เมษายน 2559

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
All Blog
South Vietnam -โฮจิมินท์ มุยเน่ ดาลัท 4 วัน 3 คืน 1 internal flight (Part 4/4)




South Vietnam l เวียดนามใต้
โฮจิมินท์ มุยเน่ ดาลัท
4 วัน 3 คืน 1 internal flight

Dalat l ดาลัท




สวัสดีค่ะทุกคน บลอคนี้เป็นบลอคสุดท้ายของทริปเวียดนามใต้ของ Jellyjourney แล้ว เราจะพามาเที่ยวเมืองดาลัทกัน เขียนๆอยู่ก็ยังรู้สึกว่าอยากกลับไปดาลัทอีกอะ มาดูกันว่าอะไรที่ทำให้เรารู้สึกอย่างนั้น

ดาลัทเป็นเมืองตากอากาศที่สำคัญของเวียดนาม มีมาตั้งแต่ยุคฝรั่งเศสยังปกครองเวียดนามอยู่ เนื่องจากดาลัทอยู่บนที่ราบสูงภาคกลาง ทำให้ดาลัทมีอากาศเย็นตลอดปี อย่างตอนที่เราไปเดือนพฤศจิกายนนี้อากาศก็เย็นสบาย แต่กลางคืนลมแรงแอบหนาวเลยค่ะ หากใครมีเวลามาเที่ยวเวียดนามใต้หรือเวียดนามกลางแนะนำให้แวะมาที่ดาลัทนะคะ เป็นเมืองเล็กที่น่ารัก มีชีวิตชีวาดี...ตามมาเที่ยวกันเลยดีกว่า

เรามีเวลาอยู่ดาลัทไม่นาน นั่งรถจากมุยเน่มาถึงดาลัทก็เกือบ 5 โมงเย็น แต่โชคดีอย่างที่ดาลัทเป็นเมืองที่สว่างไสวมาก ตอนแรกคิดว่าเมืองตากอากาศจะเงียบๆในตอนกลางคืน แต่ปรากฏว่าร้านค้าพร้อมใจเปิดกันจนถึงดึกเลยค่ะ ทำให้ได้ใช้เวลาตอนเย็นถึงกลางคืนวันนั้นอย่างคุ้มค่า ส่วนอีกวันเราใช้บริการ one day tour เพื่อที่จะทำเวลาเที่ยวสถานที่รอบๆในดาลัทให้ครบ และให้ทัวร์พาไปส่งที่สนามบินดาลัทเตรียมบินกลับโฮจิมินท์

17.00: Tulip Hotel

รถจากมุยเน่มาถึงดาลัทแล้วดีใจมาก เพราะเมื่อเข้าสู่เขตเมืองดาลัท อากาศในรถที่เคยแย่มาก มีแต่ฝุ่นก็กลายเป็นอากาศเย็นๆเข้ามาในรถแทน ลงจากรถปุ๊ปเราก็เดินไปที่โรงแรม Tulip hotel เลยค่ะ ไม่นาน ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น โรงแรมนี้เป็นโรงแรมที่ได้หามาจากการแนะนำของชาว PANTIP มันเจ๋งมากๆเลย ทั้งทำเล ทั้งการบริการห้องพักก็ใหญ่มากถึงมากที่สุด (รีวิวโรงแรมอยู่ด้านท้ายนะคะ อดใจรอดู) เข้าไปเก็บของเล็กน้อยเราก็ออกมาเดินเล่นกัน

ตรงข้ามโรงแรมมีร้านขายเบเกอรรี่ที่เปิดแทบจะ 24 ชั่วโมงค่ะ สุดยอด

18.30: Dinner at Long Hoa

เดินไปแค่ประมาณ 3 ห้องจากโรงแรมก็ถึงร้านอาหาร ข้างในบรรยากาศดีมาก จากอากาศเย็นๆข้างนอกก็รู้สึกอบอุ่นขึ้นมาเลย สั่งไปทั้งหมด 3 อย่างด้วยกัน คือ ปอเปี๊ยะทอด hot pot ทะเล และเนื้อกวางย่าง จะบอกว่าเนื้อกวางอร่อยมากปรุงรสชาติมาได้พอดี ที่นี่เค้านิยมดื่มชากันนะคะ เป็นชาอโวคาโด รสชาติและกลิ่นหอมดีค่ะ สามารถซื้อเป็นของฝากได้



