กรกฏาคม 2553

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
เกร็ดความรู้.. สำหรับคนชอบทานอาหารทะเล


กินปลา
ไม่อ้วน ฉลาด และอายุยืน
ปลา มีคุณค่าทางโภชนาการสูงมาก ให้โปรตีนสูงแต่ย่อยง่าย มีไขมันและคอเลสเตอรอลน้อยกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่น และยังเป็นแหล่งวิตามินบี 1 บี 2 บี 3 บี 12 และวิตามิน ดี รวมถึงเกลือแร่ธาตุสำคัญ เช่น ฟอสฟอรัส ซีลีเนียม สังกะสี แคลเซียมและไอโอดีน การบริโภคเนื้อปลาเป็นประจำช่วยลดความเสี่ยงของโรคอันตรายหลายชนิด อาทิ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง กินปลาสม่ำเสมอยังช่วยลดอัตราเสี่ยงต่อโรคอัมพาต โรคปวดศรีษะ(ไมเกรน)โรคสมองเสื่อมและโรคกระดูกพรุน และช่วยบำรุงให้สุขภาพแข็งแรง
การ รับประทานปลาไขมันต่ำช่วยลดความเสี่ยงของโรคหลอดเลือดและโรคหัวใจ

เพราะ ไขมันในปลาจัดอยู่ในกลุ่มไขมันไม่อิ่มตัว ที่เรียกว่า โอเมก้า-3 ต่างจากไขมันในสัตว์บกที่เป็น โอเมก้า-6 ซึ่งสร้างสารพรอสตาแกลนดินส์ ซึ่งหากมีสะสมมากเกินไปจะทำให้เลือดแข็งตัวต่างจากโอเมกา-3ที่ลดจำนวนพรอสตา แกลนดินส์ และยังจำเป็น ต่อขบวนการเผาผลาญให้เกิดพลังงาน ไม่ก่อให้เกิดไขมันอุดตัน ซึ่งช่วยลดการจับตัวเป็นก้อนหรือแข็งตัวของเกล็ดเลือด เป็นสาเหตุสำคัญของโรคความดันโลหิต โรคหลอดเลือดอุดตันในสมอง โรคทางเดินหายใจและโรคหัวใจ

โอเมก้า-3นั้นร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองโดย ธรรมชาติ แหล่งโอเมก้า-3 ที่ดีอยู่ในอาหารจากปลาทะเลคือเนื้อปลาทะเล การรับประทานอาหารที่ปรุงจากปลาหลายชนิดอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้งช่วยเสริมสร้างสุขภาพแข็งแรง ไม่อ้วนและยังช่วยป้องกันโรคได้มากมาย

คนชอบกินปลาจะมีสุขภาพดี และอายุยืน

โอเมก้า-3 ประกอบด้วยกรดไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งมีประโยชน์อีกมาก โดยเฉพาะ อีพีเอ(EPA)และดีเอชเอ(DHA) ซึ่งมีฤทธิ์ต่อจิตใจและสมอง แต่เรื่องของเนื้อปลากับสมองมันเกิดขึ้นได้อย่างไร

เรามักได้ยินคำกล่าวที่ว่ากินปลาแล้วฉลาด เพราะเนื้อปลาอุดมด้วยกรดอะมิโนไทโรซินซึ่งกระตุ้นสารสำคัญในสมองที่ส่ง เสริมความกระฉับกระเฉง กระตุ้นตึ้นการทำงานของเซลล์สมองว่องไวขึ้น สารดีเอชเอช่วยพัฒนาสมองส่วนความจำและการเรียนรู้ เสริมใสร้างการเติบโตของปลายประสาท ในส่วนความจำและสมาธิ ทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณผ่านเครือข่ายเส้นใยระหว่างเซลล์สมองด้วยกัน ทำให้เกิดการเรียนรู้ดีขึ้น จึงช่วยป้องกันเซลล์สมองฝ่ออันก่อให้เกิดโรคสมองเสื่อมหรืออัลไซเมอร์ได้ดี ด้วย

วิตามินและเกลือแร่จากปลายังออกฤทธ์ต่อจิตใจ
มีผลงานการวิจัยในอเมริกายืนยันว่ากรดไขมันโอเมก้า-3 กระตุ้นการสร้างสารเคมีในสมองที่เรียกว่า เซโรโทนิน ซึ่งออกฤทธิ์ต้านอาการซึมเศร้าได้ ผู้ป่วยโรคนี้มีอารมณ์ดีขึ้นหลังได้รับกรดโอเมก้า-3 ต่อเนื่องนาน 4 เดือน
การรับประทานปลาทะเลเป็นประจำช่วยคลายเครียด ลดอาการปวดศรีษะและต้านอาการซึมเศร้า ที่สำคัญคือ ทำให้คนชอบกินปลามีอารมณ์ดีขึ้น


