Group Blog
มิถุนายน 2557

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
 
 
18 มิถุนายน 2557
All Blog
Live in Bristol

รู้หรือไม่?


ไดโนเสาร์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลกถูกค้นพบที่นี่ ?


Elizabeth Blackwell เป็นชาว Bristol ที่ต่อสู้กับอคติทั้งหลายและการใส่ร้ายต่างๆ จนกลายเป็นแพทย์หญิงคนแรกของโลกสำเร็จ ?


Bristol Zoo เป็นสวนสัตว์ท้องถิ่นที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ?



มีเพื่อนที่ทำงานยืนใบลาออก บอกว่าไปเรียนต่อที่อังกฤษ อังกฤษน่าจะไกลนะ แล้วอังกฤษหน้าตาอย่างไร? หอนาฬิกา Big Ben ภาพบนปกหนังสือภาษาอังกฤษ? ผู้ดีอังกฤษใส่สูทนุ่งสแลก จิบน้ำชา ? 


คิดว่า ชาตินี้ คงไม่มีวาสนาได้ไป......



แต่มีเหตุชะตากรรมต้องเดินทางไปประเทศอังกฤษ แถมไม่ใช่ London แต่เป็นเมือง Bristol นั้นซิ เมืองนี้ หน้าตามันเป็นอย่างไร เพราะอังกฤษฉันรู้จักแต่ London ที่เดียว อ้อ มีอีก เมือง Mancheste,Liverpool ก็ทีมฟตุบอลทั้งนั้น แต่ก็ไม่เคยดู


 มันเหมือนวิบากกรรมครับ ภาษาอังกฤษก็ งูๆ ปลาๆ แต่ต้องไปต่างประเทศ มันยากมากที่จะคิดเริ่มต้นว่าจะเริ่มจากจุดไหนดี Scottland น่าเที่ยวเหมือนกัน มีคนบอกว่าน่าเที่ยวมาก ประชาชนอัธยาศัยดีเป็นมิตร โปรดติดตามตอนต่อไป วันนี้ขอเล่าถึงเมือง Bristol


Heathrow Terminal 4 ขอย้ำ ว่า Heathrow มีหลาย Terminal มาก และที่สำคัญ บาง Terminal เหมือนอยู่ห่างคนละทิศหลายกิโล ดังนั้นหากมาอังกฤษต้องวางแผนให้ดีว่าลง Terminal ที่เท่าไร โชคดีสายการบินที่เลือกเดินทางลงTerminal เดียวกับป้ายรถบัส National Express ซึ่งเดินทางไป Bristol โดยตรง


แต่ ปัญหาแรก เมาขี้ตา...ทำไมเครื่องบินชอบมาถึงตอนเช้าๆ อย่างนี้ เริ่ม งง ยามเช้า แถมป้ายมีเยอะจัง แล้วเราจะขึ้นรถที่ไหน



รถ Taxi เข้าคิวรอใช้ผู้โดยสาร อยากลองนั่งรถ Taxi Austin FX4 Fairway หรือ LTI TX1 อยากรู้จังว่าเทห์แค่ไหน



อากาศด้านนอกอาคารเย็นได้ใจ ผมเดินลากกระเป๋าเดินทางเดินหาที่จำหน่ายตั๋วโชคดีอยู่ไม่ไกล ทราบว่ารถไป Bristol เที่ยว 09.50 ยังเหลือเวลาอีกเยอะ.. 



ตอนใกล้เวลาเริ่มระทึกใจว่า รถไป Bristol จะจอดป้ายไหน เลยต้องดูไฟวิ่งหน้ารถว่าไปที่ไหน บางที่รถบัสเข้าป้ายที่เดียว 3-4 คัน  รถบัส National Express ไป Bristol เป็นระยะทางใกล้ๆจึงมีแต่คนขับเพียงคนเดียว ทำหน้าที่พลขับ ตรวจตั๋ว เก็บกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร เนื่องจากของผมเยอะ กลัวหายเลยรับอาสาขนกระเป๋าของผมเข้าท้องรถแทน 



คิดว่ารถบัส จะมีการนั่งตามที่นั่ง ไหงได้ นั่งกันตามใจฉัน อย่างนี้ก็แย่ซิ ได้นั่งซะหลังสุด แถมเราต้องนั่งใกล้ห้องน้ำด้วยซิ 



รถบัสออกจากสนามบิน วิ่งสู่ดินแดนฝั่งตะวันตก ระยะทาง 200 กว่ากิโล แต่ใช้เวลาเดินทางเกือบ 3 ชั่วโมง ที่ลอนดอนก็มีปัญหาจราจรเช่นเดียวกับบ้านเรา รถยนต์ถูกจำกัดความเร็ว ตำรวจไม่ค่อยมีมานั่งจับ แต่มีกล้องจับความเร็วแอบตลอดสองข้างทาง ผมเริ่มสังเกตุวิธีการขับรถของคนขับรถ ไม่ใช่อะไร ผมมีรายการเช่ารถขับเที่ยวนะซิ....โอ้ย คิดแล้ว จี้มากๆๆ ประกิตไม่กะดิ๊ก แต่มาขับรถเที่ยวอังกฤษ



