โจทย์การบ้านเดือนนี้ (กุมภาพันธ์) ว้าววว ❤ กิจกรรมเนื่องในเทศกาลแห่งความรัก
โจทย์ครั้งนี้เป็นของคุณแหม่ม Mambymam "เมนูเพื่อคนที่รัก - Justfor You"
อยากให้ทำเมนูของหวาน (อืมมมม เทศกาลหวานแหววเช่นนี้ก็น่าจะเป็นขนมหวาน)
เห็นโจทย์แล้วแอบคิดในใจ เทศกาลสำคัญ ๆ ผู้คนส่วนใหญ่คงจะอยากทำของหวาน
แต่เมื่อคิดสะระตะดีแล้ว อยากได้เป็นของหวาน แล้วฉันจะทำของหวานเพื่อใครเล่า?
ชีวิตฉันบั้นปลายมีแต่หนูทดลองชิมใกล้ตัว (หลานชาย 4 หน่อ) ฟงแฟน ฝาชีฉันก็ไม่มี
งั้นคงต้องทำเมนูโปรดของคนที่ฉันรักและผูกพันมากที่สุด ผู้นั้นคือ ป๊ะป๋า ของฉันนั่นเอง
ผู้ชายคนแรกที่ฉันหลงรักหัวปรักหัวปรำ ผูกพันทางใจที่สุด นายคือรักแรกพบของฉัน
งั้นทำเมนูโปรดของป๋า(เสณีย์) แกงผักพื้นบ้านยอดนิยม คุณนายแม่ทำให้กินบ่อยด้วย
ฉันแอบสังเกตุคุณผู้ชายส่วนใหญ่ (โดยเฉพาะผู้ชายในตระกูลฉัน) ไม่ชอบกินพืชผัก
เน้นเนื้อ ๆ แม่ครัว(ป้าใหญ่จีรา) ก็จัดให้ตามนั้น เอาใจน้อง ๆ จนเคยตัว นินทาคนตาย
จะว่าไปแกงเลียงก็ทำไม่ยากน๊ะ เสียเวลาตอนเตรียมวัตถุดิบ คือ เยอะ เครื่องเยอะ
ผักที่ต้องใส่ในแกงชนิดนี้มากมาย หลากหลาย ล้วนสรรพคุณเลอค่าดีงามทั้งนั้น
แต่แม่จำต้องใส่ผักน้อยชนิด ขืนใส่มากมาย คุณสามีคงจะเมินหน้า ไม่ยอมกินแน่
เห็นชื่อแกงหลายคนคงสบถ "ไม่ทำหรอก ซื้อกินง่ายกว่า" จะทำให้ยุ่งยากทำไม
ก็จริงน๊ะ ซื้อกินถุงหนึ่ง 25-60 บาท ทำกินเองหม้อหนึ่งปาเข้าไปเป็นร้อยเชียวน๊ะ
แต่ถ้าซื้อ(แกงถุง) ป๋าจะไม่กิน ดีงามคือต้องรสมือคุณภรรเมีย(สุดที่รัก) หนึงเดียว
จัดไป แกงโปรดของป๊ะป๋ายามที่มีชีวิต "แกงเลียงเคียงใจ"
แถมขนมหวานถ้วยโปรดอีกหนึ่งอย่าง "กล้วยบวดชีแทนใจ"
แกงเลียง
1. กุ้งแห้งเนื้อ 3 ช้อนโต๊ะ (สูตรโบราณโขลกปลาย่างใส่ด้วย)
2. พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา (ชอบเผ็ดร้อนเพิ่มพริกไทยได้)
3. กะปิ 2 ช้อนโต๊ะ
4. หอมแดงซอย 5 - 8 หัว
5. พริกขี้หนูเม็ดเล็ก 10 เม็ด (ไม่ชอบเผ็ดตัดออก)
6. กระชายซอย 1 ช้อนโต๊ะ
7. เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ (ถ้ากะปิเค็มมาก ลดเกลือลง)
8. น้ำเปล่า 4 ถ้วยตวง
9. บวบเหลี่ยม / บวบหอม 2 ลูก
10. ฟักทอง หั่นชิ้นประมาณ 1 นิ้ว
12. เห็ดฟาง / เห็ดหูหนู
13. ใบแมงลัก
14. ผักอื่น ๆ ตามชอบ
15. กุ้งสด / กุ้งแห้งทั้งตัว
หมายเหตุ - ชอบผักสดชนิดใดใส่เพิ่มไป น้ำเต้า ผักหวานบ้าน / ผักหวานป่า