ฉลาด เลือกกินปลา

กิน ปลาให้ฉลาดต้องฉลาดเลือก เลือกปลาสดที่ไม่มีกลิ่นคาวหรือกลิ่นฉุนของสารฟอร์มาลีน ปลาสดควรมีกลิ่นน้ำทะเลปนกลิ่นโคลนโดยธรรมชาติ
ปลารสชาติดีที่สุดต้องมีวิธีปรุงที่ดีด้วย เนื้อปลาต้องไม่สุกเกินไป มีรสหวานตามธรรมชาติ เนื้อไม่เละ ไม่แห้งหรือไม่ใสเกินไป การปรุงอาหารจานปลาที่ดีจะได้รสเนื้อปลาหวานนุ่มลิ้นและไม่มีกลิ่นคาว
หากต้องหารรักษาคุณค่าของกรมไขมันโอเมก้า-3 เอาไว้ ไม่ควรทอดหรือย่างปลานั้นนานเกินไปจนละลายไขมันไปหมด การต้ม แกง ผัดหรือนึ่ง รักษาโอเมก้า-3ไว้ได้มาก

ปลาเต๋าเต้ย (Pampus chinensis)
เป็นปลาที่ชาวจีนนิยมรับประทานมาก มีลักษณะคล้ายปลาจะละเม็ดขาวแต่สีผิวออกเทาๆ บางทีเรียกง่ายๆว่าปลาจะละเม็ดเทา มีขนาดใหญ่และเนื้อแน่นกว่าจะละเม็ด เป็นปลาชอบน้ำลึกแต่ก็อาศัยในน้ำกร่อยได้ มีมากทางทะเลแถบประเทศพม่าและอินโดนีเซีย เป็นปลาราคาแพงเพราะเนื้อมีรสชาติมันอร่อยและหวานตามธรรมชาติ แต่มีคอเลสเตอรอลน้อย ใช้ปรุงเป็นอาหารได้ดี มีราคาแพง แต่ให้คุณค่าคุ้มราคา อุดมด้วยโปรตีนและไขมันชนิดดี ย่อยง่าย มีโอเมก้า-3 ช่วยบำรุงหัวใจ คลายความเครียดและลดความเสี่ยงต่อโรคสมองเสื่อม ครีบปลาทอดกรอบอร่อยมากให้แคลเซียมสูง



ปลาเต๋าเต้ยจักรพรรดิ์
ปลาเต๋าเต้ยในน้ำซุปเครื่องยาจีนและพริกไทยดำ เนื้อปลารสกลมกล่อมหวานมันตามธรรมชาติ มีคุณค่าโปรตีนสูงแต่ไขมีนต่ำ น้ำซุปพริกไทยดำช่วยระบบไหลเวียนโลหิต และเจริญอาหาร รับประทานกับผักคึ้นไฉ่และยอดผักฟักแม้ว ซึ่งมีสรรพคุณช่วยลดคอเลสเตอรอลและเส้นใยช่วยให้อิ่มท้อง

ปลาจะละเม็ด(Silver Pomfret/Pumpus argenteus) คนจีนเรียกปลาแปะเซียะ
ปลาจะละเม็ดหรือจาระเม็ดขาว เพราะลำตัวมีสีเงินและแถบสีฟ้า เนื้อแน่นกำลังดี นิยมปรุงด้วยการนึ่งและทอด จานเด่น คือ จาละเม็ดทอดกระเทียม ให้คุณค่าอาหารโปรตีน ไขมันจากเนื้อปลา กระเทียมช่วยลดคอเลสเตอรอลและความดันโลหิตและลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งบางชนิด

ปลาเก๋าแดง (Red-Banded Grouper)
รูปร่างยาวเรียว ด้านข้างแบน หัวโต ตาโต ปากกว้างแต่จะงอยปากสั้น มีฟันเขี้ยวยาวและคม พื้นตัวสีแดงสด ชมพูอ่อนและสีน้ำตาลปนแดง ตามแต่สภาพแวดล้อม หากินตามแนวหินปะการัง พบแถบอันดามันและอ่าวไทย เนื้อปลานุ่มแน่นดีมีไขมันต่ำ ปรุงอาหารได้หลายประเภท ทอด นึ่ง และต้ม

ปลาเก๋าจุดน้ำตาล (Greasy grouper )
ชาวจีนเชื่อมาแต่โบราณว่าเนื้อปลาเก๋ามีคุณค่าทางอาหารที่ช่วยสร้างกำลังได้ดี ปลาเก๋าจุดน้ำตาลหรือเก๋ากะรังปากน้ำ(ตุ๊กแก)เป็นปลาขนาดใหญ่ ตัวป้อมยาว 30- 150 ซม. หัวโต ตาโต ครีบและก้านครีบอ่อนติดเป็นแผ่นเดียวกัน พื้นตัวสีเทาและมีน้ำตาลอยู่บนหัวและข้างลำตัว บางตัวมีจุดตามหัวและลำตัว เนื้อมีรสอร่อย ปรุงเป็นอาหารได้ดี นักตกปลานิยมตกเป็นเกมส์กีฬา

ปลาเก๋าดอกหางตัด(Areolated Grouper)
ปลาเก๋าขนาดใหญ่รูปร่างป้อมยาว 20-280 ซม. หัวค่อนข้างใหญ่ ตาโตและอยู่ใกล้ส่วนโค้งของหัว ปากกว้างเฉียงขึ้น ฟันเขี้ยวแหลม ครีบหลังยาวและแข็ง ส่วนครีบหางใหญ่และเว้าเล็กน้อย อาศัยตามกองหินและแนวประการัง มีมากแถบอันดามันและอ่าวไทย เนื้อมีรสดีมาก และช่วยเสริมสร้างกำลังได้ดีมาก

