Bloggang.com : มาเรีย ณ ไกลบ้าน : Idyllic Concept Resort บูติคฮิปเก๋ไก๋สวรรค์น้อยๆความสุขก้อนใหญ่ๆบนเกาะหลีเป๊ะ

Idyllic Concept Resort บูติคฮิปเก๋ไก๋สวรรค์น้อยๆความสุขก้อนใหญ่ๆบนเกาะหลีเป๊ะ

หลีเป๊ะ ....สวรรค์อันดามันที่เคยฝันไฝ่อยากครอบครอง เอ๊ย อยากไปเยือนซักครั้งตั้งแต่สมัยยังสาวๆ อยู่ไปอยู่มาผ่านไปไม่กี่ปี (ก็ยังสาวอยู่) ความฝันถึงได้เป็นจริง

แม้ตัวเองจะเป็นชาวเกาะ แม้จะเป็นคนที่รักภูเขามากกว่าทะเลก็ตาม แต่หลีเป๊ะก็ยังอยู่ใน wish list เสมอมา แม้ระยะทางไม่ได้อยู่ไกลจนเกินเอื้อมแต่การเดินทางก็ทุลักทะเลเอาเรื่อง

เคยเห็นภาพที่สวยงามของหาดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีเขียวมรกตและโลกใต้ทะเลที่สวยงามเป็นที่เลื่องลือ คิดในใจว่าไม่ว่ายังไงก็ขอมาสัมผัสหลีเป๊ะซักครั้ง การเดินทางเริ่มต้นที่กรุงเทพ นั่งเครื่องไปลงหาดใหญ่ ไปถึงก็ต่อรถไปท่าเรือปากบาราอีกชม.กว่า นั่งชมทิวทัศน์ที่เขียวขจีสองข้างทางเพลินๆแป๊บเดียวยังไม่ทันง่วงก็ถึงท่าเรือแล้ว นั่งรอเวลาอีกแป๊บก็เรือสปีดโบ๊ดไปแวะตะรุเตากันก่อน แล้วค่อยไปชมเกาทะลุ ก่อนจะเรืออีกตุ๊บไปถึงโป๊ะเพื่อจะต่อเรือหางยาวขึ้นฝั่ง ...การเดินทางเหมือนจะสิ้นสุดตรงนี้แต่ก็ปล่าวเพราะต้องเดินไปขึ้นรถแล้วเดินชายหาดอีกต่อกว่าจะถึงโรงแรม หมดวันหมดแรงกันเลยทีเดียว

photo 1511222_10152540461556400_6911631171910981611_n_Fotor_Collage.jpg

ท่าเรือปากบาราใหญ่โตโอ่อ่า ซึ่งเราสามารถเลือกนั่งเรือเฟอรี่หรือสปีดโบ๊ทไปตะรุเตาหรือหลีเป๊ะก็ได้ค่ะ เฟอรี่ใช้เวลามากกว่า ค่าเรือถูกกว่า ส่วนเรือสปีดโบ๊ทที่นี่ลำใหญ่กว่าที่เคยนั่งไปเกาะตาชัย เกาะสิมิลัน นักท่องเที่ยวเป็นต่างชาติมากกว่าคนไทย สงสัยคนไทยรอเที่ยวหน้าร้อนล่ะมัง

แวะอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะตุระเตาก่อน ยอมรับว่าตื่นเต้นมากที่ได้มาที่นี่เป็นครั้งแรก แต่รู้สึกคุ้นเคยอาจจะเป็นเพราะได้ยินชื่อและเรื่องราวของที่นี่มาตั้งแต่เด็กก็ได้

ชายหาดไม่ขาวมากแต่ก็ถือว่าสวยงามและเงียบสงบ เหมาะกับการมาพักผ่อนจริงๆ นักท่องเที่ยวถือว่าน้อย เห็นมีบังกะโล ที่พักอยู่หลายหลัง ร่มรื่นไปด้วยทิวต้นสน ชายหาดก็สวยงาม น้ำใสน่าเล่น ยังนึกเล่นๆว่าถ้ามีโอกาสอยากจะมากางเต้นท์นอนที่นี่ดูซักครั้ง เคยแต่กางเต้นท์บนยอดดอยตื่นเช้ามาเห็นพระอาทิตย์โผล่พ้นสันเขา จินตนาการว่าเห็นพระอาทิตย์ขึ้นเหนือของน้ำจากหน้าเต้นท์ดูบ้าง น่าจะโรแมนติคไม่น้อยเลย

