ตุลาคม 2557

 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
Dubai [Review] 3 วัน 2 คืน เที่ยวตึกสูงระฟ้ายันทะเลทรายสีทอง
ชมตึกสูงที่สุดในโลก ชอปปิ้ง ณ ห้างที่ใหญ่ที่สุดในโลก สุดระทึกนั่งรถไต่เนินทราย 
และเที่ยว The Palm Island เกาะสวรรค์กลางอ่าวเปอร์เซีย




ดูไบมีอะไรเที่ยวน้า เคยสงสัยกันบ้างมั๊ยค่ะ? นอกจากเป็น destination หนึ่งในการพักเครื่องเวลาไปเที่ยวยุโรป หรือนอกจากภาพเกาะต้นปาล์มและตึกสูงระฟ้าจำนวนนับไม่ถ้วนแล้ว มันมีอะไรให้เที่ยวอีกบ้างนะ? ด้วยความอยากรู้อีกเช่นเคย jellyjourney ก็ต้องไปซักครั้งในชีวิตให้หายสงสัยค่ะ ทริปนี้ไป 3 วัน 2 คืน ชิลล์ ชิลล์ คิดว่าเท่านี้แหละพอแล้วสำหรับดูไบเมืองเดียว มาดูกันนะคะว่าเราไปเที่ยวไหนบ้าง

ดูไบเป็นหนึ่งในรัฐ (emirate) ทั้งหมด 7 รัฐของสาธารณรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (United ArabEmirates: UAE) แม้เมืองหลวงของ UAE คืออาบูดาบี แต่เมืองที่ใหญ่ที่สุดของ UAE ก็คือ ดูไบ นี่เองสภาพภูมิประเทศจริงๆของดูไบแห้งแล้งมากค่ะ ตั้งอยู่กลางทะเลทราย ดูไบไม่มีโอเอซิสตามธรรมชาติ จะมีก็แต่คลองดูไบที่ใช้เรือขุดลอกเอา อากาศที่ดูไบแห้งและร้อนมาก คือก่อนจะไปก็กะแล้วว่าต้องร้อนมากเพราะอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่42 องศาเซลเซียส แต่พอไปถึงจริงๆ อูว์แม่เจ้า มันไม่ได้ร้อนธรรมดาค่ะ มันแห้งมากกก ไม่เหมือนร้อนชื้นเมืองไทย แห้งจนหายใจแทบไม่ออกเลย ต้องใช้เวลาซักพักค่ะถึงจะเริ่มชิน

ทริปนี้เดินทางโดยสายการบินไทยและพักที่โรงแรมดุสิตธานี โรงแรมสัญชาติไทยที่มาเปิดไกลถึงดูไบ ที่ดูไบใช้สกุลเงิน ดีแรห์ม (AED)โดย 1 AED ปัจจุบันเท่ากับ 8.83 บาทค่ะ

การเดินทางในดูไบ สามารถเดินทางได้ด้วยรถเมล์ รถใต้ดินหรือรถแทกซี่ค่ะ ซึ่งรถแทกซี่ดูเหมือนจะเป็นวิธีการเดินทางที่นิยมที่สุดเพราะรวดเร็วและมีมิเตอร์ ไม่ต้องกังวลว่าจะต้องต่อราคากับคนขับให้เหนื่อยค่ะ ถ้าเดินทางกันหลายคนวิธีนี้ก็สะดวกดีค่ะ มิเตอร์จะเริ่มที่ 10 AED


Lobby ที่ดุสิตธานี


ดุสิตธานี


DAY 1Smiley

เครื่องลงเย็นๆ แต่ไม่ใช่ว่าจะเสียเวลาวันนี้ไปปล่าวๆนะคะ ที่ดูไบคนเพิ่งจะเริ่มออกจากบ้านกันเย็นๆแดดร่มลมตกเนี่ยแหละค่ะ เชคอินที่โรงแรมเสร็จเรียบร้อยก็นั่งแทกซี่มาดูไบมอลล์ 

The Dubai Mall

ห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก!! ย้ำ ที่สุดในโลกเลยนะ (เพราะฉะนั้นจะสังเกตได้ว่า jellyjourney แวะไปดูไบมอลล์ทุกวันเลย) ดูไบมอลล์ใหญ่มากถึงมากที่สุดค่ะ เป็นสวรรค์ของนักชอปปิ้ง มีทุกแบรนด์ทุกยี่ห้อ แถมราคา tax free อีกต่างหาก หลายคนจึงมาชอปปิ้งของราคาแพงๆที่นี่เพราะราคาถูกกว่าที่อื่นค่ะ เทศการลดราคาครั้งยิ่งใหญ่หรือ Dubai Shopping Festival เริ่มตั้งแต่มกราคมและต่อไปอีกประมาณ 1-2 เดือนค่ะ