ปลากะพงขาว (Giant seaperch)
เป็นปลาน้ำกร่อยมีรูปร่างยาว 20- 40 ซม. ลำตัวหนา ด้านข้างแบน หัวโต ตาโต ปากกว้าง ฟันเป็นเขี้ยว พื้นตัวสีขาวเงินปนน้ำตาล แนวสันท้องสีขาวเงิน เนื้อมีรสชาติดี ปรุงอาหารได้หลายประเภท

ปลาเห็ดโคน (Kisu/Silver Sillage)
เป็นปลาขนาดเล็กอาศัยในทะเลแต่ชอบเข้าใกล้ฝั่งช่วงธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ตัวกลมยาว มีเกล็ดใสกลางตัว ด้านข้างมีแถบสีเงินจากใต้ครีบจนถึงหาง ขอดเกล็ดปลาแล้วทอดกรอบมีรสอร่อยมาก ให้แคลเซี่ยมสูง ส่งผลดีต่อกระดูกและฟัน ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน

ปลากระบอก (Mugel cephalur limmaeus)
มีหลายชนิด เช่นกระบอกหลังเขียว กระบอกหูดำ กระบอกหางบาน กระบอกหัวแหลม เป็นปลาวางไข่ในน้ำลึก แล้วลูกปลาว่ายเข้ามาเติบโตตามชายฝั่ง เป็นปลาเนื้อละเอียด หอม นุ่ม มีความมันแน่นในเนื้อ คนไทยชอบรับประทานมาก บางคราวชาวจีนนิยมใช้เนื้อทำอาหารแทนเนื้อไก่ ขอดเกล็ด ตัดครีบ เฉือนแก้มแข็งสองข้างทิ้ง ไม่ต้องตัดหัว ใช้ปรุงอาหารหลายชนิด เช่น แกงฉูฉี่ใส่ใบยี่หร่า แกงส้ม ต้มข่า ต้มส้ม ต้มยำ ได้รสชาติดี

ปลาทู
เป็นปลาที่มีคุณค่าโภชนาการสูง มีโอเมก้า-3 มาก ไอโอดินและแคลเซียมสูง ราคาไม่แพงปลาทูลือชื่อต้องปลาทูแม่กลอง มีลักษณะพิเศษ คือ หน้างอคอหัก ลำตัวอ้วนพี ฤดูกินปลาทูอร่อยอยู่ในช่วง เมษา ถึงพฤษภาคม ของทุกปี ปรุงอาหารได้หลายชนิด ทั้งทอด ต้ม นึ่ง กินปลาทูได้โปรตีนจากเนื้อปลา แคลเซียมเสริมสร้างกระดูก และไอโอดินช่วยป้องกันโรคคอหอยพอกและโรคเอ๋อ

ปลาสำลี
คนไทยนิยมรับประทานมากเพราะเนื้อแน่นนุ่มและปรุงอาหารได้หลายขนิด นึ่ง ย่างหรือ ทอด ปลาสำลีเป็นปลาทะเลไทยท่มีน้ำมันปลาและกรดไขมันไม่อิ่มตัวโอเมก้า-3และดีเอชเอเช่นเดียวกับปลาทู ปลาเนื้ออ่อนและปลากราย

ปลาบู่(marbled Sleepy Gogy)

ปลาน้ำกร่อย ตัวกลม หางแบน ปากกว้าง ตาเล็กโปน คุณค่าทางอาหารสูง เพราะเนื้อมีโปรตีน ไขมัน และคาร์โบไฮเดรตสูง ทำให้เนื้อมีรสหวานอร่อยกว่าปลาอื่น คนจีนนิยมบริโภคมากเพราะเชื่อว่าช่วยเพิ่มพลังทางเพศ นิยมปรุงด้วย

ปลาเนื้ออ่อน (Whisker Sheatfish)
ปลาน้ำจืด ไม่มีเกล็ด รูปร่างค่อนข้างแบน หัวแบนเล็ก ลำตัวเรียว เนื้อมีรสอร่อย ปรุงอาหารด้วยการทอดกรอบ ต้มยำ และนิยมตากแห้งทำเป็นปลากรอบ

เคล็ดลับ ของ “ปลา”
ฉลาดเลือก ปลา
เลือดกินปลามัน เช่น ปลาแซลมอน ปลาเต๋าเต้ย ปลาทูน่า ปลาโอ คือ เลือกกินปลาที่จับได้จากทะเลเปิด และปลาที่จับได้จากน้ำลึกในมหาสมุทร เพราะปลาน้ำลึกมีโอกาสรับสารพิษน้อยกว่าปลาแถบชายฝั่ง


เลือกกินปลาอายุน้อย ดูขนาดไม่ใหญ่เกินไป กรดไขมันในเนื้อปลาสะสมสารพิษน้อย

เลือกปลาสด ปลาน้ำลึกหรือปลาน้ำเย็นมีอายุเก็บแช่เย็นได้ประมาณ 1 สัปดาห์ คุณค่าก็จะเริ่มเสื่อมลง
ปลาหิมะ ปลากะพงขาวและกะพงแดง ปลากุเลา เก็บได้นาน 10 วัน

กลิ่นคาวจากตัวปลาจะบอกให้รู้ความสด ถ้าเลือกซื้อปลาก็ดูที่เหงือกปลาสีแดงสด ตายังใสไม่ขุ่นมัว ลำตัวเป็นประกายมัน ผิวหนังไม่แห้ง เกล็ดปลาไม่ด้าน ลองกดดูแล้วเนื้อแข็ง ไม่นิ่มยุบตามแรงกด

