การจากไปของพี่หมวย
จะว่าไปแล้วไม่ได้สนิทอะไรกับพี่หมวยมากหรอกนะคะ แค่เคยร่วมทางกันไป สวนสันติธรรม แค่ครั้งเดียว พี่หมวย เป็นผู้หญิงผิวขาว ตัวเล็ก ๆ ใส่หมวกไหมพรม นั่งข้าง ๆ เจนเอง ระหว่างทางก็จำได้ว่า พี่หมวยคุยกับพี่เอก และ พี่หนุ่ย ตลอดทาง คุยกันในเรื่องที่เราเองก็ไม่เข้าใจว่า คนอายุ 30 อัพนี่เค้าคุยอะไรกัน และ หัวเราะอะไรกัน จากบทสนทนาวันนั้น ไม่ได้ถามว่าพี่หมวยเป็นโรคอะไร แต่พอเดาได้ว่า มะเร็ง แน่ ๆ
ยังจำได้เลยว่า วันนั้นเจนพกหนังสือเกี่ยวกับการปฏิบัติธรรม ไปด้วย พี่หมวยยังทักอยู่เลยว่า โห อ่านหนังสือแนวเดียวกันเลย ... และเจนตอบไปแบบไม่คิดว่า "กลัวตายซะก่อนอ่ะค่ะ เด๊วไม่ทัน" จำได้ว่า พี่หมวยบอกว่า ถูกต้อง เด๊วจะตายซะก่อน
วันนั้นพี่หมวยได้ส่งการบ้านหลวงพ่อปราโมชย์ ยังจำเสียงหลวงพ่อที่เรียกพี่หมวยได้อยู่เลย
และวันนี้ พี่หมวย ได้จากไปแล้ว ด้วยโรค มะเร็งเม็ดเลือด เจอบทความของพี่เอกครั้งแรกในเฟสบุค รู้สึกใจหายเหมือนกัน ว่าภาพ ๆ นั้น คน ๆ นั้น ที่เราเคยเจอ ... เค้าจากโลกนี้ไปแล้ว แต่พี่ ๆ หลายคน ก็ว่า พี่หมวยคงจะไปดี เพราะพี่หมวยปฏิบัติธรรมเยอะมาก
คนที่เคย ๆ เห็น ๆ กันอยู่ ... อยู่ดี ๆ ก็หายไป ทิ้งไว้แต่ร่างกายรอวันเน่าเปื่อย สลดที่ว่า ร่างกายไม่ใช่ของน่าพิสมัยมาตั้งแต่ไหนแต่ไร การจากไปของพี่หมวย ทำให้เจนคิดอีกทีว่า ทุกวันนี้เราเสียเวลากับอะไรอยู่ เกิดมาเป็นคนทั้งที มีสติปัญญา ทั้งที ไม่ปฏิบัติธรรม ไม่ทำความดี มันเสียชาติเกิดแท้ ๆ
แล้วถ้าทุกอย่างต้องเริ่มใหม่ ด้วยการเกิดใหม่ มันทั้งน่าเหนื่อยและน่าเบื่อยิ่งไปกว่าอะไรทุกสิ่ง ถ้าต้องมานั่งเผชิญโลกตั้งแต่วัยเด็กจนแก่ อีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่ชีวิตนี้ก็ยังไม่จบดี แต่รู้แล้วว่า จะต้องมีวันนั้นรออยู่แน่ๆ
ถ้าหนักไปกว่านั้น เผลอพลาดหลุดไป ทุคติ ยิ่งไม่อยากจะเซด ไม่ใช่แค่นับหนึ่งใหม่ แต่นั่นคือ ติดลบ
We hardly ever remind ourselves that one day we'll die When our beloved friend pass away, we do cry and usually got stuck with that sadness but never try to discover the truth of happiness
What does happiness mean if we face lots of sorrow which is always hidden and hard to clearly show todays we dont' even think about death and yet we forget that one day we must forever lose our breath
Heaven is not the last place for everyone after passing away People try to do things for themselves only, day by day Love, Greed, Anger and Infatuation are all illusion They are all deceptive and prevent our manisfestation
Money becomes everything we can die for Moreover we can't stop to want it more and more Until now, we completely forget that one day we leave this world not even one thing we can carry by ourselves to our coffin
เหนื่อยกับชีวิตที่ต้องต่อสู้ดิ้นรน ทุกข์ทนกับความเศร้าโศกที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะจบสิ้น กับลมหายใจที่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหยุดรวยริน หรือเพราะความเคยชินกับภาระที่ต้องแบกรับในทุก ๆ วัน
วันนี้พี่คนนึงได้จากไปแบบไม่มีวันกลับ ไม่เหมือนตะวันลาลับที่พอรุ่งสางก็เจอกัน ทำให้ฉันหันหวนมองชีวิตที่ผ่านมาในแต่ละวัน ทำไมเราต้องเสียเวลาปัจจุบันไปมากมายกับสิ่งจอมปลอม
ชีวิตวันนี้ ผู้คนบนรถไฟฟ้า ที่ฉันนั่งมอง และลองสังเกตุผู้คนหลากหลาย บุคลิกลักษณะที่แตกต่างกันไปมากมาย แต่ความตาย คือสิ่งที่คล้ายที่ทุกคนต้องเจอ
จะมีใครบ้างฉุกคิด ว่าจริง ๆ แล้วเราเกิดมาทำไม จะมีใครบ้าง หันมาสนใจชีวิตอันแสนสั้นนี้ ชีวิตที่เกิดมามีความสุขมากไม่พอสักที จนลืมเป็นคนดี ทำทุกอย่างก็แต่เพื่อตัวเอง
อันนี้ของฉัน ของนั้นของฉัน ลองคิดดูกันมั๊ยว่า ความยึดติดจะทำให้เราเป็นทุกข์ ของทุกอย่าง แม้กระทั่งร่างกายของเราที่เราคิดว่ารองรับความสุข โดยบางทีพาตัวเองไปข้องเกี่ยวกับอบายมุข โดยไม่ทันรู้ตัว
นี่คือเกมที่เดิมพันกันด้วยชีวิต และเดิมพันกันด้วยจิตใจล้วน ๆ แม้ตัวเราจะรู้ดีว่า สิ่งใดควรไม่ควร แต่กลับเป็นคนเรรวน หลงธรรม หลงทาง
คนที่ไม่เชื่อบุญหรือบาป อธิบายไปก็ไม่เข้าใจ ---------------------------------------------------------------------------
Create Date : 10 กันยายน 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 10 กันยายน 2552 23:51:51 น. |
Counter : 614 Pageviews. |
|
|
|
เดี๋ยวนี้ มองความตายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วค่ะ แต่ยังประมาทอยู่ เพราะยังระลึกถึงความตายของตัวเองได้น้อยมาก
เจริญในธรรมนะคะ