก็หยอดคำหวานว่านี่ล่ะเหตุผลว่าทำไมถึงชอบดิฉัน เพราะดิฉันเหมือนแฟนเค้า ที่พอทะเลาะกันเสร็จ ก็มาปรับความเข้าใจคืนดีกัน


แล้วดิฉันก็ไปทำงานของดิฉัน เชื่อไหมค่ะ ดิฉันเห็นหน้าผู้ช่วยฯ ที่ไม่ยุติธรรมกับดิฉัน ดิฉันไม่มองหน้าเลย เธอก็ไม่มองหน้าดิฉัน เพราะเธอคงรู้ว่าดิฉันก็ไม่ใช่ย่อย เพราะไม่ยอมคนและเอาเรื่องที่เธอให้ชั่วโมงการทำงานมากกับพวกพ้องของเธอไปรายงานผู้จัดการ แต่ถ้างานในหน้าที่ดิฉันก็เคารพและพูดกับเธอน่ะค่ะ เช่น เมือผู้จัดการกลับบ้าน ดิฉันก็ต้องไปรายงานเธอ เมือกลับจากพักหรือทำอะไรก็ตาม เพราะดิฉันคิดว่าถึงจะไม่ชอบใคร แต่เราก็ต้องเคารพความเป็นผู้บังคับบังชาของเค้า


เรียกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา ดิฉันคิดว่าดิฉันถูกลดชั่วโมง กลับได้ชั่วโมงเพิ่มขึ้นจากปกติอีก เพราะได้มาทำงานพิเศษอีกหลายชั่วโมงในวันเสาร์ที่ผ่านมา เมื่อวันอาทิตย์ดิฉันก็ไปทำงาน วันนี้ผู้ช่วยฯคนที่ไม่ยุติธรรมกับดิฉัน รับหน้าที่ ดิฉันจึงเข้าไปถามว่าวันนี้ต้องการให้ดิฉันทำอะไร แล้วเธอก็บอกว่าวันนี้เพิ่งหาลูกค้าทำบัตรเครดิตได้แค่รายเดียวเอง อยากให้หาเพิ่มอีก ดิฉันก็พยักหน้ารับทราบแล้วไปทำงานของดิฉัน


ปกติดิฉันจะทำงานห้องลองเสื้อผ้า พอไม่มีลูกค้า ดิฉันก็จะออกไปหน้าร้าน ไปเดินถามลูกค้าว่าจะทำบัตรเครดิตหรือไหม หรือช่วยเหลือลูกค้า ซึ่งระหว่างที่ดิฉันคุยกับลูกค้าเรื่องทำบัตรเครดิตหลายครั้ง ดิฉันเห็นผู้ช่วยฯ เดินผ่านมา ดิฉันก็ไม่สนใจอะไรเพราะดิฉันถือว่าดิฉันต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในแต่ละวัน ถึงแม้วันนี้ดิฉันจะไม่ชอบผู้ช่วยฯก็ตาม แล้วขณะที่ดิฉันกำลังง่วนกับการคุยกับลูกค้า เธอเดินผ่านมาแล้วเธอก็ยิ้มให้กับดิฉัน ดิฉันคิดในใจแปลกเนอะยิ้มให้ดิฉัน ดิฉันก็ยิ้มตอบ เพราะไม่ใช่ปรกตินิสัยของเธอที่จะยอมใคร เพราะเธอก็จัดเป็นผู้ช่วยฯ ที่แข็งมาก ๆ ที่ดิฉันเคยเห็น


หลังจากนั้นเธอก็พยายามมาพูดดีกับดิฉัน ดิฉันก็พูดกับเธอไป แต่ในใจดิฉันก็คิดว่าเธอคงประจักษ์ด้วยตาของเธอแล้วว่า ดิฉันทำงานหนักอย่างที่ดิฉันเคยบอก และถึงแม้ดิฉันจะไม่ชอบเธอ ดิฉันก็ไม่ได้เอายุ่งกับงานเลย ดิฉันก็ยังคงพยายามหาลูกค้าทำบัตรเครดิตให้เธอ


เมือเข้ามาบ่นความในใจเป็นพิธีแล้ว ก็มาอ่านเรื่อง Life in the U.S.A


วันนี้ดิฉันอยากจะมาเล่าถึงชีวิตความเป็นอยู่ประจำวันของดิฉันในต่างแดน ถ้าถามว่าแตกต่างสิ้นเชิงกันชีวิตความเป็นอยู่ในไทยหรือไม่ ก็ต้องบอกว่าแตกต่างกันมากที่เดียว เพราะดิฉันต้องมาเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ การดำรงชีวิตใหม่โดยสิ้นเชิง

ดิฉันได้มาอยู่อเมริกาก็ห้าปีกว่าแล้ว อย่างที่เพือน ๆ และน้อง ๆ ก็คงพอจะทราบประวัติดิฉันมาบ้างแล้วคือ ดิฉันจบปริญญาโท เอกการเงินและการธนาคาร ทำงานที่เมืองไทยด้านบริหารมาตลอด ซึ่งไม่ต้องบอกว่าชีวิตแต่ละวันที่เมืองไทยนั้นคืออะไรบ้าง และแล้ววันหนึ่ง ก็มีฝรั่งมาคุกเข่าขอดิฉันแต่งงาน แล้วดิฉันก็ได้มาอยู่อเมริกา


อย่างว่าล่ะค่ะ คนที่จะมีเนื้อคู่ ให้อยู่ไกลแค่ไหน อายุปูนไหน ก็ต้องได้มาคู่กัน แล้วในที่สุดดิฉันก็ได้มาเจอสามีและได้มาใช้ชีวิตอยู่ในอเมริกา ก่อนที่จะมาอยู่อเมริกา ดิฉันวาดฝันไว้สวยหรู ว่าดิฉันจะได้ทำงานที่ดี มีเงินมาก ๆ เพราะเวลาดิฉันเห็นคนที่อยู่เมืองนอกแล้วกลับไทย พวกเค้าจะมีเงินใช้จ่ายกันมากมายและบอกว่าที่อเมริกาหางานง่าย แค่เสริฟอาหาร ล้างชาม ก็ได้เงินมากมาย ดิฉันคิดในใจ คอยดูซิ พอดิฉันไปอยู่อเมริกาจะหางานทำตามร้านอาหารไทย เพราะทำไม่กี่ชั่วโมงก็ได้เงินเยอะ แล้วยิ่งดิฉันมีความรู้และประสบการณ์ทำงานที่เมืองไทย ต้องหาเงินได้มากแน่เลย

ก่อนที่จะมาอเมริกา เชื่อไหมค่ะดิฉันเตรียมตัวทุกอย่าง ขอใบผ่านงานจากบริษัทฯ ดิฉันเป็นภาษาอังกฤษ ไปมหาวิทยาลัยที่ดิฉันจบ เพื่อขอทรานสริปต์แบบปิดผนึก เพราะคิดว่าบางทีอาจจะมาต่อดอกเตอร์ดีกรีที่อเมริกา

