ก่อนอื่นเลย เราจะมาพูดถึงคำว่า Angkor กันก่อนดีกว่า Angkor เป็นชื่อ “อาณาจักร” หนึ่งของขอม (เหมือนชื่อ สุโขทัย อยุธยา ในประวัติศาสตร์ไทย) โดยยุค Angkor ครอบคลุมตั้งแต่ ปี ค.ศ. 802 ถึง ปลายศตวรรษที่14 พูดง่ายๆก็คือช่วงรุ่งเรืองของอาณาจักร Angkor อาณาจักรสุโขทัยยังเป็นลูกเจี๊ยบอยู่เลยดังนั้นสิ่งที่เราจะมาดูที่นี่นี่มันเก่าแก่และอลังการมากจริงๆ

---

 ทริปนี้ 3 วัน 2 คืนค่ะ ลองมาดู Itinerary และค่าใช้จ่ายของเราในทริปนี้กัน อาจจะแพงไปซักหน่อย เพราะค่าตั๋วเครื่องบินแพงค่ะ เดินทางวันหยุดก็เงี้ย

(ขอเล่าประวัติศาตร์อีกซักเล็กหน่อยเพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชม)

อาณาจักร Angkor เกิดขึ้นราวปี 802 เมื่อพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ประกาศแยกแผ่นดินเป็นอิสระจากชวาและสถาปนาเมืองหลวงใหม่ของอาณาจักร Angkor ที่ Harihalaya ทางตอนเหนือของโตนเลสาป ผ่านมาอีก 300 ปีเป็นยุคของพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ช่วงนี้เป็นช่วงที่ Angkor เจริญรุ่งเรืองมาก พระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 ย้ายเมืองหลวงมาอีกที่และสร้างปราสาทหลังใหม่ คือ Angkor Wat (นครวัด) ในช่วงปี ค.ศ. 1113– 1150 ว่ากันง่ายๆคือ กษัตริย์ขอม นิยมสร้างปราสาทและวัดประจำสมัยที่ตนเองครองราชย์ ดังนั้นสิ่งที่เราจะไปเที่ยวกันก็คือปราสาทที่ถูกสร้างกันในยุคสมัยต่างๆกันนั่นเอง ลองดูด้านล่างนะคะว่าสถานที่ท่องเที่ยวที่จะพาไปชมสร้างในสมัยไหนกันบ้าง

พระเจ้า	คริสต์ศักราช	เริ่มก่อสร้าง
ยโสวรมันที่ 1	889-915	Phnom Bakheng
ราเชนทรวรมัน	944-968	Banteay Srei
สุริยวรมันที่ 1	1002-1049	Phimeanakas and the royal palace
อุทัยทิตย์วรมันที่ 2	1050-1066	Baphoun
สุริยวรมันที่ 2	1113-1150	Angkor Wat, Beng Mealea
ชัยวรมันที่ 7	1181-1220	Ta Prohm, Preah Khan, Neak Pean, Angkor Thom, Bayon, Terrace of the Elephants, Terrace of Leper King

Q. Angkor Wat กับ Angkor Thom ต่างกันยังไง

Angkor Wat เป็นวัดประจำสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 2 ส่วน Angkor Thom (นครธม) ไม่ใช่ชื่อวัดแต่เป็นชื่อเมืองค่ะ ในปลายศตวรรษที่ 12 สมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้มีการย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่ Angkor Thom และสร้างวัดและปราสาทอื่นๆภายใน Angkor Thom ขึ้นมาใหม่ โดยวัดหลักของ Angkor Thom ก็คือ บายน (Bayon) ดังนั้นถ้าพูดว่า นครธมก็หมายถึงทั้งบริเวณที่ประกอบไปด้วยวัดและปราสาทอีกมากมายค่ะ

การเดินทาง 

การเดินทางไปเสียบเรียบ

เราสามารถเดินทางไปเสียบเรียบได้ทั้งทางบกและทางอากาศ ทางบกคือนั่งรถ (ซึ่งส่วนมากนิยมนั่งรถของบ่อนที่ปอยเปตไปลงพนมเปญและต่อรถอีกประมาณ 3 ชั่วโมงไปลงเสียบเรียบ) แต่ถ้าต้องการประหยัดเวลาและไม่อยากตื่นตั้งแต่ไก่โห่แนะนำให้ไปทางเครื่องบินค่ะ

