Group Blog
 
 
กันยายน 2552
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
5 กันยายน 2552
 
All Blogs
 

หยุดทำร้ายลำไส้ด้วยโยเกิร์ต

lozocatlozocat
หยุดทำร้ายลำไส้ด้วยโยเกิร์ต

มีเพื่อนแนะนำมาเหมือนกันว่า ให้ทำโยเกิร์ต สูตรน้ำผึ้งผสมมะนาว
เพราะทานแล้วช่วยให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น ตอนแรก search หาบทความ
ที่เกี่ยวกับสูตร ๆ นี้ และก็ได้เจอบทความที่เวบไซต์//women.mthai.com
เป็นบทความของนายแพทย์ บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล จากมติชน
สุดสัปดาห์ โดยคุณหมอ บรรจบได้บอกเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยไว้ว่า

1. ความหวานจากน้ำผึ้งที่ใส่เข้าไป แคลอรี่ความหวานจากน้ำผึ้ง
ก็คือแคลอรี่จากน้ำตาล การทานน้ำผึ้งไม่ได้ปลอดภัยกว่า
การทานน้ำตาลความหวานของน้ำผึ้งสามารถเปลี่ยนให้โปรตีนจับตัวเป็นก้อน
ขนาดแบคทีเรียในโปรตีนยังตายเมื่อเจอกับน้ำผึ้ง
คนโบราณจึงมักใช้น้ำผึ้งทาแผลเปื่อยเพื่อฆ่าเชื้อโรค
แต่ผลข้างเคียงก็คือทำให้เนื้อเยื่อบริเวณแผลเปลี่ยนสี
และแปรรูปกลายเป็นแผล เป็น ส่วนคนจีนโบราณ
เค้าจะใช้น้ำผึ้งในการดองศพ ลองนึกดูนะว่า น้ำผึ้งเข้มข้น
สามารถดองเนื้อเยื่อได้ถึงขนาดนั้น
โอ้ว แล้วกระเพาะและลำไส้เราจะเป็นอย่างไร


2. โยเกิร์ต เป็นสิ่งบริโภคที่ไม่เหมาะกับคนเอเชีย เพราะโยเกิร์ต
คือผลผลิตของนมวัว ซึ่งคนเอเชียร้อยละ 50 -80 แพ้โปรตีนในนม
สามารถทำให้เด็กแรกเกิดเป็นโรคภูมิแพ้ได้ ถึงแม้ว่าการทานโยเกิร์ต
จะทำให้ถ่ายท้องได้คล่องก็จริงอยู่ แต่ผลข้างเคียงที่ตามมาล่ะ นั่นก็
ขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาภูมิแพ้ของคนนั้นๆ หากคุณมีอาการแพ้นมวัว โปรตีน
นมวัวก็จะทำให้เยื่อบุลำไส้ระคายเคือง เซลล์เยื่อบุเกิดอาการบวมน้ำ
จึงปล่อยสารคัดหลั่งออกมา ขับถ่ายเป็นน้ำเหลวๆ ออกไป ถ้าปล่อยให้
ระคายเคืองซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น ก็จะทำให้ภูมิต้านทานคุณปรวนแปร
จากแค่อาการแพ้ธรรมดาๆ ก็สามารถพัฒนาการเป็นลมพิษ
ผื่นคัน ไปจนถึงหอบหืด และร้ายแรงที่สุกก็คือ
โรคลำไส้เรื้อรังค่ะ

3. ท้องผูกต้องแก้ด้วยไฟเบอร์ ต้องทานอาหารพวก
เส้นใยอาหารให้มาก การทานโยเกิร์ตผสมน้ำผึ้งมะนาว
ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุด

มีเคสตัวอย่างที่น่าสนใจอยู่เคสหนึ่งของคุณหมอบรรจบ
เมื่อคนไข้ท่านหนึ่งซึ่งเป็นคนที่ใส่ใจสุขภาพ ทานข้าวกล้อง ทานผัก
ทานปลา ตามแบบไทย จนผลตรวจเลือดของเธอเมื่อ 2 เดือนก่อน
ที่เธอจะเปลี่ยนวิธีทานั้นนับได้ว่าเลือดของเธอสวยมาก ไร้ไขมัน
สิ่งตกค้างใดใด สะอาดหมดจดจริงๆ แต่เมื่อ 2 เดือนให้หลัง
หลังจากที่เธอหันมาทานโยเกิร์ตเพื่อช่วยแก้ปัญหาท้องผูก
ปรากฎว่าผลเลือดของเธอมีคราบไขมันที่กำลังจะจับตัวเป็นก้อน
รวมกันอยู่เป็นกลุ่มๆ ไขมันในเลือดสูง เป็นสาเหตุหนึ่งของโรค
คลอเรสเตอรอลสูงได้

สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่
//women.mthai.com/views_health_11_47_9614_1.women

เพื่อน ๆ มีความเห็นว่าอย่างไรกันบ้างคะเนี่ย
เรากำลังจะทำ ก็เลยไม่กล้าทานเลยอ่ะค่ะ ปกติก็ทานโยเกิร์ตวันละ
ถ้วยอยู่แล้ว



ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก //women.mthai.com ด้วยนะคะ

lozocatlozocat




 

Create Date : 05 กันยายน 2552
5 comments
Last Update : 5 กันยายน 2552 22:57:40 น.
Counter : 229 Pageviews.

 

มีประโยชน์มากเรยคร้า ปาร์ก้อแก้ปัญหาท้องผูกด้วยวิธีนี้บ่อยๆน้าเนี่ย คงจาต้องหาวิธีอื่นแระ

 

โดย: ปาร์ (prettypar ) 5 กันยายน 2552 15:07:33 น.  

 

ขอบคุณนะคะที่เอามาให้อ่านกัน

แต่ในความเห็นของเรานะ

การทานโยเกิร์ตใส่น้ำผึ้ง ใส่มะนาว มันก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรขนาดนั้นหรอกค่ะ

คุณประโยชน์ของน้ำผึ้งแท้
ก.คุณค่าทางอาหาร
จะให้พลังงานและความอบอุ่นแก่ร่างกายสูง บำรุงกล้ามเนื้อให้แข็งแรง บำรุงประสาทและสมองให้สดชื่นแจ่มใส เหมาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กอ่อน คนสูงอายุ ผู้ที่ทำงานหนัก ตลอดจนผู้ป่วยในระยะพักฟื้นด้วยโรคต่างๆ กิน ½ - 1ช้อนโต๊ะ ตอนเช้า และก่อนนอนทุกวัน
สำหรับผู้ที่อดนอน เคร่งเครียดทำงานหนัก อ่อนเพลีย ไม่มีแรง ใช้น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะผสมน้ำผลไม้ดื่ม จะทำให้สดชื่นมีเรี่ยวแรงแเข็งขัน และมีความคิดแจ่มใส

ข.คุณค่าทางยารักษาโรค
1.ยาอายุวัฒนะ ทำให้ร่างกายสดชื่น แข็งแรง จิตใจแจ่มใส กิน 1/2 - 1 ช้อนโต๊ะ เวลาเช้าและก่อนนอนเป็นประจำทุกวัน

2. นอนไม่หลับ – มีความเครียดทางประสาทสูง ใช้งาดำคั่วบดให้แหลกขนาด 1/2 ช้อนชา ผสมน้ำผึ้ง ½ - 1 ช้อนโต๊ะ กินก่อนเข้านอนเป็นประจำจะทำให้หลับสบาย

3. ท้องอืดเฟ้อ อาหารไม่ย่อย ใช้น้ำขิงต้มให้เข้มข้น ประมาณครึ่งถ้วย (เพื่อความสะดวกจะใช้ผงขิงแห้งชงน้ำร้อนแทนก็ได้) ใส่เกลือเล็กน้อยผสมน้ำผึ้ง ½-1 ช้อนโต๊ะ กินวันละ 3 เวลา หลังอาหาร

4. เด็กอ่อนที่มีอาการแหวะนมหรืออาเจียน (เนื่องจากนมหรืออาหารไม่ย่อย) ใช้น้ำผึ้ง ½-1 ช้อนชาผสมนมให้เด็กกินเป็นประจำ จะแก้อาการได้เป็นอย่างดี เพราะในน้ำผึ้งมีน้ำย่อย ช่วยนมและอาหารได้เป็นอย่างดี

5. แก้ท้องผูก น้ำผึ้งแท้ใหม่ไม่ค้างปี จะมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ จะแก้อาการท้องผูกในเด็กและคนชราได้เป็นอย่างดี ขนาดที่ใช้ ผู้ใหญ่ 1 ช้อนโต๊ะก่อนนอน เด็กลดลงตามส่วน ถ้าท้องผูกมากและเป็นประจำใช้เม็ดแลลักตากแห้งแช่น้ำอุ่นให้แตกเป็นเมือก ขนาดครึ่งถ้วยแก้วใส่เกลือเล็กน้อย ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ กินก่อนนอนเป็นประจำ จะช่วยให้ถ่ายท้องได้สบาย

6. อาการอ่อนเพลีย จากการถ่ายท้องอย่างแรง อาเจียน เป็นลม เหงื่อออกมาก ใช้น้ำผึ้ง 1-2 ช้อนโต๊ะ เกลือ ¼ ช้อนชา น้ำอุ่น 1 ถ้วยแก้ว ดื่มแก้อาการอ่อนเพลียได้เป็นอย่างดี

7. แก้ไอหลอดลมอักเสบ-ขับเสมหะ ใช้กระเทียม 1-2 กลีบ ตำให้แหลกละเอียด น้ำมะนาว ¼ ลูก เกลือเล็กน้อย พิมเสนหรือการบูร 2-3 เกล็ด น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ ผสมเข้าด้วยกัน กินวันละ 3 เวลา หรือเมื่อไอ

8.โรคริดสีดวงทวารและเส้นเลือดขอด มักจะเป็นมากในคนสูงอายุหรือสตรีขณะตั้งครรภ์ใช้กระเทียม
โทน (หัวเดียวมีเม็ดเดียว) ผ่าแบ่ง 4 ส่วน ตามแนวตั้ง ตากแดด 3 วัน ใส่ขวดปากกว้าง ขนาดใช้กระเทียม ½ ขวด เติมน้ำผึ้งจำเต็มขวด แช่ไว้ประมาณ 7 วัน แล้วตักกระเทียม 4 กลีบ น้ำผึ้งผสม 1 ช้อนโต๊ะ กินเช้า-เย็น เป็นประจำจนอาการทุเลาหรือหาย (เส้นเลือดฝอยเปราะแตกง่าย เช่น เลือดกำเดา หรือเลือดออกตามไรฟัน ก็ใช้ตำรับนี้ได้)

9.แก้ความดันโลหิตสูง ในระยะเป็นหรือระยะควบคุม(อาการมักปวดหัวและตึงเบ้าตาเป็นประจำตอนเช้าขณะลืมตาตื่นนอน) ใช้ผงรากระย่อมน้อย ขนาด ¼ - ½ ช้อนชา ผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ กินวันละ 1 หรือ 2 มื้อ เช้า-เย็น

10.แก้เด็กปัสสาวะรดที่นอน ให้เด็กกินน้ำผึ้ง 6 ช้อนชา โดยไม่ต้องผสมน้ำก่อนเข้านอนเป็นประจำจนอาการหายไป

11.ตับอักเสบ ตับแข็ง เนื่องจากพิษสุราเรื้อรัง หรือดีซ่าน ใช้น้ำผึ้งขนาด ½ - 1 ช้อนโต๊ะ กินวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น

12.รักษาบาดแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกหรือ ถูกท่อไอเสียของรถ ใช้ผ้าพันแผลที่สะอาดชุบน้ำผึ้งแล้วปิดทับบาดแผลไว้ จะช่วยบรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อนได้เป็นอย่างดี เปลี่ยนผ้าพันแผลทุก 12 หรือ 24 ชั่วโมงต่อครั้งบาดแผลจะหายอย่างรวดเร็ว
บาดแผลเรื้อรังในคนที่เป็นโรคเบาหวานรักษาด้วยวิธีนี้ได้จะได้ผลเป็นอย่างดีทีเดียว

อ้างอิงจาก นิตยสารหมอชาวบ้าน
เขียนโดย ภก.วีระพันธ์ ตันติพงษ์




ส่วนโยเกิร์ตนะคะ
โยเกิร์ตเป็นอาหารย่อยง่าย เพราะน้ำตาลแลคโทสเป็นตัวหลักที่ทำให้เกิดการแพ้นมหรือท้องเสีย แบคทีเรียแลคโทบาซิลลัสในโยเกิร์ตมีเอนไซม์ช่วยย่อยโปรตีนนมเคซีน ซึ่งเป็นโปรตีนย่อยยาก ทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ง่ายขึ้น ลดปัญหาภูมิแพ้ต่อน้ำตาลแลคโทสและโปรตีนเคซีน
เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และช่วยยับยั้งจุลชีพที่ไม่เป็นมิตรในลำไส้ ความพิเศษของแบคทีเรียในโยเกิร์ตนี้เป็นเสมือนทหารประจำบ้าน คอยช่วยยับยั้งจุลชีพที่ไม่เป็นมิตรในลำไส้ใหญ่ เช่น เชื้อซาลโมเนลลา (Salmonella spp.) อี.โคไล (E. coli) และ โคลิฟอร์มแบคทีเรีย (Coliform bacteria) ซึ่งเป็นเชื้อประจำถิ่นในร่างกายเราอยู่แล้ว แต่เมื่อร่างกายอ่อนแอลง แบคทีเรียชนิดนี้จะเป็นตัวฉวยโอกาสก่อโรคแก่เรา
เป็นแหล่งวิตามินบี โดยเฉพาะวิตามินบี1 (ไรโบฟลาวิน) นอกจานั้นแบคทีเรียในโยเกิร์ตยังช่วยสังเคราะห์วิตามินบีและวิตามินเคในลำไส้ได้ด้วย
ช่วยรักษาโรคท้องเสีย ท้องเดิน และแผลในกระเพาะอาหาร จากการวิจัยพบว่า ผ๔ป่วยเกหายจากอาการท้องเสียเร็วขึ้นหลังจากได้รับประทานโยเกิร์ต
ช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น กรดแล็กติกในโยเกิร์ตช่วยทำให้การย่อยแคลเซียมในนมดีขึ้น และทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมง่ายขึ้น
เป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ในโยเกิร์ตจะมีโปรตีนมากกว่าในนม 20 เปอร์เซ็นต์ และยังเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดี
ช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ แลคโตบาซิลลัสช่วยควบคุมปริมาณคอเลสเทอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเลือดได้
ช่วยป้องกันมะเร็ง แล็กโตบาซิลลัสสามารถจับกับสารก่อมะเร็ง โลหะหนัก และกรดน้ำดีซึ่งมีพิษ โดยช่วยยับยั้งกลุ่มแบคทีเรียในลำไส้ที่สร้างสารไนเตรตได้ (สารไนเตรตเป็นสารก่อมะเร็งตัวหนึ่ง) และแล็กโตบาซิลลัสยังช่วยเปลี่ยนสารฟลาโวนอยด์จากพืชให้เป็นสารต้านมะเร็งได้ด้วย

อ้างอิงจาก นิตยสารชีวจิต ฉบับเดือนกรกฎาคม 2549

 

โดย: Rx048 5 กันยายน 2552 15:46:47 น.  

 

ขอบคุณที่นำมาให้อ่านนะคะ แต่เห็นด้วยกับคุณข้างบนว่ามันไม่ได้น่าตื่นตระหนกขนาดนั้น ประโยชน์ของมันในอีกด้านก็มีค่ะ ส่วนน้ำผึ้งอันนั้นเราทานไม่ได้อยู่แล้วเพราะโดยส่วนตัวเราแพ้น้ำผึ้งค่ะ น่าเสียดาย

 

โดย: ชิฟฟอนคาปูชิโน่ 5 กันยายน 2552 17:21:44 น.  

 

เพิ่งรู้นะค่ะเนี่ย เป็นความรู้ใหม่จริงๆค่ะ

 

โดย: ::ชีสเค้ก_ฟองเบียร์:: 5 กันยายน 2552 18:36:11 น.  

 

ดีจ้า น้องสาว
ของพี่เคยลองกินแล้ว
มันไม่เวิร์คก็เลยไม่ได้กินต่อ
อาจจะเหมาะสำหรับบางคนมั้ง
แต่ก็ไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วมันดีหรือไม่ดีเนอะ
เพราะว่าแรก ๆ ก็มีบทความว่ามันดี
ตอนนี้ก็ออกมาว่าไม่ดี....

พี่ก็เลยเดาเอาว่าน่าจะแล้วแต่คน
5555555

 

โดย: มารุจัง (มารุจัง ) 8 กันยายน 2552 18:51:52 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


เวลาจะช่วยอะไร
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




: Users Online รวมทั้งหมด คน


MusicPlaylist
MySpace Playlist at MixPod.com

Jeabzilla ไม่ไหวจะเคลียร์

สร้างลิงค์ของโปรไฟล์ในแบบที่เป็นตัวคุณเอง
Friends' blogs
[Add เวลาจะช่วยอะไร's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.