19.30: Dalat night market and walking street

ออกมาเดินเล่นที่ตลาดกลางของเมือง ขายทั้งของสดและข้าวของเครื่องใช้เสื้อผ้า ซึ่งตอนที่เราไปร้านในตลาดก็แทบปิดกันหมดแล้ว แต่ก็ยังมีพ่อค้าแม่ค้าขายของแบกะดินกันอยู่ โดยเฉพาะเสื้อหนาวเนี่ย มีให้เลือกเยอะมากๆ


แถววงเวียนก็จะมีร้านค้าตั้งเรียงรายเป็นถนนคนเดินให้เดินชอปปิ้งค่ะ แต่ของไม่ค่อยน่าซื้อซักเท่าไหร่ Smiley



ดาลัทเป็นเมืองภูเขา ภูมิประเทศที่นี่จึงสวยงามถูกใจเรามาก ถนนจะเป็นทางลาด ช่วยให้เวลาเดินเหมือนออกกำลังกายไปด้วยเลย 55 ถึงแม้จะมืดแต่ก็ไม่ค่อยจะน่ากลัวเท่าไหร่นะคะ เพราะไฟจากร้านค้าจากโรงแรมจะสว่างตลอดแต่ก็ต้องเดินแบบระแวดระวังหน่อย

21.00: Len’s café and restaurant

ก่อนกลับโรงแรมแวะนั่งชิลล์จิบเบียร์ที่ร้านอาหาร ร้านนั่งชิลล์ที่ดาลัทมีให้เลือกเยอะมากมีหลายแนว คราวนี้เราเลือกมานั่งที่ร้าน Len’s เพราะบรรยากาศดี คนเยอะดีค่ะ อากาศค่อนข้างเย็น แถมมีลมอีกด้วย


เครื่องดื่มที่สั่งรวมเป็นค่าเสียหาย 132,000 VND


เดินจากร้าน Len’s กลับที่พักประมาณ 10 นาทีเองค่ะ

22.00: Dessert

ยังไม่วายแวะมากินของหวานตบท้ายก่อนนอน ร้านห้องแถวที่ถ้าไม่ชะโงกเข้าไปดูแทบไม่รู้เลยว่าเป็นร้านขนม ที่สำคัญเป็นขนมที่ถูกปากมาก หน้าตาและรสชาติจะคล้าย เต้าส่วน บัวลอยและข้าวเหนียวเปียกบ้านเรา ขายถ้วยละ 8,000 VND คนแวะมาทานเยอะเลยค่ะ สรุปแล้วรสชาติยังสู้บ้านเราไม่ได้ แต่ ณ จุดนั้น ขนมหวานๆอุ่นๆ ซักถ้วยมันเป็นสิ่งที่ถูกต้องที่สุดแล้วค่ะ ^^



กลับมาที่โรงแรมพักผ่อนเตรียมเดินทางไปเที่ยวที่อื่นๆในดาลัทแต่เช้า

Day 2 in Dalat Smiley

ก่อนออกไปเที่ยวก็เดินข้ามถนนไปทานอาหารเช้าที่ร้าน Lien Hoa เช่นเคย ข้ามถนนกลับมาโรงแรมอีกสักพัก รถก็มารับพอดีค่ะ คนขับเป็นคุณลุงหน้าตาใจดี ^^ รถที่คุณลุงใช้เป็นรถเก๋ง 5 ประตูเราไปกันสามคนก็นั่งสบายๆค่ะ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันเราก็นั่งเขียนชื่อสถานที่ที่จะไปที่ดาลัทลงกระดาษอีกรอบ ยื่นให้คุณลุงดูว่าจะไปตามนี้นะ เวลาจะโอเคมั๊ย เนื่องจากเราต้องไปที่สนามบินตอนบ่าย ทำให้มีเวลาน้อยกว่ากรุ๊ปอื่นๆนิดนึง คุณลุงดูแล้วก็บอกว่าโอเค น่าจะทันอยู่นะ


8.15: Summer Palace

สถานที่แรกที่ไปคือ พระราชวังฤดูร้อนซึ่งเป็นพระราชวังอันดับที่สามของ Emperor Bao Dai จักรพรรดิองค์สุดท้ายของเวียดนามก่อนเวียดนามเปลี่ยนมาเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม นำโดยโฮจิมินท์พ ระราชวังนี้สร้างในปี 1933 ใช้เป็นพระราชวังตากอากาศในสมัยนั้นค่ะ ด้านในมีทั้งหมด 25 ห้องด้วยกัน ตกแต่งด้วยศิลปะสไตล์ Art Décor ที่เป็นที่นิยมในฝรั่งเศสช่วงก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1