แอร์เอเชีย บินตรงกรุงเทพฯ (ดอนเมือง) – เสียมเรียบ ทุกวัน ไปกลับขาละ 3 เที่ยวบินต่อวัน เราไปไฟล์ FD 610 ออกจากกรุงเทพ 10.10 ถึง เสียบเรียบ 11.10 ใช้เวลาบิน 1 ชั่วโมงเท่านั้น ขากลับกลับไฟล์ทดึกหน่อย เพราะไฟล์ทก่อนหน้า ออกจากเสียบเรียบเวลา 15.25 กลัวจะเที่ยวไม่ทันขากลับไฟล์ท FD 619 ออกจากเสียบเรียบ 21.45 ถึงกรุงเทพ 22.45

การเดินทางในเสียมเรียบ

วิธีที่เป็นที่นิยมมากที่สุดคือ การเช่ารถพร้อมคนขับรถ รถมี 2 ประเภท คือ รถตุ๊กๆและรถเก๋งหรือรถตู้ รถตุ๊กๆที่เสียบเรียบเก๋ไก๋ไม่เหมือนที่ใด จริงๆต้องเรียกว่ามันคือรถพ่วงมากกว่าเหมือนเอามอเตอร์ไซด์มาต่อกับส่วนที่นั่ง สามารถนั่งได้ถึง 4 คน ข้างละ 2 คน หันหน้าเข้าหากันส่วนอีกประเภทคือ รถยนต์ปรับอากาศ มีทั้งเก๋งธรรมดาและรถตู้ แล้วแต่ว่าคนขับที่เราจองไปเค้ามีรถแบบไหนบ้างและขึ้นอยู่กับจำนวนคนด้วยค่ะ ถ้าไปกันหลายคนก็จะได้เป็นรถตู้

Q.จะเลือกนั่งอะไรดี? 

A. ขอตอบอย่างงี้ มันขึ้นอยู่กับ 3 เรื่อง

1. สถานที่ที่จะไป ถ้าเที่ยวแต่แถว Angkor Wat และ Angkor Thom (เหมือนตารางเที่ยวของเราวันที่ 1 และ 2) สามารถนั่งรถตุ๊กๆได้ เพราะแต่ละที่ไม่ได้ไกลกันมาก นั่งไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว แต่ถ้าจะไปเที่ยวนอกเมืองอย่าง Banteay Srei, Phnom Kulen, Beng Melea (เหมือนตารางเที่ยววันที่ 3 ของเรา) ต้องใช้รถยนต์อย่างเดียวค่ะ เพราะนั่งกันเป็นชั่วโมง ทางขึ้นเขาอีกต่างหาก

2. สภาพอากาศ หากคุณไปหน้าฝน ประมาณช่วงเดือน พฤษภาคม ถึง ตุลาคมแนะนำว่ารถยนต์ดีกว่าค่ะ อย่างตอนที่เราไปฝนตกมันทุกวัน! โชคดีที่ใช้รถตู้ แต่ถ้าใครมาหน้าหนาว ลมเย็นๆ นั่งตุ๊กๆคงชิลล์และได้บรรยากาศกว่าเป็นแน่

3. งบประมาณ แน่นอนว่ารถตุ๊กๆถูกกว่ารถยนต์อยู่แล้ว ถ้าวันไหนจะใช้บริการแค่ครึ่งวันไปในเมือง ก็อาจจะใช้รถตุ๊กๆในวันนั้นเพื่อเป็นการประหยัดไปได้ค่ะ

Q. จะหารถและคนขับได้จากไหน? 

A. ที่เสียบเรียบ อาชีพคนขับรถนี้ดูจะ popular มากๆ คนขับแต่ละคนดู professional สุดๆค่ะ มีเวบไซต์เป็นของตัวเองกันส่วนใหญ่ เราสามารถที่จะลองหาในอินเตอร์เนต แล้วติดต่อเค้าไปทางอีเมล์โดยตรงได้เลย แนะนำว่าให้ติดต่อก่อนไป เราสามารถส่งตารางไปคร่าวๆว่าเราจะไปกี่วัน อยากจะไปไหนบ้างให้เค้าช่วยจัดตารางเที่ยวมาให้พร้อมเสนอราคามาให้เลย 