ถ้าเป็นชิ้นปลาตัดขายก็ดูเนื้อปลายังชุ่มชื้น เลือดสีแดงเรื่อ ไม่แห้ง
ต้องไม่ลืมว่าเก็บปลาสดไว้ไดไม่เกินสามวัน เพราะเลยเวลาแล้วคุณค่าทางโภชนาการหมดไป ปรุงอย่างไรก็ได้รสชาติที่ไม่อร่อยเท่าปลาสดๆ

เก็บปลาสดให้คงคุณค่าได้ดีที่สุด คือ เก็บทั้งตัว เอาปลาใส่ถุงพลาสติกแล้วรัดปากถุงแน่นๆ เก็บปลาแช่แข็งไว้ได้นาน 6 เดือน แต่ถ้าเป็นปลาเนื้อมันมากจะเก็บได้นานเพียง 3 เดือน


ไข่ปลา
ไข่ปลามีคุณค่าทางโภชนาการสูง คือ ให้พลังงานและสารอาหารสำคัญไม่ต่างจากเนื้อปลา ไข่ปลาทุกชนิดจะราคาถูกหรือแพงก็ใหคุณค่าทางโภชนาการไม่ต่างกันมากนัก ที่แตกต่างเป็นเรื่องของรสชาติ สีสัน และกลิ่น ที่ต้องระวังคือ มีคอเลสเตอรอลสูง


อาหารทะเล หรือ ซีฟู้ด นอกจากปลาแล้ว ก็มี ปู กุ้ง หอย ความนิยมขึ้นอยู่กับความชอบ ในรสชาติและการปรุง คนนิยมอาหารทะเลเผามากที่สุด ให้รสชาติและกลิ่นหอม และยังให้พลังงานต่ำ กินในปริมาณเหมาะสมก็จะไม่ทำให้อ้วน

กิน กุ้งสด
ปรุงอาหารหลากหลาย
ปกุ้งที่เราชอบทานกันมีหลายร้อยพันธุ์ ยิ่งหายากราคายิ่งแพง อย่างเช่น กุ้งมังกร แบ่งแยกประเภทได้งาย คือ กุ้งน้ำจืดกับกุ้งน้ำเค็ม หรือแบ่งเป็นกุ้งน้ำอุ่นกับกุ้งน้ำเย็น กุ้งแบบไทยๆก็เป็นกุ้งน้ำอุ่น หาไม่ยาก ราคาไม่แพง กุ้งมีไขมันและพลังงานต่ำ แต่มีคอเลสเตอรอลสูง จึงไม่ควรกินกุ้งเกินวันละ 2 ขีด กุ้งสดไม่สดดูง่าย กุ้งสดเปลือกแข็ง เนื้อแน่น หัวไม่ห้อยร่องแร่งแลไม่เหม็น

กินปู
อร่อยเหมือนกิน กุ้งมังกร
ปูสด เอนิ้วแหย่ดู ก้ามยังหนีบได้ ปูสด ปรุงสุก เนื้อแน่น ไม่ลีบแบนเหมือนปูค้างคืน วิธีต้มปูสดต้องจับปูหงายขึ้นแล้วใช้เข็มแทงตรงกลางอก ทิ้งไว้จนปูเลิกขยับขาก็ต้มได้ ถ้าต้มปูเป็นๆ แขนขาหลุดร่วงหมดเหลือแต่กระดอง

กินหอย
อร่อยในราคาย่อม เยาว์
เนื้อหอยกรุบกรอบได้ รสชาติมันๆ ยิ่งกินยิ่งมัน เนื้อส่วนอร่อยนี้คือ กล้ามเนื้อของหอย และเป็นกล้ามเนื้อที่แข็งแอรงเพราะใช้งานคลานตามพื้นดินเกาะตามโขดหิน กินหอยได้รสอร่อยเนื้อหวาน ต้องได้หอยสดและปรุงสุก เวลาเลือกซื้อหอยต้องดูที่ฝาปิดสนิท ถ้าเปิดอ้าซ่าคือไม่สด เมื่อนำหอยมาปรุงด้วยการนึ่ง ผัด ต้มแล้ว ต้องดูว่าเปลือกหอยอ้าเปิดออก เรียกว่าหอยสดปรุงสุกกินได้ แต่หอยตัวที่ปิดฝาแน่นเปิดยากแสดงว่าหอยสุกแต่ไม่สด ห้ามกิน จะท้องเสียหรือมีอาการอาหารเป็นพิษ




Create Date : 16 กรกฎาคม 2553
Last Update : 16 กรกฎาคม 2553 0:39:03 น.
Counter : 6602 Pageviews.

3 comments
  
อู้หู สาระน่ารู้ล้วนๆเลยค่ะ ชอบทานปลามากๆเลยค่ะ ขอบคุณที่นำมาแบ่งปันค่ะ
โดย: เกลือหนึ่งกำน้อย วันที่: 16 กรกฎาคม 2553 เวลา:1:58:41 น.
  
หิวว ปลาทู
โดย: แฟนหล่อ วันที่: 16 กรกฎาคม 2553 เวลา:8:29:33 น.
  