คุณลุงจะมีบัตรเข้าชมอยู่แล้วเรียบร้อยเราไม่ต้องทำอะไรเลย แค่เดินตามลุงไป ต้องบอกก่อนว่าอย่าได้คาดหวังว่าคุณลุงจะเป็นไกด์ให้เราได้นะคะ ลุงจะอธิบายคร่าวๆนิ๊ดเดียวจริงๆว่าที่นี่คือที่ไหน ส่วนรายละเอียดเราก็ต้องศึกษาเอาเองค่ะ อย่างที่พระราชวังฤดูร้อนแห่งนี้จะมีคำบรรยายห้องต่างๆว่าเป็นห้องของใคร ใช้ทำอะไร


ก่อนเข้าอาคารต้องเปลี่ยนรองเท้าเป็นรองเท้าผ้าเสียก่อนส่วนรองเท้าที่ใส่มาก็มีถุงเตรียมไว้ให้ถือไปด้วย ตัวอาคารไม่ได้ใหญ่โตมากนักแต่ต้องบอกว่ามีการออกแบบห้องแต่ละห้องและการตกแต่งภายในที่สวยงามมากค่ะ ดูเป็นพระราชวังที่มีมุมเก๋ๆหลายมุม การตกแต่งใช้เฟอร์นิเจอร์แบบเรียบง่าย สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการออกแบบบ้านเราได้เลยนะเนี่ย เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ประมาณ  1 ชั่วโมงค่ะ





เดินเล่นรอบๆด้านนอกอาคารอากาศดีมาก มีน้องม้ายืนโพสต์ท่าให้ถ่ายรูปด้วย



9.10: Dalat Cathedral

มาต่อกันที่ Dalat Cathedral หรือเรียกสั้นๆว่า Cock Church โบสถ์นี้เป็นโบสถ์ที่ใหญ่สุดในดาลัทสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1931 โดยออกแบบให้เป็นสไตล์เดียวกับโบสถ์โรมันคาทอลิคในยุโรป ด้านในตกแต่งอย่างเรียบง่าย เป็นอีกหนึ่งจุดที่มาถ่ายรูปค่ะ สวยดี




9.30: XQ Embroidery Cultural Center

ตอนแรกว่าจะตัดที่นี่ออกจากโปรแกรมเพราะดูเป็นที่ขายของ แต่ก็อยากลองมาดูว่าฝีมือการปักผ้าของชาวเวียดนามจะสวยขนาดไหน ที่นี่เป็นเหมือนบ้านหลังใหญ่ๆ ด้านในมีสาธิตการปักผ้าและโชว์ผลงานการปักผ้าในเทคนิคต่างๆ มีทั้งภาพชิ้นใหญ่และชิ้นเล็ก มีความประณีตมากๆ ดูไกลๆเหมือนภาพวาดสีน้ำมันเลย ถ้าใครถูกใจงานชิ้นไหนก็สามารถซื้อกลับบ้านไปได้เลย เค้ามีบริการส่งให้ถึงประเทศไทยด้วยนะคะ เราเจอกลุ่มคนไทยที่นี่ด้วย กลุ่มนี้เค้าซื้องานผ้าปักกันอยู่แล้ว เลยแอบกระซิบว่า ที่นี่งานจะละเอียดและมีราคาสูง ถ้าอยากซื้อแบบถูกลงหน่อยก็ให้ไปที่ตลาดค่ะ แต่ความละเอียดก็อาจจะสู้ที่นี่ไม่ได้ 






10.30: Cable Car and Truc Lam Monastery

อีกหนึ่งไฮไลท์ของการมาเที่ยวเวียดนามคือการนั่งเคเบิลคาร์นี่แหละค่ะ route นี้จะเริ่มจากการไปสถานที่ที่ขึ้นเคเบิลคาร์ จะเป็นจุดชมวิวเมืองดาลัทด้วย ถ่ายรูปเสร็จก็มารอขึ้นกระเช้าข้ามไปยังฝั่งตรงข้ามซึ่งก็คือ Truc lam Monastery เป็นวัดและสถานปฎิบัติธรรม โดยคนขับรถจะขับรถไปรอเราที่วัดเลย เรานั่ง cable car แบบ one way นะคะถ้าใครเผลอนั่งกลับมาคลาดกลับคนขับรถละแย่เลย ค่า cable car นี้จะแยกกับค่าทัวร์ เสียเพิ่มีกคนละ 50,000 VND ค่ะ