ยอดตำลึง ไข่มดแดง อื่น ๆ ถ้าเป็นแกงเลียงหัวปลี หรือแกงเลียงผักกาดขาว
เปลี่ยนผักต่าง ๆ ข้างต้นเป็นหัวปลีดิบซอยหยาบ ต้องใส่ใบแมงลักเข้าไปด้วย
(ยกเว้นแกงเลียงผักกาดขาว ไม่ต้องใส่ใบแมงลัก ใส่ผักกาดขาวล้วน ๆ)
ถ้าเป็นแกงเลียงกะทิ คั้นกะทิข้น ๆ ผสมในน้ำแกง กะทิต้องไม่แตกมัน น้ำใส ๆ
ชอบเครื่องแกงชนิดโลกละเอียด หรือโขลกหยาบ ตามชอบเลย
วิธีทำ
* นำน้ำเปล่าใส่หม้อแล้วยกตั้งไฟกลาง ๆ ตักเครื่องแกงที่โขลกไว้ใส่ลงไป
ตักน้ำในหม้อมาละลายเครื่องแกงในครกที่โขลกไว้ แล้วตักใส่ไปในหม้อ
รอให้น้ำแกงเดือดจัดๆ ปรุงรสด้วยเกลือป่น (ฉันไม่ใส่น้ำตาลใดๆ ลงไป)
เลือกผักที่สุกยากใส่ไปก่อน อาทิ ฟักทอง น้ำเต้า เห็ดฟาง เห็ดหูหนู อื่น ๆ
* ใส่ฟักทองไปสักพัก ตามด้วยบวบ สุดท้ายใส่ผักหวาน ใบตำลึง ชิมรสก่อน
ก่อนดับไฟใส่ใบแมงลักลงไป คนผสมให้ผักทั้งหมดเข้ากันดี ดับไฟเตาได้
หมายเหตุ แกงเลียงกุ้งสด ใส่กุ้งสุดท้ายก่อนใส่ใบแมงลัก ปิดไฟเตาทันที
แกงเลียงสมัยก่อนไม่ใส่เนื้อสัตว์ (กุ้งสด) ส่วนใหญ่โขลกกุ้งแห้งหรือปลาย่างใส่ไป
หรือใส่กุ้งแห้งทั้งตัวแบบนี้ ปัจจุบันใส่กุ้งสดเป็นการเพิ่มมูลค่าและตามความชอบ
แกงเลียงอีกชนิดที่ป๋าชอบมากคือ "แกงเลียงผักกาดขาว"
นับแต่ท่านจากไปฉันไม่เคยเห็นแม่ทำ ตัวฉันเองก็ไม่เคยทำด้วย
ใบแมงลักในแกงเลียง ใบแมงลักในปลานึ่ง ใบแมงลักในขนมจีนน้ำยา
ใส่ลงไปแล้วมีกลิ่นหอมชื่นใจ เหตุไฉนแม่ครัวบี๊ห์ไม่ปลื้ม ไม่กิน??!!
ฉันเองไม่ปลื้มกลิ่นใบแมงลัก แต่ถ้าไม่ใส่ลงไปคนกินก็จะบ่นไม่เลิก เฮ้อออ
ยังมีผักพื้นบ้านสรรพคุณเป็นเลิศอีกหลายชนิดที่ฉันไม่ชอบกลิ่น อาทิ ใบคึีนช่าย
หรือที่คนส่วนใหญ่มักเรียก "ผักตั้งอ๋อ/โอ๋ว" ผักแพรว ผักชีล้อม ฉันไม่ชอบกลิ่น
แกงเลี้ยงของป๋าจะใส่ผักแค่สองชนิด ฟักทองและบวบเหลี่ยม
ขืนใส่เข้ามากกว่านี้ คุณนายแม่จะโดนบ่น บ่นให้นางรำคาญใจ
ใครไม่ชอบแกงเลียง มาเห็นฉันทำ ชักจะหลงรักแกงชนิดนี้แล้วใช่ไหม
แกงเลียงเป็นแกงบ้าน ๆ ภูมิปัญญาชาวบ้าน พืช ผัก สมุนไพรล้วน ๆ
สรรพคุณมหาศาล โดยเฉพาะ แกงเลียงหัวปลี คนท้องกินเรียกน้ำนม
จบเรื่องราวอาหารคาวของป๋า มาต่อในส่วนขนมหวานของป๋ากันต่อคะ
กล้วยไข่บวดชี
มาต่อที่ขนมหวานไทยที่ชอบกันทั้งครอบครัว โดยเฉพาะป๊ะป๋า ชอบจริงจัง
ฉันเห็นป๋าชอบทานน๊ะ แต่ต้องเป็นฝีมือคุณนายแม่ (คนรับใช้ประจำตัว) อิอิ
ทุกครั้งที่แม่ลงมือทำขนมหวานชนิดนี้ ฉันเห็นป่ากินแบบวิดน้ำ ซวบ ซวบ
คือชอบมาก ขนมหวานอย่างอื่นไม่เท่าไรน๊ะ กินได้แต่ไม่ปลื้มเท่าขนมชนิดนี้
