มิถุนายน 2557

2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
30
 
 
15 มิถุนายน 2557
All Blog
UK [Review] Bath & Salisbury (Stonehenge)
ขอต้อนรับกลับสู่ Blog อังกฤษค่ะ ช่วงนี้อากาศที่อังกฤษคงเย็นกำลังดีอยู่ในฤดูใบไม้ผลิ เห็นเพื่อนพ้องน้องพี่อัพโหลดภาพสวยๆจากการไปเที่ยวอังกฤษก็อดคิดถึงไม่ได้นะคะ วันนี้ jellyjourney จะพาไปเที่ยวอีก 2 เมืองของอังกฤษที่พลาดไม่ได้เลย เรียกได้ว่าเพิ่มเติมจากลอนดอนก็ต้อง 2 เมืองนี้แหละ คราวนี้เราจะไปเมืองบาธ (Bath) และเมืองซอลส์เบอรี (Salisbury) อันเป็นที่ตั้งของสิ่งมหัศจรรย์ของโลก นั่นคือ Stonehenge


จากลอนดอนนั่งรถไฟไปไม่ไกลเลยค่ะ แค่ชั่วโมงครึ่งก็ถึง แต่จาก Birminghamที่เราอยู่เนี่ยสิ นั่งไปกว่า 3 ขั่วโมง แถมต่อรถไฟและเปลี่ยนขบวนระหว่างทางกันจ้าละหวั่น เพราะฉะนั้นไปทั้งทีต้องเอาให้คุ้มค่ะ เลยไปทั้ง 2 เมืองเลย แต่จริงๆทั้ง 2เมืองไม่ห่างจากกันมากนะคะ สามารถไปได้ในวันเดียวค่ะ

My itinerary Smiley



BATHSmiley

บาธ เป็นเมืองแห่งบ่อน้ำพุร้อน หลายคนอาจจะงงว่าอังกฤษเนี่ยนะจะมีบ่อน้ำพุร้อนแล้วทำไมถึงมีบ่อน้ำพุร้อนอยู่ตรงนี้ เรื่องของเรื่องก็คือชาวโรมันเคยเข้ามาอยู่อาศัยในเมืองบาธตั้งแต่ยุคต้นคริสต์ศักราชค่ะ และก็นำวัฒนธรรมการอาบน้ำพุร้อนเข้ามาในอังกฤษ แหล่งท่องเที่ยวหลักของเมืองนี้จึงอยู่ที่บ่อน้ำพุร้อนเนี่ยแหละ แต่บาธก็มีสถานที่อื่นที่เจ๋งๆเยอะเลยนะ ตามมาดูกันเลยดีกว่าค่ะ

นั่งรถไฟมาลงสถานี Bath Spa ปุ๊ปก็เดินเล่นในเมืองได้เลย มีแผนที่ด้านล่างก็เดินได้ทั่วค่ะแต่ละที่ไม่ห่างกันมาก สามารถโหลดแผนที่ได้จากเวบ นี้ นะจ๊ะ


ROMAN BATHS

โรมัน บาธ ในอดีตเคยเป็นโรงอาบน้ำแร่ เป็นสถานที่เจรจาธุรกิจและเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจค่ะ แต่ก่อนมีบ่อน้ำร้อนหลายแห่งที่เมืองบาธเลย แต่ปัจจุบันก็เหลือที่นี่ที่เดียวและตอนนี้ก็กลายเป็นพิพิธภัณฑ์แล้วค่ะ ภายในโรมันบาธ รอบๆบ่อน้ำมีรูปปั้นนักต่อสู้ เทพยดา ประดับอย่างสวยงาม น้ำในบ่อเป็นสีเขียวจากแร่ธาตุในน้ ำเค้าว่ากันว่าน้ำแร่ที่นี่สามารถรักษาโรคปวดข้อและกล้ามเนื้อได้ด้วยนะแต่ถ้าใครอยากจะแช่คงแช่ที่นี่ไม่ได้ค่ะ ต้องเดินไปแช่ที่ Thermae Bath Spaเป็นบ่ออาบน้ำแร่สมัยใหม่ที่สร้างขึ้นค่ะ..การท่องเที่ยวที่นี่เสียเงินค่าเข้า13.50 ปอนด์ จะได้รับ Audio guide เดินชมที่ละส่วนไปค่ะบริเวณก็ใหญ่อยู่นะ เราจะได้เห็นทั้งตัวบ่อน้ำพุร้อน สถานที่เกิดน้ำพุร้อน รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ที่ขุดค้นพบที่นี่ค่ะ