แต่พอดิฉันได้มาอยู่อเมริกาเชื่อไหมค่ะ ความฝันดิฉันที่จะหางานทำ มีเงินเยอะ มันคือความฝัน เพราะปริญญาโทและประสบการณ์ทำงานที่เมืองไทยของดิฉันใช้ไม่ได้ที่ดิฉัน ดิฉันก็ทำใจค่ะ ลองไปสมัครงานร้านอาหารไทยอยู่ กลับเอาเปรียบดิฉัน โดยให้ค่าจ้างสามสิบห้าเหรียญ ทำงานสิบกว่าชั่วโมง แล้วถ้ามีลูกค้าถึงจะได้ทิป แล้วทำเลแถวบ้านดิฉัน ร้านอาหารไทยก็ไม่ค่อยมีคนเข้า เรียกว่าลูกค้านับคนได้เลย ดิฉันทำงานไปได้สักห้าชั่วโมง เพราะไม่ทราบว่าเค้าจ่ายกันแบบนี้ ดิฉันจำได้ว่าเจ้าของร้านให้เงินดิฉันมาสิบห้าเหรียญ พร้อมทิปอีกห้าเหรียญ ดิฉันดีใจมาก กำเงินแน่นเดินกลับบ้าน เพราะร้านอาหารไทยนี้ใกล้บ้านมาก ๆ พอเล่าให้สามีฟัง สามีโกรธมาก บอกไม่ให้ไปอีก เพราะกดขี่แรงงาน ดิฉันก็อธิบายว่าดีกว่าอยู่ว่าง ๆ แล้วร้านก็เงียบมาก ๆ สามีบอกอย่างไรก็ไม่ให้ไปทำงานร้านนี้อีก เห็นเป็นคนไทยด้วยกันแทนที่จะช่วยเหลือ แล้วสำหรับดิฉันก็มีกรีนการ์ดไม่น่าทำแบบนี้ พอรุ่งขึ้นที่ร้านโทรฯมาเรียกดิฉันไปทำงานอีก ดิฉันก็บอกว่าไม่ทำแล้ว เพราะไม่ว่าง ไม่กล้าพูดไปว่าสามีโกรธมาก ไม่ให้ไปทำเพราะกดขี่แรงงานคนไทยด้วยกัน


พอหลังจากนั้นดิฉันก็คิดว่าดิฉันควรไปเรียนดีกว่า เพราะดิฉันภาษายังไม่ดี ในที่สุดดิฉันก็เรียนจบ Associate of Arts Degree and Certification in Accounting ช่วงที่เรียนก็ทำงานไปด้วยค่ะที่ห้างทหารเรือแก่ เรียกว่าพาสทามค่ะ ดิฉันจบมาในช่วงเศรษฐกิจอเมริกาแย่มาก ๆ ส่งใบสมัครไปที่ไหนก็ไม่มีที่ไหนเรียกเลย บางครั้งก็รู้สึกท้อใจและน้อยใจในโชคชะตา แต่ก็พยายามคิดว่าอย่างน้อยดิฉันก็มีงานที่ห้างทหารเรือแก่ ๆ ทำ ยังโชคดีกว่าหลายคนที่ไม่มีงานทำ


สำหรับชีวิตดิฉันตอนนี้ก็คงเหมือนคนอเมริกันทั่วไปค่ะคือเป็นแม่บ้านและทำงานพาสทาม แต่กว่าดิฉันจะมีวันนี้ได้ก็ใช้เวลาเหมือนกัน เพราะอย่างที่เพื่อน ๆ และน้อง ๆ ก็คงทราบคือ แรก ๆ ที่พวกเรามาอเมริกากัน จะไม่มีความมั่นใจในตัวเองไร เพราะภาษาเราไม่ดี เช่นกันทุกอย่างตรงข้ามกับเมืองไทยเกือบสิ้นเชิง เช่นเลนส์ขับรถ เมืองไทยขับรถเลนส์ซ่าย ที่อเมริกาขับรถเลนส์ขวาและต้องเคารพกฏจราจรมาก ๆ เพราะที่อเมริกาค่าปรับแพงสำหรับการผิดกฏจราจร และโชคไม่ดีอาจจะมีประวัติในดีเอ็มวีและประกันอาจจะสูงเพราะเรามีประวัติการขับรถที่ไม่ดี


มาอยู่อเมริกาเราต้องเคารพสิทธิของกันและกัน เช่น ถ้าเราจัดงานปารตี้ ส่งเสียงดัง หรือส่งเสียงดังกลางคืน เพื่อนบ้านเราอาจโทรฯ เรียกตำรวจมาตักเตือนเรา การเสี้ยงสุนัขก็ห้ามส่งเสียงดังไม่รบกวนเพื่อนบ้าน ห้ามรังแกสัตว์เลี้ยง เป็นต้น


เวลาเราไปซื้ออะไร หรือทำอะไรต้องต่อแถว ไม่ใช่อยู่ดี ๆ จะเสแสร้งไปยืนตัดหน้าคนอื่น คนอเมริกาเค้าไม่ยอม เรียกว่าใครมาก่อนไปก่อน ดิฉันชอบมากเลย เกลียดที่สุดการแซงแถว ยิ่งเวลากลับไทย ไปเข้าห้องน้ำตามห้างฯ เห็นคนไทยแซงแถวกันหน้าด้าน ๆ ดิฉันเดินเข้าไปว่าเลย เพราะทนไม่ได้ ทำอย่างนี้ได้ไง ดิฉันยืนรอมาตั้งนาน


ถ้าถามว่าดิฉันชอบประเทศอเมริกาไหม ดิฉันต้องบอกว่าชอบหลายๆ อย่างค่ะ เพราะสอนให้ดิฉันเคารพกฏเกณ เช่นกันทำให้ดิฉันกลายเป็นคนที่กล้าพูดในสิ่งต่างๆ ที่ถูกต้อง เพราะถ้าดิฉันไม่พูด ดิฉันจะถูกคนอเมริกาเอาเปรียบ เช่นกันอเมริกาสอนให้ดิฉันต้องช่วยตัวเอง เป็นต้นว่า ต้องขับรถไปไหนเอง ทำอะไรบางอย่างเอง จะไปพึงสามีไม่ได้ เพราะสามีต้องไปทำงาน เช่นกันสอนให้ดิฉันทำอาหารต่าง ๆ ด้วยตัวเองทั้ง ๆ ที่อยู่เมืองไทยไม่เคยคิดจะทำทานเลย และเป็นประเทศที่ให้เสรีภาพกับคนทำงานมาก ๆ ถ้าคน ๆ นั้นมีความสามารถ และสามารถทำงานได้

มาดูชีวิตปกติแต่ล่ะวันกันค่ะ ชีวิตดิฉันอาจจะน่าเบือน่ะค่ะ เพราะดิฉันอยู่กับสามีแค่สองคน ไม่มีลูก

