Water, Saccharomycopsis Ferment Filtrate (Pitera), Butylene Glycol,

Polysorbate 20, Glycerin, Methylparaben , Peg-150, Cellulose Gum,

Disodium Edta, Citric Acid, Salicylic Acid, Lactic Acid,

Malic Acid, Sodium Citrate, Sodium Benzoate,Sodium Hyaluronate

   ส่วนประกอบหลักคงรู้ดีกันอยู่แล้วว่ายังไง้ ยังไงมันก็ต้องมีพิเทร่า

ซึ่งก็แหงล่ะตัวนี้มีพิเทราเป้นสารบำรุงตัวแรก  มีสารให้ความชุ่มชื้นตามมา

ทั้งกลีเซอรีนเอยหรือจะเป็นสารให้ความชุ่มชื้นที่อยู่ในรูปของ

Sodium Hyaluronate  ที่เขาว่ากันว่าเสียรมากกว่า Hyaluronic ในรูปอื่น ๆ

    ต่อมาก็เป็นพวกสารที่ทำให้คงรูปคงตัวต่าง ๆ ซึ่งไม่น่าจะช่วยในเรื่อง

อื่น ๆ เท่าไหร่  ถ้าสังเกตุดี ๆ จะเห็นว่ามี AHA  BHA  มาร่วมแจมกับเค้า

ด้วยเหมือนกัน  แต่คงหวังเรื่องความเข้มข้นไม่ได้มากนักเพราะห้อยติ่ง

มาอยู่ในลำดับท้าย ๆ



ถึงแม้ว่า AHA  และ BHA จะเขียนมาในลำดับท้าย ๆ แต่ก็ยังมีคนคัดค้าน
ว่าเจ้าโลชันตัวนี้มี pH อยุ่ที่ 3.5  - 4 ซึ่งอยู่ใน range ที่สามารถผลัดเซลล์ผิวได้
และเจ้ากรด AHA  BHA นั่้นใส่มาเข้มข้นพอที่จะผลัดเซลล์ผิวได้



      ผมเองก็เชื่ออยู่ลึก ๆ ล่ะว่าระดับ SK-II แล้วคงไม่ใส่ AHA   BHA มาแหกตาหรอก
เพราะอย่าง Salicylic acid นั้นต้นทุนมันไม่ได้แพงอะไรเลย  ใครที่เรียนพวก
แลปเคมี  คงจะรู้ว่าเป็นมันอยู่ในห้องแลปเสมอ ๆ และยิ่งราคาระดับนี้คงเชื่อถือได้ล่ะหน่า

ในเรื่องของคะแนนขอตัดให้ที่  6.25/10 คร้าบบ   ไม่มีอะไรโดดเด่น
ไปกว่าการที่เนื้อโลชันพร้อมที่จะหยดสำลีแล้วเช็ดหน้า 
สารให้ความชุ่มชื้นที่ให้มาบ้าง  ใครที่หน้าแห้งคงต้องเสริมโน้นเสริมนี่กันหน่อย
เพราะลำพังแล้ว clear lotion ตัวเดียวคงเอาไม่อยู่จริง ๆ



     แน่นอนว่านอกจากคุณจะได้สูดดมกลิ่นพิเทร่าตั้งแต่ขั้นตอนการบำรุงแรก
แล้วนั้น  มันยังทำให้หน้าคุณดูสว่างขึ้น  ขาวขึ้นบ้าง  อาจเป็นเพราะการรวม
พลังกันระหว่าง Pitera และ กรดผลัดเซลล์ผิวต่าง ๆ  ประจวบเหมาะกับการที่
มี pH ที่สามารถผลัดเซลล์ผิวได้อีก   หลายคนใช้แล้วเห็นผลลัพธ์ในไม่กี่วันเลยก็มี  
บางคนใช้แล้วไม่รู้สึกอะไรเลยก็มี (เหมือนกับตัวน้ำป้าเจี๊ยบนั่นแหละ)



     สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยจากการใช้เจ้าตัวนี้คือ  การบำรุงที่เน้นความชุ่มชื่น
เติมน้ำให้ผิวกันเข้าไป  เพราะมิเช่นนั้นแล้วคุณอาจตื่นมาเจอกับหน้าที่
แห้งกร้านเลยก็เป็นไปได้

ตัดคะแนนที่  8 / 10



    เรื่องราคานั้น  2000 บาท ต่อ 150 ml กับการใช้เพื่อทำความสะอาดหน้า
นั้นสำหรับตัวผมเองถือว่าแพงมาก  ความรู้สึกคือถ้าอยากให้มีการ
ผลัดเซลล์ผิวแบบอ่อน ๆ หนะสามารถใช้โทนเนอร์ของลออรีออลที่
เคยรีวิวไปก็ได้ มี BHA มาให้เหมือนกันแล้วถ้าอยากได้
พิเทร่า  ค่อยใช้น้ำป้าเจี๊ยบตามทีหลัง  หรือจะใช้ AHA / BHA แยกไปเลยก็ได้
แล้วตามด้วยน้ำป้าเจียบ  แค่นี้ก็ได้ทั้งพิเทร่าและสารผลัดเซลล์ผิว
เหมือนกับโลชั่นขวดนี้ทุกประการ



ส่วนเร่ืองที่ว่าคุ้มกับการเสียเวลากับเจ้าตัวนี้มั๊ย   ถ้าไม่เกี่ยงเรื่องเงิน
ก็คงคุ้มกับผลลัพธ์จากการผัดเซลล์ผิวไปพร้อม ๆ กับการได้รับพิเทร่า
ควบคู่กันไปเป็นแน่แท้

คะแนนความคุ้มค่าขอให้ที่  5/10 คร้าบบบบ


      เนื้อโลชันใช้ได้เลยครับ  ซึมเข้าสู่ผิวไวมาก  เป็นเหมือนน้ำใส ๆ
กลิ่นก็ไม่แรงเหมือนตัวน้ำป้าเจี๊ยบ   ส่วนขวดที่ให้มาเป็นขวดพลาสติก
แต่สำหรับไซส์จริงนั้นเป็นขวดแก้วคล้ายน้ำป้าเจี๊ยบทุกประการเลยล่ะครับ

     เวลาใช้ไม่ต้องเหยอะแรง ๆ คว่ำขวดแล้วบีบเอาก็ได้ 
คุมปริมาณที่จะเทใส่สำลีได้ไม่ยาก


//ขวดขนาดจริง


ส่วนนี้ให้ไปที่ 9.5/10 คร้าบบ  หักที่ขวดน่าจะทึบแสงกว่านี้  แต่ถ้าคิดดูอีกที
ถ้าทึบแสงเราคงไม่รู้เลยว่ามันเหลือปริมาณอยุ่เท่าไหร่กันแน่่


คะแนนรวม  ReVieW ScoRe >>>  70.5 %