Great Bath


รูปปั้นและวิวของ Bath Abbey ระยะไกล ถ่ายจาก Roman Baths


น่ารักมั๊ยค่ะ ช่วยสร้างบรรยากาศได้ดีเลย


เวลาเปิดแตกต่างไปแต่ละเดือนค่ะ ส่วนมากจะ 09.00 – 16.30 แต่ถ้าหน้าร้อนก็เปิดถึง 21.00 แนะนำว่าไปตั้งแต่เช้าๆจะดี เพราะตอนสายๆจะมีทัวร์มาลงค่ะ คนเยอะเลย ดูข้อมูลพิ่มเติมได้ที่ Official website ค่ะ

BATH ABBEY

ออกมาจาก โรมันบาธ ก็จะพบวิหารใหญ่ประจำเมืองบาธค่ะ เข้าไปชมกันได้นะจ๊ะ ภายในสวยน่าดู สงบเงียบแตกต่างจากความวุ่นวายภายนอก Bath Abbey ก่อสร้างเสร็จในปี ค.. 1611 และในช่วงปี ค.. 1864 – 1874 ได้รับการบูรณะเป็นแนวสไตล์ Victorian Gothic จากเพดานเดิมที่เป็นเพดานไม้..การเข้าชมเสียค่าบริจาค 2.50 ปอนด์ค่ะ

อยู่ติดกับ Roman Baths เลย


ด้านหน้า Baht Abbey


ภายใน



UNION STREET

ถนนสายสำคัญของเมืองค่ะ ระหว่างทางเต็มไปด้วยร้านขายของกระจุกกระจิกรถเข็นขายของ นักดนตรีเปิดหมวก เดินไปชอปปิ้งไปยิ้มไปค่ะ วันนั้นที่เราไปก็ประมาณเดือนมิถุนานี้แหละ อากาศกำลังดี มีแอบร้อนนิดหน่อย เดินดูตึกรามบ้านช่องที่บาธพบว่ามีสถาปัตยกรรมที่คล้ายๆกัน คือทำจากหินปูนสีออกน้ำผึ้งค่ะ การวางผังเมืองก็เป็นระเบียบมาก ภูมิประเทศของบาธเป็นแนวโค้งลดหลั่นกันไปตามเนินสูงต่ำค่ะทำให้ความสวยเพิ่มเข้าไปอีก

วงดนตรีเปิดหมวก โดยเด็กวัยรุ่นน่ารักๆ


ร้านขายของระหว่างทางค่ะ มีของอาร์ตๆขายเยอะเลย ชอบมากๆ


มีคนนอนอาบแดดบนระเบียงด้วย ดูซิ อากาศดีขนาดไหน


THE CIRCLE & ROYAL CRESCENT

ทั้ง 2 บริเวณนี้เป็นหลักฐานของการออกแบบกลุ่มตึกตามแนวโค้ง The Circle ออกแบบโดย John Wood เป็นวงเวียนที่เก๋ตรงตึกรอบวงเวียนก็จะโค้งไปตามวงเวียนด้วยจนครบเป็นวงกลมค่ะ ส่วนกลางของวงเวียนไม่ได้มีอนุสาวรีย์หรือรูปปั้นอะไรอย่างของไทยนะคะ แต่เป็นสนามหญ้ามีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นมากๆ กล้องเราคงไม่สามารถเก็บภาพความโค้งของ The Circle มาให้เห็นได้เลยขออนุญาตเอารูปที่คนอื่นถ่ายจากภาพทางอากาศมาให้ดูนะคะ

The Circle ต่อด้วย Royal Crescent จาก //www.tourist-tracks.com


สะพานโค้ง- ท่านี้เหมาะสุดแล้วค่ะกับลักษณะตึกบริเวณนี้ อิอิ


ส่วน Royal Crescent เป็นตึกแนวครึ่งวงกลมผลงานการออกแบบของบุตรชายนาย John wood เจ้าเก่านั่นเอง บริเวณนี้ใหญ่มากด้านหน้าเป็นสนามหญ้า ในหน้า spring/summer คนก็ออกมานอนอาบแดดปิคนิคกัน เราก็ถือโอกาสแกะปิ่นโตนั่งทานอาหารกลางวันมันบนพื้นหญ้าที่นี่เลยค่ะ

ใช้โหมด Panorama ของไอโฟน ถ่ายไม่ค่อยจะเก่งได้มาเท่านี้แหละค่ะ 55 มันกว้างมากกจริงจริงง