ดูไบมอลล์ไม่ได้มีดีที่ร้านค้าและราคาอย่างเดียว การตกแต่งที่นี่ก็สวยงาม มีมุมถ่ายรูปเยอะเลยค่ะ เริ่มตั้งแต่ความใหญ่โตอลังการของ Dubai aquarium and underwater zoo ที่ทำให้เราตาค้างด้วยกระจกใสขนาดใหญ่ยาว 50 เมตร อวดปลาสวยงามตั้งอยู่กลางห้างเลยนะ เด็ดจริงๆ ใครสนใจเข้าไปชมด้านในได้นะคะ


อีกหนึ่งมุมเก๋ๆ จะมีน้ำตกในห้างทั้งทีจะทำแบบธรรมดาๆก็คงไม่ได้เนอะ :P


อันนี้ชอบมากค่ะ อัตโนมัติทั้งสบู่ทั้งน้ำอยู่ในซิงค์เดียวกัน สะดวกมากอะ


ดูไบมอลล์เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึงเที่ยงคืน ช้อปกันให้จุใจไปเล้ย

Burj Khalifa

จากดูไบมอลล์เราสามารถมองเห็น Burj Khalifa ตึกที่สูงที่สุดในโลกได้อย่างชัดเจนเลยค่ะ Burj Khalifa สูง 829.8 เมตร เริ่มก่อสร้างในปี 2004 และเปิดอย่างเป็นทางการในปี 2010 มีทั้งหมด 163 ชั้น ความสูงของมันนี่ชนะตึกอื่นๆขาดเลย คิดว่าคงยากที่จะมีตึกใดโค่นแชมป์ความสูงของ Burj Khalifa ได้


Skyline at Dubai



DAY 2Smiley

Gold Souk & Herbs Souk

วันนี้ไปตลาดกันบ้างตลาดพื้นเมืองที่นี่จะเรียกว่า ซุก (Souk) ค่ะที่เราไปคือ ตลาดทอง Gold Souk และ ตลาดเครื่องเทศ Herbs Souk ตลาดทองก็มีทองขายอร่ามเลย นอกจากนั้นยังมีร้านผ้าลายพื้นเมืองคือลายตารางหมากรุกอะคะ ที่คนที่นี่เอาไว้โผกหัวกัน เนื้อผ้าที่นี่ดีมากเลยนะ ยังมีผ้า Pashmina ด้วยซื้อไปใช้เองหรือไว้เป็นของฝากก็ดีเลยค่ะ ส่วนตลาดเครื่องเทศเราก็ชอบมากเพราะมีร้านขายชากับขนมจำพวกถั่ว อินทผาลัม แอปริคอท ฟิกซ์ อยู่ในแพกเกจสวยๆ เวลาเราเดินในตลาดจะได้กลิ่นหอมของชาผลไม้ค่ะ เป็นใบชาที่อบกับผลไม้เป็นชิ้นๆ หรือบางทีก็มีดอกไม้อบอยู่กับใบชา บรรจุอยู่ในถุงขนาดใหญ่ เราสามารถเลือกได้เลยค่ะว่าจะซื้อปริมาณเท่าไหร่ เอาแบบไหนบ้าง เค้าก็จะตักให้เรา ซื้อเป็นของฝากก็เก๋ไม่ซ้ำใครนะ

The City of Gold


ชาและเครื่องเทศต่างๆ


ร้านขายผ้าและรองเท้า


ชาใน package สวยๆค่ะ


ความร้อนทำให้เหนื่อยง่ายค่ะ 55 เราเที่ยวตลาดเสร็จก็นั่งแทกซี่กลับมาโรงแรมระหว่างที่อยู่บนแทกซี่ก็บอกคนขับช่วยเร่งแอร์หน่อย คนขับบอกว่านี่เย็นสุดแล้วสู้อากาศไม่ไหวจริงๆ Smiley(ตอนนั้นเราไปเดือนมิถุนายน อุณหภูมิประมาณ 40 องศาค่ะ)