ถ้าเป็นวันธรรมดา ดิฉันจะทานอาหารเช้าและกลางวันคนเดียวค่ะ เพราะสามีต้องออกไปทำงานแต่เช้า สำหรับอาหารเช้าวันธรรมดาของดิฉันก็ง่าย ๆ ต้มกาแฟ คุ๊กกี้ ขนมปัง

สำหรับวันหยุด ดิฉันก็จะทำอาหารพิเศษทานค่ะ เพราะสามีอยู่ด้วย เช่น แพนเค็ก วอฟเฟิล ทอดไส้กรอก ทอดเบคอน ออมเล็ต มัพฟินทานกันสองคนตายายค่ะ


นี่ค่ะคือภาพอาหารเช้าประจำสุดสัปดาห์ของเราสองคนตายาย

สำหรับวันเสาร์ ก็จะเป็น ทอดเบคอนค่ะ





วันนี้ทำออมเล็ตให้สามีทานค่ะ แต่ก่อนทำไมเป็นหรอกค่ะ พอมาอยู่อเมริกาเห็นสามีทำ ก็เลยทำเป็น




นี่ค่ะอาหารเช้าเบคอน ออมเล็ท มัพฟิน กาแฟ




สามีดิฉันรับประกันความอร่อยอีกแล้วค่ะ




สำหรับวันอาทิตย์ บางครั้งก็ทำแพนเค็กทานค่ะ พร้อมทอดไส้กรอก

ไส้กรอกทอดค่ะ




บลูเบอร์รี่แพนเค็กและแพนเค็กธรรมดาค่ะ














อาหารเช้าวันอาทิตย์เสร็จแล้วค่ะ







สำหรับวันหยุดนั้นบางครั้ง ดิฉันกับสามีก็จะไปเยี่ยมน้องสาวสามีกับครอบครัวของเธอค่ะ ซึ่งขับรถประมาณหนึ่งชั่วโมงค่ะ

วันนี้ดิฉันไปเล่นกับพวกหลาน ๆ เอาปืนมายิ่งเล่นกันค่ะ
























สามีเล่นกับน้องโคโค่นัททีบ้านน้องสาวสามีค่ะ










น้องโคโค่นัทหรือน้องมะพร้าวค่ะ







บางครั้งวันธรรมดา ถ้าดิฉันรู้สึกไม่อยากทำอาหารหรือไปทานอาหารนอกบ้าน ก็จะโทรฯบอกกับสามีว่าเลิกงานแล้วให้แวะซื้ออาหารเย็นกลับมาด้วย



มาดูอาหารเย็นที่สามีดิฉันไปซื้อมาหลังเลิกงานค่ะ
















มาดูอาหารของดิฉันค่ะ ดิฉันชอบาก ๆ เลย Spicy Chicken เป็นไก่ย่าง มันฝรั่งทอดแล้วราดด้วยน้ำซ๊อสเผ็ดมาก ๆ พร้อม Cole Slaw and Tortillas








นำไก่ มันฝรั่งและทอเที่ยร์มาห่อทานค่ะ อร่อยมาก ๆเลย










Wet Burrito













ขอขอบคุณเพื่อน ๆ และน้อง ๆ ที่แวะมาเยี่ยมบล๊อกดิฉัน



มีความสุขมาก ๆ ค่ะ



Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2552
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2552 10:23:38 น. 49 comments
Counter : 655 Pageviews.

 
มาให้กำลังคุณไก่คะ สบายดีนะคะ ตาก็ชีวิตการทำงานคล้ายๆ คุณไก่คะ เฮ้ย.. ไม่อยากบ่นเลยคะ เดี๋ยวมันจะยาว เอาเป็นว่า เป็นกำลังให้นะคะ สู้ต่อไปคะ


โดย: ผ้าไหมไทย วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:6:56:38 น.  

 
น่ารักกันทั้งสองเลยนะคะ
ของให้มีความสุขในวันวาเลนไทม์ และทุกๆวันนะคะ


โดย: praewa cute วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:7:00:07 น.  

 
ไม่ค่อยรู้เรื่องทำงาน เพราะสามีหัวเด็ดตีนขาด หรือจนยังไงก้ไม่ยอมให้ไปทำงานข้างนอกเด็ดขาด

แต่คุณสู้จังเลยค่ะ เก่ง


โดย: praewa cute วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:7:09:09 น.  

 
ชีวิตเรียบๆแบบนี้ก็ดีนะคะพี่ไก่ แต่ก่อนกิ๊กก็เคยสงสารตัวเองนะ ว่ามาอยู่ที่นี่ต้องทำนั่นทำนี่เอง อาหารไม่เคยทำก็ต้องทำ ไม่เคยคิดว่าจะเป็นแม่บ้านก็ต้องเป็น แต่ไปๆมาๆ กลับชอบแบบนี้ค่ะ มันทำให้รู้ว่า เออ เราก็ทำได้เน๊อะ ไม่ใช่แค่ทำงานนอกบ้านได้ งานในบ้านเราก็ทำได้แฮะ ถ้ายังอยู่เมืองไทย ป่านนี้กิ๊กก็คงไม่ต้องมาจับตะหลิวอ่ะค่ะ เพราะซื้อกันทุกที

พี่ไก่คะ อย่าคิดมากเรื่องคนที่ทำงานเลยนะคะ เพราะตอนนี้ก็ดูจะดีขึ้นแล้วนะคะ บางทีทำไม่รู้ไม่ชี้ไปซะเลย

กิ๊กเคยทำงานกับเพื่อนร่วมงานคนหนึ่ง เธอค่อนข้างเจ้าอารมณ์มากๆค่ะ วันหนึ่งแค่หงุดหงิดกันนิดหน่อย เพราะว่าทำงานด้วยกันสองวันติด ค้างห้องเดียวกันด้วยเพราะ รร เต็ม เราก็หงุดหงิดกัน เชื่อมั้ยคะ เธอแจ้นไปฟ้องหัวหน้าค่ะ กิ๊กล่ะงงเลย ว่าเรื่องแค่นี้เองนะเนี่ย หัวหน้าเรียกไปคุยค่ะ กิ๊กก็บอกว่าไม่เอาแล้วทำงานกับเธอไม่ไหวแล้ว ถ้ายังจุกจิกแบบนี้ คือกิ๊กไม่คิดว่าการที่หงุดหงิดกันเพราะการทำงานติดต่อสองสามวันติดต้องไปบอกหัวหน้าด้วย เหมือนเด็กน่ะค่ะ