ป๋าจะชอบกล้วยไข่ ส่วนคุณนายแม่ชอบกล้วยน้ำว้า แม้ความชอบที่ต่างกัน
แต่ทั้งสองก็ช่างเติมความหวาน มอบความรักและดูแลกันมายาวนาน ฮริ้วววว
กล้วยบวดชี
สูตรโดยคุณบี๊ห์ (บ่งบ๊ง)
ส่วนประกอบ
* กล้วยไข่ห่าม ๆ 1 หวี (ประมาณ 12-15 ลูก)
* น้ำเปล่า 5 ถ้วยตวง
* หัวกะทิ 2 + 1/2 ถ้วยตวง
* น้ำตาลทราย 1 + 1/2 ถ้วยตวง (ชอบหวานใส่เพิ่ม)
* เกลือสมุทร 2 ช้อนชา
* ใบเตย 4 ใบ (เลือกใบเตยแก่ๆ)
วิธีทำ
* ปอกเปลือกกล้วย ล้างยางกล้วยออกให้หมด แบ่งครึ่งลูก รอไว้
* นำน้ำเปล่าใส่หม้อ ใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น ขยำใบเตยแล้วมัดรวมกันใส่ไป
ยกหม้อขึ้นตั้งเตา เปิดไฟแรง รอจนน้ำเชื่อมเดือด ลดไฟลง ใส่กล้วยที่หั่นลงไป
(ต้มประมาณ 5 นาที) ตักกล้วยขึ้นมาดู ถ้าผิวกล้วยสุกใส เนื้อนิ่มและสุกดีแล้ว
เทน้ำกะทิลงไป ใช้ทัพพีคนเร็ว ๆ ต้องคนตลอด อย่าให้กะทิจับตัวเป็นก้อนนะคะ
(ถ้ากล้วยยังไม่สุกก็ให้ต้มต่อจนกว่าจะสุก)
* ชิมรสก่อน ชอบหวานกว่านี้ใส่น้ำตาลทรายเพิ่ม รอให้กะทิเดือดอีกครั้ง
ปิดไฟเตาได้ เป็นอันเสร็จ (อย่าต้มนานจนกะทิแตกมัน เอาแค่พอเดือด)
วิธีเลือกกล้วย
* กล้วยน้ำว้า ควรเลือกกล้วยห่าม ๆ สีของเปลือกเขียว ๆ ส่วนเหลืองเล็กน้อย
* กล้วยไข่ เปลือกเขียว ๆ เหลืองเล็กน้อย (สูตรฉันจะไม่นำกล้วยลงต้มก่อน)
* ชอบกลิ่นน้ำตาลปีบ (น้ำตาลมะพร้าว) ผสมกันได้ระหว่างน้ำตาลทั้งสองชนิด
ฉันจำได้ว่าคุณป้าใหญ่ (ป้าจีรา) ชอบทำกล้วยบวดชีแบบใส่ไข่เข้าไปด้วย
ประมาณทำขนมบัวลอยไข่หวาน มีไข่ลอยเท้งเต้งอยู่ในหม้อ แบบนั้นอ่ะคะ
ส่วนตัวฉันเองทานได้ทั้งกล้วยไข่และกล้วยน้ำว้า ชอบพอ ๆ กัน
คือขนมไทยทุกชนิดแบบใส่กะทิ (แกงบวด) ฉันชอบทุกอย่างคะ
บัวลอย ปรากริม ครองแครงกะทิ ขนมหวานทุกชนิดที่ราดกะทิ
เป็นอันเสร็จสิ้นภารกิจของเชฟกระทะหลุด เมนูสำหรับคนที่ฉันรัก (มว้ากกกกกก)
ตามธรรมเนียมชาวโลก อิ่มของคาวแล้ว ก็ต้องล้างปากปิดท้ายด้วยของหวาน
ขอบพระคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมบล๊อก ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคอมเม้นท์
เจ้าของบ้านต้องขออภัยทุกท่านที่รอคอยการอัพเดทเมนูต่าง ๆ และเฝ้าติดตาม
เจ้าของบ้านมัวเถลไถล อืดอาดล่าช้าและไม่ค่อยได้มาอัพเดทบล๊อก (คำแก้ตัว)
หากเพื่อน ๆ ท่านใดมีปัญหา หรือติดสงสัยเกี่ยวกับสูตรอาหารและขนมต่าง ๆ
สอบถามกันมาได้นะคะ แม่ครัวบี๊ห์จะช่วยไขข้อข้องใจหรือให้คำตอบกับท่าน