Dune Tour

เย็นนี้จองทัวร์ไต่เนินทะเลทรายหรือ Dune tour ไว้ รถมารับ 16.00 ที่โรงแรมแล้วก็ขับไปที่ทะเลทรายค่ะ ไปรวมกับคนอื่นๆที่มาจากโรงแรมอื่น ได้เวลาแล้วก็เริ่มเที่ยวได้ คนขับจะปล่อยลมยางออกนิดนึงเพื่อให้ไต่ไปบนเนินทรายได้ ที่สำคัญคือเราต้องรัดเข็มขัดค่ะ ไม่งั้นได้ไหลไปไหลมาอยู่บนรถแน่ๆ หวาดเสียวมากเลยนะเวลาไต่อยู่บนเนินสูงๆ รถก็เอียง มองวิวลงไปเสียวมากกก แต่ด้วยความชำนาญของคนขับค่ะ อยู่ดีๆรถก็เหมือนสไลด์ไปบนสันทรายและไต่ลงมาได้อย่างเนียนๆไต่ไปได้ประมาณ 15-20 นาทีก็แวะพักเล่นสไลด์เดอร์ค่ะ อันนี้แล้วแต่นะ ใครอยากเล่นก็ต้องลองดูเนินมันสูงมากเลยอะ เราก็ยังไม่กล้า แต่เห็นเด็กที่มาทัวร์เดียวกันเล่น น่าจะสนุกอยู่ค่ะ ทัวร์จะจบด้วยการนั่งรับประทานอาหารที่แคมป์กลางทะเลทราย ที่นั่นมีอาหารให้เลี้ยงอูฐและยังขี่อูฐได้ด้วยนะ แต่ต้องจ่ายเงินเพิ่มนิดหน่อยค่ะ รับประทานอาหารเสร็จก็มืดพอดี จบทัวร์กลับโรงแรมจ้า

ยานพาหนะสำหรับไต่เนินทรายค่ะ


ให้อาหารน้องอูฐอย่างใกล้ชิด



ขี่อูฐชมพระอาทิตย์ตก


Slider


แปลงกลายเป็นคนดูไบซะหน่อย



Day 3Smiley

วันสุดท้ายแล้วว เก็บสถานที่เด่นๆที่เหลือด้วยการเหมาแทกซี่ครึ่งวันให้ขับพาไปเที่ยวที่ต่างๆค่ะ

Jumeirah Mosque

มัสยิดดังของดูไบ มัสยิดนี้ถือเป็นมัสยิดเดียวในดูไบที่เปิดให้คนนอกเข้าได้ตลอด 6 วัน (หยุดวันศุกร์) แถมยังเป็นมัสยิดที่เปิดต้อนรับคนนับถือศาสนาอื่นให้มาทำความเข้าใจในศาสนาอิสลามมากขึ้น


Burj Al Arab

โรงแรม 7 ดาว ที่สูงที่สุดในโลก ตึกเป็นรูปเรือใบ สวยมากๆ เข้ากับชายหาดตรงนั้นพอดีเลยค่ะเป็นเหมือนเรือใบล่องอยู่ในทะเล ทะเลที่นี่ก็ใสและสีฟ้าสวยซะด้วยสิค่ะ เราจะเห็นฝรั่งมานอนอาบแดดกันอยู่เยอะเลย



The Atlantis, The Palm

โรงแรมชื่อดังที่ตั้งอยู่บน The Palm หรือ เกาะรูปต้นปาล์มที่ยื่นออกไปในอ่าวเปอร์เซีย โครงการ The Palm มี 2 เกาะด้วยกันคือ Palm Jebel Ali และ Palm Jumeirah ที่เราไปคราวนี้คือ Palm Jumeirah ค่ะ ไม่น่าเชื่อนะคะว่าเกาะต้นปาล์มนี้สร้างขึ้นด้วยทรายและหินเท่านั้น ไม่มีการใช้คอนกรีตในการก่อสร้างเลย เนื่องจากต้องการให้มันเข้ากับธรรมชาติมากที่สุดค่ะ สาเหตุที่เกิดโครงการนี้เกิดขึ้นก็เพราะดูไบต้องการหารายได้เข้าประเทศจากการท่องเที่ยว ถือว่าเป็นแผนสำรองจากรายได้การขายน้ำมันซึ่งน้ำมันก็ร่อยหรอลงไปทุกวันค่ะ บน Palm Jumeirah มีโรงแรม รีสอร์ต Entertainment มากมายทั้งสวนน้ำ สวนสนุก เรียกว่าเป็น Paradise Island เลยค่ะ นอกจากแหล่งท่องเที่ยวแล้ว Palm Jumeirah ยังเป็นที่อยู่อาศัยของคนรวยๆที่นี่ด้วย