คนขับรถของเราในทริปนี้ชื่อ Mr.Chan ค่ะ เป็นคนเขมรที่ภาษาอังกฤษดีมาก สามารถสื่อสารได้คล่องแคล่ว ที่สำคัญตรงเวลาสุดๆ รถที่เค้าใช้เป็นรถตู้ค่ะ ทริปนี้เราไปกัน 4 คน นั่งรถตู้สบายเลย ใหญ่ดี จริงๆเป็นรถตู้ก็ดีนะคะ เพราะเวลาร้อนๆขึ้นรถมา ไม่ต้องนั่งเบียดกัน Mr. Chan จะเตรียมน้ำดื่มเป็นขวดแช่เย็นและผ้าเย็นให้ตลอดทริป (ซึ่งเป็น service ที่คนขับรถทุกคนควรมีให้นะคะ) ขับรถดีค่ะ และสามารถแนะนำเราได้ว่าเวลานี้จุดไหนสวย ควรเที่ยวอะไรก่อนหลัง ขาดไปอย่างเดียวก็เรื่องอารมณ์ขันเนี่ยแหละ ดูจะนิ่งๆไปหน่อย แต่โดยรวมก็โอเคมากค่ะ ..สามารถเข้าไปดูเวบไซต์ของเค้าได้ ที่นี่  และติดต่อได้ทางอีเมล์ นี้ ราคาค่ารถที่เราได้ วันแรก 25 USD วันที่สอง 35 USD และวันที่สามที่ไปนอกเมือง 75 USD

เวลาจองก็ตกลงกับคนขับว่าจะจ้างเค้าทั้งวันเต็มวัน กี่โมงถึงกี่โมง ในส่วนกลางคืนที่เราอาจจะออกไปเดินเล่นที่ pub street หรือออกไปทานข้าว สามารถนั่งตุ๊กๆไปได้ค่ะ ราคาประมาณ 1-3 USD ขึ้นกับระยะทาง บางโรงแรมอาจมีให้บริการรับส่งระหว่างโรงแรมกับ pub street ฟรี

การเดินทางระหว่างปราสาทแต่ละแห่ง

อันนี้ขอมาเขียนให้เป็นพิเศษแบบละเอียดเพราะก่อนไปหาข้อมูลตรงนี้ไม่ค่อยมี

Q. นครวัดและปราสาทต่างๆในนครธม มันดูเป็น area ที่กว้างจังเลยแล้วเราจะเดินทางยังไงอะ จะเดินไหวมั๊ย?

A.  มันมีทั้งส่วนที่สามารถเดินถึงกันได้ และส่วนที่ต้องขับรถไปค่ะ

ส่วนที่สามารถเดินต่อๆกันไปได้มีแค่บริเวณเดียวคือ Bayon >>Baphoun >> Phimeanakas >> Terrace of the Elephants >> Terraceof the Leper King ส่วนที่เหลือ เช่น Angkor Wat, Phnom Bakheng, Neak Pean, Preah Khan, Ta Prohm ต้องนั่งรถไปลงทีละจุดหมดเลยค่ะ

Q. คนขับจะส่งเราลงตรงไหนนัดเจอกันยังไงหละเนี่ย?

A. คนขับจะส่งเราลงที่หน้าทางเข้าแต่ละที่ค่ะ แล้วให้เราเดินเข้าไปเอง ปากทางเข้ากับปราสาทมักจะต้องเดินต่อเข้าไปอีกพอสมควรนะคะ ก่อนส่งคนขับก็จะนัดแนะกับเราว่าเค้าจะรอตรงไหน บางที่ก็รอด้านเดิมกับที่ส่งบางที่ก็ไปรออีกด้านฝั่งทางออกค่ะ 

Q. คนขับจะเดินเข้าไปกับเรามั๊ย?

A. คนขับรถไม่ใช่ไกด์ค่ะ ดังนั้นเค้าอาจจะไม่ได้พาเราเดินเข้าไปข้างในทุกที่เพื่ออธิบาย ในบางที่เค้าอาจจะอธิบายประวัติคร่าวๆของแต่ละปราสาทให้เราฟังตอนอยู่บนรถ (แบบที่คนขับเราทำ) และให้เราเดินไปดูของจริงด้วยตัวเองแต่บางที่ก็เดินเข้าไปด้วยกันค่ะ

Q. แล้วถ้าอยากได้ไกด์ทำยังไง?

A. ที่เสียบเรียบ คนจะเป็นไกด์ได้ต้องมีใบอนุญาตค่ะ ไกด์จะใส่เสื้อสีโอรสอ่อนๆดูแล้วรู้เลยว่าคนนี้แหละไกด์ ไกด์มีทั้งพูดภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่น…อีกมากมายและที่สำคัญ มีภาษาไทยค่ะ ถ้าใครสนใจจ้างไกด์สามารถติดต่อผ่านคนขับรถให้เค้าไปติดต่อมาให้ก็ได้ค่ะ โดยถ้าจ้างไกด์ไกด์ก็จะนั่งกับเราไปด้วยในรถ และก็เดินนำชมด้านในปราสาทด้วย จากที่ไป ดูแล้วคนที่จ้างไกด์ส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติค่ะ เค้าคงสนใจประวัติศาสตร์กันจริงจัง น่าเสียดายที่เราไม่ได้จ้างไกด์ในทริปนี้ ต้องเปิดหนังสือเที่ยวเอาเองค่ะ