แนะนำร้านอาหาร พัทยา ชื่อ ร้านอาหาร ป.มีชีวิต (นามสมมุติ)
ชายหาด จอมเทียน

มีคนแนะนำมา ว่าเป็นร้านอาหารชื่อดัง ของหาดจอมเทียน ไหนๆก็มาพัทยาแล้ว เลยขอแวะ ก่อนกลับสักหน่อย

สั่งอาหารไปมากมาย อาหารจานแรกก็ถูกยกมาเสริฟ เมนู พนักงานเสริฟแนะนำ เมี่ยงปลา เป็นอาหารขึ้นชื่อ ของร้าน เขียนในเมนูด้วยว่า อาหารคนรักสุขภาพ

แต่กินไปสามสี่คำ กลายเป็นเมี่ยงแมลงวัน เพราะ แมลงวันเยอะมากๆ ต้องคอยใช้มือโบกไล่แมลงวันตลอดเวลา ถามพนักงาน ว่าทำไมแมลงวันเยอะขนาดนี้ เค้าบอกว่า “นี่เป็นหน้าแมลงวัน นะคะ ให้ทำใจ”

ทำใจ กินไปมือปัดเป็นพัลวัน ปัดไปได้สักพัก อาหารที่สั่งทยอยมาวาง กองทัพแมลงวันก็เริ่มมาก ขึ้นเรื่อยๆจนน่ากลัว เริ่มรู้สึกว่ามือเดียวปัดไม่พอ ปัดทางซ้าย ทางขวาก็มา ปัดไม่ทัน สู้กับมันไม่ไหว ปัดกันจนเหนื่อย ก็ไร้ประโยชน์

ต้องใช้ใบผักกาดขาวที่ให้มาเป็นกาบๆมาโบกไล่ พอหยุดปัด จะหันมากินบ้าง แมลงวันก็พร้อมใจกัน เข้าไปตอม ในอาหารอยู่ดี นึกถึงหนอนแมลงวัน เลยต้องปลง รับประทานไม่ลง เดินไปคุยกับเจ้าของร้าน ว่าเรากินไม่ได้เลยแมลงวันร้านคุณเยอะมากๆๆ

เจ้าของร้านบอกว่า “คุณต้องทำใจ คนไทยกับแมลงวันเป็นของคู่กันไม่มีใครเอาชนะธรรมชาติได้ ”???? ตกใจมากที่ได้ยินคำตอบแบบนี้

แล้วร้านเรามันเป็นแบบ open นะถ้าไม่อยากให้มีเลย คุณต้องไปกินในห้าง

(ประเด็น คือ มันเยอะเกินเหตุ ค่ะ )

“คุณดู ทำไมโต๊ะอื่นเค้ายังกินกันได้ ไม่เห็นมีปัญหาเลย ผมเปิดร้านมา สามสิบกว่าปีแล้ว”

เออจริง ด้วย … เราเริ่มสงสัย ว่าเราผิดปกติหรือป่าว

หันไป มองโต๊ะอื่นเขา กินกันอย่างเอร็ดอร่อย เอ๊ะ! ทำไมมันบุกมา
ตอมแต่โต๊ะเรา เราลอง เดินเข้าไปดูใกล้ๆ

พระเจ้าช่วย !!! เห็นชัดๆว่า เค้านั่งกินกัน ท่ามกลางหมู่แมลงวันที่ตอมอาหาร เราลืมตัว เอามือไปโบกที่อาหารเค้า ฝูงแมลงวันก็บินฮือ ออกมาจากอาหารที่เค้ากำลังกินกันอยู่

บางตัวก็ ไต่ตอมอยู่ที่ปากหลอดดูดน้ำ บางกลุ่มก็ไต่ตอม อาหารในจานของโต๊ะนั้น เห็นเขานั่งกินไปปัดไป

ตกลงนี่ เราบ้า หรือ พวกเขา เมา กันแน่ เนี่ย

คงเป็นเพราะตอนนั้นมีกันอยู่แค่ สอง สาม โต๊ะ แมลงวันเลยรุมกันเป็นพิเศษ ถ้าเราโชคดี มาในวันที่มี ลูกค้าหลายๆโต๊ะ คงจะช่วยแชร์ๆ แมลงวัน กันไป คนละ สิบ ยี่สิบตัว

แต่ที่แน่ๆ เราไม่กล้ากินอาหารที่มีแมลงวันตอมมากมายขนาดนั้น ถ้าคุณ คิดว่าสี่ห้าตัว คุณกำลังคิดผิด เพราะมันมีเป็นร้อย แล้วในครัวจะขนาดไหนเนี่ย
เจ้าของร้านบอกว่า
“คุณช่วยบอกวิธีกำจัดแมลงวันให้ผมหน่อย ถ้าตอบได้ ผมให้แสนนึง”
แหม อย่างกับเล่นเกมโชว์….

