Tony moly - Intense care galactomyces first essence



ขอบอกก่อนว่ารู้จักกับน้ำหมักยีสต์ Tony Moly ตัวนี้ได้ยังไง
มันเริ่มจากการอ่านรีวิวเก็บเกี่ยวข้อมูล  เสริชกูเกิลกับพันทิปเอาเนี่ยแหละ
ปรากฏว่าทุกรีวิวที่รีวิวน้ำหมักตัวนี้อย่างละเอียดได้บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า
มันสามารถเป็นตัวตายตัวแทนของน้ำป้าเจี๊ยบได้ในราคาที่ถูกหลายเท่า
อีกทั้งยังให้ยีสต์สายพันเดียวกันมาให้ในความเข้มข้นที่มากกว่าอีกด้วย



เอาล่ะหว่ายิ่งเสริชหายิ่งมีแต่คำชม  จนสุดท้ายก็ต้องสอยมาลองด้วยตัวเองจนได้
จะได้รู้กันไปเลยว่ามันสามารถแทนน้ำป้าเจี๊ยบได้รึเปล่า
ถ้ามันดีพอ ๆ กันจริง (ในความรู้สึกของตัวเอง) ถ้ามันดีจริง
จะได้ไม่ต้องเปลืองเงินซื้อน้ำป้าเจี๊ยบอีกต่อไป (ดูยิ่งใหญ่มาก)




Galactomyces ferment filtrate ,PEG/PPG – 17/6 copolymer ,
Phenoxyethanol ,Chlorphenesin ,Ethylhexylglycerin Caprylyl clycol

สำหรับคำเคลมเรื่องที่ใส่ Galactomyces ferment filtrate
หรือยีสต์พิเทร่าตัวเดียวกับที่ SK-II ใช้  ว่าใส่มาถึง 94.5%
แต่น้ำป้าเจี๊ยบใส่ที่ 90% แต่ผมไม่ขอฟันธงว่า Tony moly ขวดนี้
จะใส่พิเทร่ามามากกว่าหรือไม่เพราะจากคำเคลมของ SK-II เองบอกว่า
ตัวน้ำป้าเจี๊ยบนั้นใส่พิเทร่ามามากกว่า 90% คำว่ามากกว่านี้เราไม่รู้
ว่ามากกว่าเท่าไหร่ บางแหล่งบอกว่า 95% แต่สูตรที่ขายญี่ปุ่นใส่มาที 97-98%
ซึ่งไม่ได้เป็นความเข้มข้นที่อ้างอิงจากทางแบรนด์



ส่วนเรื่องตัวพิเทร่านั้นจะเป็นตัวเดียวกับที่อยู่ใน SK-II หรือไม่  สำหรับผมแล้ว
ถ้าเค้ากล้าใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ตัวเดียวกันขนาดนี้  คงจะเป็นตัวเดียวกันครับ
แต่แค่สายพันธ์นะครับที่ตัวเดียวกันไม่ใช่ว่าทาง Tony Moly
จะเอายีสต์ในถังเดียวกับ SK-II ซักหน่อย  ก็เหมือนกับเรากินอาหารล่ะครับ
ว่าทำไมผักชนิดเดียวกันแต่แหล่งปลูกต่างกันทำไมถึงมีความอร่อยที่ต่างกัน
ซึ่งทาง Tony Moly เองก็ไม่ได้บอกว่าเค้าหมักบ่มเจ้ายีสต์ตัวนี้อย่างไร
แต่ต่างหรือเหมือนกันกับ SK-II มากน้อยแค่ไหน



อีกอย่างนึงที่อยากแสดงความคิดเห็นไว้นั้นคือ พิเทร่า 94.5% ที่ใส่มานั้น
ถ้านับเอาปริมาณสารสำคัญมาเทียบกับพิเทร่าในน้ำป้าเจี๊ยบแล้วนั้น
อาจมีมากกว่า เท่ากัน หรือน้อยกว่าก็ได้  อย่างที่บอกว่าแลบที่ผลิตสารตัวนี้นั้น
เป็นละแลบ คนละบริษัทกัน  แน่นอนว่าไม่มีใครรู้ในข้อมูลส่วนนี้นอกจากตัวแบรนด์เองครับ
(ไม่ได้จับผิดเน่อ เป็นความเห็นส่วนบุคคลค้าบบบ)