ทางไป Bristol จะผ่าน Bath เมืองที่มีอารยธรรมเก่าแก่  เป็นหนึ่งที่วางแผนขับรถเที่ยว แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เที่ยว Bath  เพราะอะไร โปรดติดตามตอนต่อไป น้ำพุร้อนขึ้นชื่อของเมือง Bath ในศตรวรรษที่ 18 โรมันได้มาสร้างห้องอาบน้ำ...(แสดงว่าต้นกำเนิดอาบอบนวดมาจากโรมันแน่ๆๆ) รถเลี้ยวเขาสถานี Bristol เที่ยงนิดๆ เสียงพนักงานขับรถ พูดผ่านไมค์ อะไรก็ไม่รู้ จับใจความเดาว่า ถึง Bristol แล้ว (ขอบอกว่า สำเนียงอังกฤษ งง จริงๆ ไม่เห็นเหมือนครูสอนเลย)



ผมมีเวลาอยู่ Bristol พักค้างคืนที่นี้ 1 คืนแล้วก็ไปเที่ยวที่อื่น ก่อนจะมาพักที่นี้อีกที่ตอนกลับ ซึ่งก็คงเย็นมากแล้ว ดังนั้นเที่ยวได้ต้องรีบเที่ยวไปก่อน ผมเอากระเป๋าไปเก็บที่พัก แล้วออกเดินเที่ยวทันที่



เมือง Bristol มีเชื่อเสียงด้านศิลปะ วอลเลซ แอนด์ โกรมิท แมสสิฟ แอตแทค พอร์ทิสเฮด และ สไมล์ เบียร์ ทั้งหมดล้วนอยู่ที่นี่ นั้นซิ แล้วเขาอยู่ตรงไหน จะเดินหาเจอไหม อย่าสนใจเลย เริ่มเดินเป้าหมายแรก คือ Bristol University เดินหลายป้ายเหมือนกัน 



มาอังกฤษถึงได้รู้ว่า หลายคนชอบแสงแดด... ทางเดินไปมหาลัยเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่ค่อยเหนื่อยสักเท่าไร


 


ถนนมีกันเลนสำหรับผู้ขี่จักรยาน แต่สำหรับเมืองนี้ ต้องบอกก่อนว่า ต้องขาแรงเท่านั้น...3 ขึ้นเขาล้วนๆ



มหาวิทยาลัย Bristol เปิดทำการเกือบปลายปี 1876 จัดว่าเป็นกลุ่มสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของประเทศอังกฤษ



พวกนี้ ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย Bristol คิดแล้ว อยากกลับไปเรียนอีกจังเลย



หอประชุมของมหาวิทยาลัย Bristol หลายคนใฝ่ฝันว่าจะได้มาถ่ายรูปที่นี้ ในวันรับปริญญา



เจ้าสุนัขตัวนี้ เป็นตัวการตูนที่ถือกำเนิดในเมืองนี้ ผมจำชื่อเรื่องไม่ได้ เป็นเรื่องที่มีหมา ไก่ ปั้นเป็นตัวเหมือนดินน้ำมัน สนุกดีครับ



ภาพที่คุณเห็นนี้ คือ มหาวิทยาลัย Bristol ค่อนข้างจะแปลกครับ มีทั้งบ้านคน อาคารมหาวิทยาลัยอยู่ปนกัน ต่างจากเมืองไทย ที่มหาวิทยาลัยจะมีรั้วรอบขอบชิดอย่างชัดเจน อาคารหลังหนึ่งจะเป็นที่ทำการคณะหนึ่ง เรียกว่าเดินเรียนสนุกไปเลยครับ เดินขึ้นลงเขาทุกวัน ใครมาเรียนที่นี้ แข็งแรง



โรงละคร Bristol เป็นโรงละครที่เก่าแก่แห่งหนึ่งของอังกฤษที่ยังเปิดแสดงอยู่  ทั้งอิสามบาร์ด คองดอม บรูเนลและศิลปินยุคใหม่ นักดนตรีและศิลปินมือสมัครเล่นมากมาย ต่างเคยมาแสดงโรงละครแห่งนี้  


ผมชอบรถเมล์นี้ มี Wifi ให้ใช้ฟรี ระหว่างที่เดินทางไป Clifton Suspension Bridge เป็นช่วงเวลาที่ได้ up status ให้หลายๆคนได้อิจฉา เอ้ย ได้ทราบว่า มาเที่ยวไม่ได้หลงอย่างที่คิด... รถได้วิ่งผ่าน Bristol Zoo สวนสัตว์ท้องถิ่นที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เด็กๆๆและผู้ปกครองขึ้นมากันเยอะ รถเมล์ที่นี้ คนขับเป็นคนเก็บค่าโดยสารพร้อมกันเลย ผมก็ถามคนขับรถว่า รถคันนี้ผ่าน Clifton Suspension Bridge คนขับพยักหน้า อย่างนั้นถ้าถึงแล้ว ช่วยบอกไอด้วยนะ