อยู่บนเกาะตะรุเตาซัก 15 นาทีก็ขึ้นเรือต่อไปเกาะทะลุ แต่ไม่ได้ลงไปบนเกาะเพราะน้ำขึ้นสูง ได้แต่ปีนป่ายถ่ายรูปจากบนเรือ เสียดายเหมือนกัน

หาดทรายน้อยๆน้ำตื้น น่าเล่นจัง

นั่งเรือต่ออีกแป๊บก็ถึงโป๊ะเพื่อเปลี่ยนลงเรือหางยาวเข้าไปบนฝั่งแล้วจ้า บอกแล้วว่าทริปนี้หลายตุ๊บหน่อย เหนื่อยเอาเรื่องน่ะเนี่ย ย้ายทั้งตัวทั้งของลงเรือเล็กทุลักทุเล (เราคนเดียวเพราะเด็กเรือเค้าทำงานกันคล่องแคล่วเลยล่ะ) ไปถึงฝั่งก็มองหาป้ายโรงแรม ถ้าเราจองที่พักไปปรกติทางโรงแรมจะมารับนะคะ เจอคนมารับแล้วก็เดินกันต่อไปขึ้นรถสามล้อเพื่อเดินทางต่อไปรีสอร์ทที่อยู่บนหาด sunrise ใช้เวลาไม่น่าเกิน 10-15 นาทีก็ถึง แต่เดี๋ยวก่อน ถึงหาดนะคะ ยังไม่ถึงโรงแรม ต้องเดินกันต่ออีกซักร้อยเมตรถึงจะถึงโรงแรม เป็นไงล่ะ ไม่รักกันจริง ไม่ได้แอ้มป้าน่ะเนี่ยยยย งานนี้ อิอิ

มาถึงโรงแรมแล้วจ้าาา สวยม้ายยยย? มาถึงก็เห็นสระว่ายน้ำมาต้อนรับก่อนเลย และหลังจากการเดินทางที่สะบักสะบอมมาเห็นสระว่ายน้ำแบบนี้แทบอยากกระโจนใส่ล้างตัวก่อนเข้าห้องพักด้วยซ้ำ

Idyllic Concept Resort อยู่ริมหาด Sunrise ค่ะ สามารถนั่งชมพระอาทิตย์ขึ้นริมทะเลได้สวยงามมากก แสงบ่ายยามเย็นก็ซ้วยสวยโดยเฉพาะถ้าวันไหนแสงพระอาทิตย์ตกสวยจะสะท้อนฟ้าด้านนี้ให้มีสีสันมีมิติที่สวยงามมากเลยล่ะ แถมร่มรื่นเดินเล่นริมหาดไม่ร้อนอีกด้วยน่ะ

สนใจดูรายละเอียดของโรงแรมได้ที่ //www.idyllicresort.com จ้า

รีสอร์ทอยู่ติดหาดหน้ากว้างเลยค่ะ มีเก้าอี้นอนเล่นริมหาดเยอะเลย เท่าที่ดูแขกที่มาพักที่นี่เป็นต่างชาติเกิน 80% นะคะ คนไทยเราหายไปเที่ยวที่ไหนกันหมดน้าาา ??

เดินเข้ามานิดเดียวก็ถึงโซนห้องพักแล้ว โดยคืนแรกเราพักห้อง i-sea ซึ่งเป็นบังกะโลอยู่โซนหน้าของรีสอร์ท ที่สามารถมองเห็นทะเลได้เบๆแต่ไม่ค่อยเต็มตานัก ห้องพักขนาดกระทัดรัดแต่ออกแบบได้พอเหมาะ ห้องน้ำขนาดใหญ่เชียว มีส่วนอาบน้ำกลางแจ้งด้วย แต่ปรกติก็ไม่ค่อยได้ใช้งานเท่าไหร่ ไม่ค่อยถนัด อิอิ ทุกห้องเค้าจะจัดวางหมวกไว้ 2 ใบบนเตียง มีกระเป๋าสานไว้ใส่ข้าวของเวลาเดินเล่นอยู่ภายในรีสอร์ทหรือไปนั่งเล่นริมทะเล

สิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพักก็มีตามมาตรฐานโรงแรม 4-5 ดาวค่ะ ชากาแฟ มินิบาร์ ชุดคลุมอาบน้ำ เซฟ ร่ม รองเท้าแตะเดินในห้อง เคเบิล WiFi พร้อมค่ะ

พักผ่อนในห้องแพ่บก็ออกมานั่งเล่นที่เก้าอี้ริมหาดกับเค้าบ้างไรบ้าง

แสงบ่ายสวยงามอบอุ่นแบบนี้ เดินเท้าเปล่าบนหาดชมวิวชมบรรยากาศไปเรื่อยๆ ฟินที่สุดแล้วค่ะ

ขอชมห้องพักแบบอื่นๆดูบ้าง ช่วงที่ไปห้องค่อนข้างเต็ม เลยได้ชมสองสามห้องเอง ห้องพักแบบ i-pool ที่อยู่โซนด้านหลัง แบบห้องและการตกแต่งแนวเดียวกันหมดนะคะ ราคาแตกต่างตรงโลเกชั่นและขนาดห้องเท่านั้นแต่ห้องชั้นสองฝั่งติดสระว่ายน้ำด้านในห้องนี้สวยดีค่ะ มีอ่างอาบน้ำอยู่กลางห้องเลย แต่แอบเซ็กซี่ไปนิด งานนี้ถ้าไปกับเพื่อนมีเขิลนะคะเนี่ย

I-pool ชั้นสอง ห้องนี้ใหญ่หน่อย มีมุมนั่งเล่นด้วยแต่ส่วนนี้คิดว่าไม่จำเป็นนัก ส่วนอื่นๆก็ออกแบบได้สวยงามลงตัวดีทีเดียว

สระว่ายน้ำขนาดกระทัดรัด กับพูลบาร์ที่พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มเย็นฉ่ำชื่นใจ ว่ายน้ำไป จิบแตงโมปั่นไป ฟินมั้ยเนี่ย?

ท้องฟ้ายามเย็นฝั่งนี้สวยขนาดนี้ ทางหาดบันดาหยา (พัทยา) ซึ่งเป็นฝั่งพระอาทิตย์ตกคงจะสวยมากๆแน่ๆ

ด้านหน้าของโรงแรม จะเห็นสะว่ายน้ำและห้องอาหารที่ตึกชั้นล่าง ส่วนด้านบนเป็นห้องพักแบบ I-Pano ค่ะ เสียดายที่มีแขกพักเลยไม่ได้เข้าไปชมว่าบรรยากาศจากระเบียงห้องนี้จะสวยงามขนาดไหน

มาเที่ยวทะเล ถ้าปัจจัยอำนวยต้องพักริมทะเลหรือไม่ก็พักบนคลิฟที่สามารถมองเห็นวิวทะเลเต็มตาแบบพาโนรามาเท่านั้นค่ะ และทริปนี้ค่อนข้างโชคดีเพราะที่พักอีก 2 คืนเราย้ายไปนอนกันบนหน้าผา ที่เป็นหนึ่งในรีสอร์ทในฝันกันเลย เดี๋ยวมาเฉลยในรีวิวหน้านะคะ ว่าพักที่ไหน แต่บอกเลยว่าฟินที่สุดจุดนี้

บรรยากาศห้องอาหาร สระว่ายน้ำและหาด Sunrise ยามค่ำคืน โรแมนติคมากๆๆ

อาหารเมนูหลากหลายจากห้องอาหารของ Idyllic เลือกสั่งเลือกทานกันได้ไม่เบื่อค่ะ ทั้งไทยทั้งเทศ ทั้งฟิวชั่น รสชาติอาหารถือว่าใช้ได้เลย ชอบต้มยำกุ้งค่ะ ทานสองมื้อเลย

