ในช่วงเดือนธันวาคมของทุกปี ผมมักจะหาเวลาซักระยะหนึ่งในการนั่งเฉยๆ เพื่อคิดและทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นมาและผ่านไป เมื่อคิดย้อนถึงช่วงปีที่ผ่านมาแล้วลองตั้งคำถามกับตัวเองว่าเราได้ใช้ชีวิตของเราอย่างคุ้มค่าและเป็นประโยชน์กับคนอื่นมากน้อยเท่าไร คำตอบที่มีให้กับตัวเองบางครั้งก็ปรากฏให้เห็นได้จากรอยยิ้มมุมปากที่นั่งยิ้มอยู่คนเดียว แต่บางครั้งก็เป็นความรู้สึกหนักๆ มึนๆ กับความรู้สึกอยากย้อนอดีตได้เพื่อจะกลับไปทำให้ดียิ่งขึ้น เสียดายที่ชีวิตของคนเราไม่เหมือนกับ Play Station ที่ไม่มีปุ่มเล่นย้อนกลับ หรือคำว่า Game Over เพื่อมาตั้งต้นเล่นกันใหม่ ผลของการกระทำที่คนเราทำลงไปนั้นไม่ว่าจะดีหรือแย่เราก็คงต้องยอมรับ เพียงแต่ว่าจะมีโอกาสให้เราอีกหรือไม่ที่จะทำให้สิ่งนั้นๆ ดียิ่งขึ้น
ผมค่อนข้างจะมีความรู้สึกกินใจกับแนวคิดของหนังเรื่อง Saving Private Ryan เรื่องของผู้กองจากกองทัพบกสหรัฐฯ ที่พานำทหารหนึ่งหมู่ไปตามหาพลทหารที่ชื่อ Ryan เพื่อส่งตัวเขากลับบ้าน Ryan มีพี่ชาย 3 คนและพี่ชายทั้ง 3 ของเขาล้วนตายจาการรบในสงคราม Ryan เป็นลูกผู้ชายคนสุดท้ายของบ้านที่ยังหลงเหลืออยู่ และอยู่ในใจกลางสนามรบ! กองทัพต้องการเรียกเขากลับบ้านเพราะเป็นเหมือนการตอบแทนความเสียสละของครอบครัวนี้ ส่วนผู้กองพาหมู่ทหารไปตามหา Ryan ก็ต้องประสบเคราะห์กรรมต่างในการที่จะพา Ryan กลับบ้านให้ได้ ทหารหนึ่งหมู่รวม 7-8 คนก็ค่อยๆ ทยอยกันล้มตายเนื่องจากเข้าปะทะกับข้าศึกระหว่างที่ตามหาตัว Ryan จนในท้ายที่สุดตัวผู้กองเองก็ต้องจบชีวิตลง แต่ก่อนที่จะสิ้นใจผู้กองได้เรียก Ryan เข้ามาและพูดผ่านเสียงแหบๆ ของคนใกล้สิ้นใจพร้อมกับเอื้อมมือที่สั่นระริกมาพยายามที่จะแตะตัวเขา และบอกว่า EARN IT จากนั้นผู้กองก็สิ้นใจ
ฉากตัดกลับไปที่หลุมฝังศพทหารและวีรชนที่เสียชีวิตจากสงคราม ที่ตรงนั้นมี Ryan ชายแก่วัยปลายคนยืนน้ำตาไหลพรากต่อหน้าหลุมศพของผู้กองและบอกว่า ผมเป็นคนดี ผมได้ใช้ชีวิตที่ได้รับอย่างคุ้มค่า และเป็นประโยชน์ที่สุดแล้ว ก่อนจากไป Ryan ทำการวันทยาหัตถ์เพื่อร่ำลาผู้กองแบบทหาร
ผมย้อนกลับมาดูตัวเองจากภาพสะท้อนของภาพยนต์เรื่องนี้เสมอๆ คำถามคือ คนจำนวน 8 คนต้องตายให้กับคนที่เขาไม่เคยรู้จัก เพื่อที่จะปกป้องชายที่ชื่อ Ryan และนำเขากลับบ้าน ผู้กองทิ้งท้ายด้วยคำพูดที่ว่า EARN IT ซึ่งเป็นคำบอกให้ Ryan รู้ว่า นับจากนี้วันเวลาที่เหลืออยู่ในชีวิต จงใช้มันให้คุ้มค่าทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อชาติ สังคมและตัวเอง ถ้า Ryan กลับมาและกลายเป็นพ่อค้ายาเสพติดระดับโลก มันคงน่าเสียดายกับชีวิตคน 8 คนที่สูญเสียอย่างไร้ประโยชน์ เพื่อไปช่วย อนาคตพ่อค้ายาเสพติดคนนี้ออกมาจากสนามรบ แล้วกลับมาฆ่าคนด้วยยาเสพติดหลังสงครามสงบ
ผมชอบคำนี้มากครับ Be a master of your destiny, not a slave of your own fears.
ผมเดินทางโดยใช้เส้นทางของ Google เพื่อหาหนทางแก้ไขงานวิจัยที่ตีบตัน จนได้มาที่นี่ถึงได้ทราบว่ามีสถานที่ที่ให้ความรู้และกำลังใจที่กำลังโหยหาอยู่พอดี ถือว่าเป็นโชคดีของผมจริงๆครับ
ไม่นึกว่าตัวเองจะได้เข้ามาอ่านข้อความจากหนังที่ผมชื่นชอบ (โดยส่วนตัวผมชอบป๋า ทอม ครับ)
และได้อ่านในช่วงที่ผมกำลังมึนงงกับชีวิต
แต่ก็ดีใจที่ได้อ่านและได้กำลังใจกลับมาอีกมากโข
ผมชอบคำนี้มากครับ
Be a master of your destiny, not a slave of your own fears.
ผมเดินทางโดยใช้เส้นทางของ Google เพื่อหาหนทางแก้ไขงานวิจัยที่ตีบตัน จนได้มาที่นี่ถึงได้ทราบว่ามีสถานที่ที่ให้ความรู้และกำลังใจที่กำลังโหยหาอยู่พอดี ถือว่าเป็นโชคดีของผมจริงๆครับ
บางทีการทำงานวิจัยมันยุ่งยากแต่ผลที่ออกมาแล้วมันคุ้นค่าและน่าภูมิใจ ผมก็อยากได้รับความรู้สึกนั้นบ้าง ก็คงต้องพยายามต่อไปครับ
ขอบคุณสำหรับเรื่องดีๆ ที่มีให้อ่านครับ