รถเมล์จอด พร้อมกับเสียงคนขับพูดออกไมค์ในรถว่า ถึงแล้ว Clifton Suspension Bridge อยู่ทางขวามือ เด็กๆหลายคนลงป้ายนี้เหมือนกัน ทางขึ้นเป็นเนินภูเขา ถ้าคนขับรถไม่บอก ท่าทางจะนั่งรถเที่ยวทั่วเมืองแน่ๆ เดินตัดเนินขึ้นมาก ก็เห็นคล้ายๆกับปราสาท



หญ้าที่อังกฤษแปลกมากครับ หนานุ่ม ไม่เหนียวหรือติดตัว ไปถึงแล้วตอนนอนเพื่อซึมซับอังกฤษบ้าง



Clifton Suspension Bridge ออกแบบโดย Victorian engineer Isambard Kingdom Brunel สะพานสร้างเสร็จในปี 1864 ซึ่งวิศกรคนนี้ไม่มีโอกาสได้เห็นผลงานของตนเอง Clifton Suspension Bridge เริ่มสร้างในปี 1831 กว่าจะเริ่มสร้างก็เจอทั้งปัญหาความยากลำบากทางการเมืองและทางการเงิน และโดยปี 1843 มีเพียงอาคารเสร็จแล้วโครงการ​​ก็ถูกลืม  Burnel ตายอายุเพียง 53 ในปี 1859


Clifton Suspension Bridge ตั้งบนหน้าผาของ Avon Gorge ซึ่งได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของเมือง Bristol


เห็นแดดร้อนๆ  แรงๆ อย่างนี้ แต่ไม่ร้อนเลย



The International Balloon Fiesta คือเทศกาลที่เต็มไปด้วยลูกโป่งอย่างแท้จริง ลูกโป่งทั้งหลากสีหลายขนาดถูกปล่อยขึ้นไปเหนือสะพาน Clifton Suspension Bridge เสียดายเวลาไปช่วงก่อนจัดงาน



 บรรยากาศเย็นสบาย แม้แดดจะดูร้อนแรง



คืนนี้ มีจันทรุปราคา แต่คงอยู่ต่อไม่ได้ เพราะยังไม่ได้ซื้ออาหารเย็นเพื่อเตรียมทำเลย ระหว่างยืนรอรถเมล์



บริสตอลเป็นเมืองเดียวของสหราชอาณาจักรที่ได้รับการเสนอชื่อให้เป็น ‘European Green Capital’



อีกมุม หน้า City Hall



เมือง bristol จัดว่าเป็นเมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจที่หนึ่งของอังกฤษ มีบริษัทใหญ่ๆของอังกฤษ อย่างเช่น British Aerospace และ Rolls Royce ก็มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่นี่ 



บริสตอล เป็นเมืองที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว ระหว่างอดีตของการท่องเที่ยวทางทะเลรวมถึงชีวิตอันทันสมัย ที่ตั้งที่อยู่บริเวณท่าเรือ ประกอบด้วยสถานที่ท่องเที่ยว เรือ ร้านอาหารและพิพิธภัณฑ์ ผลงานศิลปะที่ศูนย์แสดงงานศิลป์บริเวณท่าเรือรวมไปถึงอนุสาวรีย์และวัฒนธรรมอันเก่าแก่ของเมืองที่มีความเกี่ยวข้องกับการเดินเรือ..เขียนไว้แต่ไม่ได้ไป เผื่อใครไปช่วยกลับมาเขียนต่อที่



บริสตอล เป็นเมืองที่มีกิจกรรมการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ที่น่าสนใจมากมาย ทุกวันนี้ความโดดเด่นและความสร้างสรรค์ของบริสตอลก็แสดงตัวตนออกมาให้เห็นในรูปของผลงานศิลปะและสถาปัตยกรรมต่าง ๆ และคุณภาพชีวิตแบบที่ใคร ๆ จะต้องอิจฉา 


การเดินทาง


บริสตอลเป็นเมืองหลวงทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ เมืองแห่งนี้ตั้งอยู่ห่างจากกรุงลอนดอนประมาณ 3 ชั่วโมง สามารถเดินทางมาที่นี่ได้รถยนต์ รถไฟ รถโค้ท และทางเครื่องบิน  จากส่วนอื่นๆในสหราชอาณาจักรและยุโรป




Create Date : 18 มิถุนายน 2557
Last Update : 18 มิถุนายน 2557 22:26:53 น.
Counter : 1251 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จั๊กเด๋
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]