ทานอาหารเสร็จไม่มีอะไรทำก็ออกไปเที่ยวชมถนนคนเดินของหลีเป๊ะกัน เห็นมีร้านอาหาร ผับ ร้านนั่งดื่ชิลล์ๆ ร้านนวดเท้านวดไทย ร้านค้าอยู่มากมายและใหญ่โตกว่าที่คิด ส่วนตัวไม่ค่อยชอบแนวนี้แต่มีไว้ก็ดีเอาไว้เปลี่ยนบรรยากาศเวลาอยากสัมผัสบรรยากาศเมือง อยากหาอะไรแปลกนอกรีสอร์ททานหรืออยากได้ของที่ระลีก ออกไปเดินเล่นดูบรรยากาศก็เพลินดีไม่เสียอะไร

เดินกลับโรงแรมเห็นท้องฟ้าแบบนี้ คว้ากล้องและขาตั้งกล้องออกมาเดินถ่ายรูปแทบไม่ทัน

ส่วนไลน์อาหารเช้ามีไม่มากนัก แต่เป็นคนไม่เรื่องมากเรื่องอาหารเช้า มีอะไรทานอย่างนั้น ไม่เคยคิดเป็นเรื่องใหญ่ ถ้ามีไลน์มากก็จะเสียเวลาทานอาหารนานหน่อยแค่นั้น อิอิ อะไรๆก็เหมือนที่อื่นแต่ที่นี่จัดต้มยำไว้ตั้งแต่เช้าเลย ไม่เหมือนใครจริงๆ เป็นต้มยำรสชาติกลางๆกลมกล่อมไม่จัดมาก พอทานกันเป็นอาหารเช้าได้อยู่ค่ะ ส่วน ABF หรือไข่ก็สั่งเป็นจานเดี่ยวเอา

รูปจากมือถือจ้า

photo 10359214_10152540469286400_2338421378283277922_n_Fotor_Collage.jpg

ฟ้าสวยมากกกกก

สปาเล็กๆริมทะเล มีเตียงแค่ 2 เตียง อยู่ติดห้องอาหาร เลยไม่ค่อยเป็นส่วนตัวเท่าไหร่ แต่ถ้าแค่นอนนวดไทยริมทะเลแค่นี้ก็เพียงพอแล้วค่ะ

อีกคืนเราย้ายห้องมานอนที่ห้อง I-Sky ซึ่งเป็นห้องพักที่อยู่ด้านหน้าสุดของรีสอร์ท เป็นห้องที่อยู่ติดหาด มีโต๊ะเก้าอี้ที่ระเบียงห้องที่อยู่ด้านหน้า ออกไปนั่งชมวิวทะเลกันเต็มๆๆตากันได้เลย ชิลล์มากๆ

ห้องพักออกแบบเหมือนห้อง I-Sea เลยค่ะ เพียงแต่ตำแหน่งห้องจะอยู่ใกล้ชิดทะเลมากกว่าแค่นั้น (แต่นี้แหล่ะเรื่องใหญ่ อิอิ)

แสงบ่ายก็สวยนะคะ

บรรยากาศยามค่ำคืนก็งาม แม้ห้องจะมีขนาดกระทัดรัดไปซักนิดแต่ก็โรแมนติคที่สุดค่ะ

ห้อง I-Pool ยามค่ำคืนก็สวยงามมากน่ะ เลือกกันไม่ถูกเลยจะนอนห้องไหนเนี่ยยยย

โรงแรมมีโซนห้องพักใหม่นะคะ เป็นตึกสองชั้นที่มีห้องพักหลายแบบเช่น I-Beach front ที่อยู่ด้านหน้าสุดของตึก ห้อง I-Breeze I-Sun I-Mountain I-Green ห้องพักดีไซน์สวยงามหลากหลายน่าแย่งชิงมากๆๆ เดี๋ยวเอาห้อง I-Beach front มาชมกันก่อนนะคะ เพราะตอนที่ไป แบบอื่นๆยังไม่เสร็จเรียบร้อยค่า สนใจดูรายละเอียดห้องโซนใหม่ก็เข้าไปดูในเวบของโรงแรมได้ก่อนเลยจ้า

แท้น แท่นนนนนน มาแล้วๆๆๆ ห้องแบบ I-beach front ห้องหัวมุมชั้นสอง ชอบห้องนี้ที่สุดเลยยยยย