ทีนี้สรุปว่า เธอคนนั้นโดนหัวหน้าส่งไปอบรมเรื่องการมีปฎิสัมพันธ์กับคนอื่น ซึ่งพอไปแล้วเธอก็มีน้ำใจเป็นนักกีฬานะคะ เธอก็มาเล่าให้กิ๊กฟังอายๆว่าชั้นไปมาแล้วสองรอบ ตอนนี้ก็พยายามอยู่ แต่เปลี่ยนทันทียาก กิ๊กก็ไม่ติดใจอะไร บางทีเธอปี๊ดก็พยายามให้อภัย จากนั้นเราก็ทำงานด้วยกันจนจบโปรเจ็คเลยค่ะแถมจบด้วยดีอีกต่างหาก ที่โชคดีตรงที่หัวหน้าแก้ปัญหาได้ แล้วก็เธอคนนั้นก็ดีนะคะ พยายามปรับปรุง

ทุกที่มีปัญหาหมดน่ะค่ะพี่ไก่ เนี่ยนึกย้อนไป กิ๊กยังว่ากิ๊กผ่านเพื่อนร่วมงานคนนั้นมาได้ยังไงนะ เพราะเธอแรงมากกก แรงสุดๆอ่ะค่ะ ฮิๆ แค่มาเล่าเฉยๆค่ะ ขอตัวไปนอนก่อนค่ะ


โดย: KOok_k วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:7:30:38 น.  

 
เข้ามาเยี่ยมค่ะ เป็นกำลังใจให้สู้ๆ ต่อไปในเรื่องงานนะคะ สำหรับวิสกี้เนี่ยพอมาอยู่ที่นี่แล้วได้งานในออฟฟิศก็จริงแต่ก็ต้องเก็บเอาวุฒิ หน้าที่การงานสูงๆ ที่เราเคยมีเอาไว้ในลิ้นชักตั้งแต่บัดนั้นเลยค่ะ เพราะมันแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงเลยทีเดียว ตอนนี้ก็เก็บอดีตเอาไว้เป็นที่ระลึก และก็อยู่กับปัจจุบันให้มากที่สุดก็มีความสุขดีค่ะ

มาเห็นอาหารแล้วอดน้ำลายไหลไม่ได้ค่ะ อาหารแม๊กซิกันวิสกี้ชอบ beef enchilada กับ soft tacos มากที่สุดเลยค่ะ แต่ที่ชอบที่สุดเห็นจะเป็นไก่ย่าง el pollo loco นะคะ เหมือนไก่ย่างไทยเรามากทีสุด เอามากินกับส้มตำเนี่ยเข้ากั๊น เข้ากันค่ะ


โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:10:25 น.  

 
พี่ไก่พูดกับผู้จัดการไปแล้ว ตอนนี้เขาคงรู้และเข้าใจพี่ไก่แล้ว
ฝรั่งเขาไม่ค่อยมีเซ้นท์น่ะค่ะ ถ้าไม่พูดเขาก็ไม่รู้
และถือว่าพี่ไก่ทำให้ตัวเองสบายใจขึ้นด้วยค่ะ เราได้พูดแล้วดีกว่าเก็บไว้คนเดียว
ตอนนี้พี่ไก่ไม่ต้องคิดมากแล้วนะคะ

อาหารที่สามีพี่ไก่ซื้อกลับมา น่ากินจังเลยค่ะ
แต่ก่อนนางฟ้าไม่ค่อยชอบอาหารแนวนี้
แต่พอกินไปกินมาอร่อยดีเหมือนกัน...


โดย: นางฟ้าของชาลี วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:16:23 น.  

 
Good to know thing's getting better at your workplace na ka.

BTW, the henna powder I've got, my mum bought it from Little Indian 'Pha-Hu-Rad' in BKK ka.



โดย: yr_naughty_annie วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:17:46 น.  

 
หวัดดีตอนกลางคืนค่ะพี่จินนี่
ขิมว่านะ ชีวิตที่อเมริกาเนี่ยจะว่ายากก็ยาก จะว่าง่ายก็ง่าย ปนๆ กันไป
ขิมเห็นครอบครัวพี่จินนี่แล้ว อดยิ้มไปด้วยไม่ได้ เพราะความน่ารักในครอบครัวของพี่จินนี่กะสามี
ขิมยังอีกหลายปี เพราะอย่างน้อยปีนี้ก็ต้องเรียนให้จบก่อน ฮี่ๆ
ทำงาน ก็ดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
ปอลอ เพิ่งเลิกเรียนมา เห็นรูปแพนเค้ก กะเบค่อนแล้วอยากกิน พี่จินนี่ ทำร้ายจิตใจกันชัดๆ เนี่ย


โดย: pink daffodil วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:21:02 น.  

 
ครอบครัวน่ารักจังค่ะ เห็นด้วยนะคะ ตอนนี้ทำไปก่อนค่ะ เพราะงานหายากมากๆค่ะ


โดย: 2fast2farious วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:58:09 น.  

 
มาเป็นกำลังใจให้พี่น๊า สู้ สู้ค่ะ
อาหารของพี่ น่าทานมากมาย
ใกล้วาเลนไทน์แล้ว พี่มีแพลนไปฉลองที่ไหนบ้างป่าวค่ะ



โดย: ann_269 วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:08:18 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่จินนี่ ... วันนี้มาอ่าน My Life in the USA. ของพี่จินนี่
ให้นึกถึงหนังชุดเก่า ๆ ของอังกฤษ ที่ชอบพูดถึงตัวเอกฝ่ายชาย My life in Kenya! อิอิ ไม่เกี่ยวอะไรกับกรณีพี่จินนี่หรอกค่ะ แต่หัวข้อบล็อกพี่ตั้งน่ารักดี

ชอบที่พี่เล่นกับหลาน ๆ น่ารักดีค่ะ คุณผู้ชายบ้านพี่ก็น่ารัก อารมณ์ดีจัง
มีความสุขมาก ๆ นะคะพี่จินนี่


โดย: Tristy วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:10:12:53 น.  

 
ดูเป็นครอบครัวที่อบอุ่นมากเลยนะคะ หลานๆ น่ารักจัง
ปล.คุณสามีก็น่ารักนะคะน่ะ ดูมีความสุขกับอาหารฝีมือคุณภริยาจริงๆเลยเน๊อะ


โดย: ชินโจมายุ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:07:39 น.  

 
^^บอกได้คำเดียว "สุดยอด"
^^ในชีวิตคนเรานะพี่ไก่ ผ่านอะไรร้าย ๆ มาก็แล้วแต่ ถ้ามีครอบครัวอบอุ่นซะอย่าง อะไร ๆ ก็เรื่องเล็ก ยิ่งของพี่ไก่นะ ต่างคนต่างเข้าใจกันอย่างเนี้ย หายากนะพี่ไก่ ฮือ ฮือ ...เห็นแล้วอิจฉานะตัวเอ๊ง....
^^ส่งกำลังใจมาให้หมดเลย...5555


โดย: เปปเปอร์ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:41:41 น.  

 
แวะมาอ่านเรื่องราวของพี่ใก่ค่ะ

ตามมาดูสูตรความงามด้วย


โดย: มาดามอุ้ย วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:05:22 น.  