เวลานั่งแทกซี่มาจากในเมืองก็จะลงอุโมงค์มาค่ะโผล่อีกทีก็อยู่บน The Palm แล้ว


ตื่นเต้นกับความเลิศหรูอลังการแล้ว ได้เวลาไปชอปปิ้งรอบสุดท้ายก่อนขึ้นเครื่องค่ะ ไปดูไบมอลล์ที่เดิม (ต้องบอกว่าที่ดูไบมีห้างหลายห้างนะคะ เช่น Mall of the Emirates แต่แต่ละห้างมันใหญ่มาก กว่าจะเดินหมดทุกจุดก็ต้องใช้เวลานาน เราเลยไปดูไบมอลล์เหมือนเดิม เพราะเริ่มคุ้นเคยแล้วค่ะ)


แม้ดูไบจะไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวที่นิยมมาก แต่การมาเที่ยวดูไบเหมือนเปิดโลกใหม่ค่ะ ถ้าเราไม่มาเราก็ไม่รู้ว่าดูไบเป็นอย่างไร ผู้คนที่นี่ดำรงชีวิตกันแบบไหน มาดูไบอะไรที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ก็เป็นไปได้หมด จากเมืองที่มีแต่ทะเลทรายก็เนรมิตให้เป็นสวรรค์บนดินได้… ลองมาซักครั้งนะคะ Smiley

#Facebook Page : Jellyjourney #IG : Jellyjourney

Next Blog : Taiwan's Blog 15 November na ja #stay tuned




Create Date : 18 ตุลาคม 2557
Last Update : 10 ธันวาคม 2558 21:02:45 น.
Counter : 17018 Pageviews.

7 comments
  
สวยมากค่า
โดย: mariabamboo วันที่: 21 ตุลาคม 2557 เวลา:12:05:29 น.
  
รอบนี้ไม่มีอาหารเลยน้า ^^
โดย: YingYang IP: 119.46.221.47 วันที่: 2 ธันวาคม 2557 เวลา:9:29:44 น.
  
อาหารไม่แจ่มเท่าไหร่ค่ะ แจ่มที่สถานที่มากกว่า อิอิ
โดย: jellyjourney วันที่: 2 ธันวาคม 2557 เวลา:23:28:31 น.
  
กำลังจะแบคแพคไปเที่ยวดูไบวันที่ 28 มค 15 ตอนนี้หัดเขียนบล๊อคอยู่ด้วยครับ เลยแวะมาหาข้อมูล ว่างๆแวะไปเวปผมบ้างนะครับ //www.estabet.com
โดย: เบท IP: 171.99.140.116 วันที่: 18 มกราคม 2558 เวลา:23:39:25 น.
  
ขอบคุณข้อมูลมากๆคะ
กำลังจะกลับเมืองไทยแต่ว่าจะพักเครื่องเที่ยว
ที่ดูไบสัก3วันเกมือนกันคะ
โดย: jen IP: 94.23.252.21 วันที่: 15 สิงหาคม 2558 เวลา:18:52:28 น.
  
อยากทราบว่า ค่าเช่าแท๊กซี่ราคาเท่าไรค่ะ..เผือไปเที่ยวบ้าง ..
โดย: ท้องฟ้า IP: 158.108.238.245 วันที่: 26 กรกฎาคม 2560 เวลา:9:06:28 น.
  
ขออนุญาตเจ้าของBlog นะคะ
https://www.facebook.com/alisra.visa/
รับทำวีซ่าดูไบ(วีซ่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)
ยื่นสะดวก เพียงสแกนเอกสารส่งทางอีเมล์ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทาง
สายด่วน : 085-6189009
Line id : alisratravel
e-mail : alisra.visa@gmail.com
โดย: alisra IP: 223.207.130.240 วันที่: 18 กันยายน 2561 เวลา:10:30:11 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jellyjourney
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]



สวัสดีค่ะ ชื่อ เยลลี่ นะคะ blog นี้สร้างขึ้นเพื่อเอาไว้แบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ในการไปเที่ยวของเรากับเพื่อนๆทุกคน เข้ามาเยี่ยมชม มาคุยกัน หรือมีอะไรติชมแนะนำกันได้นะคะ

Facebook page: Jellyjourney

follow my Instragram @JELLYJOURNEY for extraordinary pics in my ordinary life
+++ Please stay tuned for "Norway" trip +++