PULTENEY BRIDGE

ก่อนออกจากบาธ ห้ามลืมแวะมาสะพานนี้นะคะ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำที่บนตัวสะพานมีร้านขายของ ร้านขนมกระจุกกระจิก น่ารักมากๆ มีร้านขายแผนที่ ขายดอกไม้ด้วย เก๋สุดๆ แต่ละร้านก็มีการจัดร้านอย่างสวยงามไม่ซ้ำใคร ช่างเป็นเมืองที่ชิลล์มากเลยค่ะ แอบหลงรักบาธเข้าแล้วก็ตอนมาเดินบนสะพานนี้แหละ แม่น้ำที่ไหลผ่านเมืองบาธคือแม่น้ำเอวอน คุ้นๆมั๊ยค่ะ แม่น้ำสายนี้ก็ไหลผ่านเมือง Stratford upon Avon ที่เราพาไปเที่ยวกันมาใน blog ก่อนหน้านี่ไง


นี่เลยร้านค้าน่ารักๆบนสะพาน


โรงแรมนี้ผ่านระหว่างเดินกลับไปขึ้นรถไฟ ที่นี่เค้าชอบสร้างอะไรกันโค้งๆเนอะ Smiley


ได้เวลาไปต่อเมือง Salisbury แล้ว รีบเดินกลับไปขึ้นรถไฟค่า


STONEHENGE

ขึ้นรถไฟจากบาธมา 1 ชั่วโมงก็ถึงเมือง Salisbury เมืองนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ 2 ที่ คือ Stonehenge และ Salisbury Cathedral ค่ะ การเดินทางไป Stonehenge ถ้าเราไม่มีรถส่วนตัวแนะนำซื้อ tour สะดวกสุด รถทัวร์จะจอดรับส่งหน้าสถานีรถไฟ ดูรอบและรายละเอียดการทัวร์ ที่นี่ ราคาค่าทัวร์ 26 ปอนด์ (ปีที่แล้ว 20 ปอนด์เอง) รวมค่ารถและค่าเข้าชม Stonehenge พอไปถึง Stonehenge เราก็ยื่นบัตรนี้เพื่อรับ Audio guide ได้เลยค่ะ

Stonehenge เป็นกลุ่มก้อนหินมหัศจรรย์ที่ยังไม่มีใครทราบแน่ชัดว่า กลุ่มหินเหล่านี้มีมาตั้งแต่เมื่อใด สร้างขึ้นมาเพราะอะไร และคนกลุ่มใดเป็นคนสร้าง กลุ่มสถาปนิกเชื่อว่า Stonehenge เป็นซากปรักหักพังของวิหารของพวกโรมันที่เข้ามาอังกฤษ บางกลุ่มเชื่อว่าเป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมบูชาพระอาทิตย์ หรือเทพเจ้า บางกลุ่มก็เชื่อว่า Stonehenge เป็นปฏิทินโบราณ


Stonehenge ตั้งอยู่กลางทุ่งจริงๆค่ะ รอบๆนี่ไม่มีตึกเลย แต่คนที่ตั้งความหวังไว้เยอะอย่างเราก็อาจจะผิดหวังนิดหน่อย เพราะหินที่สูงที่สุดของ Stonehenge สูงแค่ 6 เมตรเอง แต่ก่อนมีก้อนหินอีกเยอะเลยค่ะ แต่ปัจจุบันหลงเหลืออยู่เพียงไม่กี่ก้อนเท่านั้น แต่ถ้าพิจารณาจากว่ามันมาตั้งอยู๋ในกลางทุ่งอย่างงี้ได้ไงเมือหลายพันปีก่อนก็มหัศจรรย์อยู่อะคะ เป็นสิ่งที่ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องมาดูให้เห็นกับตาตัวเอง

มีคุณลุงมานั่งสเกตช์ภาพด้วย


ระหว่างทางมา Stonehenge ค่ะ ทุ่งดอกไม้สวยเชียว



ออกจากสถานีปุ๊ป รถรออยู่เลยจ้า


ใช้เวลาเกือบๆ 1 ชั่วโมง เดินวนรอบ Stonehenge แล้วก็ไปต่อคิวนั่งรถกลับค่ะขากลับนี้เราแวะลงตรงตลาดในเมืองก่อนนะคะ แต่ตลาดก็เริ่มจะวายแล้วหละค่ะเพราะว่าเริ่มจะเย็น เราก็เดินผ่านร้านค้านิดหน่อยมุ่งตรงไปยังจุดหมายสุดท้ายของวันค่ะ

SALISBURY CATHEDRAL

วิหารแห่งนี้สร้างขึ้นระหว่างปี ค.. 1220-1258 เป็นวิหารที่มีหอคอยปลายแหลมสูงที่สุดในอังกฤษ คือ 123 เมตร สถาปัตยกรรมเป็นแนว Early English Gothic ด้านหน้าของวิหารมีสนามหญ้า เรียกว่า The close และถือเป็นสนามหญ้าหน้าวิหารที่กว้างใหญ่ที่สุดในอังกฤษภายในวิหารเก็บรักษา Magna Carta ฉบับจริงอยู่ 1 ฉบับ (Original Magna Carta มี 4 copies ด้วยกัน และ copy ที่อยู่ที่ Salisbury Cathedral นี้ ถือว่าเป็น copy ที่มีความสมบูรณ์ที่สุด) Magna Carta เป็นเอกสารทางกฎหมายที่สำคัญมากของอังกฤษลงนามโดย King John ในปี ค.ศ. 1215 เพื่อพระราชทานสิทธิเสรีภาพแก่พลเมืองอังกฤษ

ด้านนอกของวิหารและระเบียงค่ะ ภายในไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปนะคะ เลยไม่ได้เก็บภาพมาฝาก






คุณลุงคุณป้าคู่นี้น่ารักมากค่ะ เจอท่านนั่งคู่กันที่ริมถนนครั้งนึง พอมาถึง Salisbury Cathedral ก็เจออีกรอบ..น่ารักจริงๆ


เดินชมวิหารทั่วแล้วก็ได้เวลากลับบ้านแล้วค่ะ เป็นไงบ้างค่ะน่าไปเที่ยวมั๊ยใครมาอังกฤษและอยากใช้เวลาอยู่นอกลอนดอนซัก 1 วัน ที่ 2 เมืองนี้ แนะนำเลยค่ะไม่ผิดหวังแน่นอน


all UK blogs  Smiley

1. เรื่องน่ารู้ก่อนเที่ยวอังกฤษ (Thingsyou need to know before going to the UK) here

2. Warwick & Stratford upon Avon (ตามรอยShakespeare) here

3. Oxford here

4. Liverpool here

5. London part 1 part 2 part 3

6. Cardiff here

7. Bourton-on-the-Water here

8. Edinburgh here




Create Date : 15 มิถุนายน 2557
Last Update : 10 ธันวาคม 2558 19:28:01 น.
Counter : 16492 Pageviews.

4 comments
  
สอบถามค่ะ ตอนจะกลับจากสโตนเฮนจ์(เพื่อกลับไปสถานีรถไฟ) ต้องรอขึ้นรถโค้ชที่จุดไหนคะ และเช็ครอบรถขากลับได้ที่ลิงก์ไหนคะ ขอบคุณมากค่ะ
โดย: มินนี่ IP: 94.23.252.21 วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:0:10:29 น.
  
ตอนขากลับจาก stonehenge รถจะจอดแถวๆทางเข้าข้างหน้า ตรงประมาณที่เดียวกับขามาเลยค่ะ ไม่มีทางพลาดค่ะ จะมีคนต่อคิวรอขึ้นอยู่ด้วย
รอบรถขากลับขึ้นเชคในเวบนี้ค่ะ //www.thestonehengetour.info/route
โดย: jellyjourney วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา:14:30:10 น.
  
ตามมาเชียร์ ^^
โดย: ํํYingyang IP: 119.46.218.1 วันที่: 8 เมษายน 2558 เวลา:9:53:11 น.
  
Hi

Want to be a successful seller? I have an incredible opportunity for you - a turnkey business package!

Give away free ads and make sales on the back-end, keeping 100% of the profits. Build a valuable list of action-takers and drive traffic wherever you want!

No more complex funnels or empty promises. With affordable add-ons, 5-10% of your free advertisers will purchase, leading to more sales.

Set up in 15 minutes, drive traffic, and start making sales today!

Explore the opportunity now: https://cutt.ly/pwwyeKM1

Best Regards
adcardz.com/moneytraffic
adcardz.com/adpost223
adcardz.com/ads25678
โดย: Vernell Sverjensky IP: 140.238.245.116 วันที่: 19 มิถุนายน 2566 เวลา:7:01:34 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jellyjourney
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]



สวัสดีค่ะ ชื่อ เยลลี่ นะคะ blog นี้สร้างขึ้นเพื่อเอาไว้แบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ในการไปเที่ยวของเรากับเพื่อนๆทุกคน เข้ามาเยี่ยมชม มาคุยกัน หรือมีอะไรติชมแนะนำกันได้นะคะ

Facebook page: Jellyjourney

follow my Instragram @JELLYJOURNEY for extraordinary pics in my ordinary life
+++ Please stay tuned for "Norway" trip +++