วิวเมืองดาลัทถ่ายจากที่รอขึ้น Cable car ค่ะ


Cable car นั่งได้มากสุด 4 คน ข้างละ 2 ค่ะ เราสามารถบอกเค้าได้ว่าเรามากี่คน ถ้าเรามาแค่ 2 เราก็นั่ง 2 คนได้ค่ะ ไม่จำเป็นต้องรวมกับคนอื่นให้ได้ 4 คน


บรรยากาศดีมากมองให้เมืองดาลัททั่วเลย แถมต้นไม้ก็เยอะมากค่ะ แอบเสียวนิดหน่อย


เห็น Truc lam monastery อยู่ลิบๆ


Truc lam monastery เป็นวัดของนิกายเซนค่ะ ด้านในจะมีพระคอยดูแลนักท่องเที่ยวอยู่ วัดนี้ถึงแม้จะคนเยอะแต่ก็ให้ความรู้สึกร่มรื่นและก็สัมผัสได้ถึงความเรียบง่ายของการออกแบบอาคาร บริเวณรอบๆวัดก็มีแปลงดอกไม้และวิวทะเลสาปให้ได้ดูด้วย




11.20: Datanla Waterfall

ทานข้าวเสร็จคนขับก็ขับพามายังน้ำตกชื่อดังของดาลัท เนื่องจากดาลัทเปนเมืองภูเขา น้ำตกที่นี่จึงสูงมาก มีหลายชั้น ความเก๋ของที่นี่ก็อยู่ที่วิธีในการลงไปน้ำตกแต่ละชั้น มีความแตกต่างและมีกิจกรรมให้ทำแตกต่างกันในแต่ละชั้นด้วย Jellyjourney ชอบมากเลยค่ะ มันดูมี gimmick เล็กๆสร้างความตื่นเต้นเร้าใจดี

ไปถึงน้ำตกคนขับก็พามาอธิบายว่าน้ำตกที่นี่มีทั้งหมด7 ชั้นด้วยกัน

ชั้นแรก

เดินลงไป หรือจะเล่น roller coaster ]'ลงไป

เล่นน้ำ

ชั้นที่สอง

ใช้ cable car

เล่นน้ำ

ชั้นที่สามเป็นต้นไป

ใช้ลิฟท์ กับโรยตัวลงหน้าผา

กิจกรรม adventure

เกลี้ยกล่อมคุณแม่อยุ่ซักพักนึงคุณแม่ถึงจะยอมเล่น roller coaster กับคุณลูก roller coaster นี่นั่งได้คันละสองคนค่ะ คนหลังเป็นคนขับนะคะ คันบังคับง่ายๆมีแต่เดินหน้ากับหยุดค่ะ รถจะไหลลงไปตามราง บางจุดก็ค่อนข้างชันและโค้ง แต่ไม่อันตรายเลยค่ะ ถ้าใครชอบมันส์ๆก็ไม่ต้องชะลอเลย ให้มันไหลไปตามรางได้เลย สนุกมาก ส่วนถ้าใครยังกล้าๆกลัวๆอยู่ก็สามารถดึงคันบังคับให้มันชะลอความเร็วลงหน่อยก็ได้ค่ะ



ค่าบริการขาละ 15,000 VND แต่ถ้าซื้อไปกลับจะเป็น 20,000 VND ต้องบอกก่อนว่าขาลงจากด้านบนสุดไปชั้น 1 เราจะขี่ roller coaster ลงไป แต่ขากลับจากชั้น 1 มายังชั้นบนสุด เราจะได้นั่งบน roller coaster เฉยๆ แล้วเค้าจะมีสลิงดึงเราขึ้นมาค่ะ เราจะไม่ได้ขับในขากลับนี้ ดังนั้นก็แล้วแต่นะคะ ถ้าขาไปใครอยากขี่ลงไปแล้วขากลับจะเดินขึ้นมาก็ได้ จะได้มีเวลาชมนกชมไม้ ดูธรรมชาติได้

ขับมาระยะทางไม่ไกลมากก็ลงมายังน้ำตกชั้นแรกแล้ว บรรยากาศน้ำตกชั้นแรกค่ะ


เราไม่ได้ลงไปอีกชั้นนะคะ อยู่แค่ชั้นแรกก็พอ แต่ถ้าใครอยากเล่นน้ำตกหรือทำกิจกรรมผจญภัยต่างๆก็ลงไปยังชั้นล่างๆต่อได้เลยค่า