เรื่องคะแนนในด้านส่วนผสมนั้นผมให้เท่ากับตัวน้ำป้าเจี๊ยบเลยครับ
เพราะเรื่องพิเทร่ามันมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหนยังไม่มีผลงานวิจัย
รองรับทุกคำเคลมที่แบรนด์ได้โฆษณาออกมา  อีกทั้งยังมีสาระสำคัญ
เพียงแค่ตัวเดียวอีกต่างหาก  คะแนนได้ไปที่ 5/10 ครับ (เท่ากับน้ำป้าเจี๊ยบครับ)



ในที่สุดกล่องไปรษณีย์ที่เราได้ซื้อจากร้านออนไลน์ก็มาถึง
เอาล่ะว ะจะเจ๋งแค่ไหน  ยอมรับว่าตอนนั้นลุ้น
และหวังกับตัวนี้สูงมากเลยทีเดียว พอเริ่มใช้ครั้งแรกแอบเอะใจนิดหน่อย
ว่าทำไมมันไม่มีกลิ่นของยีสต์เหมือนน้ำป้าเจี๊ยบเลยฟร่ะ
ตอนนั้นคิดว่ามันคงเป็นข้อดีของเค้าล่ะมั้งสำหรับคนที่ไม่ชอบกลิ่นยีสต์



ช่วงที่ใช้ผมหยุดสกินแคร์ทุกตัวของ SK-II เพราะต้องการดูว่าพิเทร่า
ของ Tony Moly เจ๋งขนาดไหน  หลังจากเริ่มใช้ไปเรื่อย ๆ
จบเกือบครบเดือน  เห้ยมันไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยหวะ
มันเหมือนเอาโทนเนอร์ธรรมดา ๆ ที่ส่วนผสมมีแค่ส่วนให้ความชุ่มชื่นนิด ๆ หน่อย ๆ
(ฟีลแบบ neutrogena alcohol free) มาลูบหน้ายังไงยังงั้นเลย
ความชุ่มชื่นมีมากกว่าน้ำป้าเจี๊ยบนะครับ  แต่ยังไงก็ไม่เพียงพอสำหรับผิวเท่าไหร่
ความชุ่มชื่นก็ไม่ค่อยมีความกระจ่างใสความไบรท์ก็ไม่เห็นผล

ยิ่งใช้นานเท่าไหร่ยิ่งไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง  สุดท้ายก็เริ่มหมดหวังกับเจ้าตัวนี้
ขอกลั้นใจให้คะแนนในส่วนนี้ที่ 3/10 คร้าบบบ T^T
(แอบเสียใจและเสียดายลึก ๆ )

อันนี้เพิ่มเติมนะครับ : จากความคิดเห็นต่างๆ  ที่มีต่อ tony moly ตัวนี้นั้น
แบ่งออกเป็น 2 แบบที่ชัดเจนเลยคือใช้ดีเทียบเท่าหรืออาจดีกว่าน้ำป้าเจี๊ยบ
ส่วนอีกด้านหนึ่งคือเฉย ๆ เหมือนกับผม  ซึ่งจากที่รวบรวมมา
อัตราส่วนนี้อยู่ที่ประมา 60 : 40 ซึ่งส่วนใหญ่คนที่อยู่ใน 40 นั้น
เป็นคนที่เคยใช้น้ำป้าเจี๊ยบมาแล้วเช่นเดียวกับผม



ที่ช็อปขายอยู่ที่ 155 ml / 2900.-  แต่ถ้าพรีออร์เดอร์
ราคาจะอยู่ประมาณ 1000 – 1400.- ถามว่าแพงมั้ยถ้าเป็นราคาที่ช็อป
ผมว่ามันก็ถูกกว่าน้ำป้าเจี๊ยบเท่าตัวนึง  แต่ถ้าพรีออร์เดอร์จะถูกกว่า
ถึง 3-4 เท่า  ถ้าใครต้องการเพียงแค่ยีสต์สายพันธุ์เดียวกับ SK-II
ถือว่าถูกมากกกกก



แต่ถ้ามองในเรื่องความคุ้มค่าที่ได้จากการใช้แล้วนั้นสำหรับผม
เหมือนซื้อมาแอบเสียดายเงินเล็กๆ เพราะหลังใช้ไปแล้ว
มันแทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย ยังแอบมีหวังอยู่บ้าง
ว่าพิเทราของ Tony Moly จะมีอะไรเกิดขึ้นกับผิวหน้าเรา
ซึ่งเราอาจมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า T^T คะแนนส่วนนี้ให้ไปที่ 5/10 ครับ
ขอให้กลาง ๆ เพราะว่าบางคนที่ซื้อมาใช้นั้นมันดีกับผิวของเค้าจริง ๆ
(แต่ทำไมไม่เกิดขึ้นกับผมนะ  สงสัยจะไม่มีดวงใช้ของถูกแล้วเจ๋งเหมือนคนอื่นเค้า 55)



ขวดเป็นพลาสติกที่ปากขวดมีจุกพลาสติกเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกด้วย
ซึ่งผมเองไม่ได้แกะจุกทิ้ง  ทุกครั้งที่ใช้เสร็จก็จะนำมาปิดที่ปากขวดไว้ตามเดิม



เนื้อผลิตภัณฑ์ใช้แล้วไม่เหนอะผิว แต่ก็ไม่ได้ให้ความชุ่มชื่นขนาดฮาดะหรือมอยส์เจอร์
คะแนนส่วนนี้ให้ไปที่ 9/10


สรุปคะแนน

โดนหักคะแนนด้านผลการใช้ไปเยอะจึงทำให้คะแนนรวมของ
Tony moly - Intense care galactomyces first essence
ได้ไปที่ 48% คร้าบบบบ (น้ำป้าเจี๊ยบทำไปที่ 71.25%)










ตัดเกรดเจ้าน้ำป้าเจี๊ยบก๊อปจากแดนกิมจิตัวนี้ไปที่ D
ความรู้สึกส่วนตัวไม่ต่างอะไรจากการนำน้ำเปล่ามาทาที่หน้า
ไม่เห็นผลอะไรทั้งสิ้น  ไม่มีการเปลี่ยนแปลงทางบวกใด ๆ
ตอนแรกก็จะตัดเกรดให้ F นั่นแหละเพราะคิดว่า
ใช้ไปมันไม่ได้ประโยชน์สำหรับเราเลย  แต่คิดดูดี ๆ
อย่างน้อยมันก็ไม่ได้มีสารอะไรที่ทำให้ผิวขอเราระคายเคือง  
ไม่มีแอลกอฮอร์และน้ำหอมมาให้กวนใจ  จึงตัดให้ไปที่ D และกัน  

ปล 1 favorite grade เป็นความคิดเห็นส่วนบุคคลโดยไม่ดูองค์ประกอบอย่างอื่นทั้งสิ้น
ผมใช้แล้วไม่ชอบ  ใช้แล้วไม่ดีขึ้นอาจเป็นเฉพาะกับผมคนเดียวก็ได้ครับ

ปล 2 ต้องบอกอีกครั้งว่ารีวิวนี้เป็นการรีวิวแค่ผมเพียงคนเดียว คะแนนทั้งหมดนั้น
ผมเป็นผู้ให้แต่เพียงผู้เดียวไม่ได้มีทีมงานที่ร่วมใช้ skincare แล้วมาช่วยรีวิว
หรือช่วยให้คะแนนแต่อย่างใด  เพราะฉะนั้นรีวิวนี้เป็นการแสดงความคิดเห้นส่วนบุคคล