ห้องพักโปร่งโล่งสบาย ใช้ไม้เป็นวัสดุหลักในการตกแต่ง โทนสีอบอุ่น ฟ้า เทา เหลือง ครีม น่าพักผ่อนมากๆ ห้องมีระเบียงยาว 2 ด้าน ออกไปกินลมชมวิวกันได้เต็มอิ่มเลยค่ะ หรือถ้าไม่ออกไปไหนก็นั่งๆนอนๆกินบรรยากาศอยู่ในห้องก็เกินจะฟินน่ะ ส่วนตัวชอบห้องนี้มากที่สุดเลย อ้อ เค้าใช้กระจกกรอกแสงเพื่อลดปริมาณแสงที่เข้ามาในห้องตอนกลางวันด้วย เย็นตาสบายๆกันไป

ระเบียงกว้างและยาวเต็มพื้นที่ ไปพักสองคนระเบียงเหลือตรึม อิอิ

ตอนกลางคืนโรแมนติคสุดๆ มาพักผ่อนริมทะเลมันต้องได้บรรยากาศแบบนี้สิน่ะ

วิวจากระเบียงห้องจ้าาาา

วันนี้ฟ้าโปร่ง ออกมานั่งชมดาวริมทะเลกันค่ะ โรแมนติคที่สุดเลย

พระอาทิตย์ขึ้นยามเช้าแสงสีบรรยากาศเปลี่ยนไปทุกวันไม่ซ้ำกันเลย สิ่งเดียวที่เหมือนกันคือความสวยงามโรแมนติคที่น่าหลงใหลจริงๆค่ะ

ยานพาหนะที่พาเราแว้นซ์ไปทั่วเกาะ รถสาธารณะของหลีเป๊ะก็จะประมาณนี้นะคะ นั่งสนุกมาก บางเส้นทางต้องบอกว่าค่อนข้างออฟโรด เป็นหลุมเป็นหินเป็นร่องเป็นโคลนบ้าง สนุกตื่นเต้นได้รสชาติมาก ใครมาถึงหลีเป๊ะแล้วไม่ลองนั่ง (รับรองว่าไม่มีใคร อิอิ) เรียกว่ามาไม่ถึงน๊า

ไปเที่ยวรอบเกาะชมทะเลสวยๆกัน ไปหาดประมงกันจ้าา หาดนี้เป็นหาดที่เรามาลงโป๊ะกันน่ะ เป็นด่านแรกที่มาถึงหลีเป๊ะกันเลย

น้ำทะเลที่หลีเป๊ะจะออกเขียวนะคะ แต่ทางอันดามันฝั่งพังงาจะเป็นสีเทอควอยซ์มากกว่า สวยไปคนล่ะแบบ

ยามเย็นที่หาดประมง จริงๆตั้งใจจะมาชมพระอาทิตย์ตกที่นี่ (ก็เค้าเรียก Sunset beach นิ) แต่เห็นแสงและองศาของดวงอาทิตย์แล้วไม่ได้การ ย้ายฐานไปบันดาหยาดีกว่า..

หาดบันดายา (หาดพัทยาจ้าาา) ฟ้าสวย ทะเลก็จะสวยไปด้วย

หาดบันดาหยา หรือหาดพัทยา ตามที่ฝรั่งเค้าเรียก คงเพราะออกเสียงคล้ายกันฝรั่งเลยเหมาซะว่าเป็นหาดพัทยาซะเลย หาดนี้สวยงาม หาดทรายกว้างและยาว เป็นหาดฝั่งพระอาทิตย์ตกที่สวยงามเลยล่ะ

ตม.ฝั่งไทยก็อยู่ที่หาดนี้ค่ะ มีเรือไปลังกาวีด้วย

หาดบันดาหยายามอาทิตย์อัสดง

นั่งเรืออกไปดำน้ำกันดีกว่า ซึ่งเราสามารถซื้อทัวร์ดำน้ำได้จากบ.ทัวร์ทั่วไปหรือติดต่อผ่านโรงแรมก็ได้ค่ะ ราคาไม่แพง พันกว่าบาท ต่างที่ต่างราคากันนิดหน่อยแต่ก็ถือว่าไม่แพงเลย (เพราะไปเรือหางยาวกัน อิอิ)