เราตอบได้โดยไม่ต้องขอใช้ตัวช่วย ว่า คุณต้องรักษาความสะอาด ให้มากที่สุด ปิดถังขยะให้มิดชิด พยามกำจัดทุกวิถีทาง ให้มันเหลือน้อยที่สุด ไม่ใช่ปล่อยให้ มันอาละวาด จนน่าเกลียด แบบนี้

เค้ากลับไม่ฟังและบอกว่า “ทำไม่ได้ เป็นไปไม่ได้มันต้องมี มันมาของมันเอง ผม ห้ามไม่ได้ ไม่ได้สั่งให้มันมาตอมอาหารคุณ มันมาเอง มันเป็นธรรมชาติ เหมือนคุณห้ามไม่ให้เมืองไทยมียุงคุณทำได้ไหม”

เราบอก นี่มันอาหารนะ ลูกค้าต้องอดทนเหรอ เค้าบอกว่า “คุณเข้าใจมั้ยผมไม่ได้แกล้ง” (ตอบไม่ตรงคำถามเลย แล้วที่สำคัญเราแกล้งคุณเหรอ ที่กินไม่ได้) “ผมไม่สามารถ สั่งห้ามแมลงวันไม่ให้มาตอมอาหารคุณได้”

(แต่เราก็ไม่สามารถกินอาหารที่มีแมลงวันตอมได้เหมือนกัน คุณครูสอนมาตั้งแต่อนุบาล) เจ้าของร้านบอกว่า “คุณจะให้ผมทำยังไง ไหนคุณลองบอกผมสิ” เราพูดว่า ถ้างั้นคุณบอกลูกค้าสิว่าแมลงวันร้านคุณเยอะมากๆๆนะครับ รับกันได้มั้ย

( แต่จริงๆในใจเราอยากพูดว่า ให้ ติดป้าย บอกลูกค้าไปเลย
ว่า ร้านนี้แมลงวันเยอะมากๆ อยู่คู่กับครัวเรามานาน
บอกก่อนเข้าร้าน ลูกค้าจะได้ทำใจล่วงหน้า หรือ เตรียมตัวรับมือกับแมลงวันร้านคุณ
เช่น หัดกินข้าวเคล้ากับแมลงวัน มาล่วงหน้า ให้ชิน หรือเตรียม ซื้อมุ้งมาคลุมโต๊ะ ซื้อไม้เทนนิส ช๊อตแมลงวัน อะไร ก็ว่าไป)

เจ้าของร้านบอกว่า “ แล้วถ้าคุณเป็นผมหล่ะ คุณจะบอกลูกค้ามั้ย”

(เราได้แต่เถียงในใจว่า…อ้าว แล้วนี่คุณหลอกให้เราสั่งอาหารมากมาย แนะนำ ให้เราสั่งอาหารมาหลายเมนู วางเต็มโต๊ะให้แมลงวันร้านคุณ มารุมแย่งกิน หรอเนี่ย เวรกรรม)

เราเชื่อว่าถ้าคุณบริหารจัดการให้ดีกว่านี้ แมลงวันจะต้องน้อยลง จนเราพอกินอาหารได้บ้าง อย่างแน่นอน เราลองหา ในgoogle มีวิธีกำจัดแมลงวันมากมาย ถ้าคุณพยายามมันต้องลดลงบ้าง เพราะเท่าที่เคยทานร้านอาหารทะเลมาก็ยังไม่เคยเจออะไรแบบนี้

แต่นี่ดูเหมือนคุณชินและทำใจรับสภาพ ว่าแมลงวันมันคู่กันกับอาหารทะเล ทั้งๆที่ความสะอาด สำคัญกว่ารสชาติของอาหาร คุณกลับไม่ยอมให้ความสำคัญ ไม่ยอมจัดการอะไรเลย

ลูกค้าต้องทนรับสภาพอย่างเดียว ถ้าคุณทำใจให้เป็นธรรม เห็นใจลูกค้าบ้าง คุณจะเข้าใจสิ่งที่เราต้องการสื่อคืออะไร

เจ้าของร้านบอก “คุณโกรธอะไรมาใช่ไหม แล้วมาลงที่ผมใช่ไหม”

จะบ้าตายนี่เราหยุดงาน มาเที่ยวพักร้อน เพิ่งตื่นนอนมาหาไรกิน อารมณ์ดีๆอยู่แท้ๆ เพิ่งจะมาอารมณ์บูดกัน ตอนรัวมือปัดแมลงวันจน จะเป็นเชียร์หลีดเดอร์ ที่ร้านคุณ เนี่ยล่ะ

แสดงว่าคุณเจ้าของร้านไม่ได้ รู้สึกเลยสินะว่ามันสกปรกมาก กลายเป็นเราที่เป็นคนแปลก ประหลาด ในสายตาคุณ

สุดท้ายเราทนเถียงกับคนแบบนี้ไม่ไหว ต้องยอมจ่ายเงินทั้งๆที่ไม่ได้กินอาหารเลย เจ้าของร้านดูบิลแล้วบอกว่า “เงินแค่นี้คุณมีปัญหาทำไม” พร้อมเอามือชี้ที่หัว พลางพูดว่า “คิดให้ดีก่อนมีปัญหานะ คิดให้ดีๆ” …..