 
แฟนคลับตามมาอ่านอีกแล้วค่า ถือซะว่าตอนนี้คุณไก่กำลังเรียนรู้หาประสบการณ์นะคะ อีกหน่อยเศรษฐกิจดีขึ้นคนเก่งและขยันอย่างคุณไก่ต้องได้งานที่ตัวเองถนัดกว่านี้ทำแน่ๆค่ะ ชีวิตคุณไก่ต้องรุ่งโรจน์แน่ๆค่ะ คนขยันไม่ย่อท้ออย่างนี้ต้องมีสักวันที่เป็นของเราค่ะ

เห็นคุณไก่ทอดเบคอน แม่ปูแนะนำได้ไหมคะ ลองเอาเบคอนวางบนเปเปอร์ทาว แล้วเอาเปเปอร์ทาวอีกแผ่นปิดทับข้างบน เอาเข้าไมโครเวฟ เบคอนชิ้นหนาอย่างของคุณไก่๖ชิ้น ก็อบซัก หกเจ็ดนาทีก่อนค่ะ แล้วเช็คดูว่าชอบกรอบเกรียมมากขนาดไหน ถ้ายังไม่กรอบไม่เกรียมก็อบต่อค่ะ แต่ใช้เวลาน้อยลงกันไหม้ เปเปอร์ทาวจะซับน้ำมันจากเบคอนไว้ค่ะ เราจะได้ไม่ต้องยืนทอดให้เมื่อย น้ำมันไม่กระเด็นทั่วเตาด้วยค่ะ

พ่อบ้านคุณไก่ท่าทางใจดีจังเลยค่ะ


โดย: ปูขาเก เซมารู วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:15:21 น.  

 
หวัดดีค่ะพี่จินนี่ อ่านแล้วเหมือนพี่ไก่มาพูดแทนใจยังไงยังงั้นเลยค่ะ เสร้านะคะบางทีกับการเปลี่ยนแปลง แต่ก็ยิ้มสู้กับการก้าวไปในวันข้างหน้าอย่างมีความหวังว่าเราจะเจออะไรที่ดีในชีวิตรอเราอยู่ ก็พยายามจะสนุกกับปัจจุบัน มีหนังสืออ่านเยอะก็อ่านไป มีเพื่อนมาแช็ทด้วยก็แช็ท พยายามจะไม่จมจ่อมกับความเหงาหรือความเปลี่ยนแปลงที่มีอยู่นะค่ะ


โดย: Nok (nokjeffus ) วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:22:52 น.  

 
ก่อนอื่นขอขอบคุณพี่ไก่มากๆ เลยนะคะที่อุตส่าห์เข้าไปอ่านนิยายหนูอ่ะ ดีใจมากๆ ค่ะ

คุณสามีพี่ไก่คุกเข่าขอแต่งงานด้วยเหรอ โรแมนติกจัง ของหนูไม่มีหรอก ใช้วิธีตีหัวแล้วลากเข้าห้อง ฮ่าๆๆ ล้อเล่นค่า

ชีวิตที่อเมริกาของหนูตอนนี้ยังไม่ได้ไปไหนเลยค่ะ เพราะยุ่งอยู่กับการซ่อมบ้านและเคลียร์ของให้คุณแม่สามี แต่วันครบรอบแต่งงานก็ใกล้มาแล้ว คงจะไปเที่ยวแถวๆ นี้ อยู่รัฐเดิม แต่ไปเตร่แถวซานดิเอโก้ค่ะ

ป.ล. รูปที่สามีพี่ไก่ถือแก้วกาแฟ เสื้อเหมือนกับสามีหนูเลยค่ะ


โดย: เบบูญ่า วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:31:45 น.  

 
พี่ไก่ค่ะ แพนเค้กน่าทานมากๆ ...

จริงด้วยนะค่ะ ... ช่วงนี้ เศรษฐกิจแบบนี้ ต้อง น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า จริงๆ ค่ะ


โดย: Molly_Nanny วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:13:31:56 น.  

 
อยู่กันสองคนทำอะไรทานก็ง่ายดีนะค่ะ
แต่ของกุ๊กไก่ที่บ้านขาดไม่ไ้ด้คือ
ต้องมีอาหารรสเผ็ดๆสักอย่าง


โดย: ยายกุ๊กไ่ก่ วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:06:03 น.  

 
ครอบครัวนี้น่ารักจังค่ะ
ดูมีความสุขดีจังนะคะ

เห็นแพนเค้กละอยากทานจัง
ไม่ได้ทำทานนานแล้ว



โดย: vanilla_ole วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:15:31:53 น.  

 
เห็นอาหารประจำวันหยุดของพี่ไก่แล้วอดคิดไม่ได้ว่าทำไมพี่ไก่กับแฟนไม่อ้วนเลยอ่ะค่ะ นากับแฟนอ้วนเอาอ้วนเอา

เจ้านายแฟนตอนนี้แกก็ยังรักษาตัวอยู่ค่ะ เมื่อวันก่อนนาเอาอาหารไปฝากแกที่บ้านก็ดูว่าแกปกติดีอ่ะค่ะ ไม่เหมือนคนป่วยเลย


โดย: nakamuk วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:19:48:30 น.  

 
มีความสุขมาก ๆ นะคะ


โดย: คุณนายเหรียญบาท วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:20:37:08 น.  

 
พี่ไก่ขา อยากกินแพนเค๊กง่ะ

ขอบคุณพี่ไก่นะคะที่แวะไปเมนท์บล๊อก

ส่วนอาหาร เห็นแล้ว สยองพุงจังค่ะ แต่พี่ไก่ไม่ยักกะอ้วนนะคะ ต้าเป็นตุ๊กละก็ ป่านนี้พอกพูนอยู่แถวๆ พุงเพียบแล้วล่ะค่ะ

ช่วงนี้รู้สึกเบื่อๆ ท้อๆ เหมือนกันค่ะ พยายามไม่คิดอะไร มีอะไรทำก็ทำไปให้มันลืมๆ ง่า ..
..

ปล. แม้ไม่เคยรู้จักกัน แต่แค่อ่านบล๊อกก็เหมือนรู้จักกับพี่ไก่มานานนะคะ ไว้มาคุยด้วยใหม่ค่ะ


โดย: คุณอาผู้น่ารัก วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:07:25 น.  

 
แวะมาสวัสดีตอนเช้าค่ะ
ยิ้นดีต้อนรับสู่บ้านเสอมค่ะ อากได้สูตรใหนเอาไปเลยค่ะ
หรืออยากทำสูตรใหน ก็บอกได้นะคะ
แบบว่าชอบทำอาหารค่ะ


โดย: praewa cute วันที่: 10 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:18:49 น.  