ที่พัก

โรงแรมที่เสียบเรียบมีให้เลือกเยอะมากๆสมกับเป็นเมืองท่องเที่ยวจริงๆ มีตั้งแต่ Hostel โรงแรม 3 ดาว ไปจนถึง โรงแรม 5 ดาว ราคาก็ตั้งแต่หลักร้อยไปหลายพันค่ะ Jellyjourney ทริปนี้พักที่ Villa Indochine D’Angkor เป็นโรงแรมขนาดเล็กอยู่ไกลจาก pub street ออกมานิดนึง ทางโรงแรมมีบริการรับส่งจากสนามบินโดยตุ๊กๆ และรับส่งโรงแรมกับ pub street หรือบริเวณใกล้ๆด้วยค่ะ ที่ประทับใจที่สุดของโรงแรมนี้คือ พนักงาน บริการดีมากๆถึงมากที่สุด ยิ้มแย้มแจ่มใส service mind เต็มร้อยจริงๆค่ะ พูดมาซะขนาดนี้แล้ว เรามาดูกันดีกว่าว่าหน้าตาเป็นยังไงบ้าง...

ทางเข้าร่มรื่น

Lobby ค่ะ พนักงานคนนี้ชื่อ smile ยิ้มหวานให้เราตลอดทริป

บริเวณลอบบี้ค่ะ

 สระว่ายน้ำ

หน้าห้องพัก

มีเครื่องดื่มบริการด้วยนะ

welcome drink เป็นน้ำมะนาว และถั่วค่ะ นอกจากนี้ทุกครั้งที่กลับจากข้างนอกมาก็มีน้ำมะนาวและผ้าเย็นบริการด้วย

บรรยากาศในห้องพัก มีเอาใบไม้มาวางเป็นชื่อให้ด้วยน่ารักสุดๆ ห้องน้ำประหลาดนิดนึงเพราะไม่มีประตูค่ะเป็นผ้าม่าน

---

สกุลเงินและการจ่ายเงิน

ที่เสียมเรียบใช้เงินดอลลาร์เป็นหลักค่ะ ร้านอาหารใหญ่ๆส่วนมากจะรับบัตรเครดิตถ้าจ่ายเป็นเงินสดเค้าก็จะทอนมาเป็นเงินดอลลาร์ แต่ถ้ามีเงินทอนที่น้อยกว่า 1 ดอลลาร์แล้วเค้าก็จะทอนมาเป็นเงินเรียล ซึ่งก็คือสกุลเงินของกัมพูชานั่นเอง

อย่างไรก็ตามพกเงินไทยไปด้วยก็ดีค่ะแลกแบงค์ 20 เยอะๆเอาไว้ทำบุญ และซื้อของกระจุกกระจิกเป็นที่ระลึก

บัตรเข้าชม

ส่วนมากสถานที่ท่องเที่ยวเกือบทั้งหมดจะใช้บัตรเข้าชมเดียวกันยกเว้น Kulen Mountain และ Beng Melea ที่ต้องเสียค่าเข้าต่างหากค่ะ

1) บัตรเข้าชมอุทยาน มี3 แบบ คือ One-day pass ราคา 20 USD // Three-day pass ราคา 40 USD// Seven-day pass ราคา 60 USD

โดยเราต้องไปซื้อบัตรที่จุดขายบัตรก่อนเข้าไปปราสาท ถ้าเป็นบัตรแบบ Three-day และ Seven-day มีการถ่ายรูปด้วยนะจ๊ะ ยิ้มสวยๆได้เลย ที่เรียกว่า 3 วัน 7 วัน นี่ต้องเป็น 3 วัน กับ 7 วันที่ติดกันด้วยนะคะ ส่วนเด็กต่ำกว่า 12 ปี เข้าฟรีค่ะ

สำคัญสุด!! เราต้องพกบัตรนี้ติดตัวตลอด หน้าทางเข้าแต่ละปราสาทจะมีเจ้าหน้าที่ยืนเชคบัตรและเจาะรูตามวัน เพื่อให้เค้าเชคได้ว่าเราใช้บัตรเกินจำนวนวันที่ซื้อรึปล่าว อย่าลืมว่า Banteay Srei ก็ใช้บัตรนี้เข้านะดังนั้นหากใครจะไป Banteay Srei ในอีกวัน ห้ามซื้อ one-day pass นะค่ะ