อืม..ก็นั่นน่ะสิ เงินแค่นี้ จะมีปัญหาทำไม แต่เราคิดว่าคำพูดนี้น่าจะเป็นคำพูดของเรา ที่ใช้พูดกับคุณมากกว่า อีกอย่าง เงินไม่ใช่ปัญหาหลัก เพราะบ้านเราไม่ได้ยากจน เรามีงานทำ เราหยุดงานมาเที่ยว มีเงินมาจ่าย เราไม่ใช่คนเร่ร่อน มา หลอกกินอาหารฟรี ( เราเพิ่งกิน เมี่ยงปลา อาหารจานแรก ไป สองสามคำเองด้วยซ้ำ หลังจากนั้น ก็ ปัดแมลงวัน จนไม่ได้กินอีกเลย)
และ เราก็ไม่ได้อยากหาเรื่องขอส่วนลดใดๆทั้งสิ้น

แต่เราแค่รู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมต่างหากที่ถูกคุณเอาเปรียบกันแบบนี้ เจ้าของร้านบอกว่า “คุณเข้าใจมั้ยของผมทำออกมาแล้ว ผมลงทุนไปแล้ว” เราพยักหน้าบอก ค่ะเราเข้าใจ
เจ้าของร้าน กลับพูดว่า
“คุณไม่เข้าใจหรอก คุณคิดถึงแต่ตัวเอง” ( อ้าว แล้วทีคุณหล่ะจะให้เรากินอาหารที่มีแมลงวันบ้าเลือด ตั้งหน้าตั้งตากินอาหารแข่งกับเราหล่ะ ถ้าเราท้องเสีย ท้องร่วง เข้า โรงพยาบาล หล่ะ ใครๆก็รู้เข้า นอนโรงพยาบาล ที ไม่ต่ำกว่าหมื่น )

คุณก็ไม่เข้าใจเราเหมือนกัน เพราะคุณคิดถึงแต่ตัวเอง รู้แต่ว่าของคุณทำออกมาแล้ว เป็นตายยังไง ลูกค้าไม่พอใจ ยังไง คุณก็ไม่แคร์ ไม่สนใจความรู้สึกของลูกค้า เพราะ คุณคิดแค่ว่า จะไม่ยอมขาดทุนเด็ดขาด แม้เรื่องเล็กน้อย

ถ้าเป็นเมืองนอก ร้านคุณโดนสั่งปิดแน่

แต่จนใจ นี่เป็นประเทศไทย Thailand only T_T


อยากถามว่า ถ้าคุณซื้อแอร์มาใช้ที่บ้าน เกิดมันไม่เย็นขึ้นมา พอคุณถามคนขาย คนขายบอกว่า คุณต้องทำใจ เมืองไทยมันเป็นเมืองร้อน เปิดไปก็ไม่เย็นหรอก ผมไม่สามารถเปลี่ยนอุณหภูมิโลกได้ คุณจะรู้สึกยังไง คุณจะถามเค้ามั้ย ก็ในเมื่อคุณรู้ว่าแอร์เปิดแล้วมันไม่เย็น แล้วทำไมไม่บอกกันก่อน เราเสียเงินซื้อไปแล้วก็ใช้ประโยชน์ไม่ได้ คุณจะมาแนะนำ จะหลอกขายมาทำไม ให้เสียความรู้สึกกัน ให้บาดหมางกัน เปล่าๆ

อาหารที่ทำออกมาแล้ว มีแมลงวันมาตอมอาหารมากมาย จนลูกค้ากินไม่ได้ก็ไม่ต่างกัน

เข้าใจว่าคุณลงทุนทำอาหารออกมาแล้ว แต่แมลงวันร้านคุณมันตอม จนสกปรกไปหมด กินก็กินไม่ได้ คุณยังจะกล้าขายให้เราอีกหรอ ทางร้านอ้างว่าเป็นความผิดเรา ที่เราเข้ามาสั่งอาหารเอง ถ้าเราไม่สั่งเขาก็ไม่ทำออกมาวาง และแมลงวันก็จะไม่มาตอม อาหารเรา

สรุป คือ เรา อยากมาสั่งเอง ทำมาวางให้แล้ว กินกันไม่ได้เอง ก็ช่วยไม่ได้

เฮอะ!!…. ป่วยการจะเถียงกับคนแบบนี้

ถ้าเจ้าของร้าน อยากจะขายอาหาร อย่างเดียว คิดว่าสภาพแวดล้อมบรรยากาศ ความสะอาด ในระหว่างการทานอาหารในร้าน ไม่สำคัญ หรือ ไม่มีปัญญาจัดการกับแมลงวัน พาหะนำโรค แล้วล่ะก็ อย่าเปิดร้าน ให้คนนั่งทานจะดีกว่า ควรจะให้ลูกค้าซื้อกลับบ้านอย่างเดียว ไม่ใช่ปล่อยให้นั่งกินท่ามกลางฝูงแมลงวันแบบนั้น น่าจะมีจรรยาบรรณ สงสารสุขภาพลูกค้าบ้าง

ตอนแรกเราโกรธจนไม่อยากจ่ายเงินอยากแจ้งความมากกว่า แต่ คิดดูอีกทีคุณคงจะขาดทุนมากมาย อย่างที่คุณว่า เลยยอมจ่ายเงินไป อาหารเรา ก็ต้องทิ้งไปทั้งหมดแบบนั้น เพราะไม่รู้จะเอาไปทำอะไร หรือ ห่อกลับไปฝากใครได้ แมลงวันมันรุมตอมอย่างบ้าคลั่ง ขนาดตัวเรา ยังไม่กล้ากิน

ก่อนกลับเราถ่ายรูปป้ายร้าน เจ้าของร้านมีการขู่เรา ว่าถ้าเอาเรื่องนี้ไปโพสลง Internet เขาจะฟ้องเราแน่ ( เขาจบทนาย มา -_-!)

เราเลยย้อนไปว่า

ไหน คุณ บอกว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ ไง?!?