 
น้องว่าผู้จัดการ จริงๆ แล้วคงไม่มีอะไรหรอกค่ะ ที่เข้มงวด อาจเพราะหน้าที่
จริงๆ แล้วน้องว่า เค้าชอบการทำงานของพี่นะคะ ยังไงพี่ก็ไม่ตกงานค่ะ
เรื่องกรีนการ์ด น้องไม่ทราบว่าต้องสัมภาษณ์มั้ย
เรื่องงานฝีมือ น้องไม่ได้ทำค่ะ พักก่อน ปวดตา
พี่ทานอาหารเช้าทุกเช้ารึเปล่าคะ
น้องไม่ค่อยได้ทำค่ะ นอกจากสามีอยู่บ้าน เค้าจะเป็นคนทำ เธอจะทอดจนกรอบ เราก็นั่งดู อาจช่วยนิดหน่อย
แต่น้องจะทำอาหารไทยเท่านั้นค่ะ แต่เดี๋ยวเม้นพี่เสร็จ จะไปทำคุกกี้ล่ะ แหะๆ ยังไงเนี่ย
ช่วงนี้ไม่ค่อยได้เข้าอ่านบล้อกเพื่อนๆ ของตัวเองก็ไม่อั้บ ชักจะเริ่มเบื่อค่ะ บางอย่างมันก็มีจุดอิ่มตัวเนอะ

เดี๋ยวน้องจะไปเยี่ยมหลาน (ลูกพี่สาวคนโต) ที่ DC. วันพฤหัสฯ นี้ค่ะ กลับวันอาทิตย์
ขับรถไปค่ะ เผื่อได้เที่ยวหลายๆรัฐ คำหล้าไปด้วย อิอิ
ไปพักที่บ้านหลาน หลานสาวมาเรียนโท(จบแล้ว)ทำงานไปด้วย เธอซื้อบ้านไว้ที่นั่นค่ะ จะพยายามเอารูปมาฝากค่ะ

ขอให้พี่และสามีมีความสุขมาก ๆ ค่ะ


โดย: forenoon วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:2:25:47 น.  

 


โดย: kitasornciao (kitasornciao ) วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:2:32:42 น.  

 
อ่านทุกตัวอักษรค่ะ อ่านแล้วเข้าใจความรู้สึกนะคะ เอาน่ะสักวันมันก็ต้องเป็นวันของเราค่ะ ความอดทน กับ Positive attitude จะพาเราไปพบกับ "วันของเรา"สักวันนะคะ

ชีวิตคล้ายกันค่ะ เพราะแพทกับสามีก็ไม่มีลูก อยู่กันสองคนค่ะ แต่ Life in Germany นี่จะแตกต่างกับที่อเมริกามากมายค่ะ เหมือนๆจะเริ่มจาก ติดลบศูนย์..ยังไงก็ไม่รู้...เพราะภาษาอังกฤษที่อุตส่าห์มั่นใจว่าดี๊ดี..มาถึงที่นี่ก็ "จอดสนิท" เพราะต้องมาเริ่มเรียน ABC version German! ใหม่หมด วันนี้...สามปีแล้วค่ะ ดีใจและภูมิใจมากที่สื่อสารภาษาเยอรมันได้เพิ่มอีกภาษานึงค่ะ

ที่คุณไก่ถามมานั้น สาขาMcDonald's ที่แพททำงานเค้ามีกฏ "ห้ามนำอาหาร-เครื่องดื่ม" ออกนอกร้านค่ะ ทานได้เฉพาะช่วงพัก และในร้านเท่านั้น บรรดาเบอร์เกอร์ที่ทำไว้นานเกิน 10-15นาที เค้าจะทิ้งลงถังขยะทันที ถ้าพนักงานจะขอเอามาทาน...ตอนเจ้านายไม่อยู่..คิดว่าน่าจะได้ค่ะ

ถ้านำอาหาร-เครื่องดื่มของ McD ออกจากร้านจะถือว่า "ขโมย" ค่ะ ข้อนี้เค้าเขียนไว้ชัดเจนในสัญญาจ้าง.... เราคิดว่าเค้าทำเพื่อปกป้องตัวเองเพราะไม่งั้นพนักงานคงจะขนนำสินค้าออกมากันตรึม..หุๆๆ
อากาศที่นี่เริ่มแย่เหมือนกันค่ะ ฝนตกแถมลมแรงสุดๆ คุณไก่พักผ่อนรักษาสุขภาพนะคะ ตอนนี้อดทนไปก่อนรอให้เศรษฐกิจดีขึ้นกว่านี้แล้วค่อยขยับขยายเนอะ..ใจเย็นๆค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ


โดย: Flowerfun วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:4:34:01 น.  

 
สองตายายน่ารักมากค่ะ ดูอบอุ่นมาก แฟนพี่ยิ้มดูเป็นคนใจดีมาก ๆ เลยนะคะ

เรื่องงาน ขอชื่นชมเลยค่ะ พี่เก่งมาก ๆ ความพยายามเป็นเลิศค่ะ


โดย: ANGEL_CS วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:5:24:52 น.  

 
อินทรีทองคำ อยู่ MD จ้า คนส่วนใหญ่ก็อยากจะอยู่ CA หรือไม่ก็ NY เพราะคิดว่ามีเมืองใหญ่อย่าง La หรือ นิวยอร์ค ซึ่งหางานทำง่าย
ปกติค่าแรงทำเสริฟเค้าจาให้กันไม่แพงอะจะ จาให้กินทิป เห็นเพื่อนของ อินทรีทองคำบอกว่า ได้วันละ ร้อยกว่าดอล แต่ร้านส่วนใหญ่เค้าจาไม่จ้างคนที่มีบัตร เค้าจาจ้างเด็กที่มาเรียนซะมากกว่า เพราะถูกกว่าเยอะ แล้วถือเป็นการช่วยกันด้วย แต่อินทรีทองคำว่า จ้างคนที่มีบัตร จาช่วยได้มากกว่า เพราะเด็กมาเรียนส่วนใหญ่ก็รวยอยู่แล้วกันทั้งนั้น อยากบอกคุณ Jiney ว่า เห็นใจคนทำร้านอาหารมากทั้งคนเสริฟและเจ้าของอะจะ เพราะเคยทำร้านมา เรียกว่าค่าใช้จ่ายมันเยอะมากถึงขั้นเบื่อเลย ร้านเล็กๆแบบไม่มีคนช่วยทำกันแค่สองคนในร้าน ค่าใช้จ่ายไม่รวมค่าครองชีพส่วนตัว จะอยู่ในราวๆไม่ต่ำกว่า สีพันดอลต่อเดือน ยิ่งถ้าร้านที่มีที่นั่งให้ลุกค้านั่งทาน อย่างต่ำ หกพันดอลต่อเดือน บางร้านก็หมื่นกว่าต่อเดือน ถ้ามีกุ๊ก ยิ่งแพง เงินต้องมีจ่ายออกแบบนี้ รับจาน้อยมากๆ พวกร้านอาหารถึงประหยัดค่าแรงกันสุดๆ เพื่อนของอินทรีทองคำยังบอกเลย ว่าไปทำอีกร้านนึง บางทีก็ดูรู้เลยว่า เจ้าของร้านจ่ายอย่างเดียวเลย มีแต่เงินหมุน
ร้านที่รายได้ พันกว่าดอลต่อวันถึงจะมีกำไรอะจะ แต่ทำงานเสริฟ อินทรีทองคำว่า มันไม่คุ้มตรงที่เราเสียสุขภาพ ไม่สบายก็ต้องดูแลเอง บางร้านได้ทิปเยอะก็จริง รับทิปกันแบบไม่ต้องจ่ายภาษี แต่ว่าเวลาป่วยเนี่ย ไม่มี health insurance ก็ลำบาก เห็นเค้าว่างานเสริฟอย่างตำรับกันก็ ร้อยกว่าดอล ต่อวัน ไม่เคยไปทำอะจะ อยากทำเหมือนกัน แต่ติดที่ว่าแก่ไป เค้าไม่รับอะจะ อิอิ
ตอนนี้หลังจากปิดร้านไป ก็คิดจะทำงานที่ไม่ต้องไปทำนอกบ้านจ้า ก็ได้แต่หวัง รอกลับไปเมืองไทยด้วย ปกติก็ไม่ได้กลับบ่อยเหมือนคนอื่น ที่เขากลับกันปีละสองสามครั้งอะจะ แบบว่าไม่สามารถพอ ของอินทรีทองคำเนี่ย สามปีครั้ง แต่นี่จาเข้าปีที่ห้า ยังไม่ได้กลับเลย อิอิ
ครอบครัวคุณ Jiney น่ารักดีจ้า อยู่ทางโน้นอากาศดี เสื้อผ้าของ Old Navy สไตล์เก๋ดีจ้า ราคาก็โอเค คุณ Jiney ดูแลรูปร่างดีจัง


โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:7:16:39 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไก่ ไม่ได้มาหลายวันได้มาอ่านที่พี่ไก่เขียนแล้วก็ทำให้นึกถึงตัวเองว่าชีวิตก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องมาอยู่อเมริกาเลย

เคยคิดเหมือนพี่ไก่ว่าเคยเห็นคนที่เค้ามาทำงานในอเมริกาตามร้านอาหารเห็นเก็บเงินเก็บทองกลับบ้านกันมากมาย ก่อนจะมาอยู่ก็นึกอยู่เหมือนกันว่าถ้าทำร้านอาหารแล้วได้เงินเยอะจริงๆก็อยากลองบ้าง แต่พอมาถึงนอกจากจะไม่ได้ลองแล้วยังไม่จะขอทำอีกด้วยค่ะ เพราะฟังหลายคนเล่ามาว่าโดนกดขี่แรงงานมากกับคนไทยด้วยกัน คนที่ทำอยู่ได้ก็เพราะเค้าอาจมีความจำเป็น หรือไม่ก็มาแบบไม่ถูกกฏหมายก็เลยต้องทำ บางคนอาจโชคดีได้ร้านที่มีเจ้าของใจดีก็ดีไป แบ่งทิปให้ยุติธรรม ทำแล้วแฮปปี้ก็เห็นมีหลายคนนะคะ

เห็นอาหารที่พี่ไก่ทานก็นึกถึงสามีกุ้งสมัยก่อน คือเค้าก็จะทานอาหารสไตล์นี้เหมือนกันค่ะ แต่กุ้งไม่ทานเลย เดี๋ยวนี้สามี diet ค่ะ ทานสลัดและปลาเป็นหลัก น้ำหนักลดไปตั้ง 20 ปอนด์ค่ะ ส่วนกุ้งยังลดไม่ลงเลย

ดีใจด้วยนะคะที่ตัดสินใจทำในสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดแล้วในเรื่องงาน คนอื่นไม่รู้ดีไปกว่าพี่ไก่แน่ค่ะ เพราะพี่ไก่เป็นคนที่เจอกับสถานการณ์เองกับตัว คนเราก็ย่อมมีเหตุผลและความจำเป็นที่ต่างกัน อย่างพี่ไก่เบื่อที่จะอยู่บ้าน ไปทำงานก็ย่อมจะดีกว่าหากงานนั้นไม่ถึงกับทำให้พี่ไก่หดหู่เศร้าใจจนทำไม่ได้

กุ้งอยู่บ้านเป็นหลักค่ะ งานก็ทำที่บ้านมีห้องทำงานของตัวเอง มีความสุขเพราะไม่ต้องตื่นแต่เช้าแล้วกลับมาอีกทีก็เย็น มีเวลาได้ทำอาหารที่ทำได้ให้สามีทาน แล้วตัวเองก็ทำทานเองด้วย ตอนนี้เศรษฐกิจแย่ทำอะไรก็ไม่ค่อยดีเลยค่ะ อย่างกิจการของกุ้งตอนนี้ก็อืดมาก แต่ปกติสามีก็เป็นหลักเหมือนพี่ไก่นั่นแหละค่ะ

ขอให้พี่ไก่มีความสุขมากๆนะคะ


โดย: amskye วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:21:28 น.  

 
ไปเที่ยวตีกอล์ฟกลับมาเจอเบคอน

ท้องหายแล้ว เพราะเที่ยวหนัก

ขออณุญาตคุณสามีคนสวยหม่ำก่อนนะ

555555


Photobucket


โดย: hiansoon วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:16:47:09 น.  

 
อาหารน่ากินจังค่ะ แต่น่ากลัวอ้วน เพราะไม่ค่อยเห็นมีผักเลย
เรื่องงานมันแย่มากๆเลยค่ะพี่หนูอ่านดูแล้ว แต่ยังว่าเศรษฐกิจแบบนี้ เค้าคงเห็นว่าเรายังไงก้ต้องทนเอาๆ เค้าก็เลยจะกดขี่ยังไงก็ได้


โดย: quilt วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:18:42 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่ไก่ ลำบากใจนะค่ะ ถ้าทำงานแล้วมีปัญหากับผู้ช่วยนะค่ะ เพราะว่าเราต้องรับงานจากเขานะค่ะ

สาก็เป็นนะค่ะ มีอยู่คนหนึ่ง งี่เง่ามาก สาไม่คุยกับมันเลย มันสั่งอะไรสา สาเดินหนี ไม่ใช่อะไรหรอกที่เดินหนีได้ เพราะว่าที่ทำงานมีผู้ช่วยหลายคนค่ะ สาก็เดินไปหาผู้ช่วยคนอื่น บอกว่าจะให้ทำอะไร แบบนี้นะค่ะ

พี่ไก่ แฟนสาก็เป็นคนแคริฟอร์เนียค่ะ พี่ไก่โต ที่โน้นเรียนที่โน้น และทำงานโน้น พักหนึ่งถึงจะย้ายมาอยู่เท็กซัส พอย้ายมาอยู่แล้ว สาถามแฟนสาอยากไปอยุ่ไหม? บ้านเกิดอะ แฟนบอกว่าอยากกลับ แต่ว่าบ้านแพง ของกินแพง แล้วภาษีต้องรายได้จ่ายซับซ้อนอะ สรุปว่าอยู่เท็กซัสดีกว่าค่ะ แต่ญาติๆ แฟนยังอยู่ที่โน้นกันค่ะ พี่ไก่จะมาเท็กซัสนัดกินข้าวกับสาไหมค่ะ? ถ้าจะเจอกันที่ไหน บอกล่วงหน้าหน่อยนะค่ะ สาจะดูว่าหยุดวันไหนนะค่ะ




โดย: Candydolls วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:02:06 น.  

 
สามีพี่ดูน่ารัก ใจดีจังค่ะ อย่างนี้รักแย่เลยเนอะ
แวะมาตอบคำถามเรื่องเค้กนะคะ ขอโทษที่ตอบช้า พอดีไม่ค่อยได้เช็คอ่ะค่ะ
ถ้าไม่มีครีมออฟทาร์ทาร์ ไม่เป็นไรค่ะ บีบมะนาวลงไปแทนก็ได้ค่ะซัก ๑/๒ ชช. ใช้แทนได้ค่ะ ถ้าลองทำแล้วเอามาอวดมั่งนะคะ ขอให้อร่อยๆค่า


โดย: jib (IyadA ) วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:8:55:48 น.  

 
อยากกินออมเล็ทจัง
สามีน่าตาน่าเอ็นดูนะคะ
เข้าใจเลือก
Happy Valentineค่ะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 12 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:55:08 น.  

 
ฝนจะตกอีกแล้วนะคุณพี่ รักษาสุขภาพร่างกายให้อุ่น ๆ ไว้เด้อค่ะ

แล้วคุยกันใหม่จ้า


โดย: ถั่วงอกน้อยค่ะ วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:2:50:54 น.  

 
สวัสดีค่ะพี่เจนนี่ขอเรียกพี่น่ะค่ะ
ชีวิตที่ไม่มีมือที่สาม<ลูก>นี่ก็สุขสบายอีกแบบน่ะค่ะ
ไม่ต้องมีห่วง
อยากกินอยากทำอะไรก็สะดวกสบาย


โดย: DUNHILL วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:3:22:27 น.  

 
ชีวิตในอเมริกาสะดวกแต่ไม่สบาย ส่วนชีวิตที่เมืองไทยสบายแต่ไม่สะดวกเนอะคะ


โดย: pim(พิม) วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:51:44 น.  

 


แวะมา Happy Valentine’s ค่ะ น้องไก่


โดย: พี่แป๊ว (แม่น้องแปงแปง ) วันที่: 13 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:58:50 น.  

 


Happy Valentine's Day มีความสุขมาก ๆนะคะ พี่ไ ก่


โดย: นางฟ้าของชาลี วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:5:59:50 น.  

 
ชีวิตพี่ไก่ช่างน่าอิจฉาจริงๆ เลยค่ะพี่ สุขสันต์วันวาเลนไทน์นะค่ะ อ้อเอาดอกไม้มาส่งค่ะ

Photobucket


โดย: ladysamui วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:9:16:20 น.  

 


มีความสุขนะคะคุณไก่


โดย: vanilla_ole วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:12:21 น.  

 


แอนแวะมาส่งความสุขให้พี่และแฟนพี่ ขอให้มีความสุขมากๆ ความรักสดชื่น สดใส เบ่งบานในหัวใจ มั่นคง ยาวนาน ตลอดกาลค่ะ


โดย: ann_269 วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:23:41:33 น.  

 




สวัสดีวันแห่งความรักค่ะพี่จินนี่
ขอพี่และคุณพ่อบ้านมีความสุขมาก ๆ ในวันพิเศษนี้นะคะ



โดย: Tristy วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:18:30 น.  

 
Photobucket

มาเป็นกำลังใจให้พี่สู้ๆค่ะ


โดย: superss วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:18:54 น.  

 
พี่ไก่ ให้เกียรติน้องมาก ๆ เลยค่ะ ทิพย์ดูจากรูปพี่ไก่ดูมีความสุขมาก ๆ มิน่าหล่ะ สามีถึงอยากให้พี่ร่าเริง บางทีเรื่องงานพอทำเสร็จแล้ว เราเปิดถังขยะที่ทำงานแล้วบอกว่าฉันจะทิ้งมันไว้ในนี้แหละ แล้วกลับบ้านด้วยความสุข ก็น่าจะดีนะคะ พี่ว่าไหม (แต่มันทำยากมาก ๆ เลยเพราะถ้าเป็นน้องก็คงทำได้ยาก หุหุหุ) ถ้าเราทำได้ มันก้อจะทำให้ชีวิตครอบครัวเรามีความสุขเนอะพี่เนอะ เพราะชีวิตเราวัน ๆ อยู่ที่ทำงาน แล้วมันเรื่องอะไรที่เราจะเอาเวลาครอบครัวที่เรามีน้อยนิดไปทิ้งให้ที่ทำงาน ซึ่งไม่เคยให้อะไรเรานอกจากความเครียด เอิ๊กสํ ทิพย์ว่าเดี๋ยวพี่ไก่ก็หางานได้ค่ะ งานบัญชีด้วย เพราะอย่างน้อยพี่ก็มีประสบการณ์ ประสบการณ์อยู่ที่ไหนก็คือประสบการณ์ มันเป็นสิ่งที่ติดตัวเราไม่มีใครแย่งไปจากเราได้ อดทนอีกนิดนะคะ โอกาสกำลังเดินทางมา แล้วก็...

คลิกที่รูป เพื่อเอาโค้ดรูปนี้ไปแปะ
[ของตกแต่งโดนๆคลิกเลย]


โดย: teddybear@LB วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:0:30:15 น.  

 
ยินดีที่กลับมาทำงานอีกครั้งนึงค่ะ
มีความสุขทุกวันนะคะพี่จินนี่





โดย: หมูปิ้งไม้ละ 5 บาท วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:11:13:06 น.  

 
อาหารน่าอร่อยมากค่ะ ชอบเตาทำแพนเค้กดูเก๋จังเลยนะคะ


โดย: Too Optimistic วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:14:06:50 น.  

 
สวัสดีค่ะ พี่ไก่ แวะมาทักทายหลังจากกลับมาจากเมืองไทยค่ะ อ่านเรื่องของพี่ไก่ แล้วต้องยกนิ้วให้ว่าเก่งมากๆค่ะ ทั้งในเรื่องชีวิตและการปรับตัวเก่งมากๆค่ะ ขอให้พีไก่กับสามีมีความสุขและพบแต่สิ่งดีๆตลอดไปนะค่ะ


โดย: แมวขี้อ้อน วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:21:04:05 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สวยตลอดกาล
Location :
Southern California United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]






Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2552
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
 
10 กุมภาพันธ์ 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สวยตลอดกาล's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.