12.15: Lunch at Hoa Dao

คนขับพามาร้านอาหารนี้ก็เป็นร้านอาหารที่ทัวร์มาลงกันประจำค่ะ คนเยอะดี แต่รสชาติอาหารไม่ได้อร่อยซักเท่าไหร่ สั่ง hot pot คล้ายๆต้มยำแต่รสาติแปลกๆ กุ้งนึ่งซอสมะขามและไก่ย่าง

14.00: Valley of Love

ออกจากน้ำตกเราก็ขับมายัง destination สุดท้ายของทริปนี้ นั่นก็คือ หุบเขาแห่งความรักนั่นเอง แค่ชื่อก็หวานน้ำตาลหยดแล้ว พอได้เข้าไปจริงๆนี่สมชื่อเลยค่ะ เหมือนเดินเข้าไปในดรีมเวิร์ลส่วนหน้าที่ยังไม่มีเครื่องเล่น 55 คิดออกกันมั๊ยคะ เป็นจุดถ่ายรูป มีดอกไม้สวยงาม สิ่งก่อสร้างหวานแหววขนาดอิฐปูพื้นยังเป็นลายหัวใจเลย ^^




ที่นี่เค้าก็ทำน่ารักดีนะคะ อากาศเย็นๆให้บรรยากาศดี มีส่วนที่เป็นทะเลสาบด้วย ฉากหลังเป็นภูเขาสามารถปั่นเป็ดได้ แต่คงเหนื่อยแย่เลยเพราะมันใหญ่มากจริงๆ



มุมนี้ถ่ายรูปเล่นกับผีเสื้อค่ะน่ารักดีเหมือนกันนะ


นักท่องเที่ยวจีนเล่นอะไรกันซักอย่าง น่ารักเชียว


หมดเวลาแล้ววรีบกลับมาขึ้นรถ ขับไปสนามบินดาลัทค่ะ นั่งรถนานอยู่เหมือนกัน ประมาณ 40 นาที ก็ถึงสนามบิน

สนามบินดาลัทเล็กๆแต่ก็ดูดี มีแค่ 2 gate เท่านั้น


วิวระหว่างรอเครื่องบินที่เกต


เห็นตั้งแต่เครื่องบินนำผู้โดยสารไฟลท์ก่อนหน้ามาลงเลย


ถึงสนามบินโฮจิมินท์เราก็ต่อเครื่องกลับกรุงเทพเลยค่ะ เป็นอันจบทริปเวียดนามใต้ของ Jellyjourney ละค่า เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย ชอบเมืองไหนกันบ้าง คอมเมนต์มาคุยกันได้นะคะ



Facebook page: Jellyjourney




Create Date : 07 เมษายน 2559
Last Update : 9 เมษายน 2559 21:47:14 น.
Counter : 4871 Pageviews.

3 comments
  
ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ
เวียดนามชอบตรงที่เขาอนุรักษ์ต้นไม้ใหญ่นะคะ
ไม่เหมือนแถว ๆ นี้นะ เอะอะก็โค่นลูกเดียวเลย
สุขสันต์วันเกิดที่นี่อีกรอบค่ะ มีความสุขมาก ๆ นะคะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เริงฤดีนะ Sports Blog ดู Blog
jellyjourney Travel Blog ดู Blog
โดย: เนินน้ำ วันที่: 17 เมษายน 2559 เวลา:11:44:09 น.
  
HBD ค่ะ มีความสุขมาก ๆ นะคะ
โดย: mariabamboo วันที่: 17 เมษายน 2559 เวลา:20:36:23 น.
  
มาเที่ยวด้วยคน จะไปหลายที ก็ยังไม่ได้ไปเลยค่ะ
โดย: ปลาแห้งนอกกรอบ วันที่: 27 เมษายน 2559 เวลา:7:52:19 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jellyjourney
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]



สวัสดีค่ะ ชื่อ เยลลี่ นะคะ blog นี้สร้างขึ้นเพื่อเอาไว้แบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ในการไปเที่ยวของเรากับเพื่อนๆทุกคน เข้ามาเยี่ยมชม มาคุยกัน หรือมีอะไรติชมแนะนำกันได้นะคะ

Facebook page: Jellyjourney

follow my Instragram @JELLYJOURNEY for extraordinary pics in my ordinary life
+++ Please stay tuned for "Norway" trip +++