คุณเจ้าของร้าน คุณบอกเราเอง ว่า ร้านคุณต้องมีแมลงวัน และ เป็นธรรมดาที่ลูกค้าต้องทนนั่งกินอาหารท่ามกลางฝูงแมลงวัน แมลงวันกับคนไทยเป็นของคู่กัน แล้วคุณจะกลัวอะไร คุณ บอก ว่า มันเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ใช่เรื่องเสียหายไม่ใช่หรอ จะกลัวความจริงไปทำไม ในเมื่อคุณคิดว่า เรางี่เง่าเองที่กินข้าวท่ามกลางแมลงวันตอมเหมือนโต๊ะอื่นเขาไม่ได้

ถ้าคุณ คิดว่า ไม่ใช่ความผิดของร้านคุณ ถึงเราโพสไปคนอื่นก็ต้องเข้าใจร้านคุณ ถูกไหมคะ

จะมากลัว มาห้ามไม่ให้เราโพส ทำไม

( หรือ ที่ห้ามเรา ไม่ให้โพส แปลว่า ลึกๆแล้ว ในใจคุณเจ้าของร้าน คุณรู้ดี ว่าอะไรถูก อะไร ผิด ใช่ไหม )

เฮ้อ…คนเรา พูดมาแต่ละอย่าง เห็นแก่ตัว จนเราล่ะอึ้งจริงๆ

เข็ดจนตายจริงๆ เสียความรู้สึก มากๆ ต่อไปนี้ ก่อนไปทานอาหาร คงต้องระวังอย่างมาก หาข้อมูลให้ดีๆ ว่าร้านสะอาดไหม ใส่ใจความรู้สึกของลูกค้าแค่ไหน ไม่ใช่ใช้มารยาทแย่ๆ คำพูดแย่ๆ แบบนี้

งานร้านอาหาร เป็นงานบริการ วันหยุดพักผ่อน มาเจอเรื่องแบบนี้ เรารู้สึกแย่กันอยู่แล้ว ยิ่งมาพูดจาไม่ดี ไม่มีมารยาท ไร้เหตุผล ข่มขู่เราอย่างไม่ให้เกียรติ ไม่แคร์ความรู้สึกลูกค้า สนแต่เรื่องเงินทอง เรื่องกำไร ขาดทุน อย่างเดียว เราจึงไม่หลงเหลือ ความรู้สึกที่ดี กับร้าน ป.มีชีวิต และ เจ้าของร้านนี้เลย แม้แต่นิดเดียว ทั้งๆที่คนรู้จักแนะนำมาให้มากินแท้ๆ (เดี๋ยวเราจะกลับไปด่ามัน)

ขอเลือกร้าน ที่สะอาด นิสัยดี เป็นหลัก อร่อยน้อยหน่อย ไม่เป็นไร ดีกว่า จะได้กินแบบสบายใจ ไม่ต้องคอยไล่แมลงวัน

ปล ชื่อร้านอาหารเป็นนามสมมุติ นะคะ กรุณาอย่ามาเดาให้ถูก นะค่ะ เจ้าของร้านเขากลัวคนอื่นรู้ ค่ะ เขาขู่ ไว้ เดี๋ยว ดิฉันจะเดือดร้อน
แต่ดิฉัน อยาก เสี่ยงตาย พลีชีพ มาเตือนพวกคุณ ไว้ก่อนค่ะ ส่วนจะคิดเห็นกันประการใด ก็แล้วแต่ วิจารณญาณ ของแต่ละบุคคลนะคะ

ส่วนคุณเจ้าของร้านคุณต้องรู้ตัวแน่ว่าเป็นคุณ คุณควรใช้วิกฤตินี้ให้เป็นโอกาส ปรับปรุง พัฒนาร้าน ให้สะอาดนะคะ แมลงวันจะได้น้อยลง
ไม่ใช่นั่งเอ้อระเหย ไปวันๆ นั่งนิ่งดู แมลงวันบุกร้าน ปล่อยให้ลูกค้า เผชิญกับฝูงแมลงวันนับร้อย ระหว่างนั่งทานอาหาร ภายในร้านของคุณเอง แบบนี้

เผื่อเจอลูกค้า รักสะอาด งี่เง่า กินอาหารที่มีฝูงแมลงวันตอมไม่ได้ แบบเรา คุณจะได้ ไม่ต้อง มีปัญหาอีก


(หรือถ้าหมดปัญญาจริงๆ เราแนะนำ ให้คุณเจ้าของร้าน มายืนปัดแมลงวัน จนกว่าจะลูกค้าจะกินเสร็จ มือเราจะได้ว่าง ทานอาหารได้บ้าง รับรอง คุณจะเข็ด จนไม่ยอมปล่อย ให้ฝูงแมลงวันบุกร้าน อีกเลย^^)


**เราขอสาบาน ว่า เรื่องที่กล่าวมานี้ เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงทุกประการ
ที่นำเรื่องมาเสนอ มีจุดประสงค์ ให้เจ้าของร้าน ได้รับทราบความคิดเห็น ของลูกค้า ทุกท่านที่เข้ามาคอมเม้นท์ต่อ ไม่ใช่คิดถึงแต่ตัวเองแบบนี้ **

นำเสนอเรื่องจริงโดย คุณ วอนนอนคุก
โดย: วอน นอน คุก IP: 10.0.1.12, 58.9.1.94 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2553 เวลา:10:16:58 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

loveengland
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]