โดนเจาะบัตรไปวันแรกตอนเข้า Angkor Wat

2) บัตรเข้า Kulen Mountain ราคา 20 USD คนขับพาแวะไปซื้อที่บูทขายตั๋ว คนขับบอกว่าพื้นที่ส่วนนี้ดูแลโดยทหารค่ะ จึงต้องจ่ายแยก ราคาค่อนข้างแพงเลยค่ะ

3) บัตรเข้าชม Beng Melea ราคา 5 USD ไม่แพงและก็คุ้มที่จะไปมากๆค่ะ

การแต่งกาย

เสื้อ:แนะนำว่าควรเป็นเสื้อที่ระบายอากาศได้ดี เพราะเสียมเรียบร้อนมากปราสาทส่วนใหญ่ก็ต้องเดินเข้าไปไกล เรียกได้ว่าเป็นการเที่ยวแบบอยู่ outdoor เกือบทั้งสิ้น อาจใส่เสื้อแขนกุดแล้วพกผ้าคลุมไว้ก็ได้ เพราะบางที่แขนกุดเข้าได้ บางที่ต้องเป็นแขนยาวเราก็เอาผ้าคลุมคลุมเอาค่ะ

กางเกง: แนะนำว่าควรเป็นขายาว เพราะมีบางที่ต้องปืนป่ายขึ้นบันไดสูงมากๆ ค่อนข้างอันตรายค่ะ ใส่ขายาวเซฟๆไว้ดีกว่า ส่วนกระโปรงนี่ไม่แนะนำเลยนะคะ ถึงแม้เป็นกระโปรงยาว แบบ maxi dress ก็ตาม เดี๋ยวจะสะดุดชายกระโปรงตัวเองหกล้มเอาซะเปล่า

ห้องน้ำสาธารณะ

Oh My God เป็นปลื้มสุดๆกับห้องน้ำที่นี่ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อค่ะ ห้องน้ำที่เสียบเรียบสะอาดจริงๆ แม้จะอยู่ในจุดที่ไม่น่าจะสะอาดได้เลยก็ตาม ส่วนมากตามปราสาทแต่ละที่จะมีห้องน้ำอยู่แล้ว ยกเว้นบางที่อาจจะต้องเดินไปไกลหน่อย แต่ขอบอกว่าห้องน้ำไม่มีกลิ่นเลยค่ะ ไม่เชอะแฉะด้วย เพราะเค้ามีคนดูแลอยู่ตลอด ที่สำคัญไม่คิดเงินด้วยนะจ๊ะถ้าหากเรามีบัตรเข้าชม (ช่างเป็นบัตรเทพเสียจริงๆ) เพราะฉะนั้นสาวๆไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะหาห้องน้ำยากนะคะ สบายใจได้ค่ะ

ชอปปิ้ง

งืมๆทริปนี้ไม่ค่อยได้ชอปปิ้งอะไรเลยค่ะ เพราะของที่เค้าขายก็คล้ายๆกับที่บ้านเรามี แต่อีกสิ่งที่ประทับใจในการจัดการการท่องเที่ยวของที่นี่คือ เข้าจะจัดโซนขายของอยู่รวมกันก่อนถึงทางออก ดังนั้นทางเข้าของปราสาทแต่ละที่จะเดินสบายและไม่มีร้านขายของมาปิดบังความสวยงามของปราสาทแต่อย่างใด แล้วพอดูเสร็จขาออกค่อยจะเดินผ่านร้านค้าค่ะ แม่ค้าที่นี่ก็พูดไทยได้หมด ซื้อของง่ายเลยค่ะ แต่เค้าก็ไม่ force sale มากนะ โอเคอยู่..นอกจากนี้ยังมีเด็กๆที่มาเร่ขายของ ขายโปสการ์ด ขายหนังสือ ขายขลุ่ย ตื้อสุดๆๆบางที่นี่เดินตามตั้งแต่ลงรถยันประตูทางเข้าเลย ถ้าเพื่อนๆคนไหนอยากซื้อของก็ลองต่อราคาดูนะคะ ส่วนมากของกระจุกกระจิก ต่อให้ได้อันละ 20 บาทก็โอเคแล้ว

พร้อมไปเที่ยวกันรึยังคะ ตามมาเที่ยวกันเลย  

Siem Reap Angkor Trip (Part 1/2) นครวัด นครธม ปราสาทบายน และที่เที่ยวใกล้เคียง

Siem Reap Angkor Trip (Part 2/2) นครวัด นครธม ปราสาทบายน และที่เที่ยวใกล้เคียง

---

facebook Page: Jellyjourney

Instagram: Jellyjourney

Bloggang: //jellyjourney.bloggang.com