แวะเกาะหินงามพอกรุบกริบ

ทริปนี้ไม่ได้เอากล้องถ่ายภาพใต้น้ำมาเพราะไม่มี อิอิ ไม่ได้เตรียมเคสใส่กล้องมาด้วย เพราะจริงๆแล้วเป็นคนกลัวการดำน้ำมาก เลยไมไ่ด้คิดเตรียมอะไรตรงนี้ แต่พอมาถึงจริงๆแล้วอดใจไม่ลงน้ำไม่ไหวจริงๆค่ะ คิดแล้วก็หาซื้อซองใส่มือถือที่มียี่ห้อหน่อยแบบล็อคสามสี่ชั้น ลองลงน้ำเสี่ยงดุที่ร่องจาบัง แต่อย่าพูดถึงเรื่องถ่ายรูปเลยค่ะ ลำพังแค่จับเชือกที่ทุ่นให้มั่นยังทำยากเพราะกระแสน่ำแรงมากๆๆ ตัวเองหลุดจากทุ่นลอยห่างเรืออกไปในเสี้ยววินาที กลัวมากๆ รีบว่ายทวนน้ำกลับไปที่เรือจนไม่กล้าลงอีกเลย อิอิ เก็บซองกันน้ำเอาไว้ลองถ่ายในจุดมี่กระแสน้ำไม่แรงดีกว่า ได้มานิดหน่อยพอกรุบกริบ ช่วงนั้นมีฝนน้ำเลยขุ่น ไม่ใสเท่าที่ควรค่ะ แต่ช่วงเดือนนี้ไปแล้วจนถึงเดือนพค.เป็นช่วงไฮของหลีเป๊ะ ทะเลสวยน้ำใสกิ๊กแน่นอน ซึ่งจริงๆแล้วซองใส่มือถือแบบนี้ยังไงก็ถ่ายรูปใต้น้ำยากค่ะเพราะลงน่้ำแล้วมันดูดกดปุ่มอะไรยากมากกกก เหมาะที่จะถ่ายวิดิโอมากกว่า กดก่อนลงน้ำแล้วถ่ายเอาแบบไม่ต้องกดอะไรอีก พอไหวอยู่ แต่เอาเข้าจริงๆ เราอย่าไปพะวงกับการถ่ายรูปมากนักเลยค่ะ ดื่มด่ำกับธรรมชาติกันแบบเพียวๆไร่้อุปกรณ์บ้างน่าจะดีกว่านะคะ

photo 1236517_10152540461986400_315564431984947542_n_Fotor_Collage.jpg

เกาะทรายขาว สวยมากกก เป็นเกาะที่เราแวะทานข้าวเที่ยงกันค่ะ

2 คืนที่ Idyllic Concept Resort บนเกาะหลีเป๊ะดูจะน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับความสุขกายสบายใจและความประทับใจที่ได้รับตลอดระยะเวลาที่เข้าพัก จะไปนั่งๆนอนๆพักผ่อนชิลล์ๆหรือจะไปท่องเที่ยวแสวงหารสชาติใหม่ๆในชีวิตที่นี่ตอบโจทย์ได้ค่ะ แต่ช้าก่อน ไหนๆก็ดั้นด้นมาจนถึงที่นี่แล้ว มีเหรอจะนอมมาแค่ 3 วัน 2 คืน มาติดตามกันในตอนต่อไปว่าย้านไปพักกันที่ไหน แต่บอกเลยว่ารับประกันความฟินค่ะ :-)

เท่าที่ได้สัมผัสเกาะหลีเป๊ะในเวลาสองสามวัน ต้องบอกว่า ใครที่รักที่ชอบทะเลต้องห้ามพลาดกันเลยค่ะ ทะเลสวยมากก น้ำใส โลกใต้ทะเลสวยงาม (ควรจะสวยมากถ้าไม่เจอฝนทำให้น้ำขุ่น) จะมาช้ามาเร็วก็ขอให้มาสัมผัสของจริงกันซักครั้ง เห็นรูปจากสื่อไหนๆก็ไม่เหมือนเราไปเห็นด้วยตาตัวเองนะคะ :-)

Idyllic Concept Resort

Sunrise Beach, Lipe Island, Thailand
resort : 66 74 750 399 [8.00 - 20.00 : Thailand Time]
reserva66 2 129 3851-2 ( 8:00 - 20.00 )
66 81 802 5453 [8.00 -18.00 : Thailand Time]
Fax 66 2 129 3850

Email - Reservation : rsvn@idyllicresort.com