เรื่องนี้ ช่อง ๗ นำซีซันแรกมาฉายในช่วงต้นปี แล้วก็จบไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้ แต่น่าเสียดายที่ไม่ได้ชมจนครบทุกตอน กอปรกับชอบมากเรื่องนี้ ก่อนหน้าที่จะฉายจบทางช่อง ๗ พอดีมีโอกาสได้ไปร้านขายแผ่น เข้าไปถาม เขาว่าดังมาก่อนช่อง ๗ มาออก
ซีซันแรกมีทั้งสิ้น ๒๒ ตอน เริ่มฉายในโทรทัศน์อเมริกาตั้งแต่วันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๔๘ ใช้แท็กไลน์ว่า The dead are talking...and she is listening. (อย่าให้แปลเลยครับ ผมความรู้น้อย เกรงว่าจะแปลไม่ได้อรรถรส) เท่าที่ทราบ ที่ขายกันในไทย ก็ประมาณดีวีดี ๖ แผ่น
ส่วนซีซันสอง ๒๒ ตอน เริ่มเมื่อวันที่ ๒๒ กันยายน ๒๕๔๙ ใช้แท็กไลน์ว่า The dead are alive และซีซันที่สาม เปิดดูในเว็บของซีบีเอส www.cbs.com/primetime/ghost_whisperer เห็นใช้ว่า The other side ข้อมูลล่าสุด เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๕๑ ฉายถึงตอนที่ ๑๒ แล้ว
เรื่องราวของละครฝรั่งนี้ มีอยู่ว่า เมลิดา กอร์ดอน (แสดงโดยเจนนิเฟอร์) สาวสวยซึ่งมองเห็นและพูดคุยกับวิญญาณหรือผีได้ จึงช่วยคุณผีๆเหล่านี้ ซึ่งยังมีเรื่องค้างคาใจอยู่ ให้หมดทุกข์หมดโศก หมดเรื่องคาใจ เพื่อจะได้ข้ามภพได้ (ตามความเชื่อที่ว่า เมื่อคนเราตายไปแล้ว ก็จะข้ามภพ)
ละครเรื่องนี้ จะปูพื้นวัยเด็กเพียงเล็กน้อยว่า ทำไมเธอจึงเห็นผี และครั้งแรกที่เธอเห็นผีเป็นอย่างไร แล้วก็เข้าเรื่องกันเลยว่า เธอเพิ่งแต่งงานกับชายที่เข้าใจในพรสวรรค์ของเธอในการเห็นผี จิม แคลนซี (แสดงโดยเดวิด คอนราด David Conrad)
เมลิดาเปิดร้านขายของเก่าในกรีนวิลล์ และมีแอนเดรีย โมรีโน เพื่อนสาว (แสดงโดยเออิซา ไทเลอร์ Aisha Tyler ไม่รู้ว่าอ่านถูกหรือเปล่า) เป็นหุ้นส่วน
แต่ละตอนนอกจากจะช่วยวิญญาณ ซึ่งยังไม่ข้ามภพ ก็จะได้เห็นข้อมูลต่างๆของตัวละคร เช่นว่าทำไมจิมกับเมลิดาจึงยังไม่มีลูก หรือว่าวิญญาณที่เธอช่วยนั้น จะบอกอะไรแก่เมลิดาบ้างว่าเธอจะเจออะไร(น่าจะเป็นตอนจบของซีซันแรก ซึ่งผมไม่ได้ดู แต่ก็พอจะได้รับฟังจากคน ซึ่งดูมาแล้ว)
คือค่อยๆปูเรื่องไปจนถึงจุดไคล์แมกซ์ของเรื่อง
แต่สิ่งที่ผมชอบจากละครเรื่องนี้ คือ แง่คิด
แง่คิดที่ว่า คนเรา เมื่อยังมีชีวิตอยู่ ควรพยายามทำดีต่อกันเข้าไว้ ไม่เฉพาะคนใกล้ชิด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน คนในครอบครัว คนรัก เท่านั้น
เพราะว่าเมื่อตายไปแล้วคงทำได้ลำบากแล้วล่ะ ต้องมาอาศัยคนเห็นผี อาศัยการเข้าฝัน หรือมาบอกเป็นลางอะไรทำนองนั้น (ละครเรื่องนี้จึงทำเอาผมน้ำตาซึมไปหลายตอน เมื่อได้เห็นภาพการเข้าอกเข้าใจกันระหว่างวิญญาณและคนซึ่งยังอยู่ หลังจากพูดคุยผ่านเมลินดา)
คงคล้ายกับที่เพื่อนชาวคริสต์ผมบอกว่า พระเจ้าทรงสอนให้มนุษย์มีความรักแก่ทุกคน "จงรักศัตรูของท่าน"
ส่วนศาสนาพุทธก็คงเป็นการให้อภัยแก่กัน
คงคล้ายกับเพลง ที่พี่โป่ง หินเหล็กไฟ ร้องไว้ในเพลงก่อนจะสายว่า "ทำดีให้กันก่อนจะสาย ตายไปแล้วไม่มีประโยชน์"
ถึงแม้ว่า วันนี้ ผมยังให้ความรักและให้อภัยแก่ทุกคนได้ไม่หมด เพราะยังมีกิเลสอยู่ตามประสาปุถุชน แต่ก็จะพยายามเริ่มจากคนรอบตัวให้มากกว่าเดิม
คุณล่ะครับ วันนี้คุณทำดีให้แก่กันบ้างแล้วหรือยัง..
-------------------------
จะซื้อแผ่นมาเหมือนกันนะคะ ...
แต่ว่าแนะนำมีอีกเรื่องหนึ่ง ถ้าหากว่าชอบหนังแนวนี้
เราก็มีอีกเรื่องคือเรื่อง ... Medium ค่ะ ..
เราเคยเขียนเรื่องนี้เอาไว้ ยังไงลองแวะไปดูนะคะ
เราชอบเลยเหมือนกัน เพราะว่ามันไม่น่ากลัว
แล้วมันก็แบบว่าเนื้อหามันดี ขนาดที่ว่า คนเขียนบท
คิดได้ยังไง ลองดูนะค่ะ
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=gewoonleven&month=28-03-